ผู้นำหน่วยข่าวกรองอังกฤษชี้ AI ไม่สามารถแทนที่สายลับมนุษย์ได้

Loading

  นายริชาร์ด มัวร์ ผู้บัญชาการหน่วยสืบราชการลับอังกฤษ (MI6) เตรียมออกมาเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุที่รัสเซียไม่สามารถบรรลุเป้าหมายทางการทหารในยูเครน และสาเหตุที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไม่อาจแทนที่เจ้าหน้าที่มนุษย์ ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสาธารณชนซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนักในวันนี้ (19 ก.ค.)   นอกจากนี้ นายมัวร์ยังเตรียมกล่าวเกี่ยวกับกระแส “จักรวรรดินิยมรัสเซีย” ในแอฟริกาและวิธีการที่ประเทศอื่น ๆ เช่น อิหร่าน กำลังเติมเชื้อไฟให้กับความขัดแย้งในยูเครน โดยนี่จะเป็นการกล่าวสุนทรพจน์สำคัญต่อสาธารณชนเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่นายมัวร์เข้ารับตำแหน่งในปี 2563 MI6 ระบุว่า นายมัวร์จะกล่าวสุนทรพจน์ในกรุงปราก เนื่องจาก “ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่ใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพระหว่างอังกฤษและสาธารณรัฐเช็ก และการคำนึงถึงบริบททางประวัติศาสตร์หลังการรุกรานยุโรปอีกครั้งของรัสเซีย” ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสาธารณชนครั้งแรก นายมัวร์ได้ออกมาเตือนว่าจีนและรัสเซียกำลังแข่งกันเพื่อเป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น AI และการประมวลผลควอนตัม โดยประเด็นดังกล่าวจะกลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้ง เจ้าหน้าที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทั่วโลกต่างแสวงหาแนวทางในการใช้งาน AI แต่นายมัวร์ยืนยันว่า AI จะเข้ามาเติมเต็มแต่จะไม่แทนที่มนุษย์ ซึ่งสามารถเปิดเผยความลับได้มากกว่าที่เทคโนโลยีจะเอื้อมถึง นายมัวร์จะกล่าวว่า “คุณลักษณะเฉพาะของเจ้าหน้าที่มนุษย์จะยังคงมีความสำคัญมากขึ้น พวกเขาจะไม่เพียงเป็นแค่ผู้รวบรวมข้อมูลเท่านั้น เจ้าหน้าที่ของเราสามารถรับมอบหมายหน้าที่และคำสั่งได้ พวกเขาสามารถคิดคำถามเพิ่มเติมที่เราไม่รู้เพื่อถามได้ และบางครั้งพวกเขาอาจมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจภายในของรัฐบาลหรือกลุ่มผู้ก่อการร้าย ซึ่งหน่วยข่าวกรองที่เป็นมนุษย์ในยุค AI จะถูกนิยามมากขึ้นว่าเป็น สิ่งที่เครื่องจักรไม่สามารถแทนที่ได้ แม้ว่าเราจะคาดหวังว่า…

สหรัฐฯ ยังไม่ทราบชะตากรรมทหารอเมริกันหนีข้ามแดนเกาหลีเหนือ

Loading

  สหรัฐฯ ยังไม่ทราบชะตากรรมที่แท้จริงของทหารอเมริกัน ที่หนีข้ามเขตแดนระหว่างเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือเข้าไปในพื้นที่ความมั่นคงร่วม (Joint Security Area – JSA) ในวันอังคาร นับเป็นสถานการณ์ล่าสุดที่ผลักให้สหรัฐฯ เข้าสู่ความขัดแย้งรอบใหม่กับเกาหลีเหนือ ด้านรัฐบาลเปียงยางยังไม่ปริปากเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน กล่าวในวันพุธว่า กองทัพบกสหรัฐฯ สามารถระบุตัวทหารนายนี้ คือ พลทหารทราวิส คิง ซึ่งเข้าเป็นทหารเมื่อปี 2021 และอยู่ระหว่างการเดินทางกลับสหรัฐฯ เพื่อมารับโทษทางวินัยและเตรียมปลดจากกองทัพ พลทหารคิงข้ามเขตเข้าไปยังเกาหลีเหนือ “อย่างจงใจและไม่ได้รับอนุญาต”   ทางรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เชื่อว่าเขาอยู่ในการควบคุมของเกาหลีเหนือ และกำลังติดตามและสืบสวนถึงสถานการณ์ความเป็นไปของเขาอย่างใกล้ชิด   ด้านสื่อรัฐบาลกรุงเปียงยาง ไม่ได้รายงานถึงเหตุการณ์นี้ในวันพุธแต่อย่างใด และไม่มีใครทราบแน่ชัดถึงชะตากรรมของเขาในเกาหลีเหนือ   ทั้งนี้ พลทหารคิง เพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเกาหลีใต้ หลังรับโทษจำคุก 2 เดือนในข้อหาทำร้ายร่างกาย เขาถูกนำตัวไปสนามบินเพื่อเดินทางกลับสหรัฐฯ ในวันจันทร์ แต่กลับหลบหนีออกจากสนามบิน และไปร่วมทัวร์หมู่บ้านปันมุนจอม บริเวณพรมแดนเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในช่วงบ่ายวันอังคาร   โดยผู้หญิงรายหนึ่งที่เข้าร่วมทัวร์พร้อมกับเขาเปิดเผยกับเอพีว่า ตอนแรกเธอคิดว่าการวิ่งข้ามพรมแดนของเขาเป็นเพียงการเล่นตลกเท่านั้น   U.S. Army soldier…

ตร.ไซเบอร์รวบหนุ่มวิศวะ โพสต์ขายข้อมูลส่วนบุคคล ให้เว็บพนันและมิจฉาชีพ

Loading

  พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดเผยข้อมูลว่าจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบกลุ่มเฟซบุ๊กแบบปิด (Private Group) ซึ่งมีการนำเสนอซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า และสิ่งของที่ผิดกฎหมายต่าง ๆ มีสมาชิกประมาณ 100,000 บัญชี   โดยมีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความประกาศขายฐานข้อมูลของลูกค้ากลุ่มการพนันออนไลน์ ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัญชีธนาคาร และไลน์ไอดีของลูกค้า เป็นต้น ขายในราคาต่าง ๆ โดยเริ่มตั้งแต่ 100,000 รายชื่อ ราคา 500 บาท ไปจนถึง 2,000,000 รายชื่อ ราคา 3,500 บาท เพื่อให้ผู้ซื้อนำไปใช้ทำการตลาด นำข้อมูลที่ได้ไปใช้โทรศัพท์ติดต่อ หรือส่งข้อความสั้น (SMS) หรือแอดไลน์ไปยังรายชื่อดังกล่าว และหากซื้อข้อมูลดังกล่าวไปแล้วจะมีการอัปเดตข้อมูลให้ฟรี นอกจากนี้แล้วยังมีการโพสต์ประกาศรับเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์เริ่มต้นเพียง 6,500 บาท พร้อมดูแลระบบ และออกแบบหน้าเว็บไซต์ให้ฟรีอีกด้วย     เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บก.สอท.5 จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบความเชื่อมโยง…

ดีอีเอสเตือนระวังมิจฉาชีพหลอกทำใบขับขี่ปลอม

Loading

  ดีอีเอสพบมิจฉาชีพแอบอ้างกรมขนส่งฯ หลอกทำใบขับปขี่ปลอมที่เว็บไซต์ www.thaidriveexam.com ระวังถูกล้วงเอาข้อมูลสำคัญ ส่วนสถานการณ์ข่าวปลอม “การลงทุน-สินเชื่อกู้ยืม” ยังว่อน เตือนอย่าเสียรู้โจร เช็กข้อมูลทุกด้านให้ดีก่อนหลงเชื่อ   นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 7-13 กรกฎาคม 2566 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 3,209,611 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 279 ข้อความ   ช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 244 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 35 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 180 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 112 เรื่อง   ทั้งนี้ ดีอีเอสได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจ เป็น…

เวียดนามคุมเข้มสื่อ สั่งปิดนิตยสารออนไลน์ 3 เดือน หลังตรวจสอบการเผยแพร่ข่าวสาร

Loading

  รอยเตอร์ – Zing News นิตยสารออนไลน์ยอดนิยมของเวียดนาม ของบริษัท VNG Corp กลุ่มบริษัทดิจิทัลชั้นนำของประเทศ ระบุว่าต้องระงับการเผยแพร่เป็นเวลา 3 เดือน หลังการตรวจสอบของรัฐบาล   เวียดนามกำลังยกระดับการปราบปรามสื่อที่มีแผนจะจำกัดบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่โพสต์เนื้อหาเกี่ยวกับข่าวสาร ซึ่งรัฐบาลระบุว่าทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดคิดว่าพวกเขาเป็นสำนักข่าวที่ได้รับอนุญาต   คำแถลงที่โพสต์บนเว็บไซต์ Zing News กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่ระงับการเผยแพร่ดังกล่าว บริษัทจะมุ่งเน้นที่การแก้ไขข้อบกพร่องอย่างละเอียดตามการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2562 ที่นำแผนการจัดการและพัฒนาสื่อมาใช้   แผนดังกล่าวเป็นการเพิ่มการควบคุมสื่อที่เข้มงวดขึ้น และท่ามกลางข้อจำกัดต่าง ๆ กำหนดให้หนังสือพิมพ์ต้องมีความเกี่ยวข้องกับกระทรวง และห้ามนิตยสารเผยแพร่ข่าวด่วน   Zing News ที่มีเจ้าของเดียวกันกับแอปพลิเคชันรับส่งข้อความ Zalo ได้รับอนุญาตให้เป็นนิตยสารดิจิทัล แต่เว็บไซต์ได้เผยแพร่เนื้อหาครอบคลุมหัวข้อต่างๆ ที่รวมถึงข่าวด่วน และข่าวรายวัน   นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สื่อถูกระงับในเวียดนาม โดยในปี 2561 เว็บไซต์ Tuoi Tre ที่ดำเนินการโดยรัฐ ต้องระงับการเผยแพร่เป็นเวลา 3 เดือนเนื่องจากโพสต์ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ตามคำแถลงของรัฐบาล   เวียดนามอยู่ในอันดับที่…

ทร.ยอมรับจนท.คลังสรรพาวุธขโมยกระสุน เร่งล่าตัว-ลงโทษเด็ดขาด

Loading

  กองทัพยอมรับ จนท.คลังสรรพวุธ ขโมยกระสุนจากคลัง ผบ.ทร. สั่งตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว ย้ำลงโทษให้ถึงที่สุด   เมื่อวันที่ 15 ก.ค. พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ กล่าวชี้แจงกรณีที่เพจ CSILA เปิดเผยเอกสารทัพเรือหลุด ซึ่งอ้างว่า กระสุนปืนกลแบบ M855 และ M856 หายนับหมื่นนัด และกระสุนหัวระเบิดแบบ 40 mm นับพันหาย จากสรรพาวุธของนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยกองทัพเรือได้รับรายงานจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ว่า กรมสรรพาวุธทหารเรือได้ตรวจคลังอมภัณฑ์ กรม ร.1 พล.นย. ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า ตามวงรอบประจำปี พบว่ามีอมภัณฑ์ยอดขาดจากบัญชีจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบจำนวนอมภัณฑ์ที่ขาดไปโดยละเอียด   อย่างไรก็ตาม หลังจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินได้รับทราบเรื่อง จึงได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและสอบถามยามรักษาการณ์ พบว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่คลังสรรพาวุธฯ ของหน่วยลักลอบเปิดคลังหลายครั้ง และนำเอาอมภัณฑ์ออกไปโดยใช้กุญแจที่ลักลอบทำสำรองไว้ ซึ่งขณะนี้เจ้าตัวได้ขาดราชการ และไม่สามารถติดต่อได้ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน   โดยจากการสอบคำให้การของยามรักษาการณ์เข้าใจว่า เป็นการดำเนินการตามหน้าที่ปกติ และไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำดังกล่าว นอกจากนี้ ทางหน่วยได้ให้นายทหารพระธรรมนูญของหน่วย แจ้งความลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานไว้ที่ สภ.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 7 ก.ค. และอยู่ระหว่างเพิ่มเติมพยานหลักฐาน ดำเนินการตามกฎหมาย รวมทั้งร่วมกันสืบสวนเพื่อติดตามผู้ต้องสงสัยและอมภัณฑ์ที่สูญหาย   พล.ร.อ.ปกครอง กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้สั่งการให้ตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดกรณีอมภัณฑ์หายออกจากคลังอาวุธ และได้เน้นย้ำให้ลงโทษให้ถึงที่สุด โดยขณะนี้ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง รวมถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางละเมิด เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษต่อไป   ทั้งนี้ กรณีที่มีเพจบางเพจตั้งคำถามว่าทำไมกระสุนจำนวนจึงมาหายช่วงนี้ ที่กำลังมีสงครามในประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นช่วงประชาชนกำลังไม่พอใจกับผลการลงมติของ ส.ว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น ตนขอชี้แจงว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว ขณะเดียวกัน ขอให้ระมัดระวังในการนำเสนอข้อมูล ซึ่งอาจกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และสร้างความเข้าใจผิดแก่ประชาชนทั่วไปด้วย       ————————————————————————————————————————- ที่มา :       …