เอฟบีไอผู้ทรยศ “โรเบิร์ต แฮนส์เซน” เสียชีวิตแล้วในเรือนจำ

Loading

    สื่อต่างประเทศรายงาน “โรเบิร์ต แฮนส์เซน” เอฟบีไอผู้เป็นสายลับให้กับโซเวียต-รัสเซีย เสียชีวิตแล้วในเรือนจำด้วยวัย 79 ปี   สำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ (FBI) คือ หน่วยงานด้านข่าวกรองและความมั่นคงภายในของมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ เป็นเป็นองค์การหลักของสหรัฐฯ ในการต่อต้านการก่อการร้าย การต่อต้านการสืบข่าวกรอง และการสืบสวนอาชญากรรม   แต่เคยคิดหรือไม่ว่า จะเกิดอะไรขึ้น? หากเจ้าหน้าที่เอฟบีไอซึ่งควรจะรักษาความมั่นคงของสหรัฐฯ กลับเป็นฝ่ายทรยศและนำข้อมูลภายในไปมอบให้กับศัตรูเสียเอง     เรากำลังพูดถึงเรื่องราวของ “โรเบิร์ต ฟิลิป แฮนส์เซน” อดีตเจ้าหน้าที่เอฟบีไอนำข้อมูลความลับของสหรัฐฯ ไปขายให้กับสหภาพโซเวียต แลกกับเงินสดและเพชรมูลค่ารวมกว่า 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นหนึ่งในคดีเกี่ยวข้องกับสายลับที่ฉาวโฉ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา   ล่าสุดมีรายงานว่า เอฟบีไอผู้ทรยศรายนี้ ได้เสียชีวิตแล้วในเรือนจำด้วยวัย 79 ปี   เรือนจำกลางในเมืองฟลอเรนซ์ รัฐโคโลราโด รายงานว่า “วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2023 เวลาประมาณ 06.55 น. ผู้ต้องขังโรเบิร์ต…

เปิดเว็บโชว์รูปลับลูก “โจ ไบเดน”

Loading

  สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์รายงานว่า นายแกร์เรตต์ ซีเกลอร์ อดีตผู้ช่วยของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และเป็นผู้ก่อตั้งมาร์โค โปโล องค์กรไม่แสวงผลกำไร เผยว่า ภาพถ่ายกิจกรรมลับสุดเหวี่ยงราว 10,000 รูป จากแล็ปท็อปของฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้ถูกนำมาเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ใหม่ BidenLaptopMedia.com เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. เพื่อให้สาธารณชนได้รับรู้เห็นความเป็นอยู่เชิงลึกของสมาชิกครอบครัวหมายเลข 1 อย่างโปร่งใส หลังจากทีมงานใช้เวลา 2-3 เดือน ตรวจสอบภาพถ่ายทั้งหมด   แล็ปท็อปดังกล่าวถูกนำไปซ่อมที่ร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ของจอห์น ไอแซค ในรัฐเดลาแวร์ เมื่อเดือน เม.ย.2562 และไม่เคยมารับกลับ   ไอแซค จึงอ้างว่าแล็ปท็อปตกเป็นทรัพย์สินของร้านตามสัญญาที่ฮันเตอร์ลงนาม ขณะที่ซีเกลอร์เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ได้รับสำเนาภาพจากแล็ปท็อป ซึ่งเต็มไปด้วยกิจกรรมทางเพศ ภาพโป๊เปลือย การใช้ยาเสพติด รวมทั้งข้อตกลงลับตั้งแต่ปี 2551-2562 ซึ่งยืนยันว่าไม่มีเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ และยังเซ็นเซอร์อวัยวะเพศ ย้ำว่าไม่ใช่การโจมตีครอบครัวไบเดน ชาวอเมริกันตัดสินเองได้ว่ารู้สึกอย่างไรกับครอบครัวหมายเลข 1 ผ่านรูปเหล่านี้.  …

“นินทา” บริษัทบนออนไลน์ ระวัง! ถูกสอดแนมด้วย Bossware ตรวจจับคนชอบเผือก

Loading

    ในไทยอาจยังไม่มี แต่บริษัทในสหรัฐกว่า 70% จะเริ่มใช้ “Bossware” ซอฟต์แวร์สอดแนมการ “นินทา” บนแอปฯ ประชุมทางไกล/กรุ๊ปแชทคุยงานทางไกล (Hybrid Work Gossip) ของลูกจ้าง ตามแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ในอีก 2 ปีข้างหน้า   Key Points:   – รู้ว่าไม่ดี แต่ก็หยุดไม่ได้ เมื่อ “การนินทา” เป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติของมนุษย์ที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ส่วนใหญ่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว และมักเกิดขึ้นเพื่อทำลายความจำเจของกิจวัตรประจำวัน หรือเพื่อเติมชีวิตชีวาให้แก่วงสนทนา   – แต่ในยุคนี้ที่มีสื่อสังคมโซเชียลเชื่อมต่อผู้คนได้แบบไร้พรมแดน ยิ่งทำให้การนินทาว่าร้ายบนโลกออนไลน์เกิดขึ้นได้ง่าย และแพร่กระจายได้รวดเร็วหลายพันเท่า โดยเฉพาะหากการนินทานั้นพาดพิงถึงบริษัทจนเกิดความเสียหาย   – ด้วยความกังวลดังกล่าว ทำให้หลายบริษัทในสหรัฐอเมริกา หาวิธีการสอดแนมและตรวจสอบการนินทาบนโลกออนไลน์ของลูกจ้าง ผ่านซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า “Bossware” หลายคนรู้อยู่แก่ใจว่าการ “นินทา” คนอื่นมันไม่ดี แต่ถามว่ามนุษย์ออฟฟิศหยุดนินทาได้ไหม? เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ตอบเสียงดังฟังชัดว่า “หยุดไม่ได้จริงๆ” ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะในทางจิตวิทยามีคำอธิบายว่า การนินทาอยู่ติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่เกิด…

อาจารย์ฟิสิกส์เตรียมฟ้องกลับเอฟบีไอ หลังโดนมั่วจับกุมว่าเป็น ‘สปาย’ ของทางการจีน

Loading

    อาจารย์ชาวอเมริกันเชื้อสายจีน ผู้เคยโดนกล่าวหาว่าเป็นสายลับให้ทางการจีน ได้สิทธิฟ้องกลับหน่วยงานเอฟบีไอของทางการสหรัฐ ที่กล่าวหาเขาโดยไม่มีมูลความจริง   สีเซียวซิง อาจารย์มหาวิทยาลัยเทมเพิล เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย ผู้ซึ่งเคยโดนกล่าวหาว่า ทำหน้าที่เป็นสายลับให้ทางการจีนเมื่อหลายปีก่อน ได้สิทธิในการยื่นฟ้องร้องหน่วยสืบสวนกลางของสหรัฐ ที่กล่าวหาเขาโดยไม่มีหลักฐาน   เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ผู้พิพากษาแห่งศาลอุทธรณ์กลาง ตัดสินให้ สี ชนะการยื่นอุทธรณ์เพื่อขอฟ้องกลับหน่วยงานสืบสวนกลางของสหรัฐ หรือเอฟบีไอ ซึ่งเคยกล่าวหาและจับกุมเขาโดยปราศจากหลักฐานยืนยันข้อเท็จจริง อีกทั้งละเมิดสิทธิของครอบครัวของเขา ขณะบุกเข้าค้นที่พัก ยึดทรัพย์สินและสอดส่องตรวจตราโดยมิชอบด้วยกฎหมาย   เหตุการณ์ละเมิดสิทธิของครอบครัว สี เกิดขึ้นเมื่อปี 2558 ทางเอฟบีไอได้ส่งเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปยังบ้านพักของ สี ในฟิลาเดลเฟีย ใช้ปืนข่มขู่และไล่ต้อนคนในครอบครัวของเขา จากนั้นก็จับกุมเขาด้วยข้อหาเกี่ยวกับการฉ้อโกงและจารกรรมทางเศรษฐกิจหลายกระทง แต่กลับยกเลิกข้อกล่าวหาทั้งหมดในอีกหลายเดือนต่อมา   ในปี 2558 กระทรวงยุติธรรมกล่าวหา สี ซึ่งเป็นนักวิชาการด้านฟิสิกส์ว่า เขาเปิดเผยข้อมูลแผนพิมพ์เขียวของอุปกรณ์ทำความร้อนแบบพกพาให้บุคคลอื่นในประเทศจีน ซึ่งเป็นการผิดข้อตกลงห้ามเผยแพร่ข้อมูลที่เขาเคยเซ็นสัญญาไว้     แต่เมื่อเรื่องไปถึงศาล กลุ่มเพื่อนนักวิชาการฟิสิกส์ซึ่งขึ้นให้การชี้ว่า พิมพ์เขียวดังกล่าวไม่เข้าข่ายตามข้อตกลง เนื่องจากเป็นผลงานการประดิษฐ์ส่วนตัวของเขาเอง ซึ่งตามบันทึกให้การในศาลระบุว่า อุปกรณ์ทำความร้อนแบบพกพาที่ สี คิดขึ้นมานั้น…

สหรัฐฯ สั่งจำคุก 18 ปี แกนนำฝ่ายขวาจัด เหตุก่อจลาจลบุกอาคารรัฐสภาต้นปี 2021 หลังไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งทรัมป์แพ้ไบเดน

Loading

    ศาลสหรัฐอเมริกาสั่งจำคุก 18 ปี สจ๊วต โรดส์ แกนนำกลุ่มขวาจัดอย่าง Oath Keepers ที่ก่อเหตุจลาจลบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐอเมริกาเมื่อช่วงต้นปี 2021 หลังไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันพ่ายแพ้ให้กับ โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต   โดยโรดส์นับเป็นผู้ต้องหารายแรกที่ถูกตัดสินว่ามีความผิด และได้รับการลงโทษจากความพยายามยุยงปลุกปั่นจนก่อให้เกิดความไม่สงบและนำไปสู่การบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ นับเป็นผู้ต้องหาที่ได้รับโทษยาวนานที่สุดในขณะนี้จากคดีดังกล่าว   อย่างไรก็ตาม โทษที่โรดส์ได้รับยังน้อยกว่าโทษจำคุกที่อัยการเล็งเห็นว่าเขาควรจะได้รับโทษอย่างน้อย 25 ปี เนื่องจากมองว่าเขายังคงเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐฯ   โดย เอมิต เมห์ตา ผู้พิพากษาเขตของสหรัฐฯ แสดงความเห็นว่า “โรดส์มีท่าทีเป็นภัยอย่างต่อเนื่อง การกระทำหลายอย่างของเขาบ่งชี้ว่าเขาต้องการให้ระบอบประชาธิปไตยของประเทศนี้แปรเปลี่ยนเป็นความรุนแรง และทันทีที่เขาได้รับการปล่อยตัว ไม่ว่าเมื่อไรก็ตามที่เขามีโอกาส เขาก็พร้อมที่จะหยิบจับอาวุธขึ้นมาต่อสู้กับรัฐบาลของเขา (ที่เขาไม่ได้สนับสนุน)”   เบื้องต้นโรดส์ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นคนออกคำสั่งให้สมาชิกกลุ่ม Oath Keepers รวมถึงบรรดาผู้สนับสนุนทรัมป์บุกโจมตีอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 โดยเจตนาที่แท้จริงของเขาคือการปกป้องสหรัฐฯ จากกลุ่มคนที่พวกเขามองว่ากำลังทำลายประเทศชาติแห่งนี้ หลังจากเชื่อว่าผลการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ ครั้งที่ผ่านมาไม่โปร่งใส…

นักศึกษาฮ่องกง 4 คนถูกตัดสินจำคุกฐานวางแผนวางระเบิดต่อต้านรัฐบาล

Loading

  นักศึกษาชาวฮ่องกง 4 คนถูกตัดสินจำคุกเมื่อวันพฤหัสบดี จากพฤติการณ์ในแผนต่อต้านรัฐบาลด้วยการวางระเบิดในที่สาธารณะ   เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม 2566 กล่าวว่า ศาลฮ่องกงตัดสินจำคุกนักศึกษา 4 คน ภายใต้กฏหมายความมั่นคงที่จีนบังคับใช้เมื่อปี 2563 เพื่อระงับความขัดแย้งของเกาะแห่งนี้   จำเลยทั้งสี่ซึ่งมีอายุระหว่าง 17-21 ปี เป็นสมาชิกของกลุ่มที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักชื่อ “Returning Valiant” ซึ่งส่งเสริมการประกาศเอกราชจากจีน และเคยปลุกระดมให้มีการต่อต้านกฎหมายความมั่นคง   ในปี 2564 กลุ่มนี้ถูกกล่าวหาว่าวางแผนที่จะทำ “ระเบิดเปอร์ออกไซด์” หรือ TATP ขี้นมา และนำไปใช้วางระเบิดในพื้นที่สาธารณะรวมถึงอาคารศาล   ก่อนที่พวกเขาจะจัดหาวัสดุได้ ตำรวจความมั่นคงแห่งชาติของฮ่องกงได้จับกุมพวกเขาเสียก่อนในเดือนกรกฎาคมของปีนั้น   “ศาลฯพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 5 ปี 8 เดือน ต่ออเล็กซานเดอร์ โอ จำเลยอายุ 21 ปี จากพฤติการณ์ที่ชัดเจนในฐานะแกนนำผู้เป็นตัวตั้งตัวตีในการเช่าห้อง, วางแผนเตรียมการ และการลาดตระเวนอาคารเป้าหมาย” อเล็กซ์ ลี…