เปิดระเบียบ “สตช.” สั่งขรก.ตำรวจ”รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ”ลงราชกิจจาฯ

Loading

    “ราชกิจจาฯ” เผยแพร่ระเบียบ “สตช.” ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไป “รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ” ฉบับใหม่ กำหนดคุณสมบัติขรก.ตำรวจที่ไป”รักษาความปลอดภัย” ห้ามเบื้องบนล็อกสเปกตัวบุคคล   24 เมษายน 2566 “ราชกิจจาฯ” เผยแพร่ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ พ.ศ. ๒๕๖๖   ด้วยพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๕ มาตรา ๙๒ วรรคสอง บัญญัติการสั่งให้ ข้าราชการตำรวจไปรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญตามตำแหน่งที่ ก.ตร. กำหนด ให้เป็นไปตามระเบียบ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงต้องปรับปรุงมาตรการว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เหมาะสมกับสภาวการณ์ปัจจุบัน และสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติดังกล่าว   อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖๓ แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๕ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้     ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจ ไปรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ พ.ศ. ๒๕๖๖”  …

รัสเซียขับนักการทูตเยอรมนี “มากกว่า 20 คน” ลั่น “คือการตอบโต้แบบเดียวกัน”

Loading

    รัสเซียเนรเทศเจ้าหน้าที่การทูตของเยอรมนี “มากกว่า 20 คน” เท่ากับจำนวนนักการทูตของรัฐบาลมอสโก ซึ่งต้องเดินทางออก ตามคำสั่งของรัฐบาลเบอร์ลิน   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ว่า กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ออกแถลงการณ์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า นักการทูตของเยอรมนี “มากกว่า 20 คน” ถือเป็น “บุคคลไม่พึงปรารถนา” และต้องเดินทางออกจากรัสเซีย “ภายในระยะเวลาที่กำหนด” มาตรการดังกล่าว “คือ การตอบโต้แบบเดียวกัน” กับที่เยอรมนีเนรเทศเจ้าหน้าที่การทูตของรัฐบาลมอสโก   ด้านแหล่งข่าวในกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี กล่าวว่า มีการหารือหลายครั้งกับรัฐบาลมอสโก ในรอบหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับจำนวนบุคลากรการทูตของทั้งสองประเทศ โดยรัฐบาลเบอร์ลินมีเป้าหมายคือ เพื่อต้องการลดจำนวน “การแฝงตัวในคราบสายลับ” ของเจ้าหน้าที่จากรัสเซียเท่านั้น     ขณะที่สื่อท้องถิ่นหลายแห่งของทั้งสองประเทศรายงานว่า เอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำรัสเซีย ได้รับแจ้งเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่การทูตของเยอรมนีซึ่งต้องเดินทางออกจากรัสเซียในรอบนี้ คือ 34 คน จากทั้งหมด…

“บิ๊กโจ๊ก” เสนอติดตั้งระบบ AI คัดกรองคนเข้าประเทศ

Loading

    กรุงเทพฯ 19 เม.ย. – “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” เสนอให้ติดตั้งระบบ AI ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง เพิ่มประสิทธิภาพคัดกรองคนเข้าประเทศ หวังลดปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ หลังพบคนจีนเข้ามาก่อเหตุในไทยมากขึ้น พร้อมหารืออุปทูตจีนประจำประเทศไทย วางแนวทางป้องกันเหตุ   พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงคดีการอุ้มตัวคนจีนไปเรียกค่าไถ่ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สน.ลุมพินี และ สน.บางโพงพาง ในช่วงนี้ โดยเฉพาะคดีที่ สน.บางโพงพาง ที่พบมีผู้ต้องหาทั้งคนไทย และคนจีนร่วมกัน 11 คน ในการก่อเหตุอุ้มตัวคนจีนไปเรียกค่าไถ่ ขณะนี้สามารถจับตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 4 คน และอยู่ระหว่างการติดตามตัวที่เหลือ   ส่วนที่มีเหตุคนจีนเข้ามาก่อเหตุอาชญากรรมในไทยมากขึ้นนั้น วันนี้ได้นัดหมายอุปทูตจีนประจำประเทศไทยเข้ามาร่วมหารือถึงแนวทางการป้องกัน และการกวาดล้างอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคนจีนให้เข้มงวดมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาหลังจากเปิดประเทศก็มีคนจีนเข้ามาอยู่ในไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น   พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังยอมรับว่า ประเทศไทยเข้า-ออกได้ง่าย หลังจากที่ก่อนหน้านี้จะอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้กลุ่มผู้ต้องหาที่กระทำผิดในจีนเข้ามาในไทย แม้ว่าทางการไทยจะพยายามคัดกรองแล้ว แต่ก็ยังพบมีหลุดรอดเข้ามาได้ ในช่วงนี้ก็ได้สั่งการให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศเข้มงวดในการตรวจสอบ อีกทั้งกำหนดเป้าหมายการเข้าตรวจค้นในพื้นที่พักอาศัยของคนจีน ทั้งกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต…

ฮือฮายิ่งกว่า 007! นักธุรกิจออสซี่ชื่อดังชวดประกันตัว หลังแอบขายความลับเทคโนโลยี AUKUS ให้สปายปักกิ่ง เพิ่งกลับเข้าประเทศหลังอาศัยในจีนนานหลายสิบปี

Loading

    เอเจนซีส์ – นักธุรกิจออสเตรเลียชื่อดังโดนศาลซิดนีย์ปฏิเสธประกันตัวหลังถูกจับคดีแอบขายข้อมูลลับเทคโนโลยี AUKUS ให้สายลับจีน โดนจับเมื่อวันศุกร์ (14 เม.ย.) พบรับซองเงินสดจากสปายสายลับชาวจีนเพื่อแลกเปลี่ยนกับรายงานเปิดเผยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแคนเบอร์ราและชาติพันธมิตร เพิ่งกลับเข้าแดนจิงโจ้ปีนี้หลังอาศัยในจีนนานหลายสิบปี อื้ออึงยิ่งกว่าเจมส์ บอนด์ 007 เจ้าตัวพบสายลับจีนที่รู้จักผ่านเว็บไซต์ LinkedIn ตามคาเฟ่และภัตตาคารที่ปลอดลูกค้านับครั้งไม่ถ้วนทั่วเมืองเซี่ยงไฮ้   CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (17 เม.ย.) ว่า อเล็กซานเดอร์ เซอร์โก (Alexander Csergo) นักธุรกิจออสเตรเลียโดนจับกุมในวันศุกร์ (14) ที่เพิ่งผ่านมา คดีแอบให้ข้อมูลลับเทคโนโลยี AUKUS กับสายลับจีน   โดยสื่อออสซี่ 9news รายงานเพิ่มเติมว่า ชายผู้นี้ที่เป็นนักธุรกิจและได้รับการศึกษาดีรับซองเงินสดเพื่อแลกเปลี่ยนกับรายงานเปิดเผยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียและชาติพันธมิตรต่าง ๆ ของออสเตรเลีย   เป็นที่น่าทึ่งเพราะพบว่าเขาอาศัยอยู่ในแดนมังกรมานานหลายสิบปี แต่เพิ่งกลับเข้าออสเตรเลียเมื่อต้นปีนี้พร้อมกับ “ลิสต์ของที่ต้องการ” เกี่ยวข้องกับความลับข่าวกรองออสเตรเลียที่เซอร์โกถูกคนติดต่อ 2 คนร้องขอ ศาลซิดนีย์ได้รู้ว่า เซอร์โกถูกต้องสงสัยมาตั้งแต่ปี 2021 ว่าเป็นสายลับให้กระทรวงความมั่นคงของจีน   คนทั้งสองนี้รู้จักในชื่อ…

เอฟบีไอรวบ 2 คนจีน ตั้งข้อหาเปิด ‘สถานีตำรวจลับ’ ในไชน่าทาวน์

Loading

    อัยการสหรัฐจับกุมตัวชาย 2 คนในนิวยอร์ก ในข้อหาปฏิบัติการเปิดสถานีตำรวจลับของจีนที่ไชน่าทาวน์ในแมนฮัตตัน โดยคาดว่าจะมีการนำตัวบุคคลทั้งคู่ขึ้นศาลรัฐบาลกลางในบรู๊คลินในวันที่ 17 เมษายนนี้ ตามเวลาในสหรัฐ ซึ่งหากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง ทั้งคู่อาจเจอโทษจำคุกสูงสุด 25 ปี   นายหลู่ เจี้ยนหวาง วัย 61 ปี และนายเฉิน จิ้นผิง วัย 59 ปี อาศัยอยู่ในนครนิวยอร์ก ถูกตั้งข้อหาสมคบคิดเป็นตัวแทนของจีน และขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ก่อนหน้านี้จีนได้ออกมาปฏิเสธการดำเนินการตามที่สหรัฐเรียกขานว่าสถานีตำรวจลับ ว่าเป็นเพียงศูนย์บริการสำหรับคนจีนในต่างแดน   ขณะที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐตั้งข้อกล่าวหาว่า นายหลู่จากบรองซ์และนายเฉินจากแมนฮัตตันทำงานร่วมกันเพื่อก่อตั้งสถานีตำรวจในต่างประเทศแห่งแรกในสหรัฐ ในนามของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน   จุดบริการดังกล่าวถูกปิดไปในฤดูใบไม้ร่วงปี 2565 หลังผู้เกี่ยวข้องทราบว่าสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (เอฟบีไอ) กำลังสอบสวนถึงการมีอยู่ของสถานีตำรวจลับดังกล่าว   นายบรอน เพียร์ซ อัยการสูงสุดในบรู๊คลิน กล่าวว่า การฟ้องร้องครั้งนี้เผยให้เห็นว่ารัฐบาลจีนละเมิดอำนาจอธิปไตยของสหรัฐอย่างโจ่งแจ้ง ด้วยการจัดตั้งสถานีตำรวจลับกลางนครนิวยอร์ก   “การกระทำของจีนไปไกลเกินกว่าขอบเขตที่จะยอมรับได้ เราจะปกป้องเสรีภาพของทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศของเราอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่จากการคุกคามของการปราบปรามโดยเผด็จการ” นายแมทธิว โอสเลน ผู้ช่วยอัยการสูงสุดจากกองความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ กล่าว…

‘โจชัว หว่อง’ โดนคุกเพิ่มอีก 3 เดือน ฐานแฉตัวตนตำรวจยิงผู้ประท้วงเมื่อปี 2019

Loading

    โจชัว หว่อง (Joshua Wong) หนึ่งในแกนนำคนสำคัญของขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ถูกศาลพิพากษาจำคุก 3 เดือน วันนี้ (17 เม.ย.) ในความผิดฐานละเมิดข้อมูล (information breach) ของตำรวจนายหนึ่งที่มีส่วนในการปราบปรามผู้ชุมนุมฮ่องกงเมื่อ 4 ปีที่แล้ว   นักเคลื่อนไหวหนุ่มแว่นวัย 26 ปี รายนี้เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากการเป็นแกนนำนักศึกษาออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านจีนในขบวนการปฏัวัติร่มเหลือง (umbrella movement) เมื่อปี 2014 ซึ่งนำไปสู่การชุมนุมปิดถนนบนเกาะศูนย์กลางการเงินแห่งนี้เป็นเวลาถึง 79 วัน   ล่าสุด วันนี้ (17) ศาลสูงฮ่องกงได้พิพากษาจำคุก หว่อง เป็นเวลา 3 เดือน ฐานละเมิดคำสั่งศาลที่ห้ามไม่ให้เขาเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของตำรวจนายหนึ่งที่ยิงใส่ประชาชนในย่าน Sai Wan Ho ระหว่างปฏิบัติการปราบปรามม็อบฮ่องกงเมื่อเดือน พ.ย. ปี 2019   พยานในศาลระบุว่า หว่อง เดินทางไปรับฟังคำตัดสินด้วยตนเอง ทว่าไม่ได้พูดอะไร ขณะที่ศาลเองยังไม่มีการเผยแพร่คำตัดสินอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรออกมา  …