รัสเซียขับจนท.กงสุลญี่ปุ่นพ้นประเทศ ชี้จารกรรมข้อมูลลับ โตเกียวยันโต้กลับ

Loading

  รัสเซียขับจนท.กงสุลญี่ปุ่นพ้นประเทศ ชี้จารกรรมข้อมูลลับ โตเกียวยันโต้กลับ   สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 27 กันยายนว่า สำนักงานความมั่นคงรัสเซีย (เอฟเอสบี) กล่าวเมื่อวันที่ 26 กันยายนว่า รัสเซียได้จับกุม นายโมโตกิ ทัตสึโนริ เจ้าหน้าที่กงสุลชาวญี่ปุ่นที่เมืองท่าวลาดิวอสต็อกของรัสเซีย โทษฐานเป็นผู้ต้องสงสัยจารกรรมข้อมูล ซึ่งต่อมาได้ทำการปล่อยตัวและสั่งให้เจ้าหน้าที่ดังกล่าวออกจากประเทศ ขณะที่ทางการที่ญี่ปุ่นออกมาต่อต้านการจับกุมครั้งนี้อย่างแข็งกร้าว   เอฟเอสบีได้ประกาศให้นายทัตสึโนริเป็น “บุคคลที่ไม่พึงปรารถนา” หลังจากถูกจับกุมตัวได้ขณะกำลังจารกรรมข้อมูลลับเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจในรัสเซียตะวันออกไกล ที่เกิดขึ้นจากการคว่ำบาตรของตะวันตก ซึ่งคาดว่านายมัตสึโนะถูกจ้างวานด้วย “เงินรางวัล” ให้ล้วงข้อมูลในครั้งนี้ อีกทั้ง ยังมีรายงานว่ารัสเซียได้ประท้วงการจารกรรมข้อมูลของเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นคนนี้ผ่านช่องทางทางการทูตแล้ว   ขณะที่นายฮิโรคาสุ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวในการแถลงข่าวประจำวันเมื่อวันที่ 27 กันยายนว่า ญี่ปุ่นคัดค้านอย่างรุนแรงต่อการที่รัสเซียจับกุมเจ้าหน้าที่กงสุล ซึ่งญี่ปุ่นออกมาปกป้องว่าไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายใดๆ ว่าเป็น “การกระทำที่คุกคาม” และเป็นการ “ความรุนแรงอย่างชัดเจนที่ล่วงละเมิดต่ออนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต” พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะตอบโต้ปฏิบัติการของรัสเซียครั้งนี้   ท่าทีของมัตสึโนะสอดคล้องกับกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นที่ได้แจ้งกับเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงโตเกียวว่า ญี่ปุ่นจะดำเนินการต่างตอบแทนที่เท่าเทียมกัน อีกทั้งยังประเทศต้องการคำขอโทษจากรัสเซียด้วย       ———————————————————————————————————————————————- ที่มา :   มติชนออนไลน์ …

ครม.ไฟเขียวบรรจุ “โรคอารมณ์ผิดปกติ” ต้องห้ามรับราชการพลเรือน

Loading

  ครม.ไฟเขียว “โรคอารมณ์ผิดปกติ” ต้องห้ามรับราชการพลเรือน ชี้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ ยกเลิกโรควัณโรคในระยะแพร่กระจายเชื้อ ออกจากลักษณะต้องห้าม   ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยโรค พ.ศ. …. ตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) เสนอ ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยโรคฉบับนี้ เป็นการปรับปรุงกฎ ก.พ. ว่าด้วยโรค พ.ศ.2553 ที่กำหนดลักษณะต้องห้ามสำหรับผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือน ในการแก้ไขครั้งนี้ ได้ยกเลิก “โรควัณโรคในระยะแพร่กระจายเชื้อ” ออกจากลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะเข้ารับราชการพลเรือน เนื่องจากโรควัณโรคมีแนวโน้มที่ลดลง และใช้เวลาในการรักษาประมาณ 2 สัปดาห์ ก็สามารถหายได้   พร้อมกันนี้ ได้เพิ่มโรคจิต (Psychosis) หรือโรคอารมณ์ผิดปกติ (Mood Disorders) ที่มีอาการเด่นชัดรุนแรงหรือเรื้อรัง และเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่ เป็นลักษณะต้องห้ามด้วย ส่วนโรคอื่นๆ ยังคงกำหนดเป็นลักษณะต้องห้ามตามเดิม ได้แก่  …

อดีต จนท.ความปลอดภัยไซเบอร์แฉทวิตเตอร์ปล่อยสายลับจีน-อินเดียแฝงตัวทำงานในบริษัท

Loading

  อดีตหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของทวิตเตอร์ ปีเตอร์ “มัดจ์” แซตโก ให้ปากคำต่อรัฐสภาอเมริกันว่า มีสายลับจีนอย่างน้อย 1 คนทำงานอยู่ในบริษัท นอกจากนั้น ทวิตเตอร์ยังปล่อยให้อินเดียส่งสายลับอีกจำนวนหนึ่งเข้าไปทำงานเช่นกัน และทำให้ 2 ประเทศดังกล่าวมีโอกาสเข้าถึงข้อมูลอ่อนไหวของผู้ใช้   ถ้อยแถลงเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการให้การของ แซตโก ซึ่งเป็นทั้งแฮ็กเกอร์ชื่อดังและผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมทั้งยังเป็นผู้เปิดโปงความไม่ชอบมาพากลของทวิตเตอร์ ต่อคณะกรรมาธิการการยุติธรรมของวุฒิสภาสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (13)   แซตโก แฉว่า ทวิตเตอร์มีปัญหาระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์หละหลวมทำให้เสี่ยงถูกแสวงหาผลประโยชน์จากวัยรุ่น อาชญากร และสายลับ รวมทั้งทำให้ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยง   เขาเสริมว่า พนักงานทวิตเตอร์บางคนกังวลว่า รัฐบาลจีนอาจเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ของบริษัท   ทั้งนี้ ทวิตเตอร์ถูกวิจารณ์อย่างหนักเรื่องการรักษาความปลอดภัยหละหลวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2020 ที่แฮกเกอร์วัยรุ่นเข้าควบคุมบัญชีของผู้ใช้ที่มีชื่อเสียงหลายสิบบัญชี ซึ่งรวมถึงบัญชีของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ   ในการให้ปากคำเมื่อวันอังคาร แซตโกเปิดเผยปัญหาการรักษาความปลอดภัยของทวิตเตอร์ที่ร้ายแรงกว่านั้นเสียอีก ด้วยการกล่าวหาเป็นครั้งแรกว่า ก่อนเขาถูกไล่ออกราว 1 สัปดาห์ เขาได้รับรู้ว่า บริษัทแห่งนี้ได้รับแจ้งจากสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) สหรัฐฯ ว่า มีสายลับจากหน่วยข่าวกรองของกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของจีนแฝงตัวทำงานอยู่ในบริษัท…

เมียนมาจับกุมอดีตทูตอังกฤษ ฐานผิดกฎหมายคนเข้าเมือง

Loading

Vicky Bowman (MCRB) ทางการเมียนมาจับกุมอดีตทูตอังกฤษพร้อมสามี ซึ่งเป็นศิลปินและอดีตนักโทษทางการเมือง เข้าเรือนจำอินเส่งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตามรายงานของรอยเตอร์และอัลจาซีราห์ สำนักข่าวรอยเตอร์ อ้างแถลงการณ์ของรัฐบาลทหารเมียนมาเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ทางการเมียนมาอยู่ระหว่างการสอบสวนว่า วิคกี โบว์แมน (Vicky Bowman) อดีตเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำเมียนมา ละเมิดกฎหมายคนเข้าเมืองหรือไม่ หลังมีรายงานข่าวการจับกุมอดีตทูตโบแมนและสามี เตียน ลิน (Htein Lin) ผู้เป็นศิลปินและอดีตนักโทษการเมืองเมื่อวันพุธ สื่อต่างประเทศหลายสำนักรวมทั้งเอเอฟพีและรอยเตอร์ ในรายงานตรงกันว่า วิคกี โบว์แมน ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้บริหาร Myanmar Centre for Responsible Business (MCRB) ถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายคนเข้าเมือง หลังจากถูกจับกุมโดยทางเมียนมาที่นครย่างกุ้ง ขณะที่โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาไม่ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมกับรอยเตอร์ในช่วงเวลาที่รายงานข่าวนี้ โบว์แมน วัย 56 ปี ปฏิบัติหน้าที่เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำเมียนมา เมื่อปี 2002-2006 และมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในเมียนมามากกว่า 30 ปี ส่วนสามีเตียน ลิน วัย 55 ปี เป็นหนึ่งในศิลปินที่มีชื่อเสียงในเมียนมา และยังเป็นอดีตนักโทษการเมือง ซึ่งถูกจำคุกกว่า 6…

สหรัฐฯ ตั้งข้อหาชายอิหร่าน วางแผนลอบสังหารอดีตที่ปรึกษารัฐบาลทรัมป์

Loading

สหรัฐฯ ตั้งข้อหาชายชาวอิหร่าน ว่าวางแผนส่งหารนาย จอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในยุคประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ในวันพุธที่ 10 ส.ค.2565 ตั้งข้อหานาย ชาห์ราม ปูร์ซาฟี สมาชิกกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน ว่าวางแผนสังหารนาย จอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในยุคประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อล้างแค้นให้นายพล กอเซม สุไลมานี ผู้บัญชาการมากอิทธิพลของกองทัพอิหร่าน พลเอก สุไลมานี เป็นผู้บัญชาการกองกำลัง Quds หัวหน้าปฏิบัติการทางทหารในภูมิภาคตะวันออกกลาง ก่อนจะถูกสหรัฐฯ โจมตีทางอากาศสังหารที่สนามบินแบกแดน ในอิรัก เมื่อเดือนมกราคม 2563 โดยเป็นการโจมตีที่เกิดขึ้นตามคำสั่งของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ตามแถลงการณ์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ นายปูร์ซาฟี หรือ เมห์ดี เรซายี อายุ 45 ปี ซึ่งตอนนี้อยู่ในกรุงเตหะราน พยายามจ่ายเงินจ้างบุคคลในสหรัฐฯ ด้วยเงิน 300,000 ดอลลาร์…

UK เตรียมออกกฎหมายให้ชาวต่างชาติที่ต้องคดี ใช้นาฬิกาถ่ายภาพใบหน้าเพื่อรายงานตัว

Loading

  กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงยุติธรรมแห่งสหราชอาณาจักรกำลังพิจารณากฎหมายที่กำหนดให้ชาวต่างชาติผู้ต้องคดีอาญา ต้องรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่โดยการถ่ายภาพใบหน้าตนเองด้วยอุปกรณ์ติดตามตัวแบบสวมใส่ข้อมือที่มีระบบรู้จำใบหน้าวันละ 5 ครั้ง ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤษภาคมรัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ทำสัญญากับบริษัท Buddi Limited ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สวมใส่ข้อมืออัจฉริยะ โดยสัญญาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของงานระบบติดตามตำแหน่งผ่านดาวเทียมซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งคาดว่าอุปกรณ์ของ Buddi Limited นี้เองที่จะถูกนำมาใช้งานกับการติดตามตำแหน่งผู้ต้องคดี ในร่างกฎหมายใหม่นี้นอกเหนือจากการถ่ายภาพเพื่อรายงานตัวอย่างสม่ำเสมอแล้ว อุปกรณ์สวมใส่ดังกล่าวจะส่งข้อมูลตำแหน่งของผู้ที่สวมอุปกรณ์ให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งข้อมูลภาพถ่ายทั้งหมดรวมทั้งชื่อ , วันเกิด และสัญชาติของผู้ต้องคดีจะถูกจัดเก็บดูแลโดยกระทรวงมหาดไทยเป็นเวลา 6 ปี โดยฐานข้อมูลเหล่านี้จะถูกแบ่งปันให้กระทรวงยุติธรรมและเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้งานได้ด้วย ทั้งนี้มีเสียงคัดค้านเกี่ยวกับร่างกฎหมายใหม่นี้เช่นกัน โดย Privacy International องค์กรอิสระที่มุ่งเน้นรณรงค์เรื่องการพิทักษ์สิทธิ์เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ได้ให้ความเห็นว่ามาตรการใหม่ที่รัฐบาลเล็งจะใช้นี้ละเมิดสิทธิมนุษยชนและสร้างการเลือกปฏิบัติต่อผู้คนและได้ออกแถลงการณ์คัดค้านกฎหมายใหม่นี้ ที่มา – Gizmodo , The Guardian     ที่มา : blognone    /   วันที่เผยแพร่ 7 ส.ค.65 Link : https://www.blognone.com/node/129704