‘ผบ.ตร.’ เตรียมกำลังตำรวจกว่า 2 หมื่นนาย คุมเข้มการประชุมเอเปค!

Loading

  “ผบ.ตร.” เตรียมกำลังตำรวจกว่า 2 หมื่นนาย คุมเข้มการประชุมเอเปค! พร้อมเฝ้าระวังภัยคุกคามในประเทศ และต่างประเทศ ยืนยันจะทำให้ดีที่สุด   พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ยืนยันการดูแลความพร้อมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) 2022 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2565 โดยได้มีการเตรียมความพร้อมต่าง ๆ ไว้แล้ว ทั้งการดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกผู้นำทุกชาติที่เข้าร่วมการประชุม ดูแลสถานที่จัดการประชุมโรงแรมที่พัก   “ตำรวจไม่ประมาท จะจัดกำลังดูแลทั้งด้านในและด้านนอก รวมถึงจุดสูงข่มต่าง ๆ รวมถึงรับผิดชอบการจราจร การอำนวยความสะดวกขบวน VIP และผู้นำชาติตามเส้นทางที่เดินทาง ซึ่งได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบหลัก” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าว   อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นพร้อมเตรียมกำลังตำรวจเกือบ 20,000 นาย ภาพรวมการเตรียมความพร้อมใกล้สมบูรณ์แล้ว โดยจะมีการประชุมร่วมกันทั้งตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาคต่าง ๆ อีกครั้ง…

อังกฤษอพยพวุ่น หลังพบพัสดุปริศนาใกล้ทำเนียบนายกฯ

Loading

  อังกฤษต้องปิดถนนไวท์ฮอลล์ในเมืองเวสต์มินสเตอร์ ใกล้กับทำเนียบและบ้านพักนายกรัฐมนตรีชั่วคราวช่วงเที่ยงวันอังคาร(18ต.ค.) และอพยพคนหลายร้อยคน หลังพบพัสดุต้องสงสัยทำให้ต้องส่งหน่วยเก็บกู้ระเบิดเข้าตรวจสอบ   ตำรวจเปิดเผยว่า ถนนไวท์ฮอลล์ถูกล็อกดาวน์เนื่องจากได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 11.42 น. ตามเวลาท้องถิ่นว่า พบพัสดุต้องสงสัย เพื่อรอให้หน่วยเก็บกู้ระเบิดเข้าตรวจสอบ   ทั้งนี้ ไวท์ฮอลล์อยู่ระหว่างอาคารรัฐสภา และจตุรัสทราฟัลการ์ และเป็นที่ตั้งของกระทรวงหลายกระทรวง เช่น กระทรวงต่างประเทศ และกระทรวงกลาโหม   เจ้าหน้าที่ในกระทรวงหลายแห่งตลอดถนนไวท์ฮอลล์ได้รับการอพยพออกจากคาร และรวมตัวกันที่บริเวณลานสวนสนามของขบวนพาเหรดทหารม้าหลังถนนดาวนิง   ตำรวจใช้หุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิดทำลายพัสดุต้องสงสัย ทำให้มีเสียงระเบิดดังขึ้น และเจ้าที่ตรวจสอบแล้วประกาศว่า พัสดุไม่ใช่วัตถุต้องสงสัย และยกเลิกการปิดกั้นถนนโดยรอบเจ้าหน้าที่กลับเข้าทำงานในกระทรวงต่าง ๆ ตามปกติแล้ว   การอพยพคนครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่สถานการณ์การเมืองในอังกฤษกำลังร้อนแรง โดยนายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์ ของอังกฤษ ได้กล่าวขอโทษสำหรับการเสนอนโยบายเศรษฐกิจที่สร้างความผันผวนต่อตลาดเงินครั้งใหญ่ แต่ยืนยันอยู่ในตำแหน่งต่อไป แม้มีกระแสข่าว ส.ส. พรรควางแผนโค่นลงจากตำแหน่ง หลังเพิ่งบริหารประเทศได้เพียง 6 เดือน   นายกรัฐมนตรีทรัสส์ ให้สัมภาษณ์พิเศษแก่บีบีซีเมื่อวันจันทร์(17ต.ค.)ว่า เธอจะยังนำพรรคอนุรักษ์นิยมสู้ศึกเลือกตั้งทั่วไปสมัยหน้า แม้ว่ารัฐบาลเจอแรงกดดันทั้งจากนักลงทุนและสมาชิกพรรค นับตั้งแต่การเสนองบประมาณของเธอเมื่อเดือน ก.ย.   แผนงบประมาณของเธอมีนโยบายตัดลดภาษี ที่ไม่มีแผนสร้างรายได้รองรับ…

เริ่มจริงจัง NATO ส่งหุ่นยนต์ติดอาวุธ เข้าใกล้พื้นที่เขตสู้รบ

Loading

  คิดว่าทุกคนน่าจะรู้เรื่องสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนแล้วเนอะ เขารบกันมาพักใหญ่แล้ว แต่ข่าวบ้านเราเงียบหายไปพักนึงแล้วกลับมามีข่าวอีกครั้ง เพราะว่าประธานาธิปบดีของรัสเซียขู่ว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์   ผมไม่ขอลงลึกเรื่องราวสาเหตุของสงครามในครั้งนี้ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการที่ใครคนนึง ถือปืนบุกเข้าไปในบ้านคนอื่นแล้วฆ่าคนในบ้านเค้าเนอะ…   ล่าสุดมีข่าวว่า NATO หรือองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ได้เริ่มจริงจังจังกับการใช้หุ่นยนต์ติดอาวุธไร้คนขับเพื่อส่งไปประจำการในประเทศแถบชายแดนรัสเซียแล้ว   โดยยานพาหนะดังกล่าวเป็นหุ่นยนต์ไร้คนขับแบบติดอาวุธติดตามแบบไฮบริด หรือ Armed Tracked Hybrid Modular Infantry Systems ( THeMIS ) ที่สร้างโดย Milrem Robotics ของเอสโตเนีย และได้เข้ารับการฝึกฝนกับกองทัพบกเนเธอร์แลนด์มาบ้างแล้ว และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กองทัพบกเนเธอร์แลนด์ประกาศว่าได้ส่ง THeMIS จำนวน 4 คัน ไปยังลิทัวเนียด้วยหน่วย Robot and Autonomous Systems (RAS)   THeMIS เป็นยานพาหนะภาคพื้นดินไร้คนขับแบบหลายบทบาท (UGV) ที่มีจุดประสงค์เพื่อลดจำนวนทหารในสนามรบ ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า มีฟังก์ชันการขนส่งไปจนถึงการติดอาวุธ การกำจัดอาวุธยุทโธปกรณ์ฝั่งตรงข้าม หรือการสนับสนุนการปฏิบัติการข่าวกรองตามลักษณะของภารกิจครับ   ต้องยอมรับว่า นับวัน…

อียูเตรียมยกระดับป้องกันโครงสร้างพื้นฐาน ผวารัสเซียก่อวินาศกรรมแก้แค้น

Loading

  ยุโรปต้องใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อปกป้องโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน โทรคมนาคม การขนส่ง และสาธารณูปโภคที่สำคัญอื่น ๆ จากความเป็นไปได้ของการถูกลอบวินาศกรรม บลูมเบิร์กรายงานในวันจันทร์ (17 ต.ค.) อ้างว่าทางคณะกรรมาธิการอียูจะออกคำแนะนำดังกล่าวในช่วงกลางสัปดาห์   นอกจากนี้ สำนักงานบลูมเบิร์ก รายงานด้วยว่า ทางคณะกรรมาธิการยุโรปจะเผยแพร่ “พิมพ์เขียว” ฉบับหนึ่ง สำหรับเป็นแนวทางตอบสนองต่อวิกฤตต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต “สงครามของรัสเซียในการรุกรานยูเครน นำมาซึ่งภัยคุกคามชุดใหม่ บ่อยครั้งมาพร้อมกันในฐานะการโจมตีลูกผสม” เอกสารระบุ พร้อมเน้นว่า “ภัยคุกคามดังกล่าวมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ตามหลังเหตุลอบก่อวินาศกรรมท่อลำเลียงนอร์ดสตรีม 1”   ทางกลุ่มมีความกังวลว่ามอสโกจะลงมือแก้แค้นแผนจำกัดเพดานราคาอุปทานก๊าซรัสเซียที่ส่งมอบทางทะเล ด้วยการลอบก่อวินาศกรรมโครงสร้างพื้นฐานในยุโรป   ความกังวลนี้มีขึ้นไม่กี่สัปดาห์หลังเหตุระเบิดที่ทำให้ท่อลำเลียงก๊าซนอร์ดสตรีม 1 และ 2 เกิดรอยรั่วในทะเลบอลติก และการพบท่อลำเลียงน้ำมันดรูซบา ซึ่งลำเลียงน้ำมันดิบรัสเซียไปยังยุโรป เกิดรอยรั่วในแถบภาคกลางของโปแลนด์   ขณะเดียวกัน การขนส่งทางรถไฟทางเหนือของเยอรมนี ต้องหยุดให้บริการเป็นเวลานานหลายชั่วโมงเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ตามหลังเกิดเหตุการณ์ที่เชื่อว่าน่าจะเป็นการลอบก่อวินาศกรรมเล็งเป้าเล่นงายสายเคเบิลสื่อสารไฟเบอร์ออปติก แม้เจ้าหน้าที่ไม่ได้สงสัยว่าเป็นฝีมือของต่างชาติก็ตาม   บรรดาประเทศยุโรปหลายชาติ มีทั้งชี้เป้ารัสเซียทั้งทางตรงและโดยอ้อมในฐานะผู้ร้ายของเหตุลอบก่อวินาศกรรมท่อลำเลียงนอร์ดสตรีม 1 แม้แทบไม่มีหลักฐานใดๆ เลยก็ตาม…

นอร์เวย์จับชายรัสเซีย แอบใช้โดรนอัดภาพสนามบิน-เฮลิคอปเตอร์กองทัพ

Loading

ตำรวจนอร์เวย์จับชายรัสเซีย แอบใช้โดรนอัดภาพสนามบินรวมถึงเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพ   เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 65 รอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนอร์เวย์เข้าจับกุมชายสัญชาติรัสเซีย 1 คน อายุ 51 ปี พร้อมอุปกรณ์เก็บภาพจำนวนมาก ระหว่างกำลังบังคับโดรนสมัครเล่นบินอยู่ใกล้บริเวณท่าอากาศยาน ที่เมืองทรุมเซอทางภาคเหนือของประเทศ ท่ามกลางการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานีจ่ายและแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติในเขตอาร์ติก   ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ชายผู้นี้ถ่ายภาพสนามบินไว้จำนวนมากรวมถึงเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพนอร์เวย์ในพื้นที่ด้วย   รายงานระบุว่า การจับกุมที่เกิดขึ้นถือเป็นครั้งที่สองแล้วในสัปดาห์เดียว หลังนอร์เวย์กลายเป็นชาติผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติอันดับหนึ่งให้กับชาติในทวีปยุโรปเนื่องมาจากรัสเซียถูกคว่ำบาตรจากสงครามยูเครน และเหตุท่อส่งก๊าซธรรมชาตินอร์ดสตรีมเสียหายจากเหตุต้องสงสัยว่าเป็นการก่อวินาศกรรมเมื่อ 26 ก.ย. ที่ผ่านมา         ที่มา : ข่าวสดออนลน์   /   วันที่เผยแพร่ 16 ต.ค.65 Link : https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_7318633

ไทยตรึงกำลังเข้มฝั่งแม่สอดหลังเกิดคาร์บอมบ์-ปะทะสนั่นที่เมียวดี

Loading

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ต.ค.65 เกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์เสียงดังกึกก้องจนบ้านเรือนสั่นสะเทือนบริเวณข้างที่ทำการด่านพรมแดนถาวรจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ติดกับเชิงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 ฝั่งตรงข้ามกับด่านพรมแดนถาวรอำเภอแม่สอด จ.ตาก ประมาณ 2 ครั้ง   เกิดควันไฟลอยไปทั่วท้องฟ้าทั้งฝั่งจังหวัดเมียวดี และลอยข้ามมายังฝั่งชายแดนแม่สอด โดยเฉพาะบ้านเรือนชาวบ้านฝั่งจังหวัดเมียวดีได้รับความเสียหายหลายหลัง ซึ่งประชาชนสองฝั่งประเทศ สามารถมองเห็นกลุ่มควันไฟอย่างชัดเจนสร้างความตื่นตกใจไปทั่ว   ขณะที่การระเบิดจุดที่ 2 บริเวณสำนักงานราชการจังหวัดเมียวดี ใกล้ตลาดบุเรงนอง ห่างจากจุดแรก 1 กิโลเมตร ยังมีการยิงปะทะนานกว่า 5 นาที ท่ามกลางความโกลาหลไปทั่วพื้นที่ ชาวบ้านรีบหาที่หลบภัยและปิดไฟในบ้านเรือน ส่วนบนถนนเต็มไปด้วยทหารเมียนมาและทหารกองกำลังพิทักษ์ชายแดนเมียนมาวางกำลังอย่างเข้มงวดป้องกันเหตุซ้ำซ้อน   ส่วนฝั่งชายแดนแม่สอด ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 346 และตำรวจ สภ.แม่สอด รวมทั้งฝ่ายปกครอง เข้าตรึงกำลังในจุดเสี่ยงและจุดล่อแหลม โดยเฉพาะท่าข้ามธรรมชาติริมแม่น้ำเมย เพื่อป้องกันรักษาความปลอดภัยให้ชาวบ้านฝั่งไทย         ที่มา : สยามรัฐ    /   วันที่เผยแพร่…