โรงงานเคมีกลุ่มแอลจีในอินเดีย ‘แก๊สรั่ว’ ชาวบ้านดับ 11 ต้องนอนโรงพยาบาล 600

Loading

คนที่ถูกพิษแก๊สรั่วจากโรงงานแอลจี โพลิเวอร์ ถูกนำขึ้นรถส่งไปโรงพยาบาล ที่เมืองวิสาขปัตนัม ในอินเดีย เมื่อวันพฤหัสบดี (7 พ.ค.) เอเอฟพี – เกิดอุบัติเหตุแก๊สรั่วที่โรงงานสารเคมีแห่งหนึ่งบริเวณชายฝั่งภาคตะวันออกของอินเดียในตอนเช้ามืดวันพฤหัสบดี (7 พ.ค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 คน และมีชาวบ้านบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลอีกหลายร้อยคน โดยที่เหยื่อจำนวนมากนอนกันอยู่ตามท้องถนน อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้เสียชีวิตไม่ได้พุ่งสูงอย่างที่หวาดกลัวกันในตอนแรก จากเหตุการณ์คราวนี้ซึ่งเกิดขึ้นที่โรงงานเคมี ของบริษัท แอลจี โพลิเมอร์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ แอลจี เคม กลุ่มทุนเกาหลีใต้ โรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ชานเมืองวิสาขปัตนัม อันเป็นเมืองท่าอุตสาหกรรมของรัฐอานธรประเทศ สำหรับเมืองนี้มีประชากรอยู่อาศัยทั้งในตัวเมืองและพื้นที่โดยรอบประมาณ 5 ล้านคน ตำรวจอินเดียเปิดเผยว่า แก๊สได้รั่วไหลออกมาจากถังเก็บขนาด 5,000 ตัน จำนวน 2 ถัง ซึ่งไม่มีพนักงานดูแล เนื่องจากรัฐบาลอินเดียได้ประกาศคำสั่งล็อกดาวน์ตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค. สวารูป รานี รองผู้บังคับการตำรวจเมืองวิสาขปัตนัม ระบุว่า ถังแก๊สถูกปล่อยทิ้งเอาไว้เฉยๆ โดยไม่มีคนดูแลในช่วงล็อกดาวน์ เป็นเหตุให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีและความร้อนสะสม แก๊สจึงรั่วไหลออกมา “เราได้รับแจ้งเหตุฉุกเฉินจากคนในพื้นที่เมื่อเวลาประมาณ 3.30 น. เช้าวันนี้…

มิชิแกนประท้วงดุล็อคดาวน์โควิด-19 พกปืนบุกเข้าสภา

Loading

วันนี้ ( 1 พ.ค. 63 )ผู้ประท้วงมาตรการล็อคดาวน์โควิด19 ในรัฐมิชิแกนหลายร้อยคน โดยมีหลายคนพกปืนซึ่งรวมไปถึงปืนไรเฟิล บุกเข้าไปประท้วงภายในอาคารสภาของรัฐมิชิแกน ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองแลนซิ่ง ผู้ประท้วงเรียกร้องกดดันให้ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน ยกเลิกมาตรการล็อคดาวน์ และให้ธุรกิจกลับมาเปิดทำการได้ทันทีในวันนี้ 1 พฤษภาคม การพกปืนเข้าไปภายในอาคารสภา สามารถทำได้ไม่ผิดกฎหมายในรัฐมิชิแกน และผู้ประท้วงหลายคนได้พกปืนอย่างเปิดเผย เข้าไปภายในส่วนของวุฒิสภา ทำให้วุฒิสภาหลายคนถึงกับต้องสวมเสื้อกันกระสุน ผู้ประท้วงจำนวนมากไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย และไม่รักษาระยะห่างโซเชียล ดิสแทนซิ่ง ซึ่งเป็นการละเมิดคำสั่งล็อคดาวน์ แต่ตำรวจได้มีการตรวจวัดไข้ ก่อนที่จะปล่อยให้ผู้ประท้วงบางส่วน เข้าไปภายในสภาได้ ในขณะที่ผู้ประท้วงส่วนใหญ่ยังอยู่ที่ด้านนอกของอาคารสภา  มีผู้สมัครสมาชิกสภารัฐมิชิแกนจากพรรครีพับลิกันบางคน ออกมาสนับสนุนการประท้วงด้วย การประท้วงเมื่อวานนี้ นับเป็นการประท้วงมาตรการล็อคดาวน์ ที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุดอีกครั้งหนึ่งในรัฐมิชิแกน หลังจากเคยเกิดการประท้วงครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา โดยผู้ประท้วงใช้วิธีนั่งนิ่งเฉยอยู่ภายในรถพร้อมกับบีบแตรเสียงดังสนั่น จงใจทำให้การจราจรติดขัดบนถนนรอบอาคารสภามิชิแกน การประท้วงในวันนั้น ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ได้มีการทวิตข้อความ “ปลดปล่อยมิชิแกน” สนับสนุนการประท้วงด้วย การประท้วงเกิดขึ้นในขณะที่ภายในสภารัฐมิชิแกน ซึ่งพรรครัฐบาลรีพับลิกันครองเสียงข้างมาก มีการลงมติไม่รับรองการประกาศขยายเวลาล็อคดาวน์ของ เกรทเช่น วิตเมอร์ ผู้ว่าการหญิงรัฐมิชิแกน ที่มาจากพรรคฝ่ายค้านเดโมแครตส์ หลังจากวิตเมอร์เพิ่งประกาศขยายเวลาภาวะฉุกเฉินและมาตรการล็อคดาวน์โควิด19 ที่เพิ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา…

ทหาร-ตำรวจเอลซัลวาดอร์ตบเท้าบุกสภา บีบอนุมัติกู้ซื้ออาวุธ

Loading

ทหารเอลซัลวาดอร์พร้อมอาวุธยืนเรียงแถวในสภานิติบัญญัติเมื่อวันอาทิตย์ สมาชิกสภาเอลซัลวาดอร์แตกตื่น ทหารและตำรวจพร้อมอาวุธตบเท้าเข้าสภาเมื่อวันอาทิตย์ หนุนหลังประธานาธิบดีนายิบ บูเกเล กดดัน ส.ส.อนุมัติการกู้ยืมงบประมาณ 109 ล้านดอลลาร์เพื่อใช้ซื้อยุทธภัณฑ์สนับสนุนการต่อสู้ปราบปรามแก๊งอาชญากร ประธานาธิบดีนายิบ บูเกเล ผู้นำหนุ่มวัย 38 ปีของเอลซัลวาดอร์เพิ่งชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ด้วยคำมั่นสัญญาว่าจะปราบปรามความรุนแรงโดยพวกแก๊งอาชญากร เขาตั้งใจจะใช้เงินกู้ยืมประมาณ 3,409 ล้านบาทนี้ มาปรับปรุงอาวุธยุทธภัณฑ์ของตำรวจและกองทัพ ในการต่อสู้กับอาชญากรรมรุนแรงในเอลซัลวาดอร์ ซึ่งมีอัตราฆาตกรรมสูงที่สุดชาติหนึ่งในโลก โดยจะใช้สำหรับซื้อยานพาหนะของตำรวจ, เครื่องแบบ, อุปกรณ์ตรวจการณ์และเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ เอเอฟพีรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ว่า บูเกเลเรียกร้องให้สภาเปิดการประชุมวาระพิเศษช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่ออภิปรายเรื่องนี้ แต่ถูก ส.ส.ส่วนใหญ่ปฏิเสธ และก่อนที่เขาจะเข้าห้องประชุมสภาเมื่อวันอาทิตย์ ตำรวจและทหารพร้อมอาวุธปืนไรเฟิลกลุ่มใหญ่เดินตบเท้าเข้ามาภายในห้องประชุม ซึ่งเป็นภาพที่ไม่เคยเกิดขึ้นนับแต่สิ้นสุดสงครามกลางเมืองในประเทศนี้เมื่อปี 2535 บูเกเลกล่าวปราศรัยต่อผู้สนับสนุนเขาด้านนอกสภาก่อนหน้านั้นว่า หากพวกเปล่าประโยชน์ (ส.ส.) เหล่านี้ไม่อนุมัติแผนควบคุมอาณาเขตฉบับนี้ภายในสัปดาห์นี้ เราจะเรียกร้องให้พวกเขาจัดการประชุมอีกครั้งในวันอาทิตย์หน้า “เมื่อพวกเจ้าหน้าที่ขัดต่อระบอบรัฐธรรมนูญ ประชาชนชาวซัลวาดอร์ก็มีสิทธิที่จะก่อการกบฏเพื่อกำจัดเจ้าหน้าที่พวกนี้” บูเกเลประกาศต่อผู้สนับสนุนด้านนอกสภา นักการเมืองฝ่ายค้านแสดงความไม่พอใจที่ทหารตำรวจพร้อมอาวุธครบมือบุกเข้าสภา โดยพวกเขากล่าวว่าเป็นพฤติการณ์ข่มขู่คุกคามที่ไม่เคยมีมาก่อน ส่วนภายนอกประเทศก็แสดงความกังวลเช่นกัน องค์กรแอมเนสตีอินเตอร์เนชันแนลออกแถลงการณ์ทางทวิตเตอร์ว่า การออกมาของทหารอาจเป็นจุดเริ่มต้นของหนทางอันตรายต่อสถาบันและต่อสิทธิมนุษยชนในประเทศนี้ ส่วนสหภาพยุโรปแสดงความ “ห่วงกังวลอย่างยิ่ง” ต่อการเผชิญหน้าระหว่างสถาบัน ————————————– ที่มา :…

9 เทคนิค วิธีป้องกันไฟไหม้บ้าน ฉบับเชิงรุก รับรองไม่หมดตัวแน่!

Loading

โดย :  earlgreylady หน้าร้อนย่างกรายมาเยือนไทยอย่างเต็มรูปแบบแล้ว แถมยังเกิดเหตุเพลิงไหม้กันแทบทุกวัน จะดีกว่าไหม ถ้าเราจะศึกษาเทคนิค วิธีป้องกันไฟไหม้บ้าน ฉบับเชิงรุก ในแบบคนรู้จักวางแผน ไม่ประมาทในการใช้ชีวิตกันให้ดีเสียก่อน ที่เหตุการณ์มันจะเกิด เพราะคำเล่าที่เขากล่าวขานกันมาช้านานว่า “โจรปล้นบ้าน 10 ครั้ง ไม่เท่าไฟไหม้บ้านครั้งเดียว” นั้น ไม่ใช่คำพูดเล่นๆ ลอยๆ เลยค่ะ 1.ติดตั้ง เครื่องตรวจจับควัน  เครื่องตรวจจับควัน ( smoke detector ) ทำงานจากการวัดความโปร่งแสงโดยเครื่องจะมีหัวส่งแสงชึ่งอาจเป็นชนิดอินฟราเรด หรือ แบบแอลอีดีก็ได้พูดง่ายๆ คือมีแหล่งกำเนิดแสงอ้างอิง และ อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นตัวเซ็นเซอร์วัดแสง โดยในสภาวะปกติ แสงจะสามารถทะลุผ่านอากาศมายังหัวรับแสงซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น โฟโต้ทรานซิสเตอร์ แต่เมื่อมีควันหรือ ไฟไหม้ อนุภาคของควันไฟ จะบดบังทำให้เกิดสภาวะทึบหรือไม่โปร่งแสง ดังนั้นระบบก็จะสามารถบอกได้ว่าตอนนี้เกิดไฟไหม้ได้ ดังนั้น การทำงานของเครื่องจึงไม่ซับซ้อนเหมือนเครื่องวัดแก๊สรั่ว ซึ่งมีข้อดี คือ ตรวจจับไฟฟ้าได้เร็วเพราะเมื่อเกิดไฟไหม้ครั้งแรกๆ จะเกิดควันไฟก่อนหลังจากนั้นจึงจะเกิดก่ารเผาไหม้หรือติดไฟลุกลาม ดังนั้นเครื่องจะเตือนไม่เหตุหรือแจ้งเหตุได้เร็วกว่า แบบตรวจจับความร้อน Heat Detector เราจะสังเกตเห็นว่าเป็นเครื่องนี้หรือเปล่า ดูง่ายๆ จะมีหลอด…

โจรกรรมครั้งประวัติศาสตร์ ทะลวงทุกระบบไปขนเพชรมหาศาล ตามของคืนไม่ได้จนวันนี้

Loading

โฉมหน้าลีโอนาร์โด โนทาร์บาร์โทโล วัย 51 ปีหลังถูกจับกุมเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2003 ฉากหลังเป็น Diamond Center ใน Antwerp ประเทศเบลเยียม เมื่อ 18 ก.พ. 2013 หลังเกิดเหตุโจรกรรมเพชร (ภาพจาก STRINGER / BELGA / WIM HENDRIX / AFP) ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2003 มีข่าวครึกโครมดังไปทั่วโลกกับเหตุการณ์การโจรกรรมเพชรที่นับได้ว่าเป็นการโจรกรรรมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และน่าจะบอกได้ว่าเป็นการโจรกรรมที่เกิดในพื้นที่ซึ่งมีระบบป้องกันดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลกจนเคยเชื่อกันว่า “ไม่สามารถถูกเจาะได้” “แอนต์เวิร์ป ไดมอนด์ เซ็นเตอร์” (Antwerp Diamond Center) เป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์รวมเพชรของโลก ตั้งอยู่ในประเทศเบลเยียม ภายในมีตู้เซฟจำนวนเกือบ 200 ตู้ในห้องนิรภัยซึ่งอยู่ลึกลงไปในใต้ดิน 2 ชั้น เก็บเพชรและเครื่องประดับอัญมนีของผู้เช่าตู้เซฟ มูลค่ารวมแล้วหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐ มีระบบรักษาความปลอดภัยหลายชั้น รายงานข่าวบางแห่งบ่งชี้ตัวเลขระดับชั้นของการรักษาความปลอดภัยว่ามีมากถึง 10 ชั้น และต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนกว่าจะไปถึงขั้นเปิดตู้เซฟได้ ทุกตู้ยังต้องเปิดด้วยรหัสและกุญแจเช่นเดียวกับประตูห้องนิรภัยซึ่งทำให้เป็นที่มั่นใจในความปลอดภัยสำหรับผู้มาเช่าตู้เซฟ สถานที่แห่งนี้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยแน่นหนาและทันสมัย…

หญิงจีนถูกจับขณะพยายามถ่ายรูปในเขตบ้านพักตากอากาศทรัมป์

Loading

FILE – President Donald Trump’s Mar-a-Lago estate in Palm Beach, Florida. สตรีชาวจีนผู้หนึ่งถูกจับกุมในข้อหาบุกรุกอาณาบริเวณของบ้านพักตากอากาศ “มาร์-อะ-ลาโก้” ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในรัฐฟลอริด้า ซึ่งถือเป็นครั้งที่สองในปีนี้ที่มีหญิงชาวจีนถูกจับกุมในข้อหาเดียวกัน จิง หลู สตรีวัย 56 ปีจากประเทศจีน ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมาร์-อะ-ลาโก้ ไล่ออกไปจากเขตบ้านพักดังกล่าว แต่เธอย้อนกลับมาอีกครั้งถ่ายรูปรอบ ๆ จึงถูกตำรวจเขตปาล์มบีชจับกุมตัวไว้ในข้อหาเตร็ดเตร่ ก่อนที่จะพบว่าวีซ่าของเธอหมดอายุแล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์และครอบครัวไม่ได้อยู่ที่มาร์-อะ-ลาโก้ ในเวลานี้ แต่คาดว่าจะเดินทางไปพักที่บ้านพักดังกล่าวในสุดสัปดาห์นี้รวมทั้งในช่วงวันหยุดคริสต์มาสด้วย เมื่อเดือนมีนาคม นักธุรกิจหญิงจีนผู้หนึ่งจากนครเซี่ยงไฮ้ ชื่อ ยูจิง จาง วัย 33 ปี เข้าไปในเขตมาร์-อะ-ลาโก้ พร้อมคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์อื่น ๆ ทำให้เกิดความสังสัยว่าเธออาจเป็นสายลับของรัฐบาลจีน อย่างไรก็ตาม ผลการสืบสวนพบว่าเธอเพียงแต่เป็นคนชื่นชอบประธานาธิบดีทรัมป์ และต้องการพบกับผู้นำสหรัฐฯ และครอบครัวเพื่อพูดคุยเรื่องธุรกิจเท่านั้น ถึงกระนั้น เธอถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาบุกรุกและให้การเท็จต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประธานาธิบดี โดยถูกลงโทษให้บำเพ็ญประโยชน์ก่อนที่จะถูกส่งตัวกลับประเทศจีน ————————————————- ที่มา…