UN เปิดสำนักงานใหญ่ประจำยุโรปอีกครั้ง หลังถูกคนบุกรุก

Loading

  สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อาคารปาแลเดนาซียง (Palais des Nations) สำนักงานใหญ่ประจำทวีปยุโรปขององค์การสหประชาชาติ (UN) ซึ่งตั้งอยู่ในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้กลับมาเปิดดำเนินงานอีกครั้งแล้ว หลังจากที่ปิดกะทันหันไปเมื่อเช้าวันที่ 25 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจากมีผู้บุกรุกสถานที่   แถลงการณ์ระบุว่า “ขณะนี้ เราได้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว และเราได้เปิดจุดเข้าออกปาแลเดนาซียงทั้งหมดอีกครั้งแล้ว”   โฆษก UN กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องปิดอาคารเนื่องจากมีผู้บุกุรุกบริเวณเขตหวงห้ามเมื่อเช้าวันที่ 25 ส.ค.   ทั้งนี้ ปาแลเดนาซียงเป็นสถานที่ทำการของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC), นักการทูต, เจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรม และเจ้าหน้าที่ของรัฐ       ————————————————————————————————————————————- ที่มา :                     สำนักข่าวอินโฟเควสท์         …

กรุงโซลเตรียมติดตั้งกล้องเพิ่ม หลังเกิดคดีสะเทือนขวัญข่มขืนครูสาว

Loading

  นายกเทศมนตรีกรุงโซลประกาศจะติดตั้งกล้องวงจรปิดตามสวนสาธารณะและเส้นทางเดินขึ้นเขาเพิ่ม หลังเกิดเหตุคนร้ายทำร้ายร่างกายและกระทำชำเราครูสาวจนบาดเจ็บหนักและเสียชีวิตในพื้นที่ที่ไม่มีกล้องวงจรปิด   นับเป็นคดีสะเทือนขวัญชาวกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ หลังจากที่ครูประถมรายหนึ่งถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายและกระทำชำบนเส้นทางเดินป่าที่เต็มไปด้วยผู้คนเมื่อสัปดาห์ก่อน จนกระทั่งเธอเสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บสาหัสในเวลาต่อมา ส่งผลให้มีความเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ผู้บริหารสภาเทศบาลออกมารับผิดชอบด้วยการลาออก หลังจากที่เขาเคยประกาศทางยูทูบเมื่อปีที่แล้วว่าเขาได้ตัดลดงบประมาณสำหรับสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ผู้หญิงลง   ล่าสุดนาย โอ เซ ฮุน นายกเทศมนตรีกรุงโซลประกาศจะติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มให้ทั่วสวนสาธารณะต่าง ๆ รวมทั้งเส้นทางเดินขึ้นเขา เพื่อไม่ให้มีจุดบอด และสามารถป้องกันเหตุร้ายได้อย่างทันท่วงที โดยยืนยันว่ากรุงโซลต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ผู้หญิงสามารถเดินไปไหนมาไหนเพียงลำพังได้ และหากยังเกิดเหตุอาชญากรรมแบบนี้ต่อไป เป้าหมายที่จะให้กรุงโซลเป็นเมืองปลอดภัยย่อมจะไม่มีทางเกิดขึ้น     มีข้อมูลจากตำรวจว่าคนร้ายคือ นายชอย ยุน จอง มีการเลือกเหยื่อด้วยการสุ่ม และซุ่มรอเหยื่ออยู่ตรงทางแยกเส้นทางเดินป่า หรือตามสวนสาธารณะในกรุงโซล โดยเลือกพื้นที่ที่ไม่มีกล้องวงจรปิดอยู่ ก่อนที่จะทำร้ายร่างกายเหยื่อและข่มขืน   ตำรวจยังระบุกับสำนักข่าวยอนฮับด้วยว่า การก่ออาชญากรรมครั้งนี้ เป็นการกระทำที่มีการวางแผนเอาไว้ก่อน โดยคนร้ายได้ทำร้ายร่างกายเหยื่อในที่สาธารณะ ก่อนจะข่มขืน จนทำให้เธอเสียชีวิต   มีรายงานว่าเหยื่อสาวผู้เคราะห์ร้าย เป็นครูประถมอายุราว 30 ปี โดยเธอบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหลังเกิดเหตุได้ 2 วัน   ทั้งนี้ ประเทศเกาหลีใต้ นับว่าเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยในระดับต้น ๆ…

สถานทูตแจ้งข่าวพลเมืองไทยร่วมซ้อมอพยพรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉินในเกาหลีใต้

Loading

  สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโซลออกประกาศเรื่อง “การซ้อมแผนอพยพสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน” ในประเทศเกาหลีใต้ ผ่านทางหน้าเพจเฟซบุ๊กเมื่อวันพุธ (23 ส.ค.)   โดยระบุว่า เกาหลีใต้มีการซ้อมแผนอพยพสำหรับกรณีฉุกเฉินเมื่อวานนี้ (23 ส.ค.) เวลา 14.00 น. (ระยะเวลาฝึกซ้อมประมาณ 20 นาที) โดยสัญญาณเตือนภัยแจ้งการโจมตีทางอากาศจะดังขึ้นทั่วประเทศ ทำให้การเดินทางหยุดชะงัก พลเมืองต้องอพยพไปยังแหล่งหลบภัย และชาวต่างชาติ รวมทั้งชาวไทยสามารถเข้าร่วมฝึกซ้อมได้เช่นกัน   ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโซลระบุในเอกสารลงวันที่ 4 ส.ค.ว่า “สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ขอเรียนว่า กระทรวงมหาดไทยและความปลอดภัย สาธารณรัฐเกาหลีได้ประกาศแจ้งแผนการซ้อมอพยพเพื่อเตรียมการป้องกันการโจมตีทางอากาศ ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นทั่วสาธารณรัฐเกาหลี (ยกเว้นนครเซจง จังหวัดชุงของใต้ จังหวัดช็อลลาเหนือ และจังหวัดคย็องชังเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ภัยพิบัติพิเศษ เนื่องจากสถานการณ์ฝนตกหนัก) ในวันที่ 23 สิงหาคม 2566 เวลา 14.00 น. โดยจะจัดขึ้นเป็นเวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประสานงานขอรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมไปยังกระทรวงมหาดไทยฯ ของสาธารณรัฐเกาหลีด้วยแล้ว และได้รับทราบข้อมูล…

เกาหลีใต้ ซ้อมแผนป้องกันภัยทั่วประเทศรับมืออาวุธนิวเคลียร์ แต่ประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ

Loading

  เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ   รอยเตอร์รายงานอ้างกระทรวงความมั่นคงภายในของเกาหลีใต้ว่า เกาหลีใต้จัดซ้อมแผนป้องกันพลเรือนทั่วประเทศครั้งแรกในรอบ 6 ปีในวันนี้ มีการเปิดสัญญาณเตือนภัยฉุกเฉินในเวลา 14.00น.ของวันนี้ ให้ประชาชนเข้าไปหลบอยู่ในสถานที่ปลอดภัย เช่น หลุมหลบภัย แต่ดูเหมือนว่าประชาชนหลายคนไม่ให้ความร่วมมือ หรือไม่รีบวิ่งไปยังศูนย์พักพิงที่กำหนดไว้ หรือหลุมหลบภัยใต้ดิน   กระทรวงความมั่นคงภายในของเกาหลีใต้ ระบุว่า ทางการเกาหลีใต้ขอให้ผู้ขับขี่ในพื้นที่ต่างๆราว 200 แห่งทั่วประเทศจอดรถไว้ข้างทาง พร้อมทั้งขอให้ห้างสรรพสินค้า 500 แห่ง โรงภาพยนตร์และสถานที่สาธารณะ อพยพคนจากพื้นที่ในช่วงซ้อมแผนป้องกันภัยพลเรือน   ผู้นำชุมชนสวมเสื้อแจ็คเก็ตและหมวกสีเหลือง พร้อมติดป้ายโลโก้ว่า ป้องกันภัยพลเรือน ขอให้ประชาชนออกจากท้องถนนต่าง ๆ 15 นาทีในช่วงซ้อมแผนป้องกันภัย ก่อนที่การเตือนภัยจะเริ่มผ่อนคลายในเวลาต่อมา ที่บริเวณลานจอดรถของออฟฟิสแห่งหนึ่งในกรุงโซล คนงานออฟฟิสหลายร้อยคนรวมกลุ่มกัน เพื่อฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ป้องกันภัยพลเรือนที่พูดผ่านเครื่องโทรโข่ง บางคนจิบกาแฟ ขณะที่หลายคนบ่นเรื่องอากาศร้อน   สำหรับการป้องกันภัยพลเรือนอุลชี เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2512 หลังทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษของเกาหลีเหนือบุกเข้ามายังบริเวณทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในกรุงโซล ในปัจจุบัน มีการสร้างหลุมหลบภัย 17,000 แห่งทั่วประเทศเกาหลีใต้ รองรับประชากร 52 ล้านคน แต่ไม่มีการซ้อมป้องกันฝ่ายพลเรือนมาตั้งแต่ปี 2560  …

อึ้ง เกาหลีใต้จับนักเคลื่อนไหวจีน พยายามขี่เจ็ตสกีข้ามทะเลหนีเข้าประเทศ

Loading

  ชายที่เชื่อว่าเป็นนักเคลื่อนไหวชาวจีน ถูกหน่วยยามฝั่งเกาหลีใต้จับกุมตัว หลังพยายามหนีจากประเทศจีนมาเกาหลีใต้ด้วยการขี่เจ็ตสกีข้ามทะเลเหลือง แต่สุดท้ายไปไม่รอด   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 22 ส.ค. 2566 ว่า หน่วยยามฝั่งของเกาหลีใต้จับกุมชายคนหนึ่งที่เชื่อว่าเป็นนักเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิชาวจีนได้เมื่อสัปดาห์ก่อน หลังพบเขาพยายามขี่เจ็ตสกีข้ามทะเลเหลือง เพื่อเข้าสู่เกาหลีใต้โดยใช้เพียงกล้องส่องทางไกลและเข็มทิศช่วยนำทาง แต่สุดท้ายก็ไปต่อไม่ไหวหลังเดินทางได้ราว 300 กม.   สื่อท้องถิ่นของเกาหลีใต้ระบุชื่อของชายคนนี้ว่า ควอน พยอง เป็นนักเคลื่อนไหวที่คอยวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง แต่ยังไม่มีการยืนยันตัวตนของชายคนนี้อย่างเป็นทางการ ขณะที่สถานทูตจีนในเกาหลีใต้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นใด ๆ   ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ยามฝั่งเกาหลีใต้ ชายคนนี้สวมเสื้อชูชีพและหมวกกันน็อก ออกเดินทางจากมณฑลซานตงพร้อมกับถังน้ำมัน 5 ถัง ด้วยเจ็ตสกีขนาด 1,800 ซีซี โดยเขาคอยเติมน้ำมันระหว่างทางและทิ้งถังน้ำมันที่ว่างเปล่าลงทะเล แต่สุดท้ายเจ็ตสกีของเขาก็ไปต่อไม่ไหวขณะอยู่ใกล้ท่าเรือสำราญ นอกท่าเรืออินชอน และต้องติดต่อขอความช่วยเหลือ   หน่วยยามฝั่งไม่ได้ระบุว่าชายคนนี้เป็นใคร แต่บอกว่าเขาถูกจับกุมเมื่อวันพุธที่ 16 ส.ค. ฐานพยายามลักลอบพาตัวเองเข้าเมืองอินชอน โดยไม่มีข้อสงสัยว่าเขาอาจเป็นสายลับ   ขณะที่นาย อี แท-ซอน นักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้จากองค์กรไม่แสวงกำไร Dialogue China บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า…

วอชิงตันสั่งพลเมืองสหรัฐฯ รีบออกจาก “เบลารุส” ด่วน ปรับระดับเสี่ยงภัยสูงสุด นักการเมืองรัสเซียเตือนดุ “โปแลนด์” อยู่ในอันตราย หลังวิตกวอร์ซออาจส่งกำลังประชิด “คาลินินกราด”

Loading

  เอเจนซีส์/เอพี – กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯวานนี้ (21 ส.ค) ประกาศเตือนพลเมืองสหรัฐฯรีบเดินทางออกจากเบลารุส ปรับความเสี่ยงภัยเป็นระดับ 4 สูงสุด ท่ามกลางตรึงเครียดพุ่ง   อังเดรย์ กูรุลยอฟ (Andrey Gurulyov) สมาชิกรัฐสภาดูม่าและอดีตผู้บัญชาการทหารรัสเซียเตือนดุ โปแลนด์ตกอยู่ในความเสี่ยงสูงกลัวคาลินินกราดโดนยึด หลังผู้นำโปแลนด์-ลิทัวเนียประชุมเครียดสัปดาห์ที่แล้ว พบ ฮ.ลูคาเชนโก 2 ลำบินล้ำน่านฟ้าในโปแลนด์รอบใหม่ระหว่างวากเนอร์กำลังฝึกยุทวิธีทางทหารให้ทหารเบลารุสห่างจากพรมแดนแค่ 5 ก.ม   เดอะฮิลล์ สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้ (22 ส.ค)ว่า ความเปลี่ยนแปลงล่าสุดใกล้สมรภูมิรบยูเครนสะท้อนจากการเปลี่ยนแปลงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯในวันจันทร์ (21) ออกคำแนะนำใหม่สำหรับการเดินทางแก่พลเมืองสหรัฐฯ ในเบลารุสหลังสั่งปรับความเสี่ยงภัยไปอยู่ที่ระดับ 4 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดแล้ว   ตามคำแนะนำพบว่ากระทรวงเรียกร้องให้ชาวอเมริกันที่ยังอยู่ในเบลารุสให้รีบออกนอกประเทศทันที เกิดขึ้นหลังประเทศเพื่อนบ้านทั้งโปแลนด์ ลัตเวีย ลิทัวเนีย ที่มีพรมแดนติดต่อกันได้สั่งการให้เพิ่มความมั่นคงควบคุมมากขึ้นเหตุวิตกกลัวกำลังทหารวากเนอร์รัสเซียอาจแทรกซึมเจาะเข้าไปจากฝั่งเบลารุส   นอกจากนี้สถานทูตสหรัฐฯประจำเบลารุสในกรุงมินสค์ยังยกเลิกการให้บริการปกติแต่เข้าสู่โหมดฉุกเฉินให้บริการเฉพาะเร่งด่วนสำหรับพลเมืองอเมริกันเท่านั้น   “อย่าเดินทางไปเบลารุสเนื่องมาจากผู้มีอำนาจเบลารุสยังคงให้การสนับสนุนรัสเซียในการโจมตียูเครน สะสมขุมกำลังกำลังทหารรัสเซียในเบลารุส การบังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นแบบตามอำเภอใจ ความน่าจะเป็นสูงต่อความไม่สงบประชาชนเบลารุส ความเสี่ยงต่อการถูกควบคุมตัว และทางสถานทูตสหรัฐฯ มีความสามารถจำกัดในการให้ความช่วยเหลือพลเมืองสหรัฐฯ ที่อาศัยหรือเดินทางเข้าเบลารุส” รายงานจากแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ  …