ตร.เข้มพบอาวุธสงครามซุกที่สุรินทร์-ศรีสะเกษ โดยเฉพาะช่วงอาเซียนซัมมิต

Loading

MGR Online – “ศรีวราห์” ยังไม่ฟันธงพบอาวุธสงครามล็อตใหญ่ซุกที่สุรินทร์และศรีสะเกษ มีความเชื่อมโยงกับการเมือง แต่มีลักษณะคล้ายกับชุดที่ใช้ในการชุมนุมทางการเมืองช่วงปี 2553-2557 ลั่นไม่ยอมให้หลุดเข้าพื้นที่ชั้นใน สั่งเพิ่มความเข้มดูแลช่วงอาเซียนซัมมิต วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ กล่าวถึงกรณีพบกระสอบบรรจุอาวุธสงคราม AK-47 จำนวน 16 กระบอก แมกกาซีน 129 อัน และน้ำมันทำความสะอาดปืน 18 กระปุก ทิ้งไว้อยู่ในบ่อน้ำบ้านกระโงก ม.3 ต.สะเดา อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ว่า อาวุธสงครามทั้งหมดอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เบื้องต้นได้สั่งการให้ พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ รอง ผบก.สปพ.ซึ่งเชี่ยวชาญด้านตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าไปตรวจสอบว่าเป็นอาวุธสงครามล็อตเดียวกันกับพี่พบในลำห้วย อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ หรือไม่ ทั้งนี้ ยอมรับว่าในทางการสืบสวนอาวุธสงครามที่ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ มีความเชื่อมโยงกับอาวุธสงครามที่พบ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนการขยายผลอาวุธสงครามที่พบในคลองน้ำ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ…

มีผลแล้ว! ขอวีซ่าอเมริกาต้องแจงบัญชีโซเชียลมีเดียด้วย

Loading

ใบสมัครยื่นขอวีซ่าเข้าสหรัฐอเมริการูปแบบใหม่ได้รับการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กำหนดให้ผู้ที่จะขอวีซ่าเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาเกือบทุกคนต้องแสดงบัญชีโซเชียลมีเดีย อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ที่ตนเองใช้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยมีเพียงผู้ถือพาสปอร์ตทูตและข้าราชการได้รับการยกเว้นจากมาตรการใหม่นี้ เมื่อเดือนมีนาคม 2018 รัฐบาลของทรัมป์เสนอกฎนี้ ตอนนั้น สหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน (ACLU) โต้ว่าไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าการติดตามโซเชียลมีเดียเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ หรือเป็นธรรม และจะทำให้ประชาชนเซ็นเซอร์ตัวเองได้ ก่อนหน้านี้ ผู้ที่ต้องแสดงหลักฐานดังกล่าวมีเพียงผู้ยื่นขอวีซ่าที่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม เช่น บุคคลที่มาจากประเทศในกลุ่มที่มีผู้ก่อการร้ายควบคุมอยู่ แต่ละปีมีประมาณ 65,000 คน หากใครให้ข้อมูลเท็จ ทางการบอกว่า อาจจะต้องเจอกับบทลงโทษที่ร้ายแรง ทั้งนี้ ข้อมูลบัญชีโซเชียลมีเดียที่ต้องแสดง เช่น อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ แต่หากผู้ยื่นขอวีซ่าต้องการแจ้งข้อมูลของแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็ทำได้เช่นกัน “สำหรับการยื่นขอวีซ่า ต้องถือว่าความมั่นคงของประเทศมีความสำคัญที่สุด ผู้ที่เดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาทุกคนต้องผ่านกระบวนการคัดกรองด้านความปลอดภัย เรากำลังหากลไกเพื่อพัฒนากระบวนการคัดกรองคนเพื่อปกป้องพลเมืองอเมริกัน ขณะเดียวกันก็สนับสนุนการเดินทางเข้าสหรัฐฯ อย่างถูกกฎหมาย” กระทรวงการต่างประเทศระบุ มาตรการใหม่นี้จะกระทบกับผู้ยื่นขอวีซ่าสหรัฐอเมริกาที่มีประมาณ 14.7 ล้านคนต่อปี รวมทั้งผู้ที่เดินทางไปทำงานหรือศึกษาที่สหรัฐอเมริกาด้วย ———————————————- ที่มา : The Momentum / 2 มิถุนายน 2562…

อินโดฯบล็อกโซเชียลมีเดีย สกัดข่าวปลอมแพร่กระจายหลังประกาศผลเลือกตั้ง

Loading

อินโดฯ บล็อกโซเชียลมีเดียบางส่วน หลังผู้กลุ่มหนุนปราโบโวก่อจลาจลรุนแรงไม่ยอมรับผลเลือกตั้ง ด้านโจโกวีลั่นไม่ยอมให้ใครขวางประชาธิปไตย ทางการอินโดนีเซียสั่งบล็อกการเข้าถึงสื่อโซเชียลมีเดียในบางส่วน ทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ หลังจากพบว่ามีการส่งต่อข้อมูลทั้งข้อความ ภาพถ่าย และวิดิโอที่เป็นข่าวปลอมกันอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนนายพลปราโบโวที่ก่อจลาจลรุนแรงไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 ราย บาดเจ็บอีกราว 200 คน “เพื่อหลีกเลี่ยงการยั่วยุการแพร่กระจายข่าวปลอมผ่านชุมชนเราจะ จำกัด การเข้าถึงฟีเจอร์บางอย่างบนโซเชียลมีเดีย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสื่อสารและข้อมูลสารสนเทศของอินโดนีเซีย ข่าวปลอมต่อต้านจีนเต็มโซเชียล มีรายงานว่าเกิดการส่งต่อข้อมูลข่าวปลอมในกลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนนายพลปราโบโวซึ่งไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ว่าในบรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สังหารผู้ประท้วงจนเสียชีวิตนั้นเป็นชาวอินโดฯเชื้อสายจีน ข้อความดังกล่าวถูกส่งต่อกันอย่างแพร่หลายในสื่อโซเชียลของอินโดฯตลอดตั้งแต่ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมาต่อเนื่องจนถึงในวันนี้ซึ่งมีรายงานพบการจลาจลปะทะกับเจ้าหน้าที่ จนทางเจ้าหน้าที่ต้องมีการใช้แก๊สน้ำตาเข้าควบคุมสถานการณ์ กลุ่มผู้ชุมนุมบางคนได้ใช้ข้อความว่า “Usir Cina” (ไล่จีน) และ “Awas Asing” (ระวังคนต่างชาติ) เป็นข้อความในการประท้วง ท่ามกลางข้อครหาในตัวประธานาธิบดีโจโกวีว่าเป็นผู้ที่เข้าหาทางการจีนมากเกินไป ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ปักหลักชุมนุมประท้วงที่ด้านหน้าของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งอินโดฯ (KPU) ขณะที่สื่อท้องถิ่นยังรายงานว่าทางการได้ส่งทหารราว 30,000 นายเข้าเมืองหลวงเพื่อรักษาความสงบพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์ ประธานาธิบดีโจโกวี ซึ่งชนะการเลือกตั้งด้วยผลคะแนน 55.5% เหนือคู่แข่งคือนายพลซูเบียนโตที่ได้ 44.5% กล่าวในวันนี้ว่า ผลจะทำงานร่วมกับทุกคนที่ทำเพื่อพัฒนาประเทศนี้ แต่ผมจะไม่ยอมให้ใครก็ตามที่ขัดขวางความมั่นคง กระบวนการประชาธิปไตยและความสามัคคีของประเทศอันเป็นที่รักของเรา” “ไม่มีทางเลือกอื่น ทหารและตำรวจจะดำเนินการต่อผู้ชุมนุมที่ก่อจลาจลรุนแรงอย่างเข้มงวด” ประธานาธิบดีโจโกวีกล่าว นอกจากนี้ผู้นำอินโดฯ ยังกล่าวถึงเหตุจลาจลว่า “เจ้าหน้าที่มีหน้าที่รักษาสถานการณ์ที่วุ่นวานในจาการ์ต้าเพื่อควบคุมกลุ่มผู้ประท้วง”…