บริษัทในสหรัฐฯ ประกาศปิดทำการและปลดพนักงานกว่า 300 คน เหตุติดมัลแวร์เรียกค่าไถ่ จ่ายเงินไปแล้วแต่ยังกู้ข้อมูลคืนไม่ได้

Loading

บริษัท The Heritage Company ในรัฐอาคันซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศปิดทำการชั่วคราวพร้อมปลดพนักงานกว่า 300 คน สาเหตุจากระบบไอทีของบริษัทติดมัลแวร์เรียกค่าไถ่ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 โดยทางบริษัทได้จ่ายเงินค่าไถ่ไปแล้วแต่กลับไม่ได้รับกุญแจสำหรับใช้ปลดล็อกข้อมูลกลับคืน ทางทีมไอทีพยายามกู้คืนระบบแล้วแต่ไม่สามารถทำได้จึงจำเป็นต้องปิดบางแผนกและปลดพนักงานกว่า 300 คนออกเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย ทาง CEO ของบริษัทชี้แจงว่าในตอนแรกนั้นได้ประเมินว่าการกู้คืนระบบให้กลับมาใช้งานได้น่าจะใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ แต่พอผ่านไปสองเดือนแล้วก็ยังไม่สามารถทำให้ระบบกลับมาทำงานได้ตามปกติ เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดมูลค่าความเสียหายรวมแล้วกว่าแสนดอลลาร์ ทั้งนี้ทางสำนักข่าวท้องถิ่นได้ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมพบว่าพนักงานจำนวนมากได้ลงทะเบียนว่างงานพร้อมหางานใหม่แล้วเพราะเชื่อว่าบริษัทไม่สามารถอยู่รอดได้ เหตุการณ์นี้เป็นกรณีศึกษาที่สำคัญสองอย่าง หนึ่งคือการจ่ายเงินให้กับผู้พัฒนามัลแวร์เรียกค่าไถ่นั้นไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะสามารถกู้คืนข้อมูลได้เสมอไป สองคือการลงทุนด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ โดยเฉพาะการวางแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan หรือ BCP) นั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพราะการป้องกันเพียงอย่างเดียวนั้นอาจไม่เพียงพอกับภัยคุกคามที่พัฒนาไปทุกวัน จำเป็นต้องมีแผนรับมือในกรณีที่ระบบเกิดปัญหาเพื่อให้ธุรกิจยังสามารถดำเนินต่อไปได้ การลงทุนเพื่อรับมือการโจมตีทางไซเบอร์นั้นถึงแม้จะมีต้นทุนที่ค่อนข้างสูงแต่ก็อาจเทียบไม่ได้เลยกับค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาหรือกู้คืนเพื่อให้ระบบกลับมาทำงานต่อได้ ———————————————————— ที่มา : ThaiCERT / 7 มกราคม 2563 Link : https://www.thaicert.or.th/newsbite/

เปิดภาพวงจรปิด “บิ๊กนิสสัน” หนีจากญี่ปุ่น จ้างหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ คุ้มครอง

Loading

ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นเส้นทางการหลบหนีของนายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานนิสสัน มอเตอร์ โดยใช้เวลาวางแผนนานกว่า 3 เดือน มีหน่วยรบพิเศษ “กรีน แบเรต์” ของสหรัฐฯ ช่วยดำเนินการ ฝ่ายสืบสวนของญี่ปุ่นแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดจำนวนมาก เผยเส้นทางการหลบหนีออกจากประเทศญี่ปุ่นของนายคาร์ลอส กอส์น ซึ่งขณะนี้อยู่ที่เลบานอน และเตรียมเปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับคดีของเขาในวันพรุ่งนี้ (8 ม.ค.) ราว 14.30 น.ของวันที่ 29 ธันวาคม นายกอส์นออกจากบ้านพักของตัวเองในกรุงโตเกียว ไปพบกับชาย 2 คนซึ่งน่าจะเป็นชาวสหรัฐฯ ที่ให้ความช่วยเหลือที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ห่างออกไปประมาณ 800 เมตรจากบ้านพักของเขา จากนั้นทั้ง 3 คนได้ขึ้นรถไฟหัวกระสุนชิงกันเซ็น จากสถานีชินางาวะในกรุงโตเกียว และเดินทางถึงสถานีชินโอซากา ก่อนเวลา 19.30 น. หลังเวลา 20.00 น. ทั้ง 3 คนเดินทางถึงโรงแรมหรูแห่งหนึ่งใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ 2 ชั่วโมงต่อมา ชาวสหรัฐฯ ทั้ง 2 คนได้ออกจากโรงแรม พร้อมด้วยกล่องขนาดใหญ่ 2 กล่อง…

ประเทศในเอเชียเตรียมแผนอพยพประชาชนของตนออกจาก ‘อิรัก-อิหร่าน’

Loading

In this handout photo provided by the Malacanang Presidential Photographers Division, Philippine President Rodrigo Duterte, right, talks with security officials at the Malacanang presidential palace in Manila, Jan. 5, 2020. ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โรดริโก ดูเตอร์เต้ จัดประชุมฉุกเฉินเพื่อสั่งการให้กองทัพเตรียมส่งเรือรบและเครื่องบินทหารไปยังตะวันออกกลางเพื่ออพยพประชาชนชาวฟิลิปปินส์หลายพันคนออกจากอิรักและอิหร่านทันทีที่ได้รับคำสั่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของรัฐบาลประเทศในแถบเอเชียที่กลัวว่าประชาชนของตนจะได้รับผลกระทบรุนแรงจากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ปธน.ดูเตอร์เต้ กล่าวว่าตนค่อนข้างกังวลว่าอิหร่านจะตอบโต้สหรัฐฯ และจะเกิดความรุนแรงและการนองเลือดในตะวันออกกลาง คาดว่าปัจจุบันมีชาวฟิลิปปินส์ทำงานอยู่ในอิรักและอิหร่านมากกว่า 7,000 คน รวมทั้งที่ทำงานให้กับบริษัทของสหรัฐฯ และประเทศตะวันตกที่มีฐานอยู่ในกรุงแบกแดด นอกจากนี้ ยังมีชาวฟิลิปปินส์จำนวนมากที่ทำงานอยู่ในประเทศใกล้เคียง โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย ที่คาดว่าตัวเลขรวมอาจสูงถึงหลายแสนคน โดยส่วนใหญ่ทำงานเป็นแม่บ้าน คนงานก่อสร้าง ลูกเรือ และอาชีพทักษะฝีมือระดับสูงอื่น ๆ ขณะเดียวกัน ประเทศในเอเชียที่มีประชาชนจำนวนมากไปทำงานอยู่ในตะวันออกกลางก็กำลังเตรียมการอพยพประชาชนของตนออกจากอิรักและอิหร่านเช่นกัน ด้านรัฐบาลเกาหลีใต้กำลังหารือเรื่องการใช้มาตรการปกป้องชาวเกาหลีใต้…

เกาหลีใต้เตรียมติดตั้งกล้อง AI ตรวจจับอาชญากรรมในกรุงโซล

Loading

เขต Seocho ทางตอนใต้ของประเทศเกาหลีใต้ ร่วมกับสถาบันวิจัยอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม (ERTI) ประกาศเตรียมติดตั้งกล้องวงจรปิดที่ใช้ซอฟต์แวร์ AI ในการประมวลผลตำแหน่ง เวลา และรูปแบบพฤติกรรมของผู้ที่เดินผ่าน เพื่อตรวจสอบความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุอาชญากรรม จำนวน 3,000 ตัวในเดือนกรกฎาคม 2020 กล้องวงจรปิดดังกล่าวจะทำการตรวจสอบบุคคลที่เดินผ่านว่าเป็นการเดินตามปกติหรือกำลังติดตามคนอื่นอยู่โดยอัตโนมัติ รวมไปถึงตรวจจับอุปกรณ์สวมใส่ เช่น หมวก หน้ากาก แว่นตา และของที่บุคคลนั้นๆ ถืออยู่ว่าเป็นวัตถุอันตรายหรือไม่ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาประมวลผลรวมกันและหาความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุอาชญากรรมขึ้น ถ้าความเป็นไปได้สูงเกินกว่าที่กำหนด กล้องจะแจ้งเตือนไปยังสำนักงานเขตและสถานีตำรวจใกล้เคียงเพื่อส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบสถานที่ที่กล้องตั้งอยู่ทันที นอกจากนี้ เขต Seocho และ ETRI ยังวางแผนที่จะวิเคราะห์เอกสารคำพิพากษาของศาลกว่า 20,000 ฉบับและวิดีโอการก่อเหตุอาชญากรรมเพื่อลดปริมาณรูปแบบที่ซอฟต์แวร์ AI จำเป็นต้องจำลงอีกด้วย ที่สำคัญคือสามารถนำภาพวิดีโอที่ตรวจจับได้ ณ ปัจจุบันเปรียบเทียบกับวิดีโอในอดีตเพื่อยืนยันรูปแบบการก่ออาชญากรรมได้ ซอฟต์แวร์ AI นี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2022 ซึ่ง ETRI วางแผนที่จะขยายการติดตั้งไปยังเขตอื่นๆ ทั่วกรุงโซลในอนาคต ——————————————— ที่มา : Techtalk Thai / 3…

ประเทศใดบ้างอาจตกเป็นเป้าการโจมตีของอิหร่าน

Loading

Pro-Iranian militiamen and their supporters set a fire during a sit-in in front of the U.S. embassy in Baghdad, Iraq, Wednesday, Jan. 1, 2020. สถานการณ์การเมืองโลกกำลังร้อนระอุ หลังอิหร่านประกาศว่าจะแก้แค้นสหรัฐฯ ที่ใช้โดรนสังหารนายพลคนสำคัญ พลตรี กาส์เซม สุไลมานีของกองทัพอิหร่านในกรุงแบกแดดประเทศอิรัก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯกล่าวว่าหากเกิดการโจมตีโดยอิหร่าน อเมริกาจะโต้กลับอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ผู้นำสหรัฐฯกล่าวด้วยว่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุสถานที่ในอิหร่าน 52 แห่งที่อเมริกาตั้งเป้าไว้ เขากล่าวด้วยว่าบางแห่งเป็นสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม นอกจากนี้อเมริกาส่งกำลังไปยังตะวันออกกลางเพื่อปกป้องรักษาผลประโยชน์แห่งชาติในภูมิภาคดังกล่าวแล้ว นักวิเคราะห์รวมถึงเจ้าหน้าข่าวกรองและเจ้าหน้าที่การทูตต่างพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่ พันธมิตรของสหรัฐฯประเทศต่างๆ อาจจะถูกโจมตีโดยอิหร่านได้ด้วยเช่นกัน President Donald Trump holds up a sign given to him by a supporter…

อ่วม!!หนุ่มจีนถูกปรับ5แสน โยนเหรียญใส่เครื่องยนต์เครื่องบินขอพรเดินทางปลอดภัย

Loading

เซาต์ไชนามอร์นิงโพสต์ – ชายวัย 28 ปีรายหนึ่งจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ถูกศาลสั่งจ่ายเงินชดเชย 120,000 หยวน(ราว510,000บาท) เป็นค่าเสียหายแก่ ลัคกีแอร์ สายการบินต้นทุนต่ำ ต่อกรณีที่เขาปาเหรียญเข้าใส่เครื่องยนต์เครื่องบิน อธิษฐานขอให้การเดินทางเป็นไปอย่างปลอดภัยเมื่อปีที่แล้ว ศาลแขวงอี้ซิวในเมืองอันชิ่ง มณฑลอานฮุย มีคำพิพากษาในคดีนี้ตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฏาคมปีที่แล้ว แต่รายละเอียดของคำตัดสินเพิ่งมีการเผยแพร่เมื่อเร็วๆนี้ หลังจากศาลโพสต์คำพิพากษาบนสื่อสังคมออนไลน์ หลู่ เฉ่า ซึ่งขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งแรกในชีวิต ยอมรับสารภาพว่าเขาโยนเหรียญหลายเหรียญเข้าใส่เครื่องยนต์ของเครื่องบินภาวนาขอให้เดินทางปลอดภัย ตอนที่เขาขึ้นเครื่องบินเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตามเที่ยวบินจากอันชิ่ง มุ่งหน้าสู่เมืองคุนหมิง ในมณฑลยูนนาน ถูกยกเลิก หลังจากเจ้าหน้าที่ของสายการบินพบเหรียญ 1 หยวนจำนวน 2 เหรียญตกอยู่บนพื้นใกล้ๆกับเครื่องยนต์ของเครื่องบิน ผู้โดยสารทั้งหมดต้องลงจากเครื่องบิน และเที่ยวบินต้องงดบินเปิดทางสำหรับการตรวจสอบด้านความปลอดภัย โดยผลจากเหตุการณ์นี้ทำให้ลัคดีแอร์จำเป็นต้องอำนวยความสะดวกแก่พวกผู้โดยสารที่ตกค้างด้วยการจัดหาเที่ยวบินอื่นทดแทน และประสบกับการขาดทุนมากกว่า 123,000 หยวน (ราว 530,000บาท) ในส่วนของ หลู่ นั้น ถูกตำรวจอันชิ่งพาตัวไปและถูกคุมขังเป็นเวลา 10 วัน ตามข้อกล่าวหาก่อความปั่นป่วนแก่ความสงบเรียบร้อยของประชาชน ลัคดีแอร์ ยื่นฟ้องร้องทางแพ่งดำเนินคดีกับ หลู่ ในเดือนพฤษภาคม โดยเรียกร้องค่าชดเชยกับเงินที่พวกเขาต้องสูญไป แต่…