drone โจมตีกลุ่มอัลกออิดะห์

Loading

สำนักข่าว voice of America รายงานเมื่อ ๒๒ ม.ค.๖๐ เกี่ยวกับกรณีการใช้เครื่อง drone โจมตีกลุ่มอัล กออิดะห์ ๒ ครั้งเมื่อ ๒๑ ม.ค.๖๐ในดินแดนเยเมน เป็นผลให้สมาชิกกลุ่มอัล กออิดะห์เสียชีวิต ๓ คนในจำนวนนี้เป็นสมาชิกระดับควบคุมพื้นที่ภาค  ๑ คน คาดว่า สหรัฐฯ ควบคุมปฏิบัติการของเครื่อง drone ดังกล่าว ปัจจุบัน เครื่อง drone ถูกนำมาใช้ในการโจมตีที่ตั้งของกลุ่มก่อการร้าย ในสมัยของประธานาธิบดีโอบามาแห่งสหรัฐฯ เชื่อว่ามีพลเรือนเสียชีวิตจากกว่า ๑๑๗ รายจากการโจมตีด้วยเครื่อง drone และปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายในปากีสถาน เยเมนและประเทศอื่นๆ ที่มา : VOA January 22, 2017 7:30 AM ลิงค์ : http://www.voanews.com/a/suspected-us-drone-strike-kills-3-alleged-al-qaida-in-yemen/3686846.html

โบโก ฮาราม ระเบิดพลีชีพซ้อน 2 ครั้ง

Loading

เมื่อ ๑๗ ม.ค.๖๐ กลุ่มกองกำลังอิสลาม ” โบโก ฮาราม “อ้างว่าทำการระเบิดพลีชีพซ้อน ๒ ครั้งในบริเวณมหาวิทยาลัยไมดูกูรี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย เป็นผลให้ศาสตราจารย์ปรระจำมหาวิทยาลัยและเด็กเสียชีวิต  มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก ๑๗ คน โดยหัวหน้ากลุ่มนี้ได้ทำการแถลงผ่านสื่อสารสนเทศว่า สมาชิกของกลุ่มเป็นผู้กระทำ อย่างไรก็ดี สำนักข่าวรอยเตอร์แจ้งว่าไม่สามารถยืนยันได้ว่าหัวหน้ากลุ่มดังกล่าวทำการแถลงผ่านสื่อสารสนเทศได้จริง ที่มา : YAHOO NEWS January 17, 2017 ลิงค์ :  https://www.yahoo.com/news/boko-haram-claims-nigeria-university-attack-100639955.html

โดรนเข้าใกล้เครื่องบินพาณิชย์ของจีน

Loading

เกิดเหตการณ์ใช้เครื่อง drone เพื่อการถ่ายภาพ แต่เข้าใกล้เครื่องบินพาณิชย์ของจีน ซึ่งขึ้นจาก ท่าอากาศยานนานาชาติหางโจว เซียวซาน ที่มลฑลเจ้อเจียง จีน  จนท.ตร.ทำการจับกุมและพบว่าผู้ใช้ไม่มีใบอนุญาตสำหรับการใช้งานเครื่อง drone ทั้งยังบังคับให้ทำการบินสูงถึง ๔๕๐ เมตร ที่มา : CNN  17 มกราคม 2017 ลิงค์ : http://edition.cnn.com//2017/01/17/asia/china-drone-passenger-plane-near-miss/index.html

ตำรวจตุรกีจับตัวมือปืนก่อเหตุกราดยิงไนต์คลับหรูได้แล้ว

Loading

ตำรวจตุรกีสามารถจับกุมตัวนายอับดุลกาดีร์ มาชาริปอฟ มือปืนผู้ก่อเหตุกราดยิงไนต์คลับหรูที่นครอิสตันบูลในคืนส่งท้ายปีเก่าที่ผ่านมาได้แล้ว โดยเหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 39 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนายมาชาริปอฟซึ่งมีสัญชาติอุซเบกิซสถานได้ ขณะกบดานหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านเพื่อนชาวคีร์กิซสถานในย่านเอเซนเยิร์ตของนครอิสตันบูลนั่นเอง โดยพบว่าคนร้ายอยู่กับบุตรชายอายุ 4 ปีในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะนำตัวนายมาชาริปอฟไปตรวจร่างกายและสภาพจิตใจกับแพทย์ก่อนนำตัวไปสอบสวน ซึ่งในการนี้ตำรวจยังได้ควบคุมตัวเพื่อนผู้ให้ที่หลบซ่อนพร้อมกับหญิงอีกสามคนไปสอบสวนพร้อมกันด้วย หนังสือพิมพ์ฮูร์ริเยตของตุรกีรายงานว่า นายมาชาริปอฟเดินทางมาจากอุซเบกิซสถานพร้อมครอบครัวซึ่งประกอบด้วยภรรยาและบุตรสองคน โดยมาตั้งรกรากที่เมืองคอนยาทางตอนกลางของตุรกีเมื่อต้นปีที่แล้ว และเปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า เอบู มูฮัมเหม็ด โฮราซานี เขาเดินทางเข้ามายังนครอิสตันบูลเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ของปีที่แล้ว ก่อนก่อเหตุกราดยิงที่ไนต์คลับ “เรนา” ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาคลับที่หรูหราที่สุดในนครอิสตันบูล ก่อนหน้านี้ กลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้ออกมาแถลงว่า นายมาชาริปอฟเป็นสมาชิกของกลุ่มตนที่ลงมือก่อเหตุเพื่อแก้แค้นต่อการโจมตีของกองทัพตุรกีซึ่งร่วมรบปราบปรามไอเอสในซีเรีย ที่มา :  BBCTHAI  17 ม.ค. 60 ลิงค์ : http://www.bbc.com/thai/international-38646744?ocid=socialflow_facebook

ผู้นำญี่ปุ่นและอินโดนีเซียเห็นพ้องจะส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยของสองประเทศ

Loading

  นายกรัฐมนตรีชินโซ อะเบะ แห่งญี่ปุ่น และประธานาธิบดีโจโก วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย เห็นพ้องจะจัดการประชุมระหว่างรัฐมนตรีด้านต่างประเทศและด้านการป้องกันของทั้งสองประเทศที่กรุงจาการ์ตา นครหลวงของอินโดนีเซียภายในปลายปีนี้ โดยมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัย ผู้นำทั้งสองพบหารือกันที่พระราชวังโบกอร์เมื่อช่วงเย็นของวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม ในคำกล่าวที่เหมือนจะอ้างถึงกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นของจีนในทะเลจีนใต้ ผู้นำทั้งสองยืนยันอีกครั้งถึงความสำคัญของหลักนิติธรรมและการแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี นายอะเบะกล่าวว่า ญี่ปุ่นจะช่วยเหลืออินโดนีเซียพัฒนาหมู่เกาะนาตูนาในทะเลจีนใต้และว่าตนจะเร่งการเจรจากับอินโดนีเซียเรื่องความตกลงที่จะส่งเสริมการขนส่งอุปกรณ์และเทคโนโลยีด้านการป้องกัน อีกทั้งยังเสนอที่จะเพิ่มการสนับสนุนด้านสาธารณูปโภคในอินโดนีเซีย ซึ่งรวมถึงเส้นทางรถไฟความเร็วสูง การเพิ่มขีดความสามารถการลาดตระเวนทางทะเล และมาตรการต่อต้านการก่อการร้าย ที่มา : NHK WORLD ลิงค์ : https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/201701162045_th_02/

ไฟฟ้าดับที่ยูเครนยืนยันแล้วว่าเป็นการโจมตีไซเบอร์

Loading

นักวิจัยยูเครนได้รับการยืนยันว่าไฟฟ้าดับเมื่อเดือนที่ผ่านมาเป็นผลมาจาก cyberattack โดยกลุ่มเดียวกันกับที่โจมตีเมื่อเดือนธันวาคมปี 2015 การโจมตีเมื่อเดือนที่แล้วเป็นขนาดที่เล็กกว่าเมื่อปี 2015 โดยผู้อาศัยอยู่รอบ สถานีย่อย Pivnichna นอกเมืองหลวงเคียฟ นั้นประมาณ 230,000 คน ได้รับผลกระทบจากไฟฟ้าดับ, จากแหล่งที่มาบอกว่าเมนบอร์ด พวกเขาอ้างว่าการโจมตีเดียวกันมีความรับผิดชอบสำหรับแคมเปญอื่น ๆ ในโลกไซเบอร์เปิดตัวในเวลาเดียวกันกับผู้ให้บริการรถไฟของประเทศและกระทรวงการคลัง แฮกเกอร์ยังใช้กลยุทธ์เดียวกันทั้งในการโจมตีสถานีพลังงาน, การเขียนทับเฟิร์มแวร์ในหน่วยสถานีระยะไกล (RTUs) จึงทำให้เกิดความผิดปกติ นักวิจัยที่ iSight พาร์ทเนอร์อ้างว่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมากลุ่มแฮกเกอร์ Sandworm ของรัสเซียอ้างรับว่าโจมตีเมื่อปี 2015 โดยใช้มัลแวร์ BlackEnergy ในการโจมตี ผู้เชี่ยวชาญเห็นด้วยกับทฤษฎีที่ว่ายูเครนจะถูกใช้สำหรับการทดลองก่อนจะโจมตีในประเทศอื่น ๆ “นี่แสดงให้เห็นว่ามีฝ่ายตรงข้ามที่มีทั้งความตั้งใจและความสามารถในการโจมตีและก่อให้เกิดความเสียหายให้กับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของทุกประเทศทั่วโลกและภัยคุกคามนี้จะต้องไม่ถูกละเลย” ผู้ก่อตั้งเครือข่าย Nozomi Andrea Carcano ที่มา : infosecurity-magazine 12 มกราคม 2017 ลิงค์ : http://www.infosecurity-magazine.com/news/ukraine-power-outage-confirmed-as/