สงครามจารกรรมระอุ สหรัฐไล่ทูตจีนฐานแอบสอดแนมฐานทัพ

Loading

หนังสือพิมพ์ The New York Times รายงานว่ารัฐบาลสหรัฐขับไล่เจ้าหน้าที่สถานฑูตจีน 2 คนใน หลังจากที่พวกเขาขับรถไปยังฐานทัพที่มีความมั่นคงสูงในรัฐเวอร์จิเนีย จากเรื่องที่กิดขึ้น อาจเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี ที่นักการทูตจีนต้องสงสัยว่าอาจทำงานด้านจารกรรมในสหรัฐ รายงานระบุว่า มีชาวจีน 6 คนที่เกี่ยวข้องกับการไปด้อมๆ มองๆ ฐานทัพสำคัญ หนึ่งในนั้นรวมถึงบรดาาภรรยาของเจ้าหน้าที่ทางการทูต เมื่อถูกจับได้ คนกลุ่มนี้ก็พยายามหลบเลี่ยงทหารสหรัฐที่ติดตามมา กว่าจะหยุดได้ก็เมื่อไม่สามารถไปต่อได้ เนื่องจากรถดับเพลิงปิดกั้นเส้นทางของพวกเขา เจ้าหน้าที่สหรัฐเชื่อว่าเจ้าหน้าที่จีนอย่างน้อยหนึ่งคนเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับที่ปฏิบัติงานโดยอำพรางเป็นเจ้าหน้าที่ทางการทูต เรื่องนี้เกิดขึ้นในเดือนกันยายนซึ่งทั้งรัฐบาลสหรัฐและรัฐบาลจีนไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่กรณีนี้ยิ่งเพิ่มความกังวลอย่างมากต่อรัฐบาลทรัมป์ที่กำลังจับตามองจีนว่าอาจกำลังขยายความพยายามสอดแนมในสหรัฐ เนื่องจากทั้งสองประเทศเผชิญหน้ากันมากขึ้นในด้านยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจ และเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐยังกล่าวว่าจีนเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐด้านการจารกรรมมากกว่าประเทศอื่น ๆ เจ้าหน้าที่ของสหรัฐเผยว่า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ของจีนที่มีหนังสือเดินทางทางการทูตไปปรากฏตัวที่ศูนย์วิจัยหรือหน่วยงานของสหรัฐอย่างเงียบๆ หลายครั้ง โดยการเข้ามาสอดแนมฐานทัพเป็นเพียงหนึ่งในกรณีดังกล่าวเท่านั้น การขับทูตครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สหรัฐบังคับให้พนักงานสถานทูตจีนสองคนเดินทางออกไปเมื่อปี 2530 และแสดงให้เห็นว่าฝ่ายสหรัฐใช้มาตรการที่แข้งกร้าวมากขึ้นกับผู้ต้องสงสัยชาวจีนว่าอาจจะเข้ามาจารกรรม ในวันที่ 16 ตุลาคม ไม่กี่สัปดาห์หลังจากการบุกรุกและการขับเจ้าหน้าที่ทูตจีน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้ประกาศข้อจำกัดเกี่ยวกับกิจกรรมของนักการทูตจีนในสหรัฐ ซึ่งกำหนดให้ทูตจีนต้องแจ้งให้ทราบก่อนที่จะพบกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่รัฐ หรือสถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัย ในเวลานั้น เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า กฎนี้จะใช้กับคณะทูตทั้งหมดของจีนในสหรัฐและดินแดนของสหรัฐ เพื่อเป็นการตอบโต้ต่อกฎระเบียบของจีนเมื่อหลายปีก่อน ที่บังคับให้นักการทูตสหรัฐต้องขออนุญาตหากจะเดินทางนอกที่พำนักอยู่ หรือเพื่อเยี่ยมชมสถาบันบางแห่ง —————————————…

ข้อมูลเงินเดือนพนักงาน Facebook รั่ว หลังโจรทุบรถพนักงาน ขโมยฮาร์ดไดรฟ์

Loading

โดย ปณชัย อารีเพิ่มพร ตลอดปีที่ผ่านมา ถึง Facebook จะพยายามระมัดระวังเรื่องข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้รั่วไหล และได้ดำเนินการตามมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันมากแค่ไหน แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาก็พร้อมจะเผชิญกับคราวเคราะห์ตลอด ล่าสุดมีรายงานว่า ฮาร์ดไดรฟ์ของพนักงานรายหนึ่งถูกขโมยไปจากรถยนต์ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ข้อมูลเงินเดือนและข้อมูลบัญชีธนาคารพนักงานหลายหมื่นคนถูกโจรกรรมไปด้วย รายงานจากเว็บไซต์ Bloomberg ระบุว่า ฮาร์ดไดรฟ์ดังกล่าวที่ถูกขโมยไปไม่ได้เข้ารหัสไว้ ส่งผลให้ข้อมูลชื่อพนักงาน, เลขบัญชีธนาคาร, ข้อมูลเงินเดือน, โบนัส รวมถึงเลขรหัส 4 หลักสุดท้ายของประกันสังคมพนักงาน สามารถเข้าถึงได้โดยอิสระ (ข้อมูลทั้งหมดนับจนถึงปี 2018) ทั้งนี้ Facebook ได้ดำเนินการแจ้งพนักงานในสหรัฐฯ ที่คาดว่าน่าจะได้รับผลกระทบกว่า 29,000 คน ผ่านอีเมลของบริษัทแล้ว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี โฆษกของ Facebook ยืนยันว่า ข้อมูลทั้งหมดในฮาร์ดไดรฟ์ที่ถูกโจรกรรมไปไม่มีข้อมูลของผู้ใช้งานแต่อย่างใด “เราได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย เพื่อดำเนินการสอบสวนรถของพนักงานของเราที่ถูกทุบและโจรกรรมกระเป๋า ซึ่งบรรจุข้อมูลเงินเดือนพนักงานเอาไว้ เราไม่พบหลักฐานใดๆ ที่เชื่อมโยงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมุ่งเป้าไปที่การขโมยข้อมูลพนักงาน และเชื่อว่า มันเป็นแค่การโจรกรรมทั่วไปเท่านั้น” โฆษก Facebook กล่าว นอกจากนี้ Facebook ยังบอกอีกว่า พนักงานรายดังกล่าวไม่ควรจะนำฮาร์ดไดรฟ์ที่บันทึกข้อมูลสำคัญออกจากบริษัท…

มือมืดโจมตีไซเบอร์ป่วนเมืองนิวออร์ลีนส์ นายกเล็กต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน

Loading

นายกเทศมนตรีเมืองนิวออร์ลีนส์ ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบการโจมตีทางไซเบอร์ และพบความเคลื่อนไหวผิดปกติบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ด้วย สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นาง ลาโตยา แคนเทรล นายกเทศมนตรีเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา ของสหรัฐฯ ประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันศุกร์ที่ 13 ธ.ค. 2562 ที่ผ่านมา หลังจากเกิดการโจมตีทางไซเบอร์ผ่านทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของเมืองนายหลายชั่วโมง คิม ลากรู หัวหน้าเจ้าหน้าที่สารสนเทศของเมืองนิวออร์ลีนส์ เปิดเผยว่า พวกเขาตรวจพบความพยายามส่งข้อความทางออนไลน์เพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนตัว และความเคลื่อนไหวน่าสงสัยในเครือข่ายคอมพิวเตอร์อของเมือง เมื่อเวลาประมาณ 5:00 น. หลังจากนั้นในเวลา 11:00น. เจ้าหน้าที่สืบสวนก็ตรวจพบเหตุการณ์ด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ จนสำนงานเทคโนโลยีสารสนเทศนิวออร์ลีนส์ต้องค่อยๆ หยุดการทำงานของเซอร์เวอร์ และคอมพิวเตอร์ภายในเมืองเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ยังตรวจพบ ‘แรนซัมแวร์’ หรือ ‘ไวรัสคอมพิวเตอร์เรียกค่าไถ่’ ด้วย แต่ไม่มีการเรียกค่าไถ่ในการโจมตีไซเบอร์ครั้งนี้แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่สืบสวนยังเชื่อว่า ไม่มีลูกจ้างหน่วยงานสารสนเทศของรัฐสมรู้ร่วมคิดการโจมตีไซเบอร์ครั้งนี้ โดยตำรวจเมืองนิวออร์ลีนส์, ตำรวจรัฐลุยเซียนา, กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิลุยเซีนา, สำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) และ หน่วยตำรวจลับ กำลังร่วมกันสืบสวนหาผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ทั้งนี้ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ลุยเซียนาเพิ่งเผชิญการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ระดับรัฐ โจมตีระบบคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนทั่วรัฐ จนผู้ว่าฯ ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินมาแล้ว ———————————————————…

เบลเยี่ยมปิดสถาบันขงจื่อ เชื่อจีนใช้เป็นฐานสปายสอดแนม

Loading

Photo : Belga News Agency มหาวิทยาลัยในเบลเยี่ยมเตรียมปิดสถาบันขงจื่อ หลังหน่วยราชการลับพบพิรุธ ผอ.สถาบันเอี่ยวสปายจีน เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า มหาวิทยาลัย Vrije Universiteit Brussel (VUB) ในกรุงบรัสเซลล์ของเบลเยี่ยมไม่ต่อสัญญาการเปิดสถาบันขงจื่อ ซึ่งเป็นสถาบันสอนภาษาและวัฒนธรรมจีนที่ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาลจีน หลังจากมีการพบพิรุธที่เชื่อได้ว่าสถาบันดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมสอดแนมด้านข่าวกรองของรัฐบาลปักกิ่ง ในแถลงการของมหาวิทยาลัยระบุว่า “การดำเนินงานของสถานบันฯไม่สอดคล้องกับหลักการวิจัยเสรีของเรา อ้างอิงจากข้อมูลที่มหาวิทยาลัยได้รับ .. เหตุนี้มหาวิทยาลัยมีความเห็นว่าการร่วมมือกับสถาบันนั้นไม่สอดคล้องกับนโยบายและวัตถุประสงค์ของอีกต่อไป” ความเคลื่อนไหวของมหาวิทยาลัยเบลเยี่ยมมีขึ้นจากการที่เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หน่วยราชการลับของเบลเยี่ยมกล่าวหาว่านายซ่ง ซินหนิง (Song Xinning) อดีตหัวหน้าสถาบันดังกล่าวที่ VUB ทำงานร่วมมือกับหน่วยสืบราชการลับของจีน ด้านเว็ปไซต์ brusselstimes รายงานเช่นว่าสถาบันขงจื่อใน VUB ต้องปิดตัวลงในเดือนเดือนมิถุนายนปีหน้า หลังเปิดทำการมาตั้งแต่ปี 2006 หนังสือพิมพ์ De Morgen ของเบลเยียมรายงานว่า VUB ได้เพิกเฉยต่อคำเตือนจากหน่วยราชการลับเบลเยี่ยมเกี่ยวกับกิจกรรมของสถาบันดังกล่าว กระทั่งนายซ่ง ถูกเพิกถอนวีซ่าเชงเก้น พร้อมห้ามเดินทางเข้าประเทศยุโรปเป็นเวลา 8 ปี สอดคล้องกับรายงานก่อนหน้านี้ของ เซาท์มอร์นิ่งโพสต์จากการสัมภาษณ์อดีต ผอ.สถาบันขงจื่อแห่งนี้ว่า เขาถูกทางการเบลเยี่ยมสั่งห้ามเข้าประเทศเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยวีซ่าของเขาไม่ได้รับการต่ออายุจากการที่ถูกระบุว่ามีพฤติกรรมสนับสนุนข่าวกรองของจีน…

รถไฟใต้ดินโอซากา ทดสอบระบบสแกนใบหน้าแทนการใช้ตั๋ว

Loading

โอซากา เมโทร ผู้ให้บริการรถไฟใต้ดินในนครโอซากา ได้ทดสอบระบบประตูอัตโนมัติที่ใช้การจดจำใบหน้า แทนการใช้ตั๋วแบบปกติ โดยตั้งเป้าจะใช้งานจริงก่อนงานเวิร์ล เอ็กซ์โป 2025 การทดสอบครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมเป็นพนักงานของโอซากา เมโทร ราว 1,200 คน โดยเป็นการทดสอบระบบสแกนใบหน้าเพื่อชำระค่าโดยสารเป็นครั้งแรกของรถไฟในประเทศญี่ปุ่น หลังจากนี้ จะมีการติดตั้งระบบสแกนใบหน้าเพื่อทดลองใช้งานจริงจนถึงเดือนกันยายน ปีหน้า ใน 4 สถานีสำคัญคือ โดเมมาเอะ ชิโยซากิ, โมริโนมิยะ, โดบุตสึเอ็น มาเอะ และ ไดโคคุโจ แต่ละสถานีจะมีประตูที่ติดตั้งระบบจดจำใบหน้า ที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัทที่แตกต่างกัน 4 บริษัท เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพการทำงาน การใช้งานระบบชำระค่าโดยสารโดนสแกนใบหน้า จะต้องลงทะเบียนใบหน้าไว้ล่วงหน้า เมื่อเดินผ่านประตูที่สถานี ระบบจะเปรียบเทียบใบหน้าผู้โดยสารกับข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้ ถ้าข้อมูลตรงกันประตูก็จะเปิดให้ผ่านเข้าสถานีได้ ระบบสแกนใบหน้า นอกจากจะช่วยให้ผู้โดยสารผ่านเข้าสถานีได้เร็วขึ้น ลดความแออัดแล้ว บังอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุและผู้พิการ ซึ่งจะผ่านประตูได้โดยไม่ต้องแตะบัตรโดยสาร บริษัท 4 แห่งที่ร่วมทดสอบระบบสแกนใบหน้าของรถไฟใต้ดินของโอซากา ประกอบด้วย บริษัท ออมรอน โซเชียล เทคโนโลยี, บริษัท ทากามิซาวะ ไซเบอร์เนติค, บริษัท โตชิบา…

สหรัฐฯ ทดสอบยิงขีปนาวุธนำวิถีข้ามแปซิฟิก!

Loading

This U.S. Air Force handout photo shows an unarmed Minuteman III intercontinental ballistic missile launching during an operational test at 1:13 a.m. Pacific Time, at Vandenberg Air Force Base, California. กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือ เพนตากอน เปิดเผยการทดสอบยิงขีปนาวุธนำวิถีแบบข้ามทวีป จากฐานทัพอากาศในรัฐแคลิฟอร์เนียทางภาคตะวันตก ไปตกในมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างออกไปกว่า 500 ไมล์ หรือกว่า 800 กม. เพนตากอนปฏิเสธที่จะเผยรายละเอียดของการทดสอบในวันพฤหัสบดี โดยระบุแต่เพียงว่าเป็นการยิงจากฐานทัพอากาศแวนเดนเบิร์ก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ขีปนาวุธที่ใช้ในการทดสอบครั้งนี้คือ Minuteman III แบบไม่ได้ติดหัวรบนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นขีปนาวุธที่ถูกสั่งห้ามยิงมาเป็นเวลานานหลายสิบปีภายใต้สนธิสัญญาควบคุมหัวรบนิวเคลียร์พิสัยกลางที่สหรัฐฯ ทำไว้กับรัสเซีย แต่ทั้งสองประเทศละเลยที่จะปฏิบัติตามสนธิสัญญาดังกล่าวตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา เพนตากอนมิได้ระบุถึงระยะทำการสูงสุดของขีปนาวุธรุ่นนี้ แต่คาดว่าอยู่ระหว่าง 3,000…