‘อัล-ชาบับ’ โจมตีโรงแรมในเมืองหลวงโซมาเลีย ดับ 10 จับตัวประกันหลายคน

Loading

     กลุ่มติดอาวุธ อัล-ชาบับ ในโซมาเลีย บุกโจมตีโรงแรมในกรุงโมกาดิชู เมื่อวันพุธ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 10 ราย และยังปักหลักอยู่ภายในอาคาร โดยจับตัวประกันไว้หลายคนด้วย…      สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นักรบของกลุ่มติดอาวุธ อัล-ชาบับ ในโซมาเลีย ก่อเหตุบุกโจมตีโรงแรม ‘Ambassador’ ในเมืองหลวง กรุงโมกาดิชู ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐและนักธุรกิจมักเดินทางมาพัก เมื่อช่วงเย็นวันพุธที่ผ่านมา สังหารผู้คนอย่างน้อย 10 ราย และจับตัวประกันเอาไว้จำนวนหนึ่ง      การโจมตีเริ่มขึ้นด้วยระเบิดรถยนต์ฆ่าตัวตาย ที่ประตูหน้าของโรงแรม ก่อนที่นักรบจำนวนหนึ่งจะบุกเข้าไปภายในอาคาร โดยร้อยโท มูฮัมเหม็ด ฮุสเซน ตำรวจโซมาเลีย เปิดเผยว่า สมาชิกสภา 2 คนอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตด้วย และจนถึงตอนนี้สถานการณ์ที่โรงแรมยังไม่คลี่คลาย ยังมีนักรบอัล-ชาบับอีก 2 คนอยู่ภายในโรงแรม      ตอนนี้โรงแรมกำลังถูกโอบล้อมด้วย ทหารติดอาวุธหนักมากมาย โดยพวกเขาใช้จรวดอาร์พีจี และปืนกลติดรถกระบะในการต่อสู้กับนักรบติดอาวุธซึ่งอยู่บนชั้น 2 ของโรงแรม     …

ตำรวจปราบจลาจลเคนยา ใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วงกรรมการเลือกตั้ง

Loading

     เมื่อ 23 พ.ค.59 ตำรวจเคนยาทำการปราบปรามชาวเคนยาที่รวมตัวกันประท้วงคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งตามเมืองต่าง ๆ โดยกำลังตำรวจปราบจลาจลเคนยาทำการปราบปรามด้วยการใช้แก๊ซน้ำตาและฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ประท้วง ทางการเคนยาอ้างว่า การประท้วงที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แหล่งข่าวท้องถิ่นรายงานว่า กำลังตำรวจทำการปราบปรามประชาชนด้วยความรุนแรง โดยใช้กำลังทำร้ายและยิงด้วยกระสุน      ทางการเคนยากล่าวว่า มีผู้เสียชีวิต 3 คนจากเหตุปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจที่เมือง 2 แห่งทางตะวันตกของเคนยา เมื่อวานนี้ โดย 2 คนเสียชีวิตหลังถูกยิงบาดเจ็บที่เมืองซิอายา และอีกคนเสียชีวิตจากการถูกยิงเช่นเดียวกันที่เมืองคิซุมุ ตำรวจปราบจลาจลกล่าวว่า จำเป็นต้องใช้อาวุธเพื่อป้องกันตัว และตำรวจบาดเจ็บ 7 นาย การประท้วงซึ่งดำเนินมา 4 สัปดาห์แล้ว จัดขึ้นโดยพรรคซีโออาร์ดีซึ่งเป็นฝ่ายค้าน เพื่อต้องการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค คือนายไรลา โอดิงกา ———————————————— ที่มา : Voice of America / 23 พ.ค.59

ยืนยันโดรนมะกันถล่มเข้าเป้า ปลิดชีพ “มานซูร์” ผู้นำตอลิบาน

Loading

     เอเจนซีส์ – กลุ่มติดอาวุธ “ตอลิบาน” ในอัฟกานิสถาน ได้ยืนยันการเสียชีวิตของ “มุลเลาะห์ อัคตาร์ มานซูร์” ผู้นำกลุ่ม ที่สิ้นชื่อจากการโจมตีของโดรน ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ “บารัค โอบามา” อนุมัติให้ส่งไปถล่ม ส่วนทางเพนตากอนแถลงว่า ได้เปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศพุ่งเป้าหัวโจกกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าว      มุลเลาะห์ อับดุล ราอุฟ ผู้บัญชาการอาวุโสของกลุ่มตอลิบาน ได้บอกกับสำนักข่าวเอพีในวันอาทิตย์ (22) ว่าผู้นำของพวกเขาเสียชีวิตจากการโจมตีในปากีสถาน ใกล้ชายแดนอัฟกานิสถาน เมื่อคืนวันศุกร์      ด้านทำเนียบประธานาธิบดีอัฟกานิสถานก็ได้ยืนยันว่ามีการโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นจริง แต่ไม่มีได้ยืนยันถึงการเสียชีวิตของผู้นำตอลิบาน ถึงกระนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงอัฟกันผู้ไม่เปิดเผยนามรายหนึ่งได้ยืนยันกับเดอะการ์เดียนถึงการเสียชีวิตของผู้นำตอลิบาน      เมื่อวันเสาร์ เจ้าหน้าที่อเมริกันผู้ไม่ประสงค์ออกนาม เปิดเผยกับสำนักข่าวเอพีว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นดำเนินการโดยเครื่องบินไร้คนขับหรือโดรน ที่ควบคุมโดยหน่วยปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐฯ ซึ่งประจำอยู่ในเมืองอาหมัดวาล และได้รับอนุมัติจากโอบามา ประมุขทำเนียบขาว      ในแถลงการณ์ที่อีเมลถึงสื่อ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า ได้ทำการโจมตีทางอากาศในพื้นที่ห่างไกลบริเวณตะเข็บชายแดนอัฟกานิสถานและปากีสถาน และกระทรวงฯ กำลังประเมินผลการโจมตี ซึ่งเมื่อพร้อมแล้ว จะเผยแพร่ข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป…

ตำรวจอังกฤษออกแถลงการขอโทษกรณีมีการใช้ภาษาอาหรับสรรเสริญพระเจ้าขณะซ้อมแผนเผชิญเหตุ

Loading

     เมื่อ 10 พ.ค.59 ทางการตำรวจอังกฤษออกแถลงการขอโทษจากกรณีมีการใช้ภาษาอาหรับสรรเสริญพระเจ้า ขณะทำการฝึกซ้อมเผชิญเหตุร้ายในเมืองแมนเชสเตอร์ อังกฤษ ทางการเมืองแมนเชสเตอร์กำหนดทำการฝึกเผชิญภัยเป็นเวลา 3 วัน โดยมีอาสาสมัครจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยดับเพลิง หน่วยกู้ภัย และหน่วยรถกู้ฃีพประจำภาคตะวันตกเหนือ จำนวน 800 คน ทั้งนี้กำหนดแผนการฝึกซ้อมเผชิญเหตุการระเบิดแบบพลีชีพที่เกิดขึ้นในศูนย์การค้าขนาดใหญ่ —————————————— ที่มา : ABC News Radio | May 10, 2016

คดี ‘น.ต.เอดเวิร์ด ลิน’ ถูกตั้งข้อหาเป็น ‘สายลับ’ กระทบ ‘ชาวอเมริกันเชื้อจีน’ถ้วนหน้า

Loading

     คดีนาวาตรี เอดเวิร์ด ลิน ผู้มีชื่อภาษาจีนว่า หลิน เจียเหลียง ถูกตั้งข้อหาจารกรรมนำเอาข้อมูลข่าวสารลับของกองทัพสหรัฐฯไปให้จีนแผ่นดินใหญ่หรือไม่ก็ไต้หวัน ถึงแม้ยังไม่ค่อยมีการเปิดเผยรายละเอียดอันชัดเจน แต่ก็กำลังทำให้ชาวอเมริกันเชื้อจีน โดยเฉพาะผู้ทำงานมีบทบาทอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีความอ่อนไหวสูง จำเป็นต้องระมัดระวังตัว เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตนเองตกเป็นเหยื่อของ “การไล่ล่าแม่มด”      สื่อมวลชนสหรัฐฯพากันประโคมข่าวคดีของ นาวาตรีเอดเวิร์ด ลิน (Lt. Commander Edward Lin ชื่อภาษาจีนของเขาคือ หลิน เจียเหลียง Lin Chieh-Liang) ซึ่งถูกตั้งข้อหาจารกรรม จากการทำให้ข้อมูลข่าวสารลับของกองทัพสหรัฐฯรั่วไหลไปถึงจีนแผ่นดินใหญ่ หรือไม่ก็ ไต้หวัน สืบเนื่องจากประเด็นนี้มีความละเอียดอ่อนมาก ดังนั้นจึงแทบไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอะไรต่อสาธารณชนกันเลย      คำถามอย่างเช่น ลินถูกตรวจพบว่ากระทำผิดได้ด้วยวิธีใด, ข้อมูลข่าวสารอะไรที่รั่วไหลออกไป, ปัจจัยที่ส่งอิทธิพลทำให้เขากระทำการเช่นนี้มีอะไรบ้าง, และจีนแผ่นดินใหญ่หรือไต้หวันกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังการกระทำของเขา เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ยังไม่มีคำตอบ      สหรัฐฯกับจีนกำลังทวีความเป็นปรปักษ์กันทางการทหารในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออกตึงเครียดยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จากการที่คดีของ ลิน เพิ่งถูกนำออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชนหลังจากที่เขาถูกจับกุมคุมขังมาเป็นเวลา 8 เดือน ทำให้ดูเหมือนกับว่ากรณีสปายสายลับจีนได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และชาวอเมริกันเชื้อจีนทั้งหลายซึ่งกำลังทำงานแสดงบทบาทอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีความอ่อนไหวสูง ต่างตกอยู่ในความเสี่ยงสูง อย่างที่คำพังเพยพูดกันเอาไว้ว่า…

ทหารเรือมะกันโดนตั้งข้อหาเป็นสปาย คาดส่งข้อมูลลับของชาติให้จีน-ไต้หวัน

Loading

     รอยเตอร์ – ทหารเรืออเมริกันนายหนึ่งที่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวกรองที่อ่อนไหวของสหรัฐฯ ถูกตั้งข้อหาจารกรรม จากการกล่าวหาว่าเขาเป็นสปายขายความลับของชาติ ซึ่งเป็นไปได้ว่าปลายทางคือจีนและไต้หวัน ขณะที่ทั้งปักกิ่งและไทเปยังสงวนท่าทีโดยบอกว่าไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้      เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ไม่ประสงค์ออกนามเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (10) ว่า ผู้ต้องสงสัยคือ นาวาตรี เอ็ดเวิร์ด ลิน ที่เกิดในไต้หวันและโอนสัญชาติเป็นพลเมืองอเมริกันแล้ว จากข้อมูลประวัติย่อเจ้าหน้าที่กองทัพเรือในปี 2008      เอกสารคำฟ้องของกองทัพเรือระบุว่า ผู้ต้องสงสัยได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์บัญชาการของกลุ่มลาดตระเวนและสอดแนมของกองทัพเรือ ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบกิจกรรมการรวบรวมข่าวกรอง      เอกสารคำฟ้องระบุชื่อผู้ต้องสงสัย แต่กองทัพเรือปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับนายทหารเรือผู้นี้      เอกสารคำฟ้องระบุว่า ผู้ต้องสงสัยได้เผยแพร่ข้อมูลลับสองครั้ง และพยายามเผยแพร่ข้อมูลลับอีกสามครั้งให้แก่ตัวแทนของรัฐบาลต่างชาติ โดยมีเจตนารมณ์หรือเหตุผลที่เชื่อได้ว่าข้อมูลนั้นจะถูกนำไปใช้เพื่อผลประโยชน์ของต่างชาติ      เอกสารไม่ได้ระบุถึงประเทศที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทว่าเจ้าหน้าที่คนเดิมระบุเพิ่มเติมว่า เป็นไปได้ทั้งจีนและไต้หวัน แต่ย้ำว่าเรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน      ผู้ต้องสงสัยยังถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับผู้หญิงขายบริการและการผิดประเวณี นายทหารผู้นี้ถูกควบคุมตัวก่อนการไต่สวนมาตลอดระยะเวลาอย่างน้อย 8 เดือนก่อนหน้านี้      สำนักข่าวยูเอสเอ็นไอ นิวส์ ซึ่งเป็นสื่อแห่งแรกที่ระบุชื่อลิน รายงานว่า…