แนวโน้มการโจมตีโลกไซเบอร์ปี 2559

Loading

     ผู้เชี่ยวชาญจาก Sophos คาดการณ์ถึงสถานการณ์ที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดในปี 2559 จากเหตุการณ์โจมตีบนโลกไซเบอร์ที่ทวีความซับซ้อน และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยระบุชัดระบบแอนดรอยด์มีแนวโน้มถูกโจมตีมากขึ้น ด้านระบบ iOS ก็จะพบมัลแวร์มากขึ้น โดยองค์กรธุรกิจทั้ง SME และ SMB จะตกเป็นเป้าหมายใหญ่สำหรับการโจมตี และที่สำคัญ Ransomware จะน่ากลัวมากขึ้น ฯลฯ โดยมีแนวโน้มทั้ง 11 อย่างดังต่อไปนี้ 1.อันตรายบนแอนดรอยด์จะร้ายแรงมากกว่าแค่ข่าวพาดหัว      ในปี 2559 การโจมตีบนแอนดรอยด์จะรุนแรงมากขึ้น (โดยช่วงต้นปี 2558 มีการรายงานถึงบั๊กชื่อ Stagefright เป็นจำนวนมาก แต่บั๊กตัวนี้ยังไม่สามารถเจาะระบบได้สมบูรณ์) มีช่องโหว่จำนวนพอสมควรบนแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ที่ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการสร้างแพทช์ขึ้นมาแก้ไข แม้กูเกิลจะอ้างว่า ยังไม่มีใครเจาะช่องโหว่เหล่านี้ได้จนถึงปัจจุบัน แต่นั่นก็เป็นการท้าทายที่เชื้อเชิญเหล่าแฮกเกอร์เข้ามาอย่างมหาศาล      SophosLabs พบตัวอย่างการใช้ความพยายามอย่างสูงในการหลีกเลี่ยงการตรวจจับ และคัดกรองของ App Store เพื่อให้แอปอันตรายอยู่รอดใน App Store ได้ เช่น แฮกเกอร์บางคนออกแบบแอปเกมที่ไม่มีอันตรายแฝงเมื่อพบว่ากำลังถูกตรวจสอบ แต่เมื่อพ้นการตรวจแล้วก็จะโหลดโค้ดอันตรายเข้ามาแทน ยิ่งกว่านั้นเมื่อเร็วๆ…

เบลเยียมจับ 2 ผู้ต้องสงสัยวางแผนก่อเหตุร้ายคืนส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่

Loading

     เอเจนซีส์ – อัยการเบลเยียมระบุในวันอังคาร (29 ธ.ค.) ว่าตำรวจได้ทำการจู่โจมเข้าตรวจค้นหลายพื้นที่เมื่อวันอาทิตย์และวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุม 2 ผู้ต้องสงสัยว่าวางแผนจะก่อเหตุร้ายในบรัสเซลส์ช่วงคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่      อัยการเบลเยียมระบุในวันอังคารว่า ระหว่างการเข้าตรวจค้นบ้านเรือนหลายแห่งในบรัสเซลส์และพื้นที่ละแวกใกล้เคียง ซึ่งรวมถึงลีแยฌ มีผู้ถูกนำตัวมาสอบปากคำรวมทั้งหมด 6 ราย จากนั้นได้รับการปล่อยตัวไป 4 ราย      ตำรวจพบอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ ชุดยูนิฟอร์มสไตล์ทหาร กับพวกข้าวของโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) แต่ไม่พบอาวุธหรือระเบิด การจู่โจมเข้าตรวจค้นครั้งนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุก่อการร้ายปารีสเมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่มีผู้เสียชีวิตไป 130 ราย      คำแถลงของสำนักงานอัยการระบุว่า หนึ่งในสองผู้ต้องหา ถูกตั้งข้อสงสัยว่ากำลังวางแผนก่อเหตุโจมตี รวมถึงมีบทบาทสำคัญในกิจกรรมของกลุ่มก่อการร้าย ทั้งยังคอยชักชวนผู้คนไปร่วมก่อการร้าย ส่วนผู้ต้องสงสัยอีกรายถูกตั้งข้อหาว่ากำลังวางแผนและมีส่วนร่วมในกิจกรรมของกลุ่มก่อการร้าย      “การสืบสวนครั้งนี้ได้เผยให้เห็นถึงภัยคุกคามร้ายแรงจากการโจมตีที่เชื่อว่ามีเป้าหมายเป็นสถานที่สำคัญเชิงสัญลักษณ์ในบรัสเซลส์ โดยจะก่อเหตุกันในระหว่างการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า” คำแถลงระบุ      สำหรับผู้ต้องสงสัยทั้งสอง คนหนึ่งถูกจับกุมได้ระหว่างการจู่โจมตรวจค้นในเฟลมิชบราบันต์ ของกรุงบรัสเซลส์ ส่วนอีกคนถูกจับกุมได้บริเวณใกล้กับลีแยฌ เมืองทางใต้ที่ผู้คนส่วนใหญ่พูดภาษาฝรั่งเศส    …

ระเบิดฆ่าตัวตายที่ปากีสถานคร่าชีวิตอย่างน้อย 26 คนที่เมืองมาร์ดาน

Loading

     เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่หน้าสำนักงานทะเบียนราษฎร์และฐานข้อมูลแห่งชาติในเมืองมาร์ดานทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 ราย บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 45 ราย โดยกลุ่มที่แยกตัวจากกลุ่มตาลีบันของปากีสถานอ้างตนเป็นผู้ลงมือก่อเหตุครั้งนี้      มีรายงานว่าผู้ลงมือในกรณีมาร์ดานมายังที่ก่อเหตุด้วยมอเตอร์ไซค์แล้วจุดระเบิดตัวเองเมื่อถูกหยุดโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสำนักงานดังกล่าวที่มักจะแน่นไปด้วยผู้คนที่มารอทำบัตรประชาชน ซึ่งผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ซึ่งการโจมตีครั้งนี้มีความรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งนับจากการสังหารหมู่นักเรียนและครู 150 คนที่เมืองเปชวาร์ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว      เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาร์ดานบอกกับผู้สื่อข่าวบีบีซีว่า หากผู้ก่อเหตุไม่ได้ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหยุดตรงประตูทางเข้าของสำนักงานแล้วล่ะก็ จำนวนผู้เสียชีวิตจะสูงกว่านี้มาก และการระเบิดครั้งนี้อาจใช้วัตถุระเบิดปริมาณมากถึง 12 กก.      กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า จามาต-อี-อาห์ราร์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่แยกออกมาจากกลุ่มตาลีบันของปากีสถานในปี 2557 อ้างตัวว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า “รัฐปากีสถานนอกศาสนา” ซึ่งที่ผ่านมากองกำลังกลุ่มนี้ได้ร่วมกับกองกำลังกลุ่มอื่นอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดที่สังหารคนกว่า 50 คนที่จุดผ่านพรมแดนวากาห์ติดกับอินเดียในปี 2557 อีกด้วย      โมฮัมหมัด คูราซานี โฆษกของเตห์ริก-อี ตาลิบัน ปากีสถาน (ทีทีพี) ที่เป็นกลุ่มตาลีบันหลักในประเทศ บอกว่ากลุ่มของตนไม่สนับสนุนการโจมตีในสถานที่สาธารณะ แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มนี้เคยอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีพลเรือนหลายกรณี รวมถึงการสังหารหมู่ที่โรงเรียนในเปชวาร์ดังกล่าว      การปราบปรามผู้ก่อการร้ายของรัฐบาลได้ลดจำนวนการก่อเหตุใหญ่ๆ จากเดือนละหลายสิบครั้งในปี 2557…

รอดเหตุร้ายช่วงคริสต์มาส เจนีวาลดระดับเฝ้าระวังก่อการร้าย

Loading

     รอยเตอร์ – เมืองเจนีวาของทวิตเซอร์แลนด์ ลดระดับการเฝ้าระวังลงแล้ว จากการเปิดเผยของตำรวจในวันจันทร์(28ธ.ค.) 18 วันหลังจากเริ่มปฏิบัติการตามล่าคนจำนวนหนึ่งที่ทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเป็นไปได้ว่าอาจเชื่อมโยงกับก่อการร้าย      ตำรวจระบุในถ้อยแถลงว่ากระทรวงความมั่นคงและเศรษฐกิจรัฐเจนีวา ตัดสินใจคืนสู่ระดับเฝ่าระวังที่บังคับใช้ก่อนวันที่ 10 ธันวาคม หลังจากปรึกษาหารือกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางแล้ว      “คำประเมินใหม่ของสถานการณ์ภัยคุกคามก่อการร้ายหลังวันหยุดคริสต์มาสคือเหตุผลของการตัดสินใจล่าสุด” ถ้อยแถลงระบุ “ยิ่งกว่านั้น หากพิจารณากิจกรรมต่างๆที่อาจตกเป็นเป้าหมายเร็วๆนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านการทูต ศาสนาและการพาณิชย์ ทั้งหมดได้ลุล่วงไปแล้ว”      เจนีวาเป็นที่ตั้งสำนักงานยุโรปของสหประชาชาติ กาชาดสากล ธนาคารต่างๆและตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งยังมีชายแดนเสรีติดกับฝรั่งเศส ซึ่งเพิ่งถูกนักรบอิสลามิสต์โจมตีกรุงปารีสเมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน คร่าชีวิต 130 ศพ      เมืองแห่งนี้ยกระดับเฝ้าระวังขึ้นสูง หลังพบรถยนต์ต้องสงสัยทะเบียนเบลเยียม หลบหนีจากการตรวจค้นช่วงค่ำคืนของตำรวจและข้ามชายแดนไปยังฝรั่งเศส ท่ามกลางคำเตือนของเจ้าหน้าที่ต่างประเทศว่ามีเครือข่ายต้องสงสัยรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในภูมิภาค      ตำรวจบอกว่าภัยคุกคามขยับจากแค่คลุมเครือเป็นชัดเจน โดยปราศจากให้ข้อมูลเพิ่มเติม และอัยการสวิตเซอร์แลนด็ได้เปิดการสืบสวนทางอาญาบนพื้นฐานของภัยคุกคามก่อการร้ายในเจนีวาต่อบุคคลจำนวนหนึ่ง      แหล่งข่าว 2 แห่งบอกกับรอยเตอร์ว่าในตอนนั้นสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ ได้มอบภาพถ่ายชาย 4…

ชำแหละ”เรดสตาร์โอเอส”ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์โสมแดง นักวิจัยชี้สะท้อนความหวาดระแวง

Loading

     ฟลอเรียน กรูนาว และนิคลอส ชีส นักวิจัยจากบริษัทบีอาร์เอ็นดับเบิลยู บริษัทความปลอดภัยด้านไอทีของประเทศเยอรมนี ได้วิเคราะห์ระบบปฏิบัติการ “เรดสตาร์” ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ที่รัฐบาลเกาหลีเหนือสร้างขึ้นและให้ประชาชนในประเทศใช้งาน พบว่ามีการรุกล้ำสอดแนมผู้ใช้และสะท้อนความหวาดระแวงในระดับสูง      ระบบปฏิบัติการ “เรดสตาร์” เวอร์ชั่นล่าสุดถูกเขียนขึ้นราวปี 2556 มีพื้นฐานจากระบบปฏิบัติการลินุกซ์ เวอร์ชั่นที่เรียกว่า “ฟีโดร่า” โดยมีการออกแบบอินเตอร์เฟซที่คล้ายคลึงกับระบบปฏิบัติการแมคโอเอส      สองนักวิจัยตรวจสอบลึกเข้าไปในตัวระบบปฏิบัติการพบว่ามีการใช้ไฟล์ที่ถูกเข้ารหัสไว้ในแบบของตัวเองโดยเชื่อว่าจะเป็นการป้องกันโค้ดที่อาจถูกถอดได้โดยหน่วยข่าวกรองหรือหน่วยงานสายลับจากภายนอกนอกจากนี้ยังพบด้วยว่าการที่ผู้ใช้จะเปลี่ยนแปลงระบบการทำงานหลักของระบบปฏิบัติการนั้นเป็นไปได้ยากมากยกตัวอย่างเช่นหากผู้ใช้พยายามปิดระบบแอนตี้ไวรัส หรือปิดไฟร์วอล เครื่องจะแจ้งเตือนความผิดพลาดหรือรีบูทเครื่องโดยอัตโนมัติ      ระบบเรดสตาร์ยังแก้ปัญหาที่รัฐบาลเกาหลีเหนือห่วงกังวลอย่างการส่งต่อภาพยนตร์เพลง หรืองานเขียนของต่างประเทศที่เป็นสิ่งต้องห้าม โดยระบบปฏิบัติการจะติดแทกและสร้างลายน้ำบนไฟล์ทุกไฟล์บนคอมพิวเตอร์ รวมถึงในยูเอสบีที่ถูกต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นๆ นั่นหมายความว่าไฟล์ทุกไฟล์จะสามารถตรวจสอบที่มาที่ไปได้      สองนักวิจัยระบุว่าเป็นการยากที่จะสามารถระบุได้ว่ามีเครื่องคอมพิวเตอร์กี่เครื่องที่ถูกใช้อยู่ในเกาหลีเหนือ ขณะที่ผู้ที่เคยเดินทางเยือนเกาหลีเหนือระบุว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ในเกาหลีเหนือส่วนใหญ่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์เอ็กซ์พีในเวอร์ชั่นเมื่อ15ปีก่อน ขณะที่ในเกาหลีเหนือใช้ระบบอินทราเน็ตที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบเวิลด์ไวด์เว็บของโลก แต่จะอนุญาตให้เข้าถึงได้เฉพาะเว็บไซต์สำนักข่าวของรัฐ รวมถึงเว็บไซต์ที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลแล้วเท่านั้น      ทั้งนี้ ในปัจจุบันเกาหลีเหนือไม่ใช่ประเทศเดียวที่สร้างระบบปฏิบัติการของตนเองขึ้นมาใช้ แต่ประเทศอย่างคิวบาก็มีระบบปฏิบัติการของตัวเองอย่าง”เนชั่นแนลโนว่า” ขณะที่จีน รัสเซีย ก็กำลังพยายามสร้างระบบปฏิบัติการของตัวเองขึ้นมาใช้เช่นกัน ที่มา : MatichonOnline วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558…

รถไฟบรรทุกสารเคมีตกรางในออสเตรเลีย

Loading

     รถไฟบรรทุกกรดกำมะถันตกรางในรัฐควีนส์แลนด์ที่ออสเตรเลีย ต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน-เขตหวงห้ามในรัศมี 2 กม.      วันนี้ (28 ธ.ค.58) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุรถไฟ 26 ตู้ บรรทุกกรดกำมะถันหรือซัลฟุริค แอซิด ปริมาณ 200,000 ลิตร ตกรางเกิดขึ้นเมื่อเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ห่างจากเมืองจูเลีย ครีก ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลในรัฐควีนส์แลนด์ไปทางทิศตะวันออก 20 กม. ส่งผลให้ต้องมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและให้บริเวณที่เกิดเหตุภายในรัศมี 2 กม.เป็นเขตหวงห้ามมีพนักงานรถไฟ 3 คน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว      โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐควีนส์แลนด์กล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุอย่างแน่ชัดว่ามีการรั่วไหลของกรดกำมะถันหรือไม่ แต่สื่อท้องถิ่นรายงานว่าพบการรั่วไหลของกรดกำมะถันและน้ำมันเชื้อเพลิงปริมาณเล็กน้อย อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นในพื้นที่ส่งผลทำให้การเข้าถึงจุดเกิดเหตุทำได้ลำบาก ที่มา : TNN24 วันที่ 28 ธ.ค. 58, เวลา 18.51 น. Link : http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=87185&t=news