จีนพัฒนา AI สแกนหาสิ่งผิดกฎหมาย แม่นยำร้อยละ 95

Loading

ไชน่าเดลี่ สื่อจีนรายงาน (26 เม.ย.) จีนพัฒนาปัญญาประดิษฐ์สำหรับระบบตรวจความปลอดภัย ซึ่งสามารถสแกนหาสิ่งผิดกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว รายงานระบุว่า บริษัท ไชน่าแอโร่สเปซ ซายแอนด์อินดัสเทรียล คอร์ป (China Aerospace Science and Industry Corp หรือ CASIC) หนึ่งในกิจการด้านอวกาศจีน พัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถแสกนหาวัตถุผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นโลหะหรืออโลหะที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อผ้าได้ภายในเวลาเพียง 0.7 วินาที ด้วยความแม่นยำถึงร้อยละ 95 บริษัทฯ ออกแบบระบบดังกล่าวเพื่อใช้ในจุดตรวจความปลอดภัยที่มีผู้คนต้องใช้บริการเป็นจำนวนมาก เช่น สนามบิน และสถานีรถไฟ โดยผู้ที่จะถูกตรวจสอบเพียงแค่ยกมือเหนือศรีษะเดินผ่านเครื่องตรวจ ทำให้สามารถลดระยะเวลาในการตรวจรวมถึงหางแถวสะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในปัจจุบัน ระบบการตรวจสอบความปลอดภัยในบริเวณสำคัญของจีนมักเป็นระบบเอ็กซเรย์ ซึ่งใช้แรงงานคนจำนวนมากและเสียเวลานาน นอกจากนี้ ยังส่งผลข้างเคียงทางรังสีในบางกรณี นายหู หลิน วิศวะกรผู้ออกแบบระบบดังกล่าวเปิดเผยว่า ระบบสแกนแบบใหม่ใช้รังสีแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งมีความเข้มข้นเพียง 1 ใน 1,000 ของสัญญาณโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันเท่านั้น นอกจากนี้ ยังช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยการเบลอภาพหน้าและส่วนสงวนของผู้เขารับการตรวจสอบอีกด้วย โดยระบบปัญญาประดิษฐ์จะจดจำวัตถุผิดกฎหมายในรูปแบบใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ระบบฯ ใหม่นี้อยู่ระหว่างการทดลองใช้เต็มรูปแบบที่ท่าอากาศยานนานาชาติในนครปักกิ่ง —————————————————————–…

เตือนระวังมัลแวร์ตัวใหม่ โจมตีแล้ว 17 ปท. ลามถึงไทย ห้ามดาวน์โหลดไฟล์แปลกปลอม ไม่รู้ที่มา

Loading

    กระทรวงดิจิทัลฯ ตรวจพบ กลุ่มแฮกเกอร์ “Hidden Cobra” ใช้ชื่อปฏิบัติการว่า “GhostSecret” ใช้เซิร์ฟเวอร์ในไทยโจมตี ภาคการเงิน หน่วยงานโครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจบันเทิง และสาธารณสุข ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย นอกจากห้ามโหลดไฟล์ที่ไม่รู้ที่มาแล้ว ควรอัปเดตระบบปฏิบัติการรวมถึงโปรแกรมป้องกันไวรัสให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะโฆษกกระทรวงฯ เปิดเผยว่า ศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ไทยเซิร์ต) สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หน่วยงานสังกัดกระทรวงดิจิทัลฯ ได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2561 บริษัท McAfee ได้เผยแพร่การค้นพบปฏิบัติการโจมตีขโมยข้อมูลด้วยมัลแวร์ (Malware) ซึ่งมุ่งเป้าไปยังหน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ หน่วยงานภาคอุตสาหกรรมบันเทิง ภาคการเงิน และภาคสาธารณสุข ในประเทศต่างๆ กว่า 17 ประเทศ รวมถึงประเทศไทยที่พบ 45 ระบบ ถูกโจมตีด้วยมัลแวร์ดังกล่าว โดยเริ่มพบตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2561 ซึ่งปฏิบัติการนี้ถูกตั้งชื่อว่า GhostSecret…

รูปแบบคล้ายกรณี Hidden Cobra! มธ.แจงแก้ปัญหาถูกแฮกเซิร์ฟเวอร์ตั้งฐานจารกรรมหลาย ปท.แล้ว

Loading

  ธรรมศาสตร์ แจงเพิ่มมาตรการป้องกันความปลอดภัยเข้มงวดแล้ว หลังเกิดปัญหา McAfee ตรวจพบเซิร์ฟเวอร์ถูกควบคุมการทำงานใช้เป็นฐานจารกรรมหลายประเทศ รูปแบบคล้ายกรณี Hidden Cobra ที่กองทัพแฮกเกอร์เกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลัง ยันประสานงานไทยเซิร์ต ทำตามคำแนะนำแก้ปัญหาเร่งด่วนทันที ตัดการเชื่อมต่อระบบเครือข่าย ตรวจสอบไม่พบความเสียหายต่อระบบภายในมหาวิทยาลัย สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข้อมูลกรณี McAfee (โปรแกรมเอกชนที่ใช้ตรวจสอบไวรัสในคอมพิวเตอร์ ทำให้คอมพิวเตอร์ปลอดภัยจากไวรัสและสปายแวร์ต่างๆ) ตรวจสอบพบแฮกเกอร์เกาหลีเหนือใช้เซิฟเวอร์ประเทศไทยในการจารกรรมข้อมูลจาก 17 ประเทศ โดยระบุที่ตั้ง server ที่ใช้จารกรรมข้อมูลดังกล่าวนั้นตั้งอยู่ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยเบื้องต้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบของศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ThaiCERT) หน่วยงานในสังกัดสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์หรือ เอ็ตด้า นั้น (อ่านประกอบ : เรื่องใหญ่! เมื่อ McAfee ตรวจพบเกาหลีเหนือใช้ server (ธรรมศาสตร์) จารกรรมข้อมูล17ปท.ทั่วโลก?) ล่าสุดมหาวิทยาลัยธรรมาศาสตร์ ได้ออกข่าวประชาสัมพันธ์ อ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ ดร.ปกป้อง ส่องเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ (สทส.) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่า จากกรณีกระแสข่าวมีนักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก McAfee รายงานว่าช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เซิร์ฟเวอร์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์บางเครื่องถูกเข้ามาควบคุมการทำงานบางส่วนโดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้เป็นฐานสำหรับการพยายามไปควบคุมการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์อื่นในหลายประเทศ…

เรื่องใหญ่! เมื่อ McAfee ตรวจพบเกาหลีเหนือใช้ server (ธรรมศาสตร์) จารกรรมข้อมูล17ปท.ทั่วโลก?

Loading

  “…ศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ThaiCERT) หน่วยงานในสังกัดสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์หรือเอ็ตด้า ประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (25 เมษายน 2561) ว่าได้มีการระงับเซิร์ฟเวอร์ซึ่งถูกใช้ในปฏิบัติการของแฮกเกอร์แล้วและส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีการรายงานว่าเซิร์ฟเวอร์นี้ตั้งอยู่ที่ Thai National Legislative University (มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) ..” นับเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทย และไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด! เมื่อ ดร.นพนันท์ อรุณวงศ์ ณ อยุธยา โพสต์ข้อมูลในเฟซบุ๊ก ส่วนตัว ที่ใช้ชื่อว่า noppanan arunvongse na ayudhaya ระบุว่า Security Online/McAfee รายงาน เกาหลีเหนือใช้ server ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยจารกรรมข้อมูล 17 ประเทศทั่วโลก โดย server ที่เกาหลีเหนือใช้จารกรรมข้อมูลดังกล่าวนั้นตั้งอยู่ที่ “วิทยาลัยของรัฐสภาไทย (National Legislative University)” ในกรุงเทพฯ หมายเหตุ รายงานต้นทางของ McAfee ระบุว่า sever ดังกล่าวนั้นคือ server ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์…

บึ้ม!กลางอัฟกานิสถาน ดับเกือบ 40 ราย

Loading

เกิดเหตุระเบิดในเมืองกันดาฮาร์ ของประเทศอัฟกานิสถานถึง 2 ครั้งในวันเดียวกัน ทำให้นักข่าวเสียชีวิต 1 ราย โดยล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 38 คน ขณะที่สหรัฐฯและยูเอ็นประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนี้ (1 พ.ค. 61) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มือระเบิดปลิดชีพตนเอง 1 คนก่อเหตุระเบิดในจังหวัดกันดาฮาร์ทางใต้ของอัฟกานิสถานเมื่อวานนี้ (30 เม.ย.) โดยมีเป้าหมายที่ขบวนรถของทหารนาโต้ แต่ผู้เสียชีวิตกลับเป็นเด็กนักเรียน 11 คนที่อยู่ในโรงเรียนสอนศาสนาที่ตั้งอยู่ริมถนน ใกล้กับจุดที่เกิดเหตุระเบิดและมีผู้บาดเจ็บอีก 16 คน โดยเป็นทหารนาโต้จากโรมาเนีย 8 คน นอกนี้เป็นตำรวจและพลเรือนอัฟกานิสถานอีก 8 คน โดยเหตุระเบิดที่กันดาฮาร์ดังกล่าวยังเกิดขึ้นในวันเดียวกับเหตุระเบิดปลิดชีพตนเอง 2 ครั้งซ้อนในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 26 คน ซึ่งรวมถึงผู้สื่อข่าวและช่างภาพ 9 คนและมีผู้บาดเจ็บอีก 49 คน ขณะที่ในวันเดียวกัน เกิดเหตุผู้สื่อข่าวชาวอัฟกานิสถาน 1 คนของสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ ภาคภาษาอัฟกานิสถาน ถูกยิงเสียชีวิตในเมืองคอสต์ ทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตใน 3 เมืองดังกล่าวเพิ่มเป็น 38 คน ซึ่งรวมถึงผู้สื่อข่าวและช่างภาพที่เสียชีวิตมากถึง 10 คนด้วย นับเป็นวันที่มีสื่อมวลชนเสียชีวิตมากที่สุดในอัฟกานิสถานในรอบ 17 ปีนับตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา ด้านกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกมาอ้างความรับผิดชอบเฉพาะเหตุระเบิด 2 ครั้งซ้อนในกรุงคาบูล ทั้งนี้ นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯคนใหม่ ประณามเหตุระเบิดและเหตุร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (30 เม.ย.) ในอัฟกานิสถาน ซึ่งโฆษกของนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นร่วมประณามด้วย ที่มา : TNN24 1 พ.ค. 61, 13.37 น. ลิงค์ : http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=166302&t=news

ส่องภาพบอดี้การ์ดสุดเท่ของคิมจองอึน

Loading

  โลกโซเชียลแห่แชร์ภาพบอดี้การ์ดส่วนตัวของผู้นำคิม ขณะเยือนเกาหลีใต้ นับว่าเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ของคาบสมุทรเกาหลี สำหรับการพบกันของนายคิมจองอีน และประธานาธิบดีมุนแจอิน เมื่อวานนี้ (27 เมษายน) ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นการหารือทั้งสองได้ลงนามในปฏิญาณปันมุนจอมร่วมกัน     ทั้งนี้มีรายงานว่าภายหลังการปรากฏตัวของนายคิมจองอึน ที่บริเวณพรมแดนของสองเกาหลี ซึ่งเดินทางมาด้วยรถยนต์เมอร์ซิเดส – เบนซ์ เอสคลาส ลิมูซีน พร้อมด้วยบรรดาบอดี้การ์ดสุดสมาร์ททั้ง 12 นาย วิ่งตามรถยนต์ของนายคิม เพื่อคอยอารักขาผู้นำของพวกเขา ทันทีที่ภาพนี้ปรากฏต่อสื่อ ได้กลายเป็นกระแสบนโลกโซเชียลมีเดียทันที มีการแชร์ภาพและคลิปวิดิโอขณะที่บรรดาบอดี้การ์ดทั้ง 12 นายวิ่งตามอารักขารอบรถยนต์ของนายคิมตลอดการเยือนปันมุนจอม โดยชาวเน็ตบางคนต่างแซวว่า การรับหน้าที่วิ่งตามรถยนต์ของนายคิมนั้น เหมือนเป็นการออกกำลังการแบบคาดิโอที่ดี     องครักษ์ตระกูลคิม? สำหรับบอดี้การ์ดเหล่านี้มาจากหน่วย Supreme Guard Command หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ยูนิต 963” โดยหน่วยดังกล่าวมีหน้าที่เพื่อเป็นองครักษ์คุ้มกันครอบครัวคิมโดยเฉพาะ โดยเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าทำงานในหน่วยนี้จะต้องผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้น จากคำให้สัมภาษณ์ของนายลียองกุก อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยอารักษ์ขานายคิมจองอิล ซึ่งภายหลังได้ขอลี้ภัยในประเทศแคนาดา   นายลี ยอง กุก กล่าวว่า การสรรหาคัดเลือกองค์รักษ์ประจำหน่วยนี้จะคัดเลือกจากบรรดาเด็กหนุ่มๆ ในโรงเรียนมัธยมทั่วเกาหลีเหนือตั้งแต่เด็กๆ จากนั้นจะมีการทดสอบความรู้ขั้นพื้นฐาน…