หวั่นจีนเกี่ยวข้อง หลังตรวจพบสิ่งปลูกสร้างทางกองทัพบนเกาะของเมียนมา

Loading

    ตรวจพบสิ่งปลูกสร้างทางกองทัพอยู่บนเกาะ Great Coco ของเมียนมา ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่เกาะ Andaman and Nicobar ของอินเดียไปเพียง 55 กิโลเมตร ขณะที่จีนออกมาปฏิเสธ ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการสร้างฐานลาดตระเวณบนเกาะของเมียนมา   นับตั้งแต่ต้นทศวรรษที่ 1990 เกาะ Great Coco ของเมียนมา ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ อันห่างไกล ตั้งอยู่ในอ่าวเบงกอล ก็ตกเป็นประเด็นมาตลอด หลังจากมีข่าวลือว่า เกาะนี้เป็นที่ตั้งหน่วยงานข่าวกรองของจีน แม้จะขาดหลักฐานยืนยัน แต่ล่าสุด ก็มีข่าวทำนองนี้เกิดขึ้นมาอีก   ภาพถ่ายดาวเทียมเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นสัญญาณว่า มีสิ่งปลูกสร้างทางทหารที่ทันสมัยผุดขึ้นมาบนเกาะ จากรายงานของ Chatham House สถาบันจัดวางนโยบายอิสระตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน ของอังกฤษ สิ่งปลูกสร้างประกอบไปด้วยรันเวย์ยาว 2,300 เมตร และสถานีเรดาร์ ตลอดจนโรงเก็บเครื่องบินใหม่ 2 แห่ง ทั้งยังมีถนนที่สร้างใหม่ เชื่อมไปสู่อีกเกาะที่เล็กกว่า เพียงเท่านี้ก็ชี้ชัดว่า น่าจะมีการก่อสร้างสิ่งอื่นๆ ตามมาอีกในอนาคต      …

พบมัลแวร์ใหม่บน Android หลบเลี่ยงการตรวจจับจาก Antivirus ได้

Loading

    ใครที่ใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ตอนนี้ต้องระวังตัวให้ดี เพราะมีมัลแวร์ใหม่บน Android หลบเลี่ยงการตรวจจับจาก Antivirus ได้ โดยมันพุ่งเป้าที่ข้อมูลสำคัญๆ อย่างข้อมูลธนาคาร รวมถึงล็อกไฟล์เพื่อเรียกค่าไถ่ได้   ผู้เชี่ยวชาญจาก CloudSEK ได้ออกมาเตือนภัยคุกคามใหม่บนแอนดรอนด์ที่มีชื่อว่า Daam มันเป็นมัลแวร์ที่ออกแบบมาให้จู่โจมได้ทั้งสมาร์ทโฟนและพีซีที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows (แต่ส่วนใหญ่พบบนมือถือมากกว่า)   ความสามารถของมันคือ สามารถแอบบันทึกเสียงจากมือถือโดยที่เจ้าของเครื่องไม่รู้ตัว แอบอ่านบันทึกการโทร ขโมยรายชื่อติดต่อ แม้แต่การใช้งานการโทรผ่านแอปอย่าง WhatsApp ก็ยังบันทึกได้ นั่นหมายความว่าถ้าเราเผยข้อมูลระหว่างคุยสาย เช่น ข้อมูลธนาคาร ก็อาจจะโดนขโมยข้อมูลได้อย่างง่ายดาย   มัลแวร์ตัวนี้แพร่กระจายมาจากการโหลดแอปจากเว็บภายนอกที่ไม่ใช่ Play Store ดังนั้น การป้องกันตัวเบื้องต้นก็คือ อย่าโหลดแอปจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่ Play Store ต่อมาคือการอ่านรีวิวของคนที่โหลดไปก่อนหน้านี้ รวมถึงอัปเดตระบบความปลอดภัยให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ         ที่มา The Sun         —————————————————————————————————————————————— ที่มา…

สลด! เหตุแก๊สรั่วในอินเดีย ดับแล้ว 11 ราย ยังหมดสติอีก 4 คน

Loading

    เกิดเหตุแก๊สรั่วในอินเดีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน นับเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงทางอุตสาหกรรมครั้งล่าสุดของประเทศ   สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ว่า อุบัติเหตุแก๊สรั่วเกิดขึ้นที่เขตกีอัสปุระ ของเมืองลุธิอาณา ในรัฐปัญจาบ ทางตอนเหนือของอินเดีย   “มีผู้เสียชีวิตที่ยืนยันแล้ว 11 ราย” เจ้าหน้าที่มันดีป สิงห์ สิธู อธิบดีตำรวจเมืองลุธิอาณา กล่าวเพิ่มเติมว่า มีชาวอินเดีย 4 คนในบริเวณจุดเกิดเหตุ ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาล และยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัดของการรั่วไหลดังกล่าว   “เมื่อตัวอย่างเลือดตรงกับตัวอย่าง ที่กองกำลังรับมือภัยพิบัติแห่งชาติของอินเดีย (เอ็นดีอาร์เอฟ) เก็บมา เราจะสามารถบอกได้ว่า สาเหตุแท้จริงคือก๊าซชนิดใด” สิงห์ สิธู กล่าว   India: Two kids among 11 dead after gas leak in…

เออร์โดกันประกาศชัย หน่วยสืบราชการลับตุรกีสังหารผู้นำกลุ่มรัฐอิสลามได้แล้วในซีเรีย

Loading

    ข่าวต่างประเทศ Monday May 1, 2023 08:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)   ประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ (30 เม.ย.) ว่า หน่วยสืบราชการลับของตุรกีสังหารนายอาบู ฮุสเซน อัล-กูราชี ผู้นำกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ลงได้สำเร็จ   “บุคคลนี้สิ้นฤทธิ์แล้ว โดยเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการโดยองค์กรข่าวกรองแห่งชาติของตุรกีในซีเรียเมื่อวานนี้” ปธน.เออร์โดกันกล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ TRT Turk   ปธน.เออร์โดกันกล่าวว่า องค์กรข่าวกรองติดตามนายอัล-กูราชีมาเป็นเวลานานแล้ว   คนท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงในซีเรียกล่าวว่า การโจมตีเกิดขึ้นในเมืองจันดาริส ทางตอนเหนือของซีเรีย ซึ่งถูกควบคุมโดยกลุ่มกบฏที่ตุรกีสนับสนุน และเป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 6 ก.พ. ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งตุรกีและซีเรีย   คนในพื้นที่รายหนึ่งกล่าวว่า การปะทะกันเริ่มขึ้นที่ชายขอบเมืองจันดาริสตั้งแต่คืนวันเสาร์ (29 เม.ย.) จนถึงเช้าวันอาทิตย์ นานประมาณหนึ่งชั่วโมง จากนั้นชาวบ้านก็ได้ยินเสียงระเบิดขนาดใหญ่   ต่อมา กองกำลังรักษาความปลอดภัยได้ปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าวเพื่อไม่ให้ประชาชนเข้าใกล้พื้นที่  …

สหรัฐฯ อพยพพลเมืองอเมริกันชุดแรกหนีสงครามกลางเมืองซูดาน

Loading

    ชาวอเมริกันหลายร้อยคนเดินทางออกจากซูดานผ่านทางท่าเรือเมื่อวันเสาร์ ถือเป็นพลเมืองอเมริกันชุดแรกที่อพยพออกจากซูดานโดยความช่วยเหลือของรัฐบาลสหรัฐฯ หลังจากเกิดการสู้รบกลางเมืองในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาระหว่างกองทัพบกซูดานกับกองกำลังกึ่งทหาร   เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ของสหรัฐฯ เฝ้าจับตาและคุ้มกันการอพยพประชาชนอเมริกันจำนวน 200-300 คนดังกล่าว ซึ่งเริ่มต้นจากการเดินทางด้วยขบวนรถโดยสารเป็นระยะทางกว่า 800 กิโลเมตรไปยังพอร์ตซูดาน เพื่อขึ้นเรือโดยสารข้ามทะเลแดงมุ่งหน้าไปยังซาอุดิอาระเบียที่ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่การทูตของรัฐบาลสหรัฐฯ รอให้ความช่วยเหลือ   ก่อนหน้านี้ ครอบครัวของชาวอเมริกันที่ติดอยู่ในซูดานวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลกรุงวอชิงตันที่ไม่ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังซูดานเพื่อช่วยอพยพพลเมืองอเมริกันออกมา โดยคาดว่ามีชาวอเมริกันอาศัยอยู่ในซูดานราว 16,000 คนที่ต้องการลี้ภัยหนีสงครามกลางเมือง   เมื่อวันที่ 22 เมษายน กองกำลังพิเศษของอเมริกาเดินทางไปยังกรุงคาร์ทูมเพื่อช่วยเหลือนำบรรดาเจ้าหน้าที่การทูตและเจ้าหน้าที่รัฐบาลอเมริกันออกจากซูดานไปล่วงหน้าแล้ว พร้อมสั่งปิดสถานทูตสหรัฐฯ ในซูดาน แต่ยังมีพลเมืองอเมริกันจำนวนมากที่ตกค้างอยู่ในซูดาน     จนถึงขณะนี้ มากกว่าสิบประเทศ ได้นำตัวพลเมืองของตนออกมาจากซูดานแล้ว โดยใช้หลายวิธีด้วยกัน รวมถึงขบวนรถโดยสาร เครื่องบินทหาร เรือของกองทัพเรือ และเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน รวมทั้งประเทศไทยที่ได้ส่งเครื่องบินไปรับตัวพลเมืองชาวไทยออกจากซูดานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา   นับตั้งแต่การสู้รบของกองทัพบกซูดานและกองกำลังกึ่งทหารเคลื่อนที่เร็ว หรือ อาร์เอสเอฟ ปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 15 เมษายน สหรัฐฯ ได้ประกาศเตือนพลเมืองของตนให้หาทางหนีออกมาจากซูดาน รวมทั้งพยายามติดต่อไปยังประเทศอื่นเพื่อช่วยเหลือในการอพยพชาวอเมริกันออกจากพื้นที่สู้รบ ก่อนที่จะตัดสินใจจัดขบวนรถโดยสารไปรับพบเมืองอเมริกันกลับบ้าน…

ซูดานสู้รบเดือด กองทัพถล่มโจมตีทั้งทางบกและทางอากาศ แม้ข้อตกลงหยุดยิงยังไม่สิ้นสุด

Loading

    การสู้รบในซูดานยังคงดุเดือดโดยเฉพาะในกรุงคาร์ทูมเมืองหลวงของประเทศซูดาน แม้ข้อตกลงหยุดยิงครั้งล่าสุดยังไม่สิ้นสุดลงก็ตาม โดยในวันนี้ (30 เมษายน) กองทัพซูดานเปิดเผยว่า ทหารฝ่ายตนได้เปิดฉากโจมตีทุกทิศทางทั้งทางอากาศและภาคพื้น เพื่อเอาชนะกองกำลังกึ่งทหาร Rapid Support Forces (RSF)   สำหรับการหยุดยิงระยะเวลา 72 ชั่วโมงที่ทั้งสองฝ่ายได้ทำข้อตกลงกันครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 27 เมษายน จะมีกำหนดสิ้นสุดลงในช่วงคืนวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ชาติต่างๆ ยังคงเดินหน้าเร่งอพยพพลเมืองของตนออกจากซูดานท่ามกลางสถานการณ์โกลาหล ส่วนประชาชนหลายล้านคนยังคงปักหลักอยู่ในกรุงคาร์ทูมที่มีสภาพไม่ต่างจากสมรภูมิรบ สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือน้ำและอาหารในพื้นที่ดังกล่าวเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ   ส่วนสถานการณ์เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (29 เมษายน) การสู้รบในซูดานเป็นไปอย่างดุเดือด โดยกองทัพซูดานระบุว่า มีการโจมตีกองกำลัง RSF ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมือง ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าให้สำนักข่าว Reuters ฟังว่า โดรนของกองทัพเข้าโจมตีกองกำลัง RSF ซึ่งประจำอยู่ใกล้กับโรงกลั่นน้ำมันใหญ่ของประเทศ   พอล อดัมส์ ผู้สื่อข่าวทางการทูตของสำนักข่าว BBC เปิดเผยว่า กองทัพซูดานไม่สามารถขับไล่กองกำลัง RSF ออกจากกรุงคาร์ทูมได้โดยง่าย เพราะถึงแม้กองทัพจะมีอาวุธที่ทรงพลังกว่า แต่กองกำลัง RSF นั้นมีความคล่องตัวสูง และเชี่ยวชาญการสู้รบในเขตเมืองมากกว่า  …