สั่งตั้งวอร์รูมรวมทุกหน่วยการข่าวสกรีนเข้ม กลุ่มเคลื่อนไหวช่วงประชุมเอเปก

Loading

  วงถกสภากลาโหม “หน่วยงานข่าวกรอง” รายงานจับตาทุกกลุ่มเคลื่อนไหวอาจก่อความรุนแรงช่วงประชุมเอเปก ตั้งวอร์รูมรวมทุกหน่วยการข่าวสกรีนเข้ม พร้อมวาง 3 แผนรักษาความปลอดภัย   เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 10/2565 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน หน่วยงานด้านการข่าวได้สรุปกลุ่มเฝ้าระวัง กลุ่มที่เคลื่อนไหวอาจจะกระทบภาพลักษณ์ประเทศ เป็นกลุ่มที่ต้องจับตา รวมถึงกลุ่มที่เคยก่อความรุนแรงทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องจับตาด้วยเช่นกัน ในการประชุมเอเปก   ทั้งนี้ จะมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านการข่าวส่วนหน้า โดยมีสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) เป็นแกนหลัก กองบัญชาการตำรวจสันติบาล หน่วยข่าวกรองทางทหาร (ขกท.) และศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมแผนรักษาความปลอดภัยโดยแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.เส้นทาง 2.สถานที่ และ 3.ผู้นำ ทั้งนี้ ขณะนี้สถานการณ์ในภาพรวมยังไม่พบการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ   ด้าน พ.อ.จิตนาถ ปุณโณทก รองโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหม…

‘ไอเอส’ อ้างโจมตี มัสยิดอิหร่าน ดับ 15 ราย รัฐบาลลั่น ‘เอาคืนอย่างสาสม’

Loading

  มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ศพ ในเหตุโจมตีมัสยิดทางตอนใต้ของอิหร่าน ซึ่งกลุ่มไอเอสอ้างเป็นผู้ลงมือ ด้านรัฐบาลอิหร่านยืนยัน เตรียมตอบโต้   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ว่าสำนักข่าวแห่งชาติของอิหร่านรายงาน “เหตุก่อการร้ายโดยพวกทักฟิรี” ซึ่งเป็นคำที่รัฐบาลเตหะรานใช้เรียกแทนกลุ่มหัวรุนแรงสุหนี่ ภายในมัสยิดชาห์ เชอรักห์ ซึ่งเป็นศาสนสถานขนาดใหญ่ ในเมืองชีราซ ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกประมาณ 40 คน   รูกระสุนบนกำแพงของมัสยิด ชาห์ เชอรักห์ ในเมืองชีราซของอิหร่าน   หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มไอเอสประกาศผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ของตัวเอง รับสมอ้างเป็นผู้ก่อเหตุ ขณะที่จำนวนคนร้ายยังไม่เป็นที่ชัดเจน โดยสื่อรายงานว่า มีทั้งคนเดียวและอย่างน้อย 3 คน ส่วนรูปแบบของการลงมือเป็นการกราดยิง   Semi-official Tasnim News agency with links to the IRGC publishes…

กระอัก ออสเตรเลีย ถูกเจาะระบบซ้ำ ข้อมูลสุขภาพรั่วไหล 4 ล้านคน

Loading

  วันที่ 26 ต.ค. เอเอฟพี รายงานว่า นักเจาะระบบคอมพิวเตอร์หรือแฮ็กเกอร์ลักลอบเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวทางด้านสุขภาพนับล้านรายการภายในบริษัทเมดิแบงก์ หนึ่งในเอกชนทำธุรกิจด้านการประกันสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ออสเตรเลีย คาดว่าข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลไปถึง 3.9 ล้านคน ส่งผลให้รัฐบาลออกมายอมรับว่าบรรดาเอกชนยังมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ไม่เพียงพอ   การเจาะระบบล่าสุดเกิดหลังการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่แฮกเกอร์ลักลอบเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งานของบริษัทออพตัส ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารรายใหญ่ในออสเตรเลีย ส่งผลให้ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ากว่า 9 ล้านคนรั่วไหล นับเป็นหนึ่งในการเจาะระบบครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของออสเตรเลีย   นายมาร์ก เดรย์ฟัส อัยการสูงสุดออสเตรเลีย กล่าวว่า บรรดาเอกชนเหล่านี้กำลังเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ามากเกินความจำเป็นและล้มเหลวในการปกป้องข้อมูลเหล่านี้ พร้อมขู่จะลงโทษบรรดาเอกชนขั้นสูงสุดด้วยค่าปรับกว่า 1.2 พันล้านบาท ขณะที่นางแคลร์ โอนีล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายใน (เทียบเท่ามหาดไทย) ยอมรับว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเกินเยียวยา     ———————————————————————————————————————————————— ที่มา :                          ข่าวสดออนไลน์       …

ศาลสูงสุดบราซิลลงมติ “แบนข่าวปลอม” ก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดี

Loading

  สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ศาลสูงสุดของรัฐบาลกลางบราซิลได้ลงมติสนับสนุนคำตัดสินของศาลสูงสุดแผนกคดีเลือกตั้ง (TSE) ในการเร่งติดตามการลบข่าวปลอมออกจากสื่อสังคมออนไลน์ในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี   ศาลสูงสุดของรัฐบาลกลางบราซิล ประกาศยกคำร้องที่ยื่นโดยสำนักงานอัยการระหว่างการพิจารณาคดีเมื่อวันอาทิตย์ (23 ต.ค.) เพื่อระงับมติของศาลสูงสุดแผนกคดีเลือกตั้งบางส่วน โดยอ้างว่ามีความเสี่ยงต่อการถูกเซ็นเซอร์   คณะผู้พิพากษา 6 คนลงมติเห็นชอบคำตัดสินดังกล่าว ซึ่งเป็นเสียงส่วนมากอันเพียงพอที่จะสนับสนุนมาตรการนี้ ขณะที่สมาชิกศาลสูงสุดคนอื่น ๆ ยังคงมีเวลาในการลงคะแนนจนถึงเที่ยงคืน   มติของศาลสูงสุดแผนกคดีเลือกตั้งมอบอำนาจสั่งการให้เว็บไซต์ต่าง ๆ ลบเนื้อหาที่ถูกจัดเป็นข่าวปลอมภายในเวลา 2 ชั่วโมง โดยข่าวปลอมต่าง ๆ จะต้องถูกลบออกภายในเวลา 1 ชั่วโมงเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ (29 ต.ค.) ก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดี (30 ต.ค.)   นอกจากนี้ ศาลสูงสุดแผนกคดีเลือกตั้งยังสามารถระงับช่องทางที่เผยแพร่ข่าวปลอมซ้ำ ๆ ได้     ———————————————————————————————————————————————— ที่มา :                   สำนักข่าวอินโฟเควสท์ …

หลอกให้โหลด โจมตีรูปแบบใหม่ Dormant Colours

Loading

  นักวิจัยที่ Guardio Labs ได้ตรวจพบแคมเปญการโจมตีใหม่โดยใช้งานส่วนขยายของ Chrome Web Store เป็นสื่อกลางในการเข้าถึงผู้ใช้งาน   ส่วนขยายทั้งหมดเป็นตัวเลือกที่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนสีต่าง ๆ ของหน้าเว็บเบราว์เซอร์ ซึ่งมีมากกว่า 30 ตัว และมียอดดาวน์โหลดรวมกันมากกว่า 1 ล้านครั้ง   แอปทั้งหมดสามารถผ่านระบบตรวจสอบของ Google เบื้องต้นได้ เพราะแอปเหล่านี้จะทำตัวเองให้ดูเหมือนว่าปลอดภัย ซึ่งจะสามารถหลบเลี่ยงการตรวจสอบความปลอดภัยได้ นักวิเคราะห์จึงตั้งชื่อแคมเปญนี้ว่า “Dormant Colours” (Dormant แปลว่า สงบเงียบ หรืออยู่เฉย ๆ )   การติดไวรัสเริ่มต้นด้วยการที่ผู้ใช้คลิกโฆษณาหรือลิงก์แปลก ๆ เช่นลิงก์ดูวีดิโอหรือลิงก์โหลดโปรแกรม โดยเมื่อคลิกไปแล้ว เราจะถูกเปลี่ยนเส้นทางไปจากหน้าต่างใหม่ที่พยายามจะให้เราติดตั้งส่วนขยายเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถเปิดดูวีดิโอได้หรือดาวน์โหลดโปรแกรมได้สำเร็จครับ   แน่นอนว่า ในการติดตั้งนั้นจะไม่มีมัลแวร์ติดตั้ง แอปจะทำหน้าที่ของมันตามปกติ แต่เมื่อติดตั้งไปสักพัก ส่วนขยายเหล่านี้จะพยายามดาวน์โหลดส่วนเสริมที่อันตรายมาติดตั้งในเครื่อง หรือแม้กระทั่งแทรกลิงก์ฟิชชิ่งที่พยายามจะขโมยบัญชี Microsoft 365 หรือ Google Workspace ครับ  …

ตร.รวบหญิงอินโด หลังโบกปืนหน้าทำเนียบประธานาธิบดี

Loading

AP   ตร.รวบหญิงอินโด หลังโบกปืนหน้าทำเนียบประธานาธิบดี   สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 25 ตุลาคมว่า เจ้าหน้าที่ทางการอินโดนีเซียจับกุมหญิงชาวอินโดนีเซียรายหนึ่ง หลังถือปืนป้วนเปี้ยนอยู่ด้านนอกวังเมอร์เดกา ซึ่งเป็นทำเนียบประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ในกรุงจาการ์ตา อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ไม่ได้อยู่ในทำเนียบขณะเกิดเหตุ และไม่มีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว   เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดีเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.00 น.ของวันเดียวกันนี้ โดยหญิงอายุระหว่าง 20-30 ปีคนดังกล่าว สวมนิกอบ ในมือถือคัมภีร์อัลกุรอาน และโบกปืนไปมาอยู่ใกล้ทำเนียบของประธานาธิบดีวิโดโด ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรีบจับตัวหญิงคนดังกล่าวในทันที อย่างไรก็ดี หญิงคนดังกล่าวไม่ได้เข้าไปในเขตทำเนียบประธานาธิบดีแต่อย่างใด   โฆษกของตำรวจกรุงจาการ์ตาให้รายละเอียดว่าหญิงผู้ก่อเหตุกำลังอยู่ในระหว่างถูกสอบสวน และขณะนี้ยังไม่ทราบถึงเหตุจูงใจ หรือได้อาวุธดังกล่าวมาได้อย่างไร   ก่อนหน้านี้ ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ถูกโจมตีจากผู้ก่อการร้ายชาวมุสลิมบ่อยครั้ง ซึ่งบางครั้งผู้ก่อการร้ายจะมุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่รัฐ หรือกองกำลังรักษาความปลอดภัย       ——————————————————————————————————————————————————- ที่มา :               …