รับผิดชอบผลงาน! สื่อสหรัฐฯ ไล่ออกนักข่าว ปั่น ‘เฟกนิวส์’ รัสเซียยิงขีปนาวุธใส่โปแลนด์

Loading

  สำนักข่าวเอพี สื่อมวลชนสัญชาติสหรัฐฯ ไล่ออกผู้สื่อข่าวที่อยู่เบื้องหลังคำกล่าวอ้างที่ว่า ขีปนาวุธที่พุ่งตกในโปแลนด์ ชาติสมาชิกนาโต้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นการยิงโดยรัสเซีย ก่อนที่สำนักข่าวแห่งนี้จะกลับลำในเวลาต่อมา   ข่าวคราวสำนักข่าวเอพีได้ยกเลิกสัญญากับ เจมส์ ลาปอร์ตา ผู้สื่อข่าวเชิงสืบสวน ถูกเผยแพร่ออกมา หลังจากหนังสือพิมพ์ Daily Beast รายงานในวันจันทร์ (21 พ.ย.) ว่าทางเอพีได้มีการสืบสวนกันภายในอย่างรวบรัด และต่อมาข่าวคราวเกี่ยวกับการไล่ออก ลาปอร์ตา ก็ได้รับการยืนยันจากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ที่อ้างอิงแหล่งข่าวในสำนักข่าวเอพี   เมื่อวันอังคารที่แล้ว (15 พ.ย.) เอพีรายงานข่าวด่วน อ้างอิงเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสในหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ระบุว่าขีปนาวุธของรัสเซียพุ่งข้ามเข้าสู่ดินแดนของโปแลนด์ ชาติสมาชิกนาโต้ และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน   เหตุการณ์ลักษณะนี้เท่ากับว่าสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนได้ลุกลามบานปลายแล้ว เนื่องจากมันเป็นการโจมตีชาติสมาชิกของนาโต้ ซึ่งเสี่ยงโหมกระพือการตอบโต้จากกลุ่มพันธมิตรทหารแห่งนี้ เรื่องราวนี้ถูกสำนักข่าวอื่นๆ จำนวนมากหยิบยกนำไปเสนอต่อและกลายเป็นข่าวพาดหัวทั่วโลก   รัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้ทำการโจมตีใด ๆ ใกล้ชายแดนยูเครน-โปแลนด์ ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุในหมู่บ้านเชวาดูฟ (Przewodow) ก่อนต่อมาเจ้าหน้าที่จากโปแลนด์ สหรัฐฯ และอียู จะบอกว่ามีขีปนาวุธลูกเดียวที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ และมีความเป็นไปได้มากที่สุดที่มันจะถูกยิงออกมาจากฝ่ายยูเครน   ในเวลาต่อมา…

เปิดภาพวงจรปิดคนร้ายบุกเดี่ยวขับคาร์บอมบ์จอดแฟลตตำรวจ

Loading

  เหยียบจมูกตำรวจ คนร้ายพกปืนบุกเดี่ยวขับรถกระบะซุกระเบิดถังแก๊ส จอดในพื้นที่แฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส ก่อนมีเพื่อนขี่มอเตอร์ไซค์มารับหายลอยนวล จากนั้นเกิดระเบิดตูมสนั่น แฟลตเก่า 2 ชั้นพังทั้งแถบ เพลิงลุกท่วม รถที่จอดอยู่ใกล้เคียงเสียหายเพียบ สารวัตรปราบปรามโชคร้าย เสียชีวิตคาที่ ยอดผู้บาดเจ็บพุ่ง 31 ราย   ความคืบหน้าเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่แฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส ตรงข้ามโรงเรียนนราสิกขาลัย ถนนสุริยะประดิษฐ์ เทศบาลเมืองนราธิวาส อ.เมือง จ.นราธิวาส แรงระเบิดทำให้เกิดเพลิงไหม้ จนเจ้าหน้าที่ต้องส่งรถดับเพลิงเข้าฉีดน้ำสกัดเพลิง   หลังจากเพลิงสงบลง เจ้าหน้าที่ชุด อีโอดี หรือชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้อง พบอาคารแฟลต 2 ชั้นหลังเก่าด้านขวามือที่มีการต่อเติมเป็นเพิงหน้าบ้านพักเพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้จอดรถ ถูกอานุภาพของระเบิด ทำให้เพิงและอาคารแฟลตได้รับความเสียหาย 8 หลัง จากทั้งหมด 10 หลัง และอานุภาพของระเบิดยังส่งผลให้หลังคากระเบื้องชั้น 2 ได้รับความเสียหายไปด้วย โดยมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ได้รับความเสียหายอีกหลายคัน     จากการตรวจสอบพบว่า รถยนต์ที่คนร้ายนำมาทำเป็น “คาร์บอมบ์” เป็นรถกระบะ 4…

‘กทพ.-บช.ก’ จับมือเชื่อมข้อมูลแบบเรียลไทม์สกัดอาชญากรรมบนทางด่วน

Loading

  ‘กทพ.’จับมือ ‘ตำรวจสอบสวนกลาง’ลุยเชื่อมข้อมูลผู้ใช้ทางด่วนกับแบบเรียลไทม์ เดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อตรวจสอบป้องกันปราบปรามอาชญากรรม สร้างความมั่นคง–ปลอดภัยให้ประชาชน   22 พ.ย.2565-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์และแลกเปลี่ยนข้อมูลในระบบสารสนเทศ   ระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นเป็นมิติใหม่ในการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ในการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนให้เกิดการบูรณาการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องแบบเรียลไทม์   ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยให้กับประชาชน เป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีด้านความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงยกระดับการให้บริการประชาชนของทั้ง 2 หน่วยงาน เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติ โดย กทพ. จะทำการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลของผู้ใช้ทางพิเศษและข้อมูลอื่นๆ จากฐานข้อมูลระบบจราจรอัจฉริยะที่มีอยู่ในระบบสารสนเทศ ได้แก่ ฐานข้อมูลระบบจราจรอัจฉริยะ (ITS Center) ฐานข้อมูลระบบ Data Exchange Center และฐานข้อมูลระบบ Automatic Lane Control   อย่างไรก็ตามขณะที่ บช.ก. จะจัดให้มีมาตรการในการปกป้องคุ้มครองข้อมูลดังกล่าวมิให้ถูกละเมิด เป็นไปตามระเบียบที่คณะรัฐมนตรีกำหนดว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์ข้อมูลอาชญากรรม…

ตุรกีเล็งปฏิบัติการภาคพื้นดินในซีเรีย ตอบโต้นักรบเคิร์ด

Loading

  รัฐบาลอังการากำลังพิจารณาการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่บางส่วนของซีเรีย “เพื่อตอบโต้การใช้ความรุนแรง” จากการเคลื่อนไหวของกองกำลังนักรบเคิร์ด   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ว่าประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี กล่าวถึงการที่กองทัพตุรกีปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายหลายแห่งในภาคเหนือของอิรักและซีเรีย โดยระบุว่าเป็นฐานที่มั่นของกองกำลังชาวเคิร์ด ทั้งพรรคคนงานเคอร์ดิสถาน (พีเคเค) และกองกำลังป้องกันตนเองชาวเคิร์ด (วายพีจี) เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา “คือคำเตือน” ว่ากลุ่มคนใดก็ตามซึ่งหวังรุกรานอธิปไตยของตุรกี “ต้องได้รับบทเรียนอย่างสาสม”   Kurds in northern #Syria ?? who woke to deadly Turkish air strikes overnight expressed fear and anger on Sunday, accusing the US of abandoning them after they spearheaded the fight…

ยันอาวุธช่วยยูเครนยังไม่หลุดตลาดมืด

Loading

  เมื่อวันที่ 21 พ.ย. สำนักงานรับมือเหตุอาชญากรรมแห่งสหราชอาณาจักร (NCA) ออกแถลงการณ์ว่า ถึงยังไม่พบหลักฐานใด ๆ ว่าอาวุธสงครามที่ชาติตะวันตกส่งให้ยูเครนจะตกไปถึงมือแก๊งอาชญากร   แต่ตำรวจสากลอินเตอร์โปลและยูโรโปลอยู่ระหว่างจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะทุก ๆ ความขัดแย้งอาวุธจะถูกขายไปยังตลาดมืดและก็จะเป็นกลุ่มอาชญากรหรือก่อการร้ายที่ได้ครอบครอง พร้อมย้ำทางเอ็นซีเออยู่ระหว่างจับตาอย่างใกล้ชิด สำหรับอาวุธประเภทปืนสั้น ปืนกล และระเบิดมือ   ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เคยยอมรับว่าตามรอยอาวุธที่ส่งไปยูเครนไม่ได้ทั้งหมด ขณะที่กระทรวงต่างประเทศรัสเซียประเมินว่า ทุก ๆ เดือนมีอาวุธมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 37,000 ล้านบาท ถูกลักลอบขนออกจากยูเครน   วันเดียวกัน ทบวงพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) กล่าวเตือนว่าอย่าเล่นกับไฟ หลังเกิดเหตุยิงโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริชเชียของยูเครนที่อยู่ในความดูแลของกองทัพรัสเซียและขอให้ผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตียุติการกระทำที่รับไม่ได้โดยทันที พร้อมกล่าวเรียกสติว่า รัสเซีย-ยูเครนเคยตกลงกันว่าพื้นที่นี้จะเป็นเขตปลอดภัย.       ————————————————————————————————————————————————————— ที่มา :               …

องค์กรคุ้มครองสิทธิ์สหรัฐฯ เรียกร้องให้ศาลสูงสุดพิจารณาว่ารัฐควรมีติดใช้กล้องส่องประชาชนโดยไร้หมายได้หรือไม่

Loading

  องค์กรคุ้มครองสิทธิ์สหรัฐฯ หรือ American Civil Liberties Union (ACLU) ขอให้ศาลสูงสุดของสหรัฐฯ พิจารณาว่าควรอนุญาตให้กล้องวงจรปิดที่ตำรวจติดตั้งไว้บนเสาไฟฟ้าโดยไม่มีหมายศาลนั้นสามารถส่องดูประชาชนถึงในบ้านได้หรือไม่   ในคำขอของ ACLU มีเนื้อหาขอให้ศาลสูงพิจารณาผลการตัดสินของศาลระดับรองที่ไม่มีข้อยุติเกี่ยวกับสถานะทางกฎหมายของการติดตั้งกล้องวงจรปิดดังกล่าว   ก่อนหน้านี้ มีกรณีที่เจ้าหน้าที่จากสำนักงานแอลกอฮอล์ ยาสูบ อาวุธปืน และวัตถุระเบิด (ATF) ที่ใช้ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งในบริเวณบ้านของ แดฟนี มัวร์ (Daphne Moore) เพื่อใช้เป็นหลักฐานในคดีที่ฟ้อง นีอา มัวร์-บุช (Nia Moore-Bush) บุตรสาวของแดฟนี กับสามีในข้อหาขายอาวุธปืนที่ไม่มีใบอนุญาต รวมถึงการขายยาผิดกฎหมายด้วย   อย่างไรก็ดี มัวร์-บุช ร่วมกับจำเลยอีก 4 คน ได้ยื่นขอให้มีการตัดพยานหลักฐานที่ได้จากกล้องวงจรปิดออกไปเนื่องจากเป็นการติดตั้งโดยไม่มีหมายศาล ซึ่งศาลชั้นต้นไม่มีคำตัดสินชี้ขาด แต่ศาลอุทธรณ์ชี้ว่าการรวบรวมพยานหลักฐานดังกล่าวเป็นไปโดยสุจริต นำไปสู่การที่จำเลยยอมรับสารภาพในที่สุด   ด้วยเหตุนี้ ACLU จึงร้องขอให้ศาลสูงสุดของสหรัฐฯ มีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับการนำบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ 4 (Fourth Amendment) ที่ว่าด้วยสิทธิของพลเมืองในการรู้สึกปลอดภัยในเคหะสถานของตนเอง มาปรับใช้ในยุคปัจจุบันได้อย่างเหมาะสม  …