นักวิจัยพบ OnePlus, Xiaomi, Realme ที่ขายในจีน เก็บและส่งข้อมูลผู้ใช้เป็นจำนวนมาก

Loading

    นักวิจัยในสกอตแลนด์ 3 ราย เผยแพร่งานวิจัยที่ชื่อว่า Android OS Privacy Under the Loupe — A Tale from the East ที่ชี้ว่า สมาร์ทโฟน OnePlus, Xiaomi และ Oppo/Realme ที่ขายในจีน มีการเก็บข้อมูลผู้ใช้รวมถึงส่งข้อมูลออกไปเป็นจำนวนมาก แม้มือถือเครื่องนั้น จะไม่ได้อยู่ในจีนก็ตาม   นักวิจัยเน้นทดสอบไปที่แอปที่ถูกติดตั้งมากับเครื่องเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นแอปของแบรนด์เองหรือแอป third-party เช่น Baidu Input, Baidu Navigation แอปข่าว แอปสตรีมมิ่ง หรือแอปช็อปออนไลน์ ซึ่งนักวิจัยก็พบว่า ทั้ง 3 แบรนด์ มีการส่งข้อมูลที่ระบุตัวตนออกไปอย่างน่าเป็นห่วง ซึ่งส่งไปให้ทั้งแบรนด์มือถือ ผู้ให้บริการแอปอย่าง Baidu หรือโอเปอเรเตอร์ แม้มือถือนั้นจะไม่ได้ใส่ซิมจีน ไม่ได้อยู่ในจีน หรือแม้กระทั่งไม่ใส่ซิมเลยก็ตาม   ตัวอย่างข้อมูลที่มีการส่งออกก็ เช่น…

อัยการเตือนระวังมือถือหาย ลักทรัพย์ในสนามบิน โทษหนักกว่าลักทรัพย์ธรรมดา

Loading

      รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดย้ำระวังโทรศัพท์ถูกขโมยในสนามบิน ชี้ความผิดลักทรัพย์ในท่าอากาศยานโทษหนักกว่าลักทรัพย์ธรรมดา ส่วนคนรับของโจรก็ไม่รอด ครอบครัวจะเดือดร้อนไปด้วย     วันนี้ (7 ก.พ.) เฟซบุ๊ก “โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง” ของนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน และรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด โพสต์ข้อความเตือนภัย หัวข้อ “ระวัง..! โทรศัพท์ถูกขโมยในสนามบิน” ระบุว่า “ทักษะในการติดตามคืนโทรศัพท์มือถือ iPhone ถูกขโมยในสนามบิน มี ญ (นามสมมุติ) ผู้โดยสารใส่โทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเดินทางโหลดสัมภาระถูกคนร้ายขโมยโทรศัพท์ระหว่างการเคลื่อนย้ายสัมภาระในสนามบิน สนามบิน แม้จะมีการท่าอากาศยานฯ* และสายการบิน ที่จะต้องช่วยกันดูแลทรัพย์สินของผู้โดยสารที่เข้าออกสนามบินแล้ว แต่เหตุการณ์ทรัพย์สินของผู้โดยสารหายจากกระเป๋าเดินทางก็ยังคงเกิดขึ้นให้เห็นได้เรื่อย ๆ   ทักษะของ ญ รายนี้คือการใช้โปรแกรมตามหา iPhone นำทางไปจนพบบ้านคนร้ายที่ขโมยหรือรับโทรศัพท์ที่ขโมยมา แจ้งตำรวจร่วมเข้าไปสอบถามจนได้โทรศัพท์คืน มีการอ้างว่ารับต่อมาจากคนทำงานในสนามบินสองถึงสามช่วง รับฟังได้ว่าถูกขโมยออกจากกระเป๋าสัมภาระที่โหลดลงใต้ท้องเครื่อง   ลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน เป็นความผิดลักทรัพย์โทษหนักกว่าลักทรัพย์ธรรมดา มาตรา 335 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี และปรับตั้งแต่…

ไต้หวันเร่งพัฒนาโดรน ถอดบทเรียนจากศึกยูเครน-เสริมเขี้ยวเล็บกองทัพ

Loading

    ไต้หวันเร่งพัฒนาโดรน – วันที่ 7 ก.พ. รอยเตอร์รายงานว่า ไต้หวันเตรียมเร่งพัฒนาเทคโนโลยีโดรนและถอดบทเรียนจากสงครามรัสเซียรุกรานยูเครน ท่ามกลางภัยคุกคามจากทางการจีนที่มองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และยังคงเดินหน้ากดดันไต้หวันในเวทีโลก   ความเคลื่อนไหวของไต้หวันเกิดขึ้นหลัง “อากาศยานไร้คนขับ” (Unmanned Aerial Vehicle – UAV) หรือยูเอวี กลายเป็นหนึ่งในอาวุธที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในสงครามดังกล่าว โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน ถึงขั้นระบุไว้ว่า เป็นอาวุธแห่งสงครามในอนาคต     ไต้หวันซึ่งกำลังเผชิญภัยคุกคามทางทหารจากทางการจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นเคยเปิดเผยว่า จับตาสงครามรัสเซียรุกรานยูเครนอย่างใกล้ชิดเพื่อนำมาถอดบทเรียนไว้รับมือหากจีนตัดสินใจส่งกองทัพเข้ารุกรานเพื่อยึดครองเกาะไต้หวัน   ซุน หลี่ฟาง โฆษกกระทรวงกลาโหมไต้หวัน กล่าวว่า ไต้หวันอยู่ระหว่างการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีโดรน รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตโดรน   “การเร่งวิจัย พัฒนา และกระบวนการผลิตนี้เพื่อไว้ตอบโต้ภัยคุกคามจากศัตรูและนำบทเรียนการสู้รบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนมาใช้ในยุทธการรบแบบอสมมาตร์ (การรบระหว่างคู่ต่อสู้ที่มีระดับแสนยานุภาพห่างชั้นกันอย่างมหาศาล) ผ่านโดรนของไต้หวัน” นายซุน ระบุ   โฆษกกระทรวงกลาโหมไต้หวัน ระบุด้วยว่า โครงการดังกล่าวมี จุงชาน สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งไต้หวันเป็นหัวหอก และจะมีบรรดาบริษัทเอกชนหลายแห่งเข้าร่วม   ด้านนายจื้อ หลี่ผิง ผู้อำนวยการแผนกวิจัยระบบอากาศยานของสถาบันข้างต้น ยืนยันว่า…

สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ จัดเสวนา “เราจะ Stop Fake, Spread Facts เพื่อเราและสังคม?”

Loading

  สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ จัดการเสวนา “เราจะ Stop Fake, และ Spread Facts เพื่อเราและสังคม?” เพื่อสร้างพลังแห่งการตื่นรู้ด้านดิจิทัล เอาชนะข้อมูลบิดเบือน ระบุเนื้อหาประเภทสุขภาพและการเมือง ถูกบิดเบือนมากที่สุด   เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2566 ที่โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน กรุงเทพฯ สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ร่วมกับ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และ กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ได้จัดโครงการ หยุดข้อมูลลวง…Stop Fake, Spread Facts “ร่วมปลุกสังคม รู้เท่าทันข้อมูลลวง” โดยภายในงานได้จัดเสวนาหัวข้อ “เราจะ Stop Fake, และ Spread Facts เพื่อเราและสังคม?”   โดยมี พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.),คุณมงคล…

ศาลฮ่องกงเปิดพิจารณาคดีความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่

Loading

สมาชิกสันนิบาตโซเชียลเดโมแครตฮ่องกงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกันออกจากพื้นที่ หลังจากถือป้ายประท้วงและพยายามตะโกนนอกศาลในฮ่องกง ขณะมีการพิจารณาคดีความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่ที่มีผู้ถูกกล่าวหา 47 คน เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ (Photo by Peter PARKS / AFP)   การพิจารณาคดีด้านความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่ที่สุดของฮ่องกงเปิดฉากขึ้นในวันจันทร์ โดยมีบุคคลผู้ฝักใฝ่ประชาธิปไตยหลายสิบคนถูกกล่าวหาว่าพยายามโค่นล้มรัฐบาลและอาจได้รับโทษประหนึ่งอาชญากร   เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 กล่าวว่า ศาลฮ่องกงเปิดพิจารณาคดีความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่ที่มีผู้ถูกกล่าวหาถูกไต่สวน 47 คน และอาจต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตหากถูกตัดสินว่ามีความผิด   ผู้เห็นต่างในดินแดนของจีน ซึ่งรวมถึงนักเคลื่อนไหวทางประชาธิปไตยที่มีชื่อเสียงในเกาะฮ่องกง ถูกเรียกมาขึ้นศาลเพื่อไต่สวน โดยมีการเปิดเผยภายหลังว่า ผู้ถูกดำเนินคดี 16 คนปฏิเสธความผิดในข้อหา “สมรู้ร่วมคิดในการกระทำเพื่อโค่นล้มรัฐบาลจากการจัดการเลือกตั้งขั้นต้นอย่างไม่เป็นทางการ”   ขณะที่อีก 31 คนสารภาพผิดตามข้อกล่าวหาและจะถูกตัดสินโทษหลังกระบวนการพิจารณาคดีเสร็จสิ้น   ชาวฮ่องกงจำนวนหนึ่งทำการชุมนุมประท้วงเล็ก ๆ บริเวณหน้าศาลฮ่องกง ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ   ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนและผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า การพิจารณาคดีนี้แสดงให้เห็นว่าระบบกฎหมายถูกใช้เพื่อบดขยี้ฝ่ายตรงข้ามด้วยข้ออ้างด้านความมั่นคง ทั้ง ๆ ที่การต่อต้านเผด็จการไม่ใช่อาชญากรรม   ผู้ถูกดำเนินคดีต้องเผชิญกับการพิจารณาคดีที่คาดว่าจะใช้เวลานานกว่า 4…

พม่าจับมือรัสเซียตั้งศูนย์ข้อมูลนิวเคลียร์ในย่างกุ้ง เซ็น MOU กับ ผอ.ใหญ่ ROSATOM

Loading

  พิธีเซ็น MOU ระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพม่า กับผู้อำนวยการใหญ่ ROSATOM ต่อหน้า พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย (ภาพจาก Popular News Journal)   MGR Online – รัฐบาลทหารพม่าเอาจริง เซ็น MOU รอบที่ 3 กับ ROSATOM จากรัสเซีย เพื่อเปิดศูนย์ข้อมูลเทคโนโลยีพลังงานนิวเคลียร์ขึ้นในกรุงย่างกุ้ง มินอ่องหล่ายไปเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามด้วยตัวเอง   เช้าวันนี้ (6 ก.พ.) พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) และนายกรัฐมนตรีพม่า เป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างอู มิวเตงจ่อ รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กับอเล็กซี ลีคาเชฟ ผู้อำนวยการใหญ่ ROSATOM หน่วยงานด้านพลังงานปรมาณู ของรัฐบาลสหพันธรัฐรัสเซีย เพื่อร่วมกันจัดตั้งศูนย์ข้อมูลเทคโนโลยีพลังงานนิวเคลียร์ขึ้นในกรุงย่างกุ้ง   พิธีเซ็น MOU จัดขึ้นที่กรุงย่างกุ้ง โดยเอกสาร MOU ได้ถูกจัดพิมพ์เป็น…