‘ไต้หวัน’ โวอาศัยบทเรียน ‘สงครามยูเครน’ ซ้อมรบใหญ่ปีนี้เพื่อเตรียมรับมือจีนบุกโจมตี

Loading

  กองทัพไต้หวันแถลงวันพุธ (27 เม.ย.) การซ้อมรบใหญ่ของตนปีนี้จะอิงกับบทเรียนประสบการณ์จากการสู้รบขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน โดยโฟกัสที่เรื่องสงครามอสมมาตร สงครามความรับรู้ความเข้าใจ และสงครามข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนถึงการใช้ทหารกองหนุน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีของจีน   ไต้หวัน ซึ่งจีนถือเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน ประกาศยกระดับการเตือนภัยนับตั้งแต่ที่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากกังวลว่า อาจถูกปักกิ่งทำแบบเดียวกัน แม้ยอมรับว่า ยังไม่มีสัญญาณว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นก็ตาม   กระนั้น กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า ในไต้หวันมีการอภิปรายถกเถียงกันถึงสิ่งที่เรียนรู้จากสงครามยูเครนอย่างกว้างขวาง รวมทั้งยังได้หารือเรื่องนี้กับอเมริกา   พล.ต.หลิน เหวินหวง ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการร่วมของกระทรวงกลาโหมไต้หวัน บอกว่า การซ้อมรบใหญ่ประจำปีของเกาะแห่งนี้ซึ่งใช้ชื่อว่า “ฮั่นกวง” และมุ่งจำลองสถานการณ์การที่จีนอาจรุกรานเข้ามานั้น สำหรับปีนี้จะมีการยึดโยงกับบทเรียนประสบการณ์จากสงครามยูเครน   เขากล่าวว่า ไทเปจะติดตามสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนอย่างใกล้ชิด รวมถึงจับตาความเคลื่อนไหวของกองทัพจีน และจะซ้อมรบเพื่อผลักดันการปรับปรุงยกระดับเรื่องการใช้สงครามอสมมาตร สงครามความรับรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติการสงครามข้อมูลข่าวสารและอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งการใช้ทหารกองหนุนและศักยภาพที่มีอยู่ให้เต็มที่   ทั้งนี้ รัสเซียยกพลเรือนแสนเข้าสู่ยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ใน “ปฏิบัติการพิเศษ” เพื่อบ่อนทำลายศักยภาพทางทหารของยูเครน และถอนรากถอนโคนกลุ่มชาตินิยมอันตราย   ทว่า กองกำลังยูเครนต้านทานอย่างแข็งกร้าว ขณะที่ตะวันตกออกมาตรการแซงก์ชันสถานหนักกับรัสเซียเพื่อบีบให้ถอนทหารออกจากยูเครน   ทางด้านไต้หวันนั้นอยู่ระหว่างการปฏิรูปทหารกองหนุนให้มีศักยภาพในการสู้รบมากขึ้น…

เผยไอพีผู้โพสต์ เว่ยโป๋ปราบเกรียนข่าวปลอม เปิดที่อยู่ทุกคอมเมนต์

Loading

  เผยไอพีผู้โพสต์ – วันที่ 28 เม.ย. รอยเตอร์รายงานว่า เว่ยโป๋ แอพพลิเคชั่นโซเชียลยอดนิยมของชาวจีน (เทียบเท่าทวิตเตอร์) ประกาศจะเปิดเผย IP Address ของผู้โพสต์แสดงความคิดเห็นทุกคน เพื่อเป็นมาตรการป้องปรามพฤติกรรมการแสดงความคิดเห็นอย่างไร้ความรับผิดชอบ   มาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้คอมเมนต์ของผู้ใช้แพล็ตฟอร์มสนทนาดังกล่าวถูกแนบด้วย IP Address หมายเลขรหัสทางไซเบอร์ที่สามารถใช้บ่งบอกเครื่องที่ใช้งานและแหล่งที่มาได้   การประกาศข้างต้นมีชาวจีนเข้ามาอ่านกว่า 200 ล้านครั้งและถูกนำไปวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมดิจิตอลของชาวจีนอย่างกว้างขวาง โดยบางคนมองว่าการเปิดเผย IP Address ผู้โพสต์เป็นเสมือนกับการที่ต้องการกระซิบข้างหูผู้ใช้ตลอดเวลาว่า “ระวังตัวให้ดี”   โปรไฟล์ผู้ใช้สามารถดูรายละเอียดที่อยู่และ IP Address ได้ (เว่ยโป๋)   อย่างไรก็ดี มีชาวจีนบางส่วนที่สนับสนุนมาตรการดังกล่าวด้วยโดยเฉพาะในช่วงที่จีนกำลังเผชิญกับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนครั้งรุนแรง เพื่อปราบปรามการเผยแพร่ข่าวปลอมสร้างความสับสนและเข้าใจผิดให้สังคม   แถลงการณ์ของเว่ยโป๋ ระบุว่า มาตรการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อลดพฤติกรรมการแอบอ้าง การเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง การใช้บ็อต และเพื่อแสดงถึงความโปร่งใสตรวจสอบได้ของการแสดงคิดเห็นต่างๆ   “เว่ยโป๋ยืนหยัดเพื่อรักษาบรรยากาศการสนทนาที่ดีและเป็นระเบียบเรียบร้อยเสมอมา รวมทั้งการปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ใช้บริการในการตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริงได้อย่างรวดเร็วที่สุดเสมอ” เว่ยโป๋ ระบุ  …

DJI งดขายในรัสเซียและยูเครน กันถูกนำโดรนไปใช้ในสงคราม

Loading

  สถานการณ์รัสเซียกับยูเครนยังคงร้อนระอุ ล่าสุดทาง DJI ผู้ผลิตโดรนสัญชาติจีน ได้เผยกับทาง The Verge ว่า ตอนนี้ทางบริษัทได้ระงับการจัดส่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดไปยังรัสเซียและยูเครนแล้ว หลังหวั่น ‘โดรน’ ของตัวเอง จะถูกนำไปใช้ในสงครามของทั้งสองประเทศ   ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าจน พบโดนโดรนของ DJI ถูกนำไปใช้สำหรับการลาดตระเวน ด้วยการใช้ AeroScope มาช่วยระบุพิดกัดบนแผนที่กับกำหนดเป้าหมาย และบางส่วนถูกนำไปติดอาวุธด้วย แน่นอนว่าขัดกับความตั้งใจของทาง DJI ที่ไม่สนับสนุนการใช้โดรนสร้างความเสียหายหรืออันตรายต่อผู้อื่น   “เป็นเวลา 15 ปีแล้ว ที่ทาง DJI พยายามอย่างที่สุด ที่จะเลี่ยงภูมิศาสตร์ต่อการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ” Adam Lisberg โฆษกของ DJI กล่าว   ย้อนกลับไปช่วงเดือนมีนาคม DJI เคยบอกกับ The Verge ว่า บริษัทจะยังไม่หยุดการขายในรัสเซียหรือยูเครน แม้ว่าตตอนนั้นจะมีบริษัทหลายร้อยแห่งถอนตัวออกจากรัสเซียก็ตาม   กลับมาปัจจุบัน DJI ประกาศระงับการขายทั้งหมดในรัสเซียกับยูเครนเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งประกาศว่าจะไม่มีการสนับสนุนระบบอีกต่อไป โดยเฉพาะตัวระบบช่วยติดตามอย่าง AeroScope…

เพนตากอนยอมรับเป็นทางการ ทิ้งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ “ตอลิบาน” ดูต่างหน้าร่วม “7 พันล้านดอลลาร์” รวมรถฮัมวี 12,000 คัน อากาศยาน 78 ลำ หลังถอนออกจ้าละหวั่นปีที่แล้ว

Loading

  เอเจนซีส์ – รายงานกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยื่นต่อสภาคองเกรสสหรัฐฯ เปิดเผยเป็นครั้งแรกในเดือนมีนาคมว่า หลังสหรัฐฯ ถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถานในปีที่ผ่านมา เพนตากอนทิ้งอาวุธยุทโธปกรณ์รวมเครื่องมือสื่อสารประจำฐานทัพมูลค่ารวม 7 พันล้านดอลลาร์ ให้รัฐบาลตอลิบาน รวมถึงอาวุธ 300,000 ชิ้น ยานยนต์ทางการทหาร 40,000 คัน อากาศยาน 78 ลำ ทิ้งไว้ในสนามบินฮามิดคาไซก่อนวันสุดท้าย และเฮลิคอปเตอร์ Mi-17 จำนวน 5 ลำ ที่สหรัฐฯ มอบให้ยูเครน   CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (27 เม.ย.) ว่า ในรายงานกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่ออกมาตามคำสั่งของสภาคองเกรสสหรัฐฯ ที่ต้องการทราบถึงยุทโธปกรณ์ทั้งหมดที่สหรัฐฯ ทิ้งไว้ในอัฟกานิสถานหลังจากที่กองกำลังสหรัฐฯ ถอนออกมาทั้งหมดภายในวันที่ 30 ส.ค.ปีที่แล้ว เพนตากอนกล่าวว่าเป็นมูลค่าทั้งหมดรวม 7 พันล้านดอลลาร์ตลอดช่วงระยะเวลา 16 ปี ที่สหรัฐฯ ส่งต่อยุทโธปกรณ์เหล่านี้ให้อัฟกานิสถาน และผู้ที่เข้ามารับช่วงต่อเป็นรัฐบาลตอลิบานที่ถือเป็นไม้เบื่อไม้เมากับสหรัฐฯ   รายงานฉบับนี้เกิดขึ้นเพื่อที่ต้องการสอบสวนไปถึงเบื้องหลังการอพยพกำลังกลับอเมริกาอย่างฉุกละหุกของรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน…

เปิดกลโกง “แอปเงินกู้” ส่งมัลแวร์ดูดเงินหมดบัญชี

Loading

แฉ! สารพัดกลโกง “มิจฉาชีพออนไลน์” ชวนสร้างรายได้-แนะเพิ่มความนิยมใน TikTok ทำสูญเงินนับหมื่น “ตี๋รีวิว” เผยแก๊งติ๊กต็อกเปิดแอ็กเคานต์ที่ไหนบนโลกก็ได้ แนะวิธีสังเกตบัญชีมิจฉาชีพ ด้าน “อ.ฝน” เตือน “แอปเงินกู้” ดอกโหด หลอกติดตั้ง “แอปโมบายสปาย” ส่งมัลแวร์ล้วงข้อมูลทุกอย่างในมือถือ สามารถโทร.ทวงเงินคนใกล้ชิด ตามตัวลูกหนี้จาก GPS นำคลิปโป๊ในเครื่องไปแบล็กเมล์ แถมโอนเงินออกหมดบัญชี กล่าวได้ว่านอกจาก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ที่ระบาดอย่างหนักในช่วงนี้แล้ว ปัจจุบันยังมีมิจฉาชีพออนไลน์สารพัดรูปแบบที่สรรหาวิธีมาล่อลวงเพื่อหลอกเงินจากเหยื่อที่ใช้สื่อโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น facebook IG Line หรือ TikTok     ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าสื่อออนไลน์ที่ถูกใช้เป็นช่องทางในการต้มตุ๋นหลอกลวงของเหล่ามิจฉาชีพมากที่สุดในขณะนี้คือ TikTok (ติ๊กต็อก) เนื่องจากเป็นสื่อโซเชียลที่ได้รับความนิยมแบบก้าวกระโดด ปัจจุบันมีผู้ใช้ในไทยกว่า 40 ล้านแอ็กเคานต์ โดยวิธีการหลักๆ ของมิจฉาชีพคือจะเปิดบัญชีติ๊กต็อกและไล่กดติดตามผู้ใช้ติ๊กต็อกคนอื่นๆ เพื่อให้คนเหล่านี้กดติดตามกลับ ซึ่งถือเป็นมารยาทอย่างหนึ่งของผู้ใช้ติ๊กต็อก และเมื่อมีการกดติดตามซึ่งกันและกัน มีสถานะเป็นเพื่อนกันแล้ว มิจฉาชีพจะสามารถส่งไดเรกต์ข้อความมายังบัญชีติ๊กต็อกของเหยื่อได้ ซึ่งข้อความที่ส่งมาหลอกลวงจะมี 2 ลักษณะหลักๆ คือ 1) ชักชวนให้เข้าร่วมกลุ่มเพื่อสร้างรายได้…

สหรัฐฯ พบ รัสเซียใช้โลมาฝึกในทะเลดำ คาดใช้ป้องกันกองเรือจากการโจมตีใต้น้ำ

Loading

  จากการรายงานการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัสเซียได้นำโลมาที่ได้รับการฝึกทางการทหารมาประจำการในฐานทัพเรือของตนเองบริเวณทะเลดำ โดยสหรัฐฯ คาดว่าอาจเป็นความพยายามในการใช้โลมาเพื่อปกป้องกองเรือของตนเองจากการโจมตีใต้น้ำ สถาบันกองทัพเรือสหรัฐฯ (USNI) เปิดเผยภาพถ่ายดาวเทียมฐานทัพเรือบริเวณท่าเรือเซวาสโตโปล ก่อนจะชี้ให้เห็นภาพของโลมาสองจุดที่ถูกเคลื่อนย้ายมายังฐานทัพ ตั้งแต่ช่วงการรุกรานยูเครนโดยรัสเซียเมื่อช่วง ก.พ.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ รัสเซียเคยมีประวัติการฝึกหัดโลมาทางการทหาร เพื่อใชhโลมาในการทำภารกิจกู้วัตถุหรือขัดขวางนักดำน้ำของศัตรู ฐานทัพเรือเซวาสโตโปลตั้งอยู่บริเวณตอนเหนือของไครเมีย ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของรัสเซียที่ยึดมาจากยูเครนตั้งแต่ปี 2557 โดยจากการวิเคราะห์ของสถาบันกองทัพเรือสหรัฐฯ เผยว่า มีเรือรัสเซียหลายลำที่จอดอยู่ที่นั่น แม้ว่าฐานทัพนี้จะอยู่นอกระยะยิงขีปนาวุธ และมีโอกาสเสี่ยงที่จะถูกโจมตีใต้ทะเลได้ก็ตาม ยูเครนเองก็เคยมีการฝึกโลมาในทางการทหารด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะสถานเลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณใกล้กันกับเซวาสโตโปล ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงสมัยยุคสหภาพโซเวียต โลมายังถูกใช้ในทางยุทธวิธีกองทัพเรือทั้งในสหรัฐฯ และโซเวียตตลอดช่วงสงครามเย็น โดยโลมาที่ถูกฝึกจะสามารถตรวจหาวัตถุใต้น้ำได้ โดยเฉพาะทุ่นระเบิด ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้มีการใช้งบประมาณ 28 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 960 ล้านบาท) ในการฝึกโลมาและสิงโตทะเล ที่สามารถนำมาเรียนรู้ยุทธวิธีทางการทหารของมนุษย์ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเหล่านี้อาจจะถูกนำมาใช้กับภารกิจในสงครามยูเครนในตอนนี้ได้ อย่างไรก็ดี ยูเครนรื้อฟื้นการฝึกโลมาทางการทหารขึ้นมาอีกครั้งเมื่อปี 2555 ก่อนที่โลมาทั้งหมดจะตกไปเป็นของรัสเซียในปี 2557 จากการเข้ายึดไครเมีย โดยรัสเซียไม่ยอมส่งคืนโลมาให้กับทางยูเครน แต่กลับขยายโครงการการฝึกต่อเนื่อง “ผู้เชี่ยวชาญของเราได้พัฒนาอุปกรณ์ใหม่ที่แปลงการตรวจจับโซนาร์ใต้น้ำของโลมา ให้เป็นสัญญาณส่งไปยังจอภาพของผู้ปฏิบัติงาน กองทัพเรือยูเครนขาดเงินทุนสำหรับความรู้ดังกล่าว และบางโครงการต้องถูกระงับ” แหล่งข่าวระบุกับทางสำนักข่าวของรัสเซีย…