ยูเอ็นเรียกร้อง’ตาลีบัน’คุ้มครองสวัสดิภาพสตรี-เด็กผู้หญิงอัฟกัน

Loading

  นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้กลุ่มตาลีบันและทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้นเพื่อปกป้องชีวิตของประชาชนในอัฟกานิสถาน เลขาธิการยูเอ็นได้แสดงความกังวลเป็นอย่างมากต่ออนาคตของสตรีและเด็กผู้หญิงในอัฟกานิสถาน หลังจากกลุ่มตาลีบันสามารถยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน “เราได้รับรายงานอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการกดขี่ข่มเหงและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในอัฟกานิสถาน โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการสู้รบ สิ่งที่เรากังวลมากในขณะนี้คืออนาคตของกลุ่มสตรีและเด็กผู้หญิงชาวอัฟกานิสถาน ซึ่งคนเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการปกป้องคุ้มครอง   การกดขี่ข่มเหงทุกรูปแบบจำเป็นต้องยุติ” นายกูเตอร์เรส กล่าวในแถลงการณ์ พร้อมกันนี้เลขาธิการยูเอ็น ยังเรียกร้องให้กลุ่มตาลีบันและทุกฝ่ายสร้างความเชื่อมั่นว่า สิทธิและเสรีภาพของทุกคนในอัฟกานิสถานจะต้องได้รับความเคารพและปกป้องคุ้มครอง     กลุ่มตาลีบันได้รุกคืบเข้าถึงกรุงคาบูล และยึดทำเนียบประธานาธิบดีไว้ในขณะนี้ ด้านนายอัชราฟ กานี ประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน ได้เดินทางออกนอกประเทศแล้วตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ซึ่งส่งผลให้กลุ่มตาลีบันใกล้จะสามารถยึดครองอัฟกานิสถานได้ทั้งหมด หลังจากที่ถูกกองกำลังพันธมิตรภายใต้การนำของสหรัฐขับไล่ออกจากอัฟกานิสถานเป็นเวลานานถึง 20 ปี รายงานระบุว่า ในช่วงที่กลุ่มตาลีบันปกครองอัฟกานิสถานนั้น สตรีไม่สามารถออกไปทำงานนอกบ้านได้ ขณะที่เด็กผู้หญิงไม่ได้รับอนุญาตให้ไปโรงเรียน นอกจากนี้ สตรีทุกคนจะต้องสวมผ้าปกคลุมใบหน้าให้มิดชิดและหากจำเป็นต้องออกจากบ้านก็จะต้องไปกับญาติที่เป็นผู้ชายเท่านั้น     ———————————————————— Link : https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/954828 โดย // กรุงเทพธุรกิจ/ 16 ส.ค.64

ตาลีบันประกาศชัยชนะ สิ้นสุดสงครามอัฟกานิสถาน 20 ปี ลั่นรับประกันความปลอดภัยให้พลเรือน

Loading

ภาพจากวิดีโอที่ผู้นำกลุ่มตาลีบัน นำโดยนายมุลเลาะห์ บาราดาร์ อัคคุนด์ แถลงการณ์หลังจากยึดครองเมืองต่าง ๆ ในอัฟกานิสถานได้โดยสมบูรณ์ วิดีโอนี้ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 16 ส.ค.   กลุ่มตาลีบันประกาศชัยชนะ หลังสามารถยึดครองเมืองต่าง ๆ ทั่วอัฟกานิสถานได้โดยสมบูรณ์ ทั้งยังแถลงว่าสงครามที่ยาวนานถึง 20 ปีได้สิ้นสุดลงแล้ว ในขณะที่รัฐบาลพลเรือนของอัฟกานิสถานล่มสลายลงอย่างสิ้นเชิง โฆษกของตาลีบันกล่าวกับสำนักข่าวอัลจาซีราว่า “สงครามในอัฟกานิสถานสิ้นสุดลงแล้ว เราได้บรรลุถึงเป้าหมาย ซึ่งก็คือเอกราชของประเทศและอิสรภาพของประชาชน เราคาดว่ากองกำลังต่างชาติจะไม่เดินซ้ำรอยประสบการณ์ความล้มเหลวของพวกเขาในอัฟกานิสถานอีกครั้ง” กองกำลังของตาลีบันได้เคลื่อนเข้าสู่กรุงคาบูล และเข้ายึดศูนย์กลางของพื้นที่ 11 เขตในนครหลวงเอาไว้ได้แล้ว โดยโฆษกของตาลีบันแถลงว่า การเข้าควบคุมพื้นที่ดังกล่าวมีขึ้นเพื่อรับประกันความปลอดภัยให้แก่ประชาชน กองกำลังตาลีบันยังเข้ายึดทำเนียบประธานาธิบดี ซึ่งเป็นศูนย์กลางการปกครองของประเทศเอาไว้ได้สำเร็จ โดยก่อนหน้านี้ไม่นาน นายอัชราฟ กานี ประธานาธิบดีของอัฟกานิสถานได้เดินทางออกนอกประเทศไปยังอุซเบกิสถานแล้ว โดยเขาชี้แจงว่าการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือด นายซูเฮล ชาฮีน โฆษกอีกคนหนึ่งของตาลีบันได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ระหว่างออกอากาศสดในรายการข่าวของบีบีซีว่า ตาลีบันปรารถนาให้มีการถ่ายโอนอำนาจโดยสันติในช่วงหลายวันต่อจากนี้ “เราขอรับประกันความปลอดภัยให้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในกรุงคาบูล ขอยืนยันว่าชีวิตและทรัพย์สินของพวกท่านจะปลอดภัยอย่างแน่นอน” โฆษกของตาลีบันกล่าว เกิดความวุ่นวายที่สนามบินนานาชาติฮามิด คาร์ไซ ของกรุงคาบูล ซึ่งกำลังมีการอพยพพลเรือนต่างชาติเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยมีผู้ได้ยินเสียงปืนและเห็นผู้คนจำนวนมากบนลานบินพากันวิ่งไปขึ้นเครื่องบิน ทั้งยังมีรายงานว่าอาจมีผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย โดยขณะนี้มีเพียงเครื่องบินทหารเท่านั้นที่สามารถเดินทางออกจากกรุงคาบูลได้ ส่วนสายการบินพาณิชย์ต่าง ๆ ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินอย่างเด็ดขาด…

สหรัฐฯ เตือนเฝ้าระวัง ‘ก่อการร้าย’ ช่วงครบรอบ 20 ปีเหตุวินาศกรรม 9/11

Loading

  กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ (DHS) ออกคำเตือนเฝ้าระวังการก่อการร้ายในช่วงครบรอบ 20 ปีเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน ปี 2001 พร้อมชี้ว่าสถานการณ์โควิด-19 อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้กลุ่มหัวรุนแรงวางแผนโจมตีอเมริกา คำเตือนซึ่งถูกเผยแพรผ่านระบบ National Terrorism Advisory System (NTAS) ชี้ว่า สหรัฐฯ กำลังเผชิญสภาพแวดล้อมที่เป็นภัยคุกคามมากยิ่งขึ้น ทั้งจากผู้ก่อการร้ายในประเทศ “และบุคคลที่อาจได้แรงบันดาลใจจากองค์กรก่อการร้าย หรือกลุ่มผู้ไม่หวังดีจากต่างชาติ” ประกาศฉบับนี้อ้างว่า เจ้าหน้าที่ “พบการใช้ห้องสนทนาออนไลน์เพื่อเผยแพร่แนวคิดสุดโต่ง และสนับสนุนให้คนก่อเหตุรุนแรงมากขึ้นในช่วงนี้” “ผู้ที่มีแนวคิดสุดโต่งอาจอาศัยช่วงที่เกิดการระบาดของเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ โดยเล็งเห็นว่าการที่ภาครัฐสั่งฟื้นมาตรการคุมเข้มด้านสาธารณสุขทั่วประเทศเป็นเหตุผลที่จะลุกขึ้นมาก่อเหตุโจมตีได้” DHS ระบุด้วยว่า “ผู้ที่ได้รับความอึดอัดคับข้องใจจากสถานการณ์โรคระบาด อาจจะมีส่วนก่อความรุนแรงมากขึ้นในปีนี้” แม้ว่าโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในสหรัฐฯ จะคืบหน้าไปมากแล้ว ทว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อกลับมาพุ่งสูงขึ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากการแพร่กระจายของเชื้อสายพันธุ์เดลตาที่ติดต่อกันได้ง่าย และทำให้ภาครัฐต้องนำมาตรการจำกัดทางสังคมบางอย่างกลับมาใช้ใหม่ คำเตือนล่าสุดซึ่งจะมีผลถึงวันที่ 11 พ.ย. ยังย้ำเตือนความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุโจมตีในช่วงวันครบรอบ 20 ปีเหตุวินาศกรรม 9/11 หลังพบว่ากลุ่มอัลกออิดะห์ในคาบสมุทรอาระเบีย (AQAP) ซึ่งเป็นสาขาย่อยของอัลกออิดะห์ในเยเมน ได้กลับมาออกนิตยสาร Inspire…

จำนวนประชากรฮ่องกงลดลงเกือบ 9 หมื่นคนในเวลาเพียง 12 เดือน หลังใช้กม.ความมั่นคง

Loading

  ประชากรของฮ่องกงลดลงอย่างมากในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากชาวฮ่องกงพากันย้ายถิ่นฐานหลังจากรัฐบาลบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งและการประท้วงต่อต้านในฮ่องกง ข้อมูลของรัฐบาลฮ่องกงระบุว่า ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมาจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย.ของปีนี้ มีประชากรย้ายถิ่นฐานออกจากฮ่องกงไปราว 89,200 คน ส่งผลให้จำนวนประชากรบนเกาะลดลง 1.2% มาอยู่ที่ 7.39 ล้านคน ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวนับรวมผู้ที่ได้รับใบอนุญาตจากจีนแผ่นดินใหญ่ให้เข้ามาในฮ่องกง จำนวน 13,900 คนแล้ว รวมถึงหักลบจากการลดลงด้วยสาเหตุธรรมชาติเนื่องจากการเกิดและเสียชีวิตอีก 11,800 คนแล้ว ทั้งนี้ ประชากรในฮ่องกงนั้นลดลงทั้งในช่วงปี 2562-63 และ 2563-64 หลังจากที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมากว่า 10 ปี นอกเหนือจากการที่เศรษฐกิจของฮ่องกงประสบภาวะถดถอยเป็นประวัติการณ์เนื่องจากเหตุประท้วงทางการเมืองและโรคระบาดแล้ว รัฐบาลจีนยังได้บังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติเมื่อเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว จนนำไปสู่การตั้งคำถามถึงหลักการหนึ่งประเทศ สองระบบ ซึ่งสั่นคลอนสถานะความเป็นศูนย์กลางทางการเงินของฮ่องกง ขณะเดียวกัน พลเมืองฮ่องกงบางส่วนที่ถือหนังสือเดินทางต่างประเทศหรือมีสายสัมพันธ์ในต่างประเทศได้หาลู่ทางเพื่อย้ายถิ่นที่อยู่ใหม่ โดยเฉพาะในอังกฤษ ซึ่งเปิดโอกาสให้พลเมืองที่ถือหนังสือเดินทางสัญชาติบริติชโพ้นทะเล (British National Overseas) ยื่นขอสัญชาติอังกฤษได้เมื่อเดือนม.ค.ปีนี้ โดยข้อมูลของหน่วยงานในอังกฤษระบุว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ อังกฤษได้รับคำร้องขอดังกล่าวกว่า 34,000 รายการ และได้รับการอนุมัติแล้ว 7,200 คำร้อง…

อังกฤษหวั่นอัลกออิดะห์กลับมาเรืองอำนาจ หลังตาลีบันยึดครองเมืองใหญ่ในอัฟกานิสถาน

Loading

  นายเบน วอลเลส รัฐมนตรีกลาโหมของอังกฤษเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในวันนี้ว่า เขากังวลว่าอัฟกานิสถานซึ่งกำลังเผชิญสถานการณ์ตึงเครียดจนอาจกลายเป็นประเทศที่ล่มสลายนั้น จะกลายเป็นฐานที่มั่นของบรรดากลุ่มติดอาวุธ เช่นกลุ่มอัลกออิดะห์ซึ่งมีแนวโน้มที่จะกลับมาเรืองอำนาจอีกครั้ง “ผมกังวลว่า ประเทศที่ล้มเหลวอาจกลายเป็นฐานที่มั่นให้กับบรรดากลุ่มก่อการร้าย และอาจทำให้กลุ่มอัลกออิดะห์กลับมา” นายวอลเลสกล่าวกับผู้สื่อข่าวของสำนักข่าว Sky   นายวอลเลสยังกล่าวด้วยว่า ชาติตะวันตกเข้าใจดีว่าไม่ควรยื่นมือเข้าไปแก้ไขสถานการณ์อัฟกานิสถานในทันที แต่ควรจัดการกับสถานการณ์ตามความเหมาะสม พร้อมกับกล่าวว่า ขณะนี้เมืองกันดาฮาร์ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของอัฟกานิสถาน และเมืองลัชคาร์กาห์ ได้ตกอยู่ในเงื้อมือของกลุ่มตาลีบันแล้ว การรุกคืบอย่างรวดเร็วของกลุ่มตาลีบันได้สร้างความตกตะลึงให้กับรัฐบาลอัฟกานิสถาน และบรรดาชาติตะวันตกซึ่งรวมถึงสหรัฐที่กำลังถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถาน ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐและอังกฤษได้ตัดสินใจส่งทหารหลายพันนายไปยังอัฟกานิสถานเพื่อช่วยอพยพพลเมืองของตนออกจากพื้นที่ดังกล่าว หลังจากกลุ่มตาลีบันได้รุกคืบโจมตีเมืองใหญ่หลายเมืองของอัฟกานิสถาน และได้ประกาศชัยชนะในการโจมตีทางทหารครั้งใหญ่ถึง 2 ครั้งนับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการโจมตีอัฟกานิสถานเป็นวงกว้างในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา เพตากอนประกาศว่า สหรัฐจะส่งกองกำลังทหารชุดพิเศษจำนวน 3,000 นายไปยังอัฟกานิสถานภายใน 48 ชั่วโมงนี้ เพื่อช่วยอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐ ขณะที่รัฐบาลอังกฤษประกาศว่าจะส่งกองกำลังทหารจำนวน 600 นายไปช่วยอพยพพลเมืองและเจ้าหน้าที่ล่ามประจำท้องถิ่นออกจากอัฟกานิสถาน รายงานระบุว่า ขณะนี้เมืองกันดาฮาร์และเมืองเฮรัตทางใต้และตะวันตกของกรุงคาบูล ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่อันดับสองและอันดับสามของอัฟกานิสถาน ได้ถูกยึดครองโดยกลุ่มตาลีบันแล้ว โฆษกของกลุ่มตาลีบันเปิดเผยกับสำนักข่าวอัลจาซีราว่า การล่มสลายของเมืองที่สำคัญเหล่านี้ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า อัฟกานิสถานได้ให้การต้อนรับตาลีบัน หลังจากที่กองกำลังพันธมิตรภายใต้การนำของสหรัฐได้ขับไล่กลุ่มตาลีบันออกจากอัฟกานิสถานในปี 2544 ภายหลังจากสหรัฐถูกผู้ก่อการร้ายโจมตีในเหตุการณ์ 9/11 ———————————————————— Link : https://www.infoquest.co.th/2021/115953 โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์…

เกาหลีใต้เริ่มใช้ระบบอนุมัติการเดินทางทางอิเล็กทรอนิกส์ หวังสกัดโควิด

Loading

  เกาหลีใต้เตรียมใช้ระบบอนุมัติการเดินทางทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETA) สำหรับผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนก.ย.เป็นต้นไป โดยการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น ได้ปูทางสำหรับนโยบายที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเกาหลีใต้ต่อต้านก่อนหน้านี้ กระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ระบุว่า ระบบนี้จะเป็นแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดในระยะยาว ตลอดจนลดจำนวนผู้อพยพที่ลักลอบเข้าเมือง ซึ่งเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีก่อนการแพร่ระบาด การยกเว้นวีซ่าส่วนใหญ่ถูกระงับเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อเดือนเม.ย. 2563 ด้านนายพัค บอม-คเย รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของเกาหลีใต้กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เมื่อมาตรการควบคุมชายแดนผ่อนคลายลง ระบบ ETA จะถูกนำมาใช้เพื่อช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยกำหนดให้ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศต้องเผยประวัติการเดินทางเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนหน้า นอกจากนี้ จะมีการนำระบบมาใช้เพื่อสั่งห้ามการเดินทางเข้าประเทศจากประเทศใดประเทศหนึ่งทันที หากเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ———————————————————— Link : https://www.infoquest.co.th/2021/115465 โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ / 11 ส.ค. 64