รายงานสหรัฐฯ ระบุ มีการโจมตีจากไส้ศึกในกองกำลังอัฟกันเพิ่มขึ้น 82 เปอร์เซ็นต์

Loading

  รายงานของทางการสหรัฐฯ ระบุว่า มี “การโจมตีจากไส้ศึกภายใน” ต่อกองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลอัฟกานิสถานเพิ่มขึ้น 82 เปอร์เซ็นต์ในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ ทำให้มีบุคลากรถูกสังหาร 115 คน ได้รับบาดเจ็บ 39 คน เมื่อวันพฤหัสบดี ผู้ตรวจการพิเศษเพื่อการฟื้นฟูอัฟกานิสถาน หรือ SIGAR รายงานต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ว่า ยอดผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตของกองกำลังป้องกันและความมั่นคงแห่งชาติอัฟกัน หรือ ANDSF มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ ผู้ตรวจการพิเศษฯ ไม่ได้รับอนุญาตให้ระบุยอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตของกองกำลังของทางการอัฟกันทั้งหมดในรายงานได้ เนื่องจากกองกำลังสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน เก็บข้อมูลดังกล่าวเป็นความลับตามคำขอของรัฐบาลอัฟกานิสถาน รายงานดังกล่าวระบุว่า กองกำลังของทางการอัฟกันถูกโจมตีจากไส้ศึกภายใน 31 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 1 เมษายน ทำให้มีจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยกลุ่มตาลิบันที่แฝงตัวเป็นตำรวจหรือทหารอัฟกันอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีส่วนใหญ่     ผู้ตรวจการพิเศษฯ ส่งรายงานไตรมาสดังกล่าวขณะที่กองกำลังสหรัฐฯ ราว 2,500 นายกำลังเตรียมการเริ่มถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถานในวันเสาร์นี้ โดยมีกำหนดถอนกำลังทั้งหมดออกภายในวันที่ 11 กันยายนเพื่อยุติสงครามที่ยาวนานที่สุดของสหรัฐฯ ลูกจ้างของกระทรวงกลาโหมเกือบ 17,000 คน…

รัสเซียแบล็กลิสต์เจ้าหน้าที่ระดับสูงอียู 8 คน

Loading

  เพื่อตอบโต้ที่เจ้าหน้าที่ 4 คนถูกแบนก่อน รัฐบาลรัสเซียขึ้นบัญชีดำเจ้าหน้าที่ระดับสูง 8 คนของสหภาพยุโรป จากความขัดแย้งเรื่องคดีความของนายอเล็กซี นาวัลนี นักเคลื่อนไหวต่อต้านทำเนียบเครมลิน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ว่ากระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขึ้นบัญชีดำเจ้าหน้าที่ระดับสูง 8 คนของสหภาพยุโรป ( อียู ) รวมถึง นายดาวิด ซัสโซลี ประธานสภายุโรป และนางเวรา จูโรวา รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ( อีซี ) ด้านคุณค่าและความโปร่งใส Apparently, I'm not welcome at the Kremlin? I had suspected it a bit… No sanctions or intimidation will stop the @Europarl_EN or me…

รัฐบาลจีนฟัน 33 แอพละเมิดกฎเก็บข้อมูลส่วนตัวลูกค้า

Loading

  33 แอพพลิเคชั่นในจีน รวมทั้งบริษัทในเครือ Baidu และ Tencent ละเมิดกฎการเก็บข้อมูลส่วนตัวลูกค้า หน่วยงานบริหารไซเบอร์สเปซของจีน (CAC) ระบุว่า พบ 33 แอพพลิเคชัน รวมทั้งแอพพลิเคชันให้บริการซอฟท์แวร์นำทางของบริษัท Baidu และTencent สองบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ละเมิดกฎของทางการ โดยส่วนใหญ่เก็บข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าที่ไม่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของตัวเอง จากการตรวจสอบแอพพลิเคชันที่เป็นที่นิยมของชาวจีนของ CAC ยังพบว่าแอพพลิเคชันเหล่านี้เก็บข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าโดยไม่ได้รับความยินยอม และยังพยายามโน้มน้าวให้ลูกค้าอนุญาตให้แอพพลิเคชันเข้าถึงรายชื่อผู้ติดต่อในสมาร์ทโฟน หลังจากนี้ ผู้ให้บริการแอพพลิเคชันดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องภายใน 10 วันทำการ มิเช่นนั้นจะถูกลงโทษ แต่ CAC ไม่ได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา CAC ออกกฎห้ามผู้ให้บริการแอพพลิเคชันปฏิเสธไม่ให้บริการพื้นฐานกับลูกค้าที่ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวที่ไม่จำเป็นซึ่งมีผลบังคับใช้วันนี้ (1 พ.ค.) และยืนยันว่าจะปกป้องสิทธิของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ทางการจีนเริ่มเข้ามาควบคุมบริษัทอินเทอร์เน็ตหลังจากบริษัทเหล่านี้มีอิทธิพลกับชีวิตชาวจีนในแทบจะทุกด้าน ทั้งยังครอบครองข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าจำนวนมหาศาลจากการให้บริการออนไลน์ อาทิ แอพพลิเคชันช็อปปิ้งออนไลน์ บริการเรียกรถสาธารณะ เป็นต้น AFP PHOTO / FILES / FRED DUFOUR   ——————————————————————————————————————————————————————…

ชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์ส่งใบปลิวข้ามแดน แม้มีกฎหมายห้าม

Loading

  กลุ่มชาวเกาหลีเหนือซึ่งลี้ภัยมายังเกาหลีใต้ ปล่อยบอลลูนบรรจุใบปลิวต่อต้านรัฐบาลเปียงยางราว 500,000 ใบลอยข้ามแดน ทั้งที่เกาหลีใต้เพิ่งออกกฎหมายห้าม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ว่านายปาร์ค ซัง-ฮัก ชาวเกาหลีเหนือซึ่งลี้ภัยเข้ามาในเกาหลีใต้ เมื่อปี 2543 ปัจจุบันเป็นผู้นำองค์กรอิสระ “ฟรี ฟอร์ นอร์ท โคเรีย” กล่าวเมื่อวันศุกร์ ว่าได้ทำการส่งบอลลูน 10  ใบ บรรจุใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านรัฐบาลเปียงยาง รวมประมาณ 500,000 ใบ และสิ่งของอีกหลายอย่างรวมถึงเงิน ให้ลอยข้ามพรมแดนไปยังเกาหลีเหนือ ระหว่างวันอาทิตย์ที่แล้ว ถึงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ด้านรัฐบาลเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ ยังไม่มีปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการ ต่อการประกาศของกลุ่มฟรี ฟอร์ นอร์ท โคเรีย อย่างไรก็ตาม หากกิจกรรมดังกล่าวเป็นความจริง จะเป็นกรณีแรกที่เป็นการละเมิดกฎหมายที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติของเกาหลีใต้บัญญัติขึ้น เมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมจากกฎหมายพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลี โดยส่วนที่เพิ่มเติม คือการห้ามส่งสิ่งพิมพ์ ผลิตภัณฑ์ทุกชนิด และเงินตรา ข้ามพรมแดนบริเวณเขตปลอดทหาร หากไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากรัฐบาลกลาง ในกรุงโซล   YTN news  …

อินโดนีเซียประกาศให้กบฏปาปัวเป็นกลุ่มก่อการร้าย

Loading

  กระทรวงความมั่นคงอินโดนีเซีย ประกาศอย่างเป็นทางการ ให้กลุ่มติดอาวุธแย่งแยกดินแดนในจังหวัดปาปัว ทางภาคตะวันออกไกลของประเทศ เป็น “กลุ่มก่อการร้าย” ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของทางการจาการ์ตา มีเป้าหมายขยายอำนาจให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง รวมถึงการจับกุมคุมขังเป็นเวลานาน โดยไม่ต้องตั้งข้อหา สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ว่า นายโมฮัมหมัด มาฟุด รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงอินโดนีเซีย ประกาศให้กลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนจังหวัดปาปัว เป็นกลุ่มก่อการร้าย เมื่อวันพฤหัสบดี การประกาศมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย เรียกร้องให้ฝ่ายความมั่นคง กวาดล้างกลุ่มกบฏที่ยิงเจ้าหน้าที่ข่าวกรองรายหนึ่งเสียชีวิต เมื่อวันอาทิตย์ ที่จังหวัดปาปัว ทางตะวันออกสุดของประเทศ นายมาฟุด กล่าวว่า องค์การและประชาชนในปาปัว ที่ก่อความรุนแรงในวงกว้าง ต้องจัดให้อยู่ในประเภทผู้ก่อการร้าย โดยกฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายฉบับปี พ.ศ. 2561 ของอินโดนีเซีย กำหนดไว้ว่า การก่อการร้ายคือการกระทำใดๆ ที่ใช้ความรุนแรง หรือขู่ว่าจะใช้ความรุนแรง ซึ่งก่อให้เกิดความหวาดกลัว     กลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดน ในจังหวัดปาปัวที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ กล่าวว่า การต่อสู้ของพวกเขาถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากเนเธอร์แลนด์ อดีตเจ้าอาณานิคม…

ทั่วโลกคุมเข้ม ‘คริปโทฯ’ หวั่นเป็นแหล่งฟอกเงิน

Loading

  มูลค่าของ “คริปโทเคอร์เรนซี” อย่างบิตคอยน์ และอีเทอเรียม เพิ่มขึ้นสูงอย่างมาก ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และนักลงทุนแห่ซื้อขายกันอย่างมากมาย ขณะที่ต้นเดือนที่ผ่านมา “ตุรกี” ออกกฎหมายใหม่ แบนการชำระค่าสินค้าและบริการด้วย “สินทรัพย์ดิจิทัล” อย่างคริปโทเคอร์เรนซี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน ทั้งนี้ ไม่ได้มีเพียงตุรกีเท่านั้นที่ออกกฎหมายเข้าควบคุมคริปโทฯ แต่เป็นเทรนด์ของหลายประเทศที่กำลังร่างกฎหมายเพื่อเข้าควบคุมตลาดคริปโทฯ หรือได้ออกกฎหมายไปแล้ว หรือบางประเทศก็ออกกฎหมายให้คริปโทฯ เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายไปเลย ซีเอ็นบีซีรายงานว่า กระแสความร้อนแรงของคริปโทเคอร์เรนซีที่เติบโตอย่างรวดเร็ว กำลังเป็นภัยต่อระบบการเงินของแต่ละประเทศอย่างมาก โดยการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านคริปโทฯ ทำให้ธนาคารกลางติดตามการทำธุรกรรมการเงินได้ยากขึ้น ซึ่งจะทำให้อาจเข้ามามีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการดำเนินนโยบายทางการเงิน รวมทั้งเสถียรภาพระบบการเงินของประเทศ และคริปโทเคอร์เรนซีมักจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย อย่างการฟอกเงิน และการหลีกเลี่ยงภาษี แม้ว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนทำให้ทุกคนทราบถึง “มูลค่า” ต้นทาง และปลายทางการทำธุรกรรม แต่ไม่สามารถรู้ได้แน่ชัดถึงตัวตนคนทำธุรกรรมคือใคร แม้ว่าการทำธุรกรรมผิดกฎหมายผ่านคริปโทฯ ปีที่แล้วมีเพียง 0.34% จากการทำธุรกรรมทั้งหมด ซึ่งลดลงจากปีก่อนหน้าที่สูงถึง 2% แต่ปัจจัยทั้งด้านเสถียรภาพทางการเงิน รวมถึงความเสี่ยงในการทำผิดกฎหมาย ทำให้รัฐบาลทั่วโลกเดินหน้าร่างกฎหมายเพื่อเข้าควบคุมตลาดคริปโทฯ ก่อนหน้านี้ ประเทศแอลจีเรีย, อียิปต์, โมร็อกโก, โบลิเวีย และเนปาล ได้ออกกฎหมายว่าการครอบครองคริปโทเคอร์เรนซี หรือการทำธุรกรรมการเงินผ่านคริปโทฯ…