ดีอีเอส เปิดสถิติข่าวปลอม 3 เดือนแรกปีนี้ ทะลุ 50 ล้านข้อความ

Loading

    ดีอีเอส เผยสถิติข่าวปลอมแค่ 3 เดือนแรกปีนี้ทะลุ 50 ล้านข้อความ ขณะที่ผลการตรวจสอบข่าวปลอมรอบ 1 ปีกว่า พบ หมวดสุขภาพ -นโยบายรัฐ ทะลักกว่า 9,000 ข้อความ ผนึกกำลัง ศปอส.ตร. เอาผิดมือโพสต์ที่เข้าข่ายทำผิดกฎหมายกว่า 2,000 คน นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กล่าวว่า จากการรับแจ้งเบาะแส และติดตามการสนทนาบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับข่าวปลอม ช่วงระยะเวลา 3 เดือนแรกปีนี้ (1ม.ค-31มี.ค64)พบว่า มีข้อความข่าวที่ต้องคัดกรองจำนวนกว่า 50 ล้านข้อความ โดยข้อความข่าวที่เข้าเกณฑ์ดำเนินการตรวจสอบ 4,649 ข้อความ ซึ่งหลังจากคัดกรองพบข้อความข่าวที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 2,194 เรื่อง     สำหรับภาพรวมการดำเนินงานของศูนย์ฯ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 62 – 31 มี.ค. 64…

ฟังชัดๆ ไฉน พ.ต.ท.เต้นในติ๊กต๊อกโดนตั้งกก.สอบ จเรตำรวจฯชี้ฝ่าฝืนข้อห้ามเล่นโซเชียลที่ 9

Loading

  เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) กล่าวถึงกรณีปรากฏคลิป ตำรวจแต่งเครื่องแบบเต้นล้อเลียนนักร้องประเทศเพื่อนบ้าน เผยแพร่ปรากฏทางสื่อแขนงต่างๆ จนเป็นที่วิจารณ์ถึงความเหมาะสมจากสังคม ว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร ได้สั่งการให้ จตช. ติดตามดำเนินการกรณีดังกล่าว โดยเบื้องต้น ทราบว่า ตำรวจดังกล่าวคือ พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ สว.กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี แต่งกายเครื่องแบบ พ.ต.ท. ติดห่วงโซ่คล้องจมูก เต้นเลียนแบบเพลงนักร้องประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังเป็นกระแส เผยแพร่ทางแอพลิเคชั่น และสื่อแขนงต่างๆ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม และตลกขบขัน ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนข้อสั่งการ ทั้งๆ ที่ ผบ.ตร. และ จตช. เพิ่งสั่งการในที่ประชุมบริหาร ตร. เมื่อเดือน มีนาคม 2564 และ ผบ.ตร มีหนังสือ เมื่อ 2 เมษายน 2564 สั่งการกำชับทุกหน่วยให้ชี้แจง กำชับ…

ลับสุดยอด! แฉ CIA พยายามลอบสังหารผู้นำคิวบา จ้างนักบินจัดฉากอุบัติเหตุ

Loading

สำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) พยายามลอบสังหารผู้นำรายหนึ่งของการปฏิวัติคิวบาในปี 1960 ว่าจ้างนักบินรายหนึ่งซึ่งมีกำหนดพา ราอูล คาสโตร จากกรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก มายังฮาวานา เป็นเงิน 10,000 ดอลลาร์ สำหรับจัดฉากอุบัติเหตุ จากเอกสารลับสุดยอดที่เผยแพร่ต่อสาธารณะเมื่อวันศุกร์ (16 เม.ย.) แต่สุดท้ายต้องยกเลิกภารกิจไป เอกสารลับสุดยอดที่เผยแพร่โดยสถาบันวิจัย National Security Archive ที่มีสำนักงานในวอชิงตัน ระบุว่า นักบิน โฮเซ ราอูล มาร์ติเนซ ซึ่งถูกเกณฑ์โดยซีไอเอ ได้ร้องขอคำรับประกันจากซีไอเอว่าพวกเขาต้องมอบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยแก่ลูกชาย 2 คนหากว่าเขาเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติภารกิจ ซึ่งทางซีไอเอก็รับปากตามนั้น อย่างไรก็ตาม หลังจาก มาร์ติเนซ ออกเดินทางเพื่อมุ่งหน้าไปยังปราก ทางสำนักงานใหญ่ของซีไอเอในสหรัฐฯ ได้แจ้งไปยังสถานีฮาวานา ให้ยกเลิกภารกิจดังกล่าว “อย่าดำเนินการ” เอกสารลับสุดยอดระบุ “ยกเลิกภารกิจ” ในช่วงดังกล่าว นักบินได้ขาดการติดต่อไป และพอเขาเดินทางกลับมายังคิวบา มาร์ติเนซได้แจ้งกับผุ้ควบคุมภารกิจว่า “เขาไม่มีโอกาสตระเตรียมอุบัติเหตุอย่างที่เคยพูดคุยกันไว้” แผนการนี้ถูกเปิดเผยออกมาในขณะที่ ราอูล คาสโตร น้องชายวัย 89 ปี ของฟิเดล…

‘เกาหลีใต้’ จ่อฟ้องเฟซบุ๊ค ปล่อยข้อมูลส่วนตัวรั่ว

Loading

    กลุ่มผู้ใช้งานเฟซบุ๊ค ในเกาหลีใต้ เตรียมรวมตัวฟ้อง ฐานปล่อยให้ข้อมูลผู้ใช้งานรั่วไหลไปยังบริษัทอื่น ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต บริษัทกฎหมายจีฮยางและศูนย์ข้อมูลจินโบ ซึ่งเป็นหน่วยงานให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล อยู่ในระหว่างรวบรวมข้อมูลจากผู้ร้องทุกข์ที่ต้องการฟ้องเฟซบุ๊คจนถึงสิ้นเดือน พ.ค. เมื่อเดือน พ.ย. 2563 คณะกรรมการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลแห่งเกาหลีใต้ (PIPC) ระบุว่า เฟซบุ๊คได้ละเมิดกฎหมายของเกาหลีใต้ด้วยการส่งมอบข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานอย่างน้อย 3.3 ล้านคน จากจำนวนผู้ใช้งานทั้งสิ้น 18 ล้านคนให้กับบุคคลที่ 3 ตั้งแต่เดือนพ.ค. 2555 ถึงเดือนมิ.ย. 2561 ข้อมูลดังกล่าวประกอบไปด้วยประวัติการศึกษา อาชีพ สถานที่เกิด และสถานภาพความสัมพันธ์ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับเพื่อนของผู้ใช้งาน ซึ่งทางหน่วยงานได้สั่งปรับเฟซบุ๊คเป็นเงิน 6.7 พันล้านวอน (6 ล้านดอลลาร์) และยื่นคำฟ้องคดีอาญาฐานปล่อยให้ข้อมูลรั่วไหล บริษัทกฎหมายจีฮยางระบุว่า “สิทธิในการตัดสินใจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลควรที่จะต้องมีกฎหมายคุ้มครองอย่างเข้มงวด ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของสิทธิมนุษยชน” พร้อมกล่าวว่า การกระทำของเฟซบุ๊คถือเป็นปัญหาที่ร้ายแรง รายงานระบุว่า มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊คกว่า 500 ล้านคนทั่วโลกที่ประสบปัญหาดังกล่าว ส่งผลให้ประชาชนตั้งคำถามถึงระบบการรักษาความปลอดภัยทางข้อมูลของเฟซบุ๊ค   ——————————————————————————————————————————————– ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ …

เยอรมนีผวา! หลังสื่อใหญ่เผยว่าเรือดำน้ำทันสมัยของประเทศ กำลังใช้ระบบนำร่องที่ทำมาจากรัสเซีย

Loading

    German subs using Russian nav systems: report By DAVE MAKICHUK (เดฟ มาคิชุค) 05/04/2021   สื่อใหญ่เยอรมนีรายงานว่า เรือดำน้ำทันสมัยของประเทศหลายลำทีเดียวติดตั้งซอฟต์แวร์ระบบนำร่องที่ทำในรัสเซีย ทำให้เกิดความกังวลกันว่าในกรณีเกิดการโจมตีทางไซเบอร์อย่างเลวร้ายที่สุด ข้อมูลด้านการเดินทางของเรือเหล่านี้อาจถูกแฮก และเรือเหล่านี้ก็จะสูญเสียความสามารถในการปฏิบัติการไปโดยสิ้นเชิง “บิลด์” (Bild) หนังสือพิมพ์รายวันขายดีที่สุดของแดนดอยช์เสนอข่าวเปิดโปงว่า เรือดำน้ำเยอรมนีที่ประจำการอยู่ในกองทัพเวลานี้ ติดตั้งระบบนำร่องที่ทำในรัสเซีย (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bild.de/themen/uebersicht/themenseiten/alle-themen-15838852.bild.html) รายงานนี้น่าที่จะทำให้เกิดความขนพองสยองเกล้าขึ้นในหมู่ชาติพันธมิตรนาโต้ด้วยกัน ไม่ใช่ว่ามันเป็นระบบนำร่องที่เลวร้ายย่ำแย่หรอก แต่สิ่งซึ่งเป็นประเด็นปัญหาอย่างชัดเจนก็คือ ระบบเหล่านี้อาจมีจุดอ่อนที่จะถูกก่อวินาศกรรมหรือถูกควบคุมบงการโดยพวกหน่วยงานข่าวกรองต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากรัสเซีย ซึ่งถูกถือเป็นศัตรูหมายเลข 1 ของนาโต้เสียด้วย ข่าวนี้ปรากฏขึ้นมาท่ามกลางความบาดหมางขมึงตึงระหว่างรัสเซียกับฝ่ายตะวันตก ในประเด็นปัญหาต่างๆ อย่างเช่นเรื่องรัสเซียเข้าผนวกดินแดนแหลมไครเมีย และการปฏิบัติที่มอสโกกระทำกับพวกฝ่ายค้านภายในประเทศของตน ยิ่งกว่านั้น วังเครมลินยังกำลังระดมกำลังทั้งรถถัง, กองทหาร, และเฮลิคอปเตอร์ ไปอยู่ตรงแถวๆ ชายแดนรัสเซียที่ประชิดกับยูเครน กลายเป็นสัญญาณเตือนภัยอันตรายอย่างแรงขึ้นที่เพนตากอน (กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ) ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่กองทัพเรือเยอรมนีที่ไม่มีการเอ่ยนามรายหนึ่งบอกกับ บิลด์ ว่า “แน่นอนล่ะ เรารู้สึกกังวลว่าข้อมูลของเราจะถูกแอบดักฟัง…

รัสเซียโต้กลับเช็ก ขับ20นักการทูตพ้นประเทศ ฮึ่มถูกโยงบึ้มคลังอาวุธ

Loading

  รัสเซียโต้กลับเช็ก – วันที่ 19 เม.ย. บีบีซี รายงานว่า รัสเซียประกาศขับนักการทูตสาธารณรัฐเช็ก 20 คน ออกนอกประเทศ โดยให้เวลาเพียง 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นการตอบโต้ 1 วัน หลังสาธารณรัฐเช็กประกาศขับนักการทูตรัสเซีย 18 คน ออกนอกประเทศเช่นกัน โดยให้เวลา 72 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองเช็กระบุว่า นักการทูตรัสเซีย 18 คน เป็นผู้ปฏิบัติการข่าวกรองรัสเซีย และต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่คลังเก็บกระสุนในป่าที่หมู่บ้าน วรเบียทิตเซ (Vrbětice) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเช็ก คร่าชีวิต 2 ศพ เมื่อ 16 ต.ค. 2557 แต่ทางการรัสเซียระบุว่าไม่มีมูลความจริงและไร้สาระ       สาธารณรัฐเช็กจะแจ้งต่อ องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโตและ สหภาพยุโรป หรืออียู เกี่ยวกับข้อสงสัยดังกล่าว และจะหารือเรื่องนี้ในการประชุมบรรดารัฐมนตรีต่างประเทศชาติสมาชิกอียูวันนี้ ขณะที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกาประกาศยืนข้างสาธารณรัฐเช็ก โดยกล่าวว่าเป็นการตอบโต้อย่างแน่วแน่ต่อการกระทำบ่อนทำลายของรัสเซียในดินแดนเช็ก ก่อนหน้านี้…