อิตาลีตะเพิดทูตรัสเซีย จับได้ซื้อความลับทางทหาร

Loading

    จับได้คาหนังคาเขา ตำรวจอิตาลีรวบตัวนาวาเอกของกองทัพเรืออิตาลี ขณะส่งมอบเอกสารลับแก่เจ้าหน้าที่ทูตทหารของรัสเซียแลกกับเงินไม่ถึง 2 แสนบาทเมื่อคืนวันอังคาร พร้อมสั่งตะเพิดเจ้าหน้าที่สำนักงานผู้ช่วยทูตทหารรัสเซีย 2 คนรัสเซียหน้าม้านเสียใจเจ้าหน้าที่โดนเนรเทศ แต่เชื่อไม่กระทบสัมพันธ์ แถลงการณ์ของตำรวจและรายงานของสื่ออิตาลีเมื่อวันพุธกล่าวว่า บุคคลทั้งสองโดนจับได้คาหนังคาเขา ขณะลอบพบกันที่ลานจอดรถแห่งหนึ่งในกรุงโรมเมื่อคืนวันอังคาร ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษเข้าขัดขวางการขายความลับครั้งนี้ และจับกุมนาวาเอก ซึ่งเป็นผู้บังคับการเรือฟริเกตของกองทัพเรืออิตาลี นายนี้ไว้ได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารรัสเซียนั้น มีเอกสิทธิ์ทางการทูตคุ้มครองจึงต้องปล่อยตัวไป ทหารอิตาลีนายนี้ถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมร้ายแรง ฐานจารกรรมข้อมูลและส่งมอบเอกสารลับเพื่อแลกกับเงิน คำแถลงของตำรวจไม่ได้เปิดเผยชื่อของเขา แต่สื่ออิตาลีรายงานว่า เขาชื่อวอลเตอร์ บิออต ทำงานในหน่วยนโยบายทางทหารสังกัดสำนักงานหัวหน้าคณะเสนาธิการกลาโหม ที่ดูแลเกี่ยวกับเอกสารลับทั้งหมด รวมถึงแฟ้มของนาโต ข่าวบอกด้วยว่า เขามอบเอกสารลับให้รัสเซียแลกกับเงิน 5,000 ยูโร (ราว 183,000 บาท) ลุยจิ ดิ มาโย รัฐมนตรีต่างประเทศของอิตาลี เรียกเอกอัครราชทูตเซอร์เกย์ ราซอฟ ของรัสเซียเข้าพบเช้าวันพุธเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการ และสั่งเนรเทศเจ้าหน้าที่ทูตรัสเซีย 2 คนที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ดิ มาโย กล่าวว่าเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างยิ่งนี้ สำนักข่าวของรัสเซีย อ้างสถานทูตรัสเซียประจำอิตาลีว่า เจ้าหน้าที่ 2 คนที่โดนขับออกนอกอิตาลีทำงานที่สำนักงานผู้ช่วยทูตทหาร แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ทหารของรัสเซียที่พบกับนาวาเอกอิตาลีรายนี้เป็นหนึ่งในคนที่โดนเนรเทศหรือไม่ สถานทูตรัสเซียประจำกรุงโรมยืนยันว่ามีสมาชิกในสำนักงานผู้ช่วยทูตทหารคนหนึ่งโดนตำรวจอิตาลีเรียกหยุดเมื่อวันอังคาร…

รัฐบาลญี่ปุ่นมีมติห้ามใช้ Line ส่งข้อมูลลับ หวั่นรั่วไหลถึงจีน

Loading

  นายคัตสึโนบุ คาโตะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นมีมติห้ามการใช้แอปพลิเคชัน Line ส่งข้อมูลที่มีความอ่อนไหวเป็นการชั่วคราว การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่สื่อรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของบริษัทในเครือของ Line ที่ตั้งในจีน สามารถเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าในญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับชื่อของผู้ใช้บริการ หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมลแอดเดรส “รัฐบาลจะระงับการใช้ Line เมื่อมีการส่งข้อมูลที่มีความอ่อนไหว และจะจัดตั้งคณะทำงานเพื่อออกแนวปฏิบัติในไม่ช้า” นายคาโตะกล่าวในการแถลงข่าว ทั้งนี้ Line ถือเป็นแอปพลิเคชันยอดนิยมในโลกออนไลน์ โดยมีผู้ใช้บริการกว่า 86 ล้านรายในญี่ปุ่น รวมทั้งมีผู้ใช้บริการจำนวนมากในไทย ไต้หวัน และอินโดนีเซีย   ———————————————————————————————————————————————————- ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์      วันที่เผยแพร่ 30 มี.ค.64 Link : https://www.infoquest.co.th/2021/74209

เวียดนามคุกผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก 10 ปี ฐานโพสต์คลิป-บทความต่อต้านรัฐ

Loading

  รอยเตอร์ – ศาลในเวียดนามตัดสินจำคุกผู้ใช้งานเฟซบุ๊กเป็นเวลา 10 ปี หลังพบว่ามีความผิดฐานเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อต่อต้านรัฐบนสื่อสังคมออนไลน์ หวู เตียน จิ อายุ 55 ปี ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหา ‘ผลิต จัดเก็บ กระจายข้อมูล วัตถุ สิ่งของ เพื่อวัตถุประสงค์ในการต่อต้านรัฐ’ ในการพิจารณาคดีที่ใช้เวลาเพียง 1 วัน ในจ.เลิมด่ง ตามการระบุของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ แม้เวียดนามจะดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจและเปิดกว้างให้กับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมมากขึ้น แต่พรรคคอมมิวนิสต์ที่ปกครองประเทศยังคงเซ็นเซอร์สื่ออย่างเข้มงวดและยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์เพียงเล็กน้อย หวู เตียน จิ ถูกกล่าวหาว่าแชร์บทความ 338 บทความ และคลิปวิดีโอ 181 คลิป บนสื่อสังคมออนไลน์เพื่อบิดเบือนและให้ร้ายการบริหารงานของประชาชน ละเมิดผลประโยชน์ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและรัฐ ในช่วงที่เขาถูกจับกุมตัวเมื่อเดือนมิ.ย. 2563 ตำรวจกล่าวว่าจิได้แชร์เนื้อหาต่อต้านรัฐในบัญชีเฟซบุ๊กหลายบัญชี พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามทวีความรุนแรงในการปราบปรามผู้เห็นต่าง ทั้งจับกุมนักโทษการเมืองมากขึ้น ตัดสินโทษจำคุกนานขึ้น และคุกคามนักเคลื่อนไหวมากขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ นอกจากคดีของหวู เตียน จิ แล้ว ยังมีผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์อีก 3 คน ถูกพิจารณาคดีที่จ.แค็งฮว้า ด้วยข้อหาคล้ายกัน ตามการรายงานของสื่อ…

ปอท.เตือน! April Fool’s Day โพสต์ข่าวปลอม แชร์ข่าวปลอม มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ

Loading

  30 มีนาคม 2564 เพจเฟชบุ๊ก กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี-บก.ปอท.ได้โพสต์เตือนว่า ในวันที่ 1 เมษายน ของทุกปี ในหลายประเทศทั่วโลก ถือเป็นวันโกหก (April Fool’s Day) โดยผู้คนจะเล่นมุกตลกและเรื่องหลอกลวงต่อกัน แต่สำหรับในประเทศไทยนั้น การโพสต์ข้อความหลอกลวงหรือแชร์ข่าวปลอม ที่อาจทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดได้ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ปอท. จึงฝากเตือนประชาชน ให้ระมัดระวังในการโพสต์หรือแชร์ข่าวต่างๆในโซเชียลมีเดีย ว่ามีโทษจำคุกและเสียค่าปรับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 (1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน มาตรา 14 (2) ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน มาตรา 14(5) ผู้ใดเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวข้างต้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ   —————————————————————————————————————————— ที่มา…

ผงะ! พบพัสดุยัดลูกปืน M16 ถึง 6 พันนัด-ระเบิดลูกเกลี้ยงอีก 52 ลูก ส่งจากชลบุรีจ่อข้ามแดนแม่สาย

Loading

  เชียงราย – จนท.ตำรวจ-ทหาร-ฝ่ายปกครอง ยึดพัสดุยัดลูกปืนรวม 6,000 นัด-ระเบิดลูกเกลี้ยง K75 อีก 50 กว่าลูก ส่งจากชลบุรีผ่านแม่สาย เตรียมส่งต่อข้ามฝั่งเข้าท่าขี้เหล็ก ระบุชื่อ-เบอร์โทร.คนรับ/คนส่งพร้อมสรรพ วันนี้ (29 มี.ค.) ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่สาย จ.เชียงราย ฝ่ายปกครองและทหารกองกำลังผาเมือง ได้ร่วมกันตรวจสอบของกลางกระสุนปืนขนาด 5.56 มม.ที่ใช้กับปืนขนาดเอ็ม 16 รวมกว่า 6,000 นัด ระเบิดขว้างสังหารบุคคล รุ่น K75 อยู่ในกล่องทรงกระบอกสำหรับบรรจุลูกระเบิด 52 ลูก เพื่อทำการขยายผลตามกฎหมาย     หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากร้านศักดิ์โมบายด์ เลขที่ 829/2 หมู่ 3 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ร้านรับส่งพัสดุภัณฑ์และรับจ้างรับส่งของไปยังฝั่งท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ครั้งละ 80-150 บาท เมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้รับกล่องพัสดุด่วนเอกชนรายหนึ่งส่งมาจาก จ.ชลบุรี จำนวน…

พบมือบึ้มฆ่าตัวตายโจมตีโบสถ์คริสต์อินโดฯ เป็นนักศึกษาสมาชิกกลุ่มฝักใฝ่ IS

Loading

  เหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีโบสถ์คริสต์แห่งหนึ่งในอินโดนีเซียเมื่อวันอาทิตย์ (28 มี.ค.) ลงมือโดยสมาชิก 2 คนของกลุ่มหัวรุนแรงฝักใฝ่รัฐอิสลาม (Islamic State) ซึ่งเคยอยู่เบื้องเหตุระเบิดเล่นงานโบสถ์อื่นๆ ก่อนหน้านี้ ในนั้นรวมถึงเหตุโจมตีนองเลือดในฟิลิปปินส์ปี 2019 จากการเปิดเผยของตำรวจ ขณะที่พิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณกำลังเสร็จสิ้น พวกคนร้ายได้จุดชนวนวัตถุระเบิดอย่างน้อย 1 ครั้งบริเวณด้านนอกโบสถ์ อย่างไรก็ตาม ไม่มีคนอื่นๆ เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ ยกเว้นแต่ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบราย ลิสต์โย ซิกิต ปราโบโว ผู้บัญชาการตำรวจ เชื่อว่าพวกมือระเบิดเป็นสมาชิกของกลุ่มจามาห์ อันซอรุต เดาเลาะห์ (Jamaah Ansharut Daulah – JAD) ซึ่งต้องสงสัยอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีฆ่าตัวตายโบสถ์ต่างๆ และป้อมตำรวจแห่งหนึ่ง คร่าชีวิตอย่างน้อย 30 ศพในเมืองสุราบายาปี 2018 นอกจากนี้แล้วยังเชื่อว่าทางกลุ่มมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีด้วยระเบิดเล่นงานโบสถ์แห่งหนึ่งในฟิลิปปินส์ปี 2019 ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20 ราย ผู้ต้องสงสัยสมาชิกกลุ่ม JAD ราวๆ 20 คนถูกจับกุมในเดือนมกราคม “พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนั้น พวกเขาลงมือโจมตีด้วยระเบิดหม้ออัดความดัน”…