มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียซานฟรานซิสโกถูก Ransomware เรียกค่าไถ่ 1.14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เมื่อต้นเดือนมิถุนายน มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียซานฟรานซิสโก หรือ UCSF สถาบันวิจัยและการศึกษาด้านสุขภาพชั้นนำของโลกได้ถูกกำหนดเป้าหมายในการโจมตีโดยกลุ่ม NetWalker (aka MailTo) Ransomware ซึ่งได้มีการโพสต์โชว์หลักฐานแสดงการรั่วไหลของข้อมูลลงในเว็บไซต์เพื่อหวังข่มขู่ในการเรียกค่าไถ่ UCSF กล่าวในแถลงการณ์ว่าเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนเจ้าหน้าที่ไอที UCSF ตรวจพบและหยุดการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตในสภาพแวดล้อมไอทีส่วนที่จำกัดของโรงเรียนแพทย์ในขณะที่เกิดการบุกรุกขึ้น ด้วยความระมัดระวังอย่างมากได้แยกเซิร์ฟเวอร์ของโรงเรียนออกจากกัน และว่าจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ชั้นนำเพื่อช่วยเหลือ ซึ่งเครือข่ายของ UCSF โดยรวมไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ และไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินการส่งมอบการดูแลผู้ป่วย สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าการโจมตีของแฮ็กเกอร์ไม่ได้ขัดขวางการทดสอบแอนตีบอดีที่เกี่ยวกับไวรัสโคโรนาโดยนักวิจัยของ UCSF วันศุกร์ 26 มิถุนายน UCSF แถลงการณ์ว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายไอทีได้ตรวจพบการบุกรุกเข้ามาในส่วนหนึ่งของระบบเครือข่ายไอทีโรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเมื่อ 1 มิถุนายน จากนั้นได้แยกระบบไอทีหลายแห่งภายในคณะแพทยศาสตร์ออกจากเครือข่ายหลักของ UCSF ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการส่งมอบการดูแลผู้ป่วยเครือข่ายมหาวิทยาลัยโดยรวมหรืองาน COVID-19 ในขณะที่เจ้าหน้าที่ได้หยุดการโจมที่กำลังเกิดขึ้น ผู้บุกรุกได้เปิดมัลแวร์ (Netwalker) เข้ารหัสในเซิร์ฟเวอร์ของโรงเรียนแพทย์จำนวนหนึ่ง และได้ขโมยข้อมูลบางส่วนเป็นหลักฐานเพื่อใช้ในการเรียกค่าไถ่ ข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสมีความสำคัญต่องานวิชาการบางส่วน จึงตัดสินใจยากที่จะจ่ายค่าไถ่บางส่วนประมาณ 1.14 ล้านเหรียสหรัฐฯ เพื่อแลกกับเครื่องมือหรือคีย์สำหรับปลดล็อกข้อมูลที่เข้ารหัสและการรับข้อมูลที่ถูกขโมยไป มหาวิทยาลัยฯ ไม่ได้เปิดเผยอย่างแน่ชัดว่าไฟล์ข้อมูลอะไรกันแน่ที่มีมูลค่ากว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่มันคงมีความสำคัญมาก ๆ ซึ่งอาจจะเป็นงานวิชาการที่ได้ศึกษาวิจัยมาเป็นเวลานานที่ยังไม่มีใครค้นพบหรืออาจจะเป็นประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วยที่กลัวว่าจะถูกนำออกไปเปิดเผย ล่าสุดเดือนนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในบ้านเราก็ได้ออกมาเปิดเผยว่าโดนมัลแวร์เรียกค่าไถ่โจมตีเช่นกัน…