เกาหลีใต้เตรียมติดตั้งสถานี 5G ในหมู่บ้านแดซัง พื้นที่ติดชายแดน ที่ขึ้นชื่อว่าอันตรายที่สุดในโลก

Loading

สมกับเป็นประเทศที่ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือได้เร็วที่สุดในโลก หลังจากที่เกาหลีใต้เพิ่งเปิดใช้เครือข่าย 5G เป็นประเทศแรกในโลกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ล่าสุดนี้ ทาง KT Corp ค่ายยักษ์ใหญ่ที่กินส่วนแบ่งในตลาด 5G อยู่ 30% ก็กำลังจะขยายพื้นที่ให้บริการไปยังหมู่บ้านติดชายแดนเกาหลีเหนือ ที่ที่บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เคยออกปากว่าเป็นพื้นที่ที่อันตรายที่สุดในโลก หมู่บ้านนี้มีชื่อว่าหมู่บ้านอิสระแดซัง (Daesung Freedom Village) อยู่ห่างจากพรมแดนเกาหลีเหนือเพียง 400 เมตร และเป็นพื้นที่ที่มีกองกำลังทหารติดอาวุธอย่างแน่นหนา ผู้คนไม่สามารถออกจากบ้านโดยปราศจากการคุ้มครองของทหารได้ อีกทั้งด้วยความห่างไกลจากตัวเมืองทำให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเป็นไปได้อย่างยากลำบาก KT ซึ่งเดิมเคยเป็นองค์กรโทรศัพท์แห่งประเทศเกาหลีใต้ จึงเข้าไปติดตั้งสถานีสัญญาณ 5G ในหมู่บ้านแดซัง เพื่อให้ชาวบ้านกว่า 200 คนที่นั่นใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว และสามารถใช้เทคโนโลยีในกิจกรรมต่างๆ เช่นสั่งการระบบรดน้ำต้นไม้ในไร่นา ไม่จำเป็นต้องออกไปรดเองพร้อมมีทหารคอยคุ้มครองอย่างที่เคยทำมาตลอด เพียงแต่จะมีบางพื้นที่ในหมู่บ้านที่อินเทอร์เน็ตอาจจะไม่เร็วเท่าข้างนอก อย่างเช่นในโรงเรียนที่ถูกสร้างขึ้นอย่างแน่นหนาเพื่อป้องกันกระสุนปืนลูกหลงที่อาจยิงเข้ามาถูกเด็กๆ “คราวนี้หมู่บ้านของเราที่เต็มไปด้วยกฎเข้มงวดและความตึงเครียดในความเป็นจริง ก็จะสามารถมีโลกเสมือนที่ดีงามกับเขาเสียที” คิม ดงกู หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวกับนักข่าวรอยเตอร์ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ติดตั้งต้องลงพื้นที่อย่างระมัดระวังไม่ให้สัญญาณเครือข่ายข้ามเขตแดนไปยังเกาหลีเหนือได้อย่างเด็ดขาด ข้อมูล ณ ปี 2018 อัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประชากรเกาหลีใต้อยู่ที่ 92.6% ปัจจุบันที่เกาหลีใต้มีสถานีสัญญาณ 5G อยู่กว่า…

ร้อนระอุขึ้นเข้าไปอีก สหรัฐถล่มระบบควบคุมขีปนาวุธอิหร่าน

Loading

สหรัฐเปิดฉากโจมตีทางไซเบอร์ต่อระบบควบคุมขีปนาวุธของอิหร่าน และโจมตีเครือข่ายสายลับของอิหร่านในเวลาเดียวกัน คาดว่าเพื่อตอบโต้ที่อิหร่านยิงโดรนของสหรัฐตก The Washington Post รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้หน่วยปฏิบัติการไซเบอร์ของสหรัฐลอบโจมตีอิหร่าน จนทำให้คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการควบคุมการยิงจรวดและขีปนาวุธใช้การไม่ได้ ขณะที่ Yahoo News รายงานว่าเครือข่ายข่าวกรองของอิหร่านที่สอดแนมความเคลื่อนไหวของเรือในอ่าวเหอร์เซียถูกโจมตีเช่นกัน ด้านสำนักข่าว Fars ของอิหร่านรายงานว่า ในเวลานี้ยังไม่ชัดเจนว่าการโจมตีส่งผลกระทบมากเพียงใด แต่ตอบโต้ว่าสื่อในสหรัฐพยายามที่จะรายงานข่าวเพื่อสร้างกระแสให้สาธารณชนเห็นว่าสหรัฐทำการสำเร็จ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนจากความอับอาย หลังจากที่โดรนสหรัฐถูกอิหร่านยิงตก การโจมตีโดรนของสหรัฐเกิดขึ้นหลังจากการโจมตีของเรือบรรทุกน้ำมันในอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งสหรัฐอ้างว่าเป็นฝีมือของอิหร่าน แต่อิหร่านปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว กรณีที่เกิดขึ้นทำให้สหรัฐใช้เป็นข้ออ้างส่งกำลังทหารเข้าไปประจำการเพิ่มในอ่าวเปอร์เซีย ส่วนกรณีการยิงโดรนของสหรัฐ อิหร่านอ้างว่าโดรนดังกล่าวรุกล้ำน่านฟ้า แต่สหรัฐปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม พลจัตวา อาบอลฟาซี เชการ์ชี ในกองทัพพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่าน แสดงความเห็นว่าโดรนอาจล่วงล้ำเข้ามาโดยบังเอิญ แต่การส่งโดรนสอดแนมเข้ามาในน่านฟ้าสากล ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ล่วงละเมิดอยู่ดี ด้านพล. ต. โกลามาลี ราชิด ของอิหร่านเตือนสหรัฐว่า หากสหรัฐก่อสงครามกับอิหร่านจะส่งผลกระทบทั่วทั้งภูมิภาคอย่างที่ไม่อาจควบคุมได้ ทั้งนี้ ภาพประกอบรายงานข่าว คือการยิงขีปนาวุธของกองทัพเรืออิหร่าน ระหว่างการฝึกซ้อมทางทหารในอ่าวโอมาน โดยเป็นภาพจากสำนักงานกองทัพเรืออิหร่านเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2019 (ภาพถ่ายโดย – / สำนักงานกองทัพเรืออิหร่าน…

สุดล้ำ!!! นักวิจัยคิดวิธีขโมยรหัสผ่าน จากการฟังเสียงแป้นพิมพ์

Loading

แฮกเกอร์พยายามสรรหาวิธีใหม่ ๆ มาขโขมยรหัสผ่านของเรา ล่าสุดนักวิจัยประสบความสำเร็จ ในการขโมยรหัสผ่าน ด้วยการฟังเสียงสิ่งที่เรากำลังพิมพ์ ตอนนี้มีแฮกเกอร์ใช้หลากหลายวิธีในการขโมยรหัสผ่าน วิธีที่ง่ายที่สุดคือการเดารหัสผ่านที่คนนิยมใช้เป็นประจำอย่าง 1234 ซึ่งไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายอะไรนัก วิธีขั้นสูงขึ้นไปก็มีตั้งแต่การใช้เครื่องมือดักรหัสผ่านหรือการฟิชชิ่งปลอมเป็นบริการต่างๆ หลอกให้คนที่หลงเชื่อ กรอกรหัสของตัวเองเข้าไป จากนั้นก็นำรหัสไปใช้เพื่อขโมยข้อมูลที่ต้องการ ซึ่งแฮกเกอร์เองก็พยายามสรรหาวิธีใหม่ๆมาช่วยให้ขโมยได้แนบเนียนและง่ายยิ่งขึ้น ล่าสุดทางนักวิจัยจาก University of Cambridge และ Linköping University ได้คิดค้นวิธีขโมยรหัสผ่านรูปแบบใหม่จากการฟังเสียงสิ่งที่เราพิมพ์ลงไปบนคีย์บอร์ด การจะใช้เทคนิกนี้ได้ แฮกเกอร์จะต้องติดตั้งมัลแวร์ลงในเครื่องของเป้าหมายก่อน เพื่อให้เข้าถึงการใช้ไมโครโฟนบนมือถือหรือคอมพิวเตอร์ จากนั้นก็ทำการเก็บคลื่นเสียงและการสั่นสะเทือนเวลาที่เรากดคีย์บอร์ดหรือแป้นพิมพ์บนหน้าจอ อัลกอริทึ่จะคำนวณออกมาว่าเรากดตัวไหนไป โดยระยะเวลาเดินคลื่นเสียงที่เดินทางมายังไมโครโฟนซึ่งจะเป็นตัวช่วยบอกตำแหน่งอีกทางนึง แน่นอนว่ามันยังเป็นงานวิจัยที่ยังไม่สมบูรณ์ 100% แต่ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าแนวคิดนี้นำมาใช้ได้จริง ตัวระบบจะใช้อัลกอริทึ่มในการคาดเดาการพิมพ์รหัสผ่าน 4 หลักจากการฟังเสียงที่เรากดแป้นพิมพ์ ผลที่ได้คือสามารถเดารหัสผ่านได้สำเร็จ 31 ล็อกกินจากทั้งหมด 50 ล็อกอินด้วยความพยายามแค่ 10 ครั้งเท่านั้น  นั่นหมายความว่าถ้ายิ่งรหัสผ่านยาวขึ้น ความสามารถในการเดารหัสผ่านจากการฟังเสียงจะยากขึ้นตามไปด้วย ———————————————————— ที่มา : DailyGizmo / Jun 6, 2019 Link : https://www.dailygizmo.tv/2019/06/06/steal-password-by-hearing-typing/