หนุ่มนศ.อินโดฯบึ้มฆ่าตัวตาย ใน สนง.ตำรวจ

Loading

มือระเบิดฆ่าตัวตายนักศึกษาหนุ่มวัย 24 ปีชาวอินโดนีเซีย ดึงชนวนระเบิดโจมตีหน้ากองบังคับการตำรวจเมืองเมดาน บนเกาะสุมาตรา ทางภาคตะวันตก เมื่อเช้าวันพุธ ทำให้ร่างแหลกเละ เสียชีวิตคาที่ และมีผู้โดนสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บอีก 6 คน นายพลตำรวจจัตวา เดดี ปราเซตโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย แถลงที่กรุงจาการ์ตา เมื่อบ่ายวันพุธ ว่า คนร้ายเป็นนักศึกษาชาวเมืองเมดาน โดยระบุชื่อแค่อักษรย่อในภาษาอังกฤษว่า อาร์เอ็มเอ็น (RMN) จากการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล จากลายพิมพ์นิ้วมือ และลงมือก่อเหตุครั้งนี้เพียงคนเดียว ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 คนในเหตุการณ์ ประกอบด้วยตำรวจ 4 นาย และพลเรือน 1 คน และรถยนต์ที่จอดอยู่ในบริเวณดังกล่าวพังเสียหายหลายคัน ตอนนี้ตำรวจกำลังสอบสวนหามูลเหตุจูงใจ รวมทั้งผู้ก่อเหตุเกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรงกลุ่มใด หรือไม่ นายพลปราเซตโย เผยว่า การตรวจสอบจุดเกิดเหตุรอบศพคนร้าย ตำรวจพบแบตเตอรี่ขนาด 9 โวลต์ แผ่นโลหะ ตะปูหลายขนาด สายลวด และสวิตช์ปิดเปิด ส่วนผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งเผยว่า คนร้ายสวมเสื้อกั๊กมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เดินผ่านประตูด้านหน้ากองบังคับการตำรวจเมดาน เข้าไปภายในเมื่อเวลาประมาณ 8.40 น.…

ญี่ปุ่นฉุนทหารสหรัฐฯ ท้ามฤตยู อ่านหนังสือ-เซลฟีพร้อมขับเครื่องบิน

Loading

ชาวญี่ปุ่นและทางการเมืองอิวากูนิ จังหวัดยามางูจิ ประท้วงทหารสหรัฐฯ ที่ประจำการในพื้นที่ หลังจากปรากฏภาพที่ทหารสหรัฐฯ ท้าทายกฎความปลอดภัยยามขับเครื่องบิน สร้างความหวาดหวั่นให้ชาวบ้าน ภาพถ่ายของทหารสหรัฐฯ ที่ประจำการ ณ ฐานทัพอากาศอิวากูนิ แสดงให้เห็นนักบินหลายคนมีพฤติกรรมท้าทายกฎความปลอดภัยในยามซ้อมขับเครื่องบินรบ ทั้งอ่านหนังสือไปพร้อมกับขับเครื่องบิน, โกนหนวดขณะขับเครื่องบิน, ถ่ายภาพเซลฟีโดยปล่อยมือทั้งสองข้างจากคันบังคับเครื่องบิน และถอดหน้ากากออกซิเจนออก เป็นต้น พฤติกรรมเหล่านี้เป็นการเล่นสนุกสนานของบรรดานักบินกองทัพสหรัฐฯ แต่ละเมิดกฎความปลอดภัย และสร้างความวิตกกังวลให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่อย่างมาก นายสึงูมาซะ มูราโอกะ ผู้ว่าการจังหวัดยามางูจิ ได้แสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อพฤติกรรมดังกล่าว และได้ยื่นประท้วงต่อฐานทัพสหรัฐฯ อิวากูนิ และกระทรวงการป้องกันประเทศของญี่ปุ่น ในญี่ปุ่นมีฐานทัพสหรัฐฯ ตั้งอยู่ในหลายพื้นที่ ที่ใหญ่ที่สุดคือเกาะโอกินาวา ซึ่งสร้างความไม่พอใจกับชาวบ้านในพื้นที่มาต่อเนื่องยาวนาน ทั้งจากพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ และเรื่องความปลอดภัย โดยเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เคยเกิดเหตุเครื่องบินรบสหรัฐฯ ชนกับเครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศ สร้างความประหวั่นพรั่นพรึงให้ชาวบ้านในพื้นที่อย่างมาก พฤติกรรมท้ามฤตยูของทหารสหรัฐฯ ยิ่งทำให้ชาวญี่ปุ่นไม่พอใจฐานทัพสหรัฐฯ มากยิ่งขึ้นว่าไม่ใส่ในเรื่องความปลอดภัย และไม่เคารพชาวญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าของพื้นที่ ——————————————– ที่มา : MGR Online / 8 พฤศจิกายน 2562 Link : https://mgronline.com/japan/detail/9620000107215

ศาลเข้ม!รักษาความปลอดภัย เพิ่ม’คอร์ทมาแชล’จาก 35 เป็น 300 กำชับทุกศาลตรวจวงจรปิด-สแกนอาวุธ

Loading

“สราวุธ” เลขาฯ ศาลยุติธรรม ระบุเตรียมเพิ่มกำลัง คอร์ทมาแชล จาก 35 เป็น 300 คน แก้ปัญหากำลังรักษาความปลอดภัยในศาล พร้อมประเมินความเสี่ยงแต่ละพื้นที่จัดกำลังหมุนเวียน กำชับทุกศาลตรวจวงจรปิด-เครื่องตรวจอาวุธพร้อมใช้ จากกรณีที่เกิดเหตุผู้ต้องขังคดียาเสพติด 3 คน ได้หนีจากห้องควบคุมในศาลจังหวัดพัทยา โดยใช้อาวุธปืน-มีดที่ลักลอบเข้าไป ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยในศาลได้รับบาดเจ็บ เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา จนล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ (12 พ.ย.) ที่ผ่านมามีผู้ก่อเหตุยิงคู่ความในคดีเจ้าหน้าที่ศาล และทนายความ ภายในห้องพิจารณาของศาลจังหวัดจันทบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ระหว่างรอกระบวนพิจารณาคดีพิพาทมรดกที่ดิน โดยมีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตด้วย 2 คนเป็นทนายความ และผู้ถูกยิงบาดเจ็บ 3 คนรวมผู้ก่อเหตุด้วยซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยบริเวณ ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงสกัดได้รับบาดเจ็บหลังก่อเหตุดังกล่าว เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ได้กล่าวถึงการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยรัดกุมบริเวณศาลว่า จากเหตุที่เกิดที่ผ่านมา เรากำลังตรวจสอบให้ทราบสาเหตุที่แท้จริง เพื่อมาตรการความเข้มงวดรักษาความปลอดภัยและความเรียบร้อยบริเวณศาลที่รัดกุม โดยการดูแลความเรียบร้อยในศาลมีด้วยกัน 3 ส่วน ส่วนผู้ต้องขังจะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จากกรมราชทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ซึ่งมาปฏิบัติหน้าที่ร่วมดูแลความปลอดภัยบริเวณศาล และในส่วนของศาลเองมีเจ้าหน้าที่…

ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ แพ้คดีการค้นและยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยไม่มีข้อสงสัย, หลังจากนี้ต้องแสดงเหตุอันสมควร

Loading

EFF และ ACLU สององค์กรไม่หวังผลกำไรด้านสิทธิการแสดงออกชนะคดีที่ฟ้องร้องกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) พร้อมกับหน่วยงานดูแลชายแดน CBP (U.S. Customs and Border Protection) และ ICE (U.S. Immigration and Customs Enforcement) จากการตรวจค้นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้เดินทางเข้าประเทศจำนวน 11 รายโดยไม่สามารถแจ้งเหตุผลอันสมควรได้ การตรวจค้นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือหรือโน้ตบุ๊ก มีมากขึ้นเรื่อยๆ ในสหรัฐฯ โดยปี 2018 ที่ผ่านมามีการตรวจค้นกว่า 33,000 ครั้ง เพิ่มขึ้นสี่เท่าตัวในห่วงสามปี การตรวจค้นครั้งหนึ่งที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้คือ Ismail B. Ajjawi นักศึกษาปีหนึ่งของฮาวาร์ดที่ถูก CBP คุมตัวขณะเดินทางเข้าประเทศ เมื่อตรวจค้นโทรศัพท์และโน้ตบุ๊ก เจ้าหน้าที่พบโพสต่อต้านสหรัฐฯ จากเพื่อนของ Ismail แม้ตัว Ismail ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับโพสนั้น เขาก็ถูกยกเลิกวีซ่าและส่งตัวกลับเลบานอน ———————————————- ที่มา : Blognone / 13 November 2019…

สถานทูตเตือนคนไทยในออสเตรเลีย เกาะติดข่าวสถานการณ์ไฟป่าอย่างใกล้ชิด

Loading

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ขอเรียนว่า ตามที่ได้มีรายงานข่าวสถานการณ์ไฟป่าในบางพื้นที่ของออสเตรเลียโดยเฉพาะที่รัฐ New South Wales และรัฐ Queensland ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันจันทร์ที่ 11 พ.ย. 2562 พบว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน สูญหายและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จากภาพถ่ายทางดาวเทียมแสดงให้เห็นควันไฟป่าที่มีระยะทางกว่า 4,000 กม. จาก Tasman Sea ไปจนถึง South Island ของนิวซีแลนด์ ในขณะที่ทางการออสเตรเลียได้ใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อคุ้มครองและรักษาชีวิต รวมทั้งบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียแจ้ง เตือนว่าสถานการณ์ไฟป่ามีแนวโน้มว่าอาจมีความรุนแรงยิ่งขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวรวมทั้งรัฐ Western Australia เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ ทิศทางและความแรงของลมที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ความชื้นปริมาณต่ำ และปริมาณฝนที่คาดว่าจะมีไม่มากในช่วงเดือน ธ.ค. นี้ จนถึงต้นปีหน้า ในรัฐ New South Wales พบว่ามีไฟป่าเกิดขึ้นถึง 64 จุด โดย…

ไอเอสดึงแม่บ้านอาเซียน เข้ากลุ่ม เลือกคนมีปัญหาเป็นสายก่อการร้าย

Loading

ไอเอสดึงแม่บ้านอาเซียน – ซีเอ็นเอ็น รายงานการเปิดข้อมูลกระทรวงกิจการภายในของสิงคโปร์ที่ตรวจจับความเคลื่อนไหวกลุ่มก่อการร้ายในภูมิภาคอาเซียน พบว่า กองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส เพ่งเล็งเป้าหมายสตรีผู้รับจ้างทำงานแม่บ้านและสาวใช้ ซึ่งเผชิญความโดดเดี่ยว มีปัญหาหนี้สินและปัญหาครอบครัว เข้าเป็นสมาชิกใหม่ สิงคโปร์จับกุม แม่บ้านชาวอินโดนีเซีย 3 คนที่รับจ้างทำงานบ้านในสิงคโปร์ เมื่อเดือน ก.ย. ฐานละเมิดกฎหมายความมั่นคง ทั้งตกเป็นผู้ต้องหาสนับสนุนทางการเงินให้กลุ่มก่อการร้าย  และใช้เวลาว่างทำกิจกรรมสนับสนุนกลุ่มไอเอสทางออนไลน์  ทำให้ทั้ง 3 คนอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี และถูกปรับ 500,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 11,300,000 บาท ตำรวจอินโดนีเซียตรวจพบระเบิด 3 ก.ก. ในบ้านพักเมืองเบกาซี ชวาตะวันตก เมื่อปี 2559 พบ 1 ใน 4 คนร้ายทำงานเป็นแม่บ้านรับจ้างที่สิงคโปร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อการร้ายเผยว่าผู้หญิง 3 คนนี้ไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่เคลื่อนไหวสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายในสิงคโปร์และฮ่องกง เนื่องจากมีแนวร่วมกระจายอยู่ในเอเชีย หลังจากไอเอสในตะวันออกกลางอ่อนกำลังลง นาวา นูรานิยาห์ นักวิจัยสถาบันวิเคราะห์นโยบายความขัดแย้งของอินโดนีเซีย หรือ IPAC บอกว่ากลุ่มผู้หญิงเหล่านี้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มไอเอสและถูกใช้ให้สร้างรายได้แก่ไอเอส ระหว่างปี 2558-2559 มีผู้หญิงชาวอินโดนีเซียอย่างน้อย 50…