นักการทูตจีนถูกจับกุมลงโทษ หลังมีปัญหาชู้สาวและขายความลับให้ต่างชาติ

Loading

(ภาพถ่ายจากคลิปโทรทัศน์ซีซีทีวี) By KG Chan07/11/2019 รายงานของสถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของทางการจีน (ซีซีทีวี) เปิดเผยว่ามีผู้ปฏิบัติงานรายหนึ่งถูกจับกุมและถูกศาลตัดสินประหารชีวิต ภายหลังมีปัญหาชู้สาวและส่งเอกสารลับจำนวนมากให้พวกสายลับต่างชาติ นักการทูตจีนระดับอาวุโสผู้หนึ่ง ซึ่งขณะรับตำแหน่งประจำการอยู่ในต่างประเทศ ได้ใช้ชีวิตแบบเพลย์บอย , เป็นพ่อของเด็ก 2 คนที่เกิดนอกสมรส, และมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับพวกสายลับต่างชาติ ได้ถูกส่งตัวขึ้นพิจารณาคดีในศาลด้วยข้อหาทำความลับระดับท็อปซีเครตของรัฐรั่วไหล ผู้ปฏิบัติงานชาวจีนแซ่จางผู้นี้ ซึ่งกล่าวกันว่าทำงานอยู่ในกระทรวงที่รับผิดชอบด้านเทคโนโลยี ถูกส่งตัวฟ้องร้องต่อศาลด้วยข้อหาฉกรรจ์ๆ เกี่ยวกับการทำให้ความลับระดับสูงของรัฐจำนวนมากรั่วไหลไปถึงเหล่าสปายสายลับต่างชาติ และในที่สุดก็ถูกศาลตัดสินลงโทษประหารชีวิตแต่ให้พักโทษนี้เอาไว้ก่อนเป็นเวลา 2 ปีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของจีน (China Central Television หรือ ซีซีทีวี) ได้เปิดเผย “โทษกรรมแห่งการหาประโยชน์ใส่ตัวอย่างเลวร้ายและการทรยศต่อประเทศชาติ” ของบุคคลผู้นี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในรายการที่มุ่งประจานการกระทำความผิดอันร้ายแรง ซึ่งออกอากาศช่วงไพรม์ไทม์ตอนกลางคืน จุดมุ่งหมายของรายการดังกล่าวนี้ อยู่ที่การมุ่งเตือนบรรดาเจ้าหน้าที่และประชาชนให้ตระหนักตื่นรู้ว่า ประเทศจีนยังคง “คลาคล่ำด้วยพวกสายลับต่างชาติ” รวมทั้งผู้ที่ได้รับตำแหน่งไปประจำในต่างแดนก็จะต้องคอยระแวดระวังการที่อาจถูกยั่วยวนล่อลวงและถูกกระตุ้นยั่วยุ สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงฮานอย (ภาพจากสื่อสังคม “วีแชต” ) ซีซีทีวีไม่ได้เอ่ยว่าจางไปประจำปฏิบัติหน้าที่ยังประเทศใด แต่มีผู้โพสต์ข้อความซึ่งไม่ได้มีการตรวจสอบยืนยันแต่เผยแพร่ไปทางสื่อสังคมจีนอย่าง “วีแชต” และ “เว่ยปั๋ว” ระบุว่า เขากระทำการทรยศชาติขณะทำงานอยู่ในเวียดนาม ยังมีการกล่าวอ้างกันด้วยว่า ลูกนอกสมรสไม่ถูกต้องตามกฎหมายของเขาได้ถูกใช้เป็นตัวประกันเพื่อบังคับให้เขาคอยป้อนความลับต่างๆ เพิ่มมากขึ้นอีก…

สนามบินเนเธอร์แลนด์ปิดฉุกเฉิน หลังนักบินพลาดส่งสัญญาณเตือนจี้เครื่องบิน

Loading

วานนี้ (6 พฤศจิกายน) เกิดความชุลมุนที่ท่าอากาศยานสคิปโฮลในกรุงอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในทวีปยุโรป หลังมีการส่งสัญญาณเตือนจี้เครื่องบินจากเที่ยวบินของสายการบิน Air Europa ที่กำลังเตรียมขึ้นบินสู่จุดหมายในกรุงมาดริดของสเปน ส่งผลให้ตำรวจต้องรีบปฏิบัติการช่วยอพยพผู้โดยสารและลูกเรือออกจากเครื่องบิน พร้อมทั้งปิดสนามบินบางส่วน เพื่อทำการตรวจสอบและดำเนินมาตรการป้องกันความปลอดภัยตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่ถึง 1 ชั่วโมง ทางสายการบิน Air Europa ได้ประกาศว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดของหนึ่งในนักบินที่เผลอเปิดสัญญาณเตือนจี้เครื่องบินโดยไม่ได้ตั้งใจ “สัญญาณเตือนในเที่ยวบินอัมสเตอร์ดัม-มาดริด ช่วงบ่ายวันนี้ ถูกเปิดใช้งานด้วยความผิดพลาด และส่งผลให้มีการดำเนินการเพื่อรับมือเหตุจี้เครื่องบินที่สนามบิน แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้โดยสารทุกคนปลอดภัย และกำลังรอที่จะออกเดินทางในเร็วๆ นี้” สายการบินทวีตข้อความ การปิดสนามบินที่เกิดขึ้นสร้างความสับสนและหวั่นวิตกแก่ผู้โดยสารที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ขณะที่ยังมีหลายเที่ยวบินร่อนลงจอด และบางเที่ยวบินถูกกักไว้ที่ลานจอดเครื่องบินนานเกือบ 1 ชั่วโมง ทางการเนเธอร์แลนด์ระบุว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นสถานการณ์ร้ายแรงที่เรียกว่าสถานการณ์ GRIP-3 ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบใหญ่หลวงต่อประชาชน ขณะที่ยังไม่แน่ชัดว่ามีการส่งสัญญาณเตือนจี้เครื่องบินผิดพลาดได้อย่างไร ซึ่งทางการกำลังอยู่ระหว่างสอบสวน แต่จากเอกสารกฎระเบียบของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) ระบุขั้นตอนส่งสัญญาณเตือนกรณีเกิดการจี้เครื่องบินว่า นักบินต้องพิมพ์รหัส 7500 ซึ่งเป็นรหัสสัญญาณดาวเทียมพิเศษก่อน จึงจะเปิดสัญญาณเตือนได้ หมายเหตุภาพ: เป็นแฟ้มภาพสนามบินสคิปโฮลจาก Getty Images ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ————————————– ที่มา…

ชาวคาตาลันชุมนุมประท้วงราชวงศ์สเปน

Loading

ชาวคาตาลันนับพันชุมนุมประท้วงราชวงศ์สเปน เผาพระฉายาลักษณ์กษัตริย์เฟลิเปที่ 6 เหตุไม่พอใจประเด็นเอกราชแคว้นคาตาลัน สำนักข่าว El PAIS สื่อท้องถิ่นสเปนรายงานเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่าชาวบาร์เซโลน่าจำนวนหลายพันคนได้ชุมนุมประท้วงต่อต้านราชวงศ์สเปน จากการที่สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีเลติเซีย เจ้าหญิงเลโอนอร์ เจ้าหญิงแห่งอัสตูเรียส และเจ้าหญิงโซเฟีย เสด็จพระราชดำเนินไปยังนครบาร์เซโลน่า ในการพระราชทานรางวัล Princess of Girona Awards รายงานระบุว่าผู้ชุมนุมซึ่งเป็นชาวคาตาลันได้รวมตัวกันอย่างน้อย 3 กลุ่มเดินขบวนไปตามถนนทั่วนครบาเซโลนา ได้มีการเผาพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 รวมถึงพร้อมใจชูป้ายข้อความประท้วงสถาบันกษัตริย์ของสเปน และมีการเผาธงชาติสเปน การเดินขบวนครั้งนี้นับเป็นการสืบเนื่องจากความไม่พอใจต่อราชวงศ์สเปนและรัฐบาลมาดริด จากกรณีความพยาลงประชามติแบ่งแยกแคว้นคาตาลันออกเป็นเอกราชเมื่อปี 2017 จนส่งผลให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองกระทั่งนำไปสู่การที่รัฐบาลมาดริดต้องใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญเข้าควบคุมการเมืองของแคว้นคาตาลัน ความไม่พอใจของชาวคาตาลันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากการที่เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 ทรงมีพระราชดำรัสต่อเหตุการณ์ในคาตาลันว่า การลงประชามติเอกราชของคาตาลันไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ อีกทั้งเป็นการละเมิดต่อหลักประชาธิปไตยและความเป็นเอกภาพของประเทศ พระบรมราชดำรัสดังกล่าวนั้นทำให้ชาวคาตาลันยิ่งมองว่าราชวงศ์สเปนไม่แยแสต่อข้อเรียกร้องของพวกเขา และยิ่งทำให้มีการต่อต้านราชวงศ์สเปนในแคว้นคาตาลันมากขึ้น Ernest Maragall แกนนำกลุ่มสนับสนุนสาธารณรัฐคาตาลันกล่าวว่า “ที่เราชุมนุมวันนี้ เพราะเราต้องการคาตาลันที่เป็นสาธารณรัฐ เพราะนั่นคือประชาธิปไตยที่แท้จริงของชาวคาตาลัน กษัตริย์และสถาบันกษัตริย์ไม่มีค่าใดๆในสายตาเราอีกแล้ว” ด้านผู้สนับสนุนการประท้วง โดยเฉพาะผู้นำกลุ่มสาธารณรัฐคาตาลันนิยมฝ่ายซ้าย เอร์เนสต์ มารากัลล์…

สหรัฐฯ ตั้งข้อหาอดีตพนง.ทวิตเตอร์ฐานเป็น ‘สายลับ’ ให้ราชวงศ์ซาอุฯ

Loading

เอเจนซีส์ – กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ประกาศดำเนินคดีอาญากับอดีตพนักงานทวิตเตอร์ 2 คน และผู้ต้องหารายที่ 3 ฐานทำงานเป็น “สายลับ” ให้ซาอุดีอาระเบีย โดยมีการเจาะข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ทวิตเตอร์ส่งให้แก่เจ้าหน้าที่ซาอุฯ เพื่อแลกกับค่าตอบแทน เอกสารคำฟ้องที่ยื่นต่อศาลแขวงซานฟรานซิสโกวานนี้ (6 พ.ย.) ระบุว่า อาลี อัลซาบาเราะห์ (Ali Alzabarah) และ อะหมัด อบูอัมโม (Ahmad Abouammo) ซึ่งเป็นอดีตพนักงานทวิตเตอร์ และ อาเหม็ด อัลมูไตรี (Ahmed Almutairi) ซึ่งทำงานให้ราชวงศ์ซาอุฯ ถูกตั้งข้อหาจารกรรมข้อมูลให้กับรัฐบาลริยาดโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนสายลับต่างชาติ อบูอัมโม ได้เจาะบัญชีทวิตเตอร์ของผู้วิจารณ์ราชวงศ์ซาอุฯ คนหนึ่งหลายครั้งเมื่อช่วงต้นปี 2015 โดยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาเข้าไปดูอีเมลแอดเดรสและเบอร์โทรศัพท์ของผู้ใช้คนดังกล่าว นอกจากนี้ยังทำการเจาะบัญชีของผู้โพสต์ข้อความวิจารณ์ราชวงศ์ซาอุฯ รายที่ 2 เพื่อสืบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใคร “ข้อมูลดังกล่าวอาจถูกนำไปใช้เพื่อระบุตัวตนและที่อยู่ของผู้ใช้ทวิตเตอร์ซึ่งโพสต์ข้อความเหล่านี้” กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุ เอกสารคำฟ้องระบุว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้รับการชี้นำจากเจ้าหน้าที่ซาอุฯ คนหนึ่ง และเจ้าหน้าที่คนนี้ทำงานให้กับ ‘สมาชิกราชวงศ์หมายเลข 1’ ซึ่งหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รานงานว่าหมายถึง…

ระวังภัย พบการใช้ช่องโหว่ BlueKeep (CVE 2019-0708) สั่งโจมตีให้เครื่องจอฟ้า ควรรีบอัปเดต

Loading

BlueKeep คือชื่อของช่องโหว่ประเภท Remote Code Execution ในบริการ Remote Desktop บน Windows ซึ่งเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ผู้ประสงค์ร้ายสามารถส่งโค้ดอันตรายเข้ามาประมวลผลที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของเหยื่อได้ การโจมตีผ่านช่องโหว่นี้สามารถทำได้อัตโนมัติผ่านเครือข่าย ที่ผ่านมาทาง Microsoft และนักวิจัยด้านความมั่นคงปลอดภัยได้ประเมินว่าช่องโหว่นี้มีโอกาสที่จะถูกใช้เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ผ่านเครือข่ายได้ แต่ปัจจุบันยังพบแค่การโจมตีเพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทางขึ้นจอฟ้า (BSOD) ระบบปฏิบัติการที่ได้รับผลกระทบจากช่องโหว่นี้คือ Windows XP, Windows 2003, Windows 7, และ Windows Server 2008 โดยทาง Microsoft ได้ออกแพตช์มาเพื่อแก้ไขปัญหาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2562 (ข่าวเก่า https://www.thaicert.or.th/newsbite/2019-05-24-01.html) แต่ปัจจุบันก็ยังมีรายงานเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่งที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้ติดตั้งแพตช์ดังกล่าว เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 นักวิจัยด้านความมั่นคงปลอดภัยชื่อ Kevin Beaumont ได้รายงานว่าพบการนำช่องโหว่ BlueKeep มาโจมตีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อให้ขึ้นจอฟ้า โดยเขาได้ข้อมูลนี้จากเครื่อง honeypot ที่เปิดรับการโจมตีไว้ นอกจากนี้ นักวิจัยชื่อฯ Marcus Hutchins ก็ได้ออกมายืนยันว่าพบการโจมตีในลักษณะเดียวกัน โดยได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า รูปแบบการโจมตีที่พบนี้ยังไม่ใช่การโจมตีลักษณะ worm…

แฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือปล่อยมัลแวร์ โจมตีโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์อินเดีย

Loading

โรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดของอินเดียที่ชื่อ Kudankulam Nuclear Power Plant ถูกโจมตีทางไซเบอร์เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาซึ่งช่วงแรกนั้นทางโรงงานดังกล่าวได้ปฏิเสธข่าวการถูกโจมตี แต่ท้ายสุดมีนักวิจัยด้านความปลอดภัยออกมาเผย โดย Pukhraj Singhได้ตีแผ่ข้อมูลดังกล่าวให้หลัง 2 – 3 วันผ่านทางทวิตเตอร์ โดยระบุว่า “มีการเข้าถึงระดับโดเมนคอนโทรลเลอร์ที่ Kudankulam Nuclear Power Plantและโจมตีระบบที่สำคัญมากไปด้วย” พร้อมทั้งแจ้งข้อมูลไปยังสำนักงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติ (NCSC) เมื่อวันที่ 4 กันยายน การบุกรุกระบบครั้งนี้ถูกตรวจพบโดยบริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์จากภายนอก ซึ่งบริษัทได้ติดต่อ Pukhraj Singh จนทำให้มีการแจ้งไปยัง NCSC อีกทีหนึ่ง จากนั้นวันที่ 23 กันยายน Kaspersky ก็ออกรายงานเกี่ยวกับสปายมัลแวร์ DTrack ซึ่งมาจากกลุ่มแฮ็กเกอร์ Lazarus จากเกาหลีเหนือ ทาง Kudankulam Nuclear Power Plant ที่ออกมาปฏิเสธข่าวอย่างเป็นทางการในช่วงแรกนั้น ระบุว่ามีข้อมูลเท็จกำลังกระจายไปทั่วเน็ต ทั้งๆ ที่เครือข่ายของโรงงานไฟฟ้าไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่จะโดนโจมตีทางไซเบอร์ ————————————- ที่มา : EnterpriseITPro / พฤศจิกายน…