วัดกันหมัดต่อหมัด เปิดคลังขีปนาวุธรัสเซีย vs ยูเครน

Loading

    สงครามของรัสเซียในยูเครนใช้การโจมตีทางอากาศนำการรุกคืบทางบก ทั้งสองฝ่ายพึ่งพาโดรนสู้รบ ขีปนาวุธร่อน และขีปนาวุธมากขึ้น   สงครามมาถึงจุดเปลี่ยนเมื่อรัสเซียใช้ทหารเกาหลีเหนือมาช่วยรบ เมื่อไม่กี่วันก่อนรัฐบาลสหรัฐจึงอนุญาตให้กองทัพยูเครนยิงขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐเข้าไปในดินแดนรัสเซียได้ ซึ่งรัฐบาลมอสโกได้ตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธทรงพลังชนิดใหม่พุ่งเป้าเมืองดนิโปรของยูเครน   สำนักข่าวบลูมเบิร์กรวบรวมขีปนาวุธที่ทั้งสองฝ่ายใช้ถล่มกัน   คลังแสงยูเครน ATACMS ระบบขีปนาวุธยุทธวิธีของกองทัพบกผลิตโดยสหรัฐ รู้จักกันในชื่อ ATACMS เป็นขีปนาวุธนำวิถีเหนือเสียงยิงจากพื้นดินสู่พื้นดิน พิสัยทำการราว 300 กิโลเมตร สามารถบรรทุกได้ทั้งหัวรบเดี่ยวหรือหัวรบแบบคลัสเตอร์ ผลิตโดยบริษัทล็อกฮีดมาร์ติน ยิงได้จากฐานยิง HIMARS ที่สหรัฐจัดหาให้ยูเครน และฐานยิง MLRS M270 ที่หลายๆ ประเทศรวมถึงสหราชอาณาจักรมอบให้ยูเครน   เมื่อหนึ่งปีเศษ ๆ ที่ผ่านมา สหรัฐอนุญาตให้ยูเครนใช้ ATACMS โจมตีดินแดนยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครอง รัฐบาลเคียฟกล่าวว่า การโจมตีดังกล่าวส่งผลมหาศาลต่อสนามรบ   ด้านรัสเซียกล่าวหาว่ายูเครนใช้ขีปนาวุธ ATACMS โจมตีคาบสมุทรไครเมียในเดือน มิ.ย. ที่รัสเซียผนวกเป็นของตนเอง ต่อมาในเดือน ก.ย. กระทรวงกลาโหมสหรัฐ (เพนตากอน) กล่าวว่า รัสเซียย้ายเครื่องบิน 90% ที่ใช้สำหรับยิงระเบิดร่อนและขีปนาวุธโจมตียูเครน…

‘Phishing’ ระบาดในอาเซียน ‘ไทย’ หนักสุด

Loading

  แคสเปอร์สกี้ ระบุว่า ช่วงครึ่งปีแรก (มกราคม – มิถุนายน 2024) เทคโนโลยีต่อต้านฟิชชิง (anti-phishing) ของแคสเปอร์สกี้ตรวจพบการโจมตีด้วยฟิชชิงการเงินจำนวน 336,294 ครั้งที่พยายามโจมตีองค์กรและธุรกิจต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้   เอเดรียน เฮีย กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แคสเปอร์สกี้ เผยว่า อาชญากรใช้วิธีแอบอ้างเป็นแบรนด์อีคอมเมิร์ซ ธนาคารและการชำระเงิน มีเป้าหมายเพื่อขโมยข้อมูลประจำตัวและข้อมูลละเอียดอ่อนอื่น ๆ   การโจมตีด้วยฟิชชิงทางการเงินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากอาชญากรไซเบอร์พัฒนาและปรับเปลี่ยนกลวิธีให้ซับซ้อนอย่างต่อเนื่อง จำนวนการโจมตีเพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับหกเดือนแรกของปีที่แล้ว   รับการกระตุ้นจากการนำระบบดิจิทัลมาใช้มากขึ้น รวมถึงการใช้ปัญญาประดิษฐ์และระบบอัตโนมัติโดยผู้ก่อภัยคุกคาม เพื่อสร้างเนื้อหาที่น่าเชื่อถือและกำหนดเป้าหมายการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น   ปัจจุบัน จำนวนผู้ใช้ที่มีแนวโน้มจะตกเป็นเหยื่อนั้นเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการใช้งานธนาคารออนไลน์และเงินดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้น   ผู้เชี่ยวชาญของแคสเปอร์สกี้ระบุว่า การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้เป็นผลมาจากกิจกรรมฉ้อโกงที่เพิ่มขึ้น ไม่ใช่การที่ผู้ใช้ระมัดระวังน้อยลง อาชญากรทางไซเบอร์เริ่มรุกรานมากขึ้นเพื่อหาข้อมูลและเงินของผู้ใช้ ซึ่งรวมถึงดีไวซ์ขององค์กรด้วย   ฟิชชิงทางการเงินเป็นการโจมตีรูปแบบหนึ่งของฟิชชิง ซึ่งเป็นการฉ้อโกงโจมตีธนาคาร ระบบการชำระเงินและร้านค้าดิจิทัล เป็นวิธีการที่ผู้โจมตีหลอกล่อเหยื่อให้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลที่มีค่า   เช่น ข้อมูลรับรองเพื่อเข้าสู่ระบบบัญชีทางการเงิน รวมถึงข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลองค์กรอื่นๆ ที่จัดเก็บไว้ในบัญชี…

แนะขั้นตอนสร้างเกราะป้องกันภัยไซเบอร์ ลดความเสี่ยงองค์กรโดนโจมตีต้องทำอย่างไร?

Loading

    ประเทศไทยถือเป็นประเทศอันดับต้น ๆ ที่เป็นเป้าหมายการถูกโจมตีทางด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ จากเหล่าแฮ็กเกอร์ ทั้งการแฮ็กข้อมูลขององค์กร และข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเรียกค่าไถ่ การถูกฟิชชิง และมัลแวร์ เป็นต้น   อย่างล่าสุด ข้อมูลจาก  แคสเปอร์สกี้ เผยว่า ฟิชชิงการเงินคุกคามธุรกิจอาเซียนอย่างหนัก และไทยครองที่ 1 ถูกโจมตี พุ่งสูงมากกว่า 1.4 แสนครั้ง การป้องกันภัยไซเบอร์ ต้องทำอย่างไร?  ทาง แคสเปอร์สกี้ มีคำแนะนำสำหรับองค์กรและธุรกิจทุกขนาดเพื่อปกป้ององค์กรจากภัยไซเบอร์ เริ่มที่   กระบวนการและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด (Process and Best Practices)   1.อัปเดตซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ทั้งหมดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันผู้โจมตีจากการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่และแทรกซึมเข้าสู่เครือข่ายขององค์กร 2. ติดตั้งแพตช์ที่พร้อมใช้งานสำหรับโซลูชัน VPN เชิงพาณิชย์โดยทันที เพื่อให้พนักงานที่ทำงานระยะไกลเข้าถึงได้และทำหน้าที่เป็นเกตเวย์ในเครือข่าย 3.สำรองข้อมูลเป็นประจำ และตรวจสอบว่าสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วเมื่อจำเป็นหรือในกรณีฉุกเฉิน 4.หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดและติดตั้งซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์หรือซอฟต์แวร์จากแหล่งที่ไม่รู้จัก หรือไม่ผ่านการตรวจสอบ 5. ห้ามเปิดเผยบริการเดสก์ท็อป/การจัดการระยะไกล (เช่น RDP, MSSQL เป็นต้น) ให้กับเครือข่ายสาธารณะ ควรใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่ง ใช้…

โชว์ระบบ AI เตือนไฟไหม้ รถ EV ให้เวลาหนี ก่อนแบตระเบิด

Loading

ทีมนักวิจัยจากสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติ (NIST) สหรัฐอเมริกา ได้พัฒนาระบบ AI สุดล้ำเตือนไฟไหม้ สามารถทำหน้าที่เป็นเสมือนยามเฝ้าระวัง เตือนภัยล่วงหน้าก่อนเกิดเหตุไฟไหม้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งอาจช่วยป้องกันหายนะจากแบตเตอรี่ที่เสียหายได้ทันท่วงที

‘ไทย’ ได้ประโยชน์แค่ไหน จากต่างชาติลงทุน ‘ดาต้าเซ็นเตอร์’

Loading

  สัปดาห์ที่ผ่านมาผมเขียนถึงโอกาสประเทศไทย ที่จะเป็น ศูนย์กลางดาต้าเซ็นเตอร์ในภูมิภาคอาเซียน แม้จากข้อมูลต่าง ๆ จะชี้ว่า เรายังตามหลังประเทศเพื่อนบ้านพอควร แต่เราก็มีโอกาสในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และการเข้ามาตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศ ก็เป็นไปตามแนวโน้มปริมาณการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและเอไอที่เพิ่มขึ้น   การลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ มีองค์ประกอบสำคัญที่ต้องพิจารณาหลายด้าน เริ่มจากโครงสร้างพื้นฐานและการก่อสร้าง ซึ่งต้องเลือกทำเลที่ปลอดภัยและมีระบบสาธารณูปโภคพร้อม ตามด้วยการลงทุนในเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่เป็นหัวใจสำคัญที่สุด และน่าจะเป็นค่าใช้จ่ายสูงสุด รวมถึงค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่จำเป็นต้องต่ออายุเป็นประจำ ส่วนด้านการดำเนินงาน มีค่าใช้จ่ายหลัก คือ ค่าพลังงานไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์และระบบทำความเย็น และสุดท้ายคือค่าเชื่อมต่อเครือข่ายที่ต้องมีความเร็วและเสถียรสูง   ในปัจจุบันดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ จะมีเซิร์ฟเวอร์เป็นหลักพันหรือหมื่นเครื่อง และมีค่าใช้ในการลงทุนจัดหาอุปกรณ์เหล่านี้มาเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้เทคโนโลยีเอไอกำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ โดยมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2030 ดาต้าเซ็นเตอร์จะใช้ไฟฟ้าถึง 8% ของการใช้พลังงานทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา และต้องการการลงทุนด้านสาธารณูปโภคกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อรองรับการประมวลผลเอไอในดาต้าเซ็นเตอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล   ความท้าทายหลักมาจากการที่ระบบเอไอที่ต้องการกำลังการประมวลผลสูงมาก ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft ต้องลงทุนมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ในการเช่า ดาต้าเซ็นเตอร์ระยะยาวและทำให้อุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ของบางเมืองในสหรัฐอเมริกาต้องใช้ไฟฟ้าถึง 60% ของการใช้พลังงานทั้งเมือง   เราจึงเห็นการแข่งขันด้านดาต้าเซ็นเตอร์สำหรับเอไอกันใน 3 ระดับ คือ ระดับบริษัทเทคโนโลยีที่แข่งกันพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง…

‘ซิสโก้’ คิกออฟ ‘Wi-Fi 7’ เปิดมิติใหม่เทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้สาย

Loading

    ซิสโก้ เปิดตัวนวัตกรรมเครือข่ายไร้สายอัจฉริยะ ปลอดภัย และเชื่อถือได้ ด้วย อุปกรณ์กระจายสัญญาณ Wi-Fi 7 อัจฉริยะ และการใช้งานแบบสมัครสมาชิกรวมศูนย์ (Unified subscription) ที่สามารถสร้างพื้นที่อัจฉริยะได้ทันทีหลังติดตั้ง นวัตกรรมเหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าสามารถแก้ไขความท้าทายด้านการเชื่อมต่อ ความปลอดภัย และการรับประกันคุณภาพ พร้อมทั้งให้รากฐานที่ยืดหยุ่นเพื่อรองรับสถานที่ทำงานในอนาคต   เทคโนโลยีไร้สายได้เปลี่ยนโฉมโลก ตั้งแต่วิธีการและสถานที่ทำงาน ไปจนถึงวิธีการที่ผู้คนช้อปปิ้งและเรียนรู้ ปัจจุบันนวัตกรรมไร้สายแทบจะทำให้ไม่มีเส้นแบ่งระหว่างพื้นที่กายภาพและดิจิทัล ช่วยให้องค์กรสามารถทรานส์ฟอร์มพื้นที่ทำงานและสร้างประสบการณ์ดิจิทัลใหม่ๆ ในยุค AI   ขณะที่ Wi-Fi 7 ยกระดับการอัพเกรดประสิทธิภาพที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นผู้ค้าปลีกที่ต้องการปฏิรูปประสบการณ์การช้อปปิ้ง ผู้ผลิตที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้วยระบบการติดตาม asset แบบแม่นยำ หรือโรงพยาบาลที่ต้องการยกระดับการดูแลผู้ป่วย ทั้งหมดนี้ต่างต้องการมากกว่าแค่การเชื่อมต่อ ทุกคนต้องการแพลตฟอร์มอัจฉริยะ ปลอดภัย และเชื่อถือได้   จีทู พาเทล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของซิสโก้ กล่าวว่า ทุกสิ่งที่ซิสโก้ทำในปัจจุบันผสมผสานระหว่างพฤติกรรมมนุษย์กับเซ็นเซอร์ กล้อง หรือหน้าจอ ประสบการณ์ทางกายภาพในโลกดิจิทัลที่กำลังขยายตัว และ Wi-Fi คือศูนย์กลางของทั้งหมดนี้   ด้วยอุปกรณ์กระจายสัญญาณ…