ภัยฟิชชิ่งอาเซียนระบาดหนัก “แคสเปอร์สกี้” พบยอดครึ่งปีแรกสูงกว่ายอดปีก่อนทั้งปี

Loading

  แคสเปอร์สกี้ (Kaspersky) เผยยอดการระบาดของภัยฟิชชิ่งในอาเซียนครึ่งปีแรก สูงกว่ายอดปีก่อนทั้งปี เตรียมหนุนองค์กรสนใจ APT ที่พุ่งเป้าโจมตีเอ็นเทอร์ไพรซ์และภาครัฐ   นายเซียง เทียง โยว ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่าการโจมตีด้วยฟิชชิ่งยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ข้อมูลล่าสุดจากแคสเปอร์สกี้พบว่าปีนี้อาชญากรไซเบอร์ใช้เวลาเพียงหกเดือนในการทำลายสถิติการโจมตีฟิชชิ่งของปีที่แล้วทั้งปี โดยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน ปี 2022 ระบบ Anti-Phishing ของแคสเปอร์สกี้ได้บล็อกลิงก์ที่เป็นอันตรายทั้งหมด 12,127,692 รายการในมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมากกว่าจำนวนการโจมตีด้วยฟิชชิงทั้งหมดที่ตรวจพบในภูมิภาคนี้เกือบถึงหนึ่งล้านรายการเมื่อเทียบกับปี 2021 ที่มีสถิติทั้งปี 11,260,643 รายการ   “ครึ่งปีแรกของปี 2022 มีเหตุการณ์ที่ดีและไม่ดี ในระดับบุคคลเราได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการพยายามฟื้นคืนสภาพหลังเกิดโรคระบาด การบังคับให้บริษัทและองค์กรต่างๆ ยอมรับการทำงานทางไกลและแบบผสมผสาน ภาคการเดินทางทั้งสายการบิน สนามบิน ตัวแทนท่องเที่ยว และอื่นๆ ได้ต้อนรับการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางหลังเปิดพรมแดน เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้คือเครือข่ายและระบบที่จำเป็นต้องได้รับการอัปเดตและรักษาความปลอดภัยอย่างเร่งด่วน ในทางกลับกัน อาชญากรไซเบอร์ต่างก็รับรู้และสามารถปรับแต่งข้อความและใส่ประเด็นความเร่งด่วนที่น่าเชื่อถือ ทำให้เราได้เห็นเหตุการณ์โชคร้ายของเหยื่อที่สูญเสียเงินเนื่องจากการโจมตีแบบฟิชชิ่งนั่นเอง”   Kaspersky มีดีกรีเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลก ขณะที่ฟิชชิ่งเป็นการโจมตีแบบวิศวกรรมสังคม ยังคงเป็นหนึ่งในวิธีการหลักที่ผู้โจมตีใช้เพื่อละเมิดเป้าหมายทั้งรายบุคคลและระดับองค์กร การศึกษาพบว่าฟิชชิ่งทำงานในวงกว้างโดยอาชญากรไซเบอร์ส่งอีเมลจำนวนมหาศาลโดยอ้างตัวว่าเป็นบริษัทหรือบุคคลที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อโฆษณาเพจปลอมหรือทำให้ผู้ใช้ติดมัลวร์ด้วยไฟล์แนบที่เป็นอันตราย   “เป้าหมายสุดท้ายของการโจมตีแบบฟิชชิ่งคือการขโมยข้อมูลประจำตัว โดยเฉพาะข้อมูลทางการเงินและการเข้าสู่ระบบ เพื่อขโมยเงิน…

การปกป้องความปลอดภัยไซเบอร์อุปกรณ์ IoT บนแพลตฟอร์มคลาวด์

Loading

    เอเชียแปซิฟิก (APAC) ถือเป็นภูมิภาคแนวหน้าในการใช้ IoT โดยคาดว่า ค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะแตะระดับ 437 พันล้านดอลลาร์ไภายในปี 2568 ในขณะที่ตลาด IoT ของไทยมีมูลค่าราว 80,222 ล้านบาท อุปกรณ์ IoT ถือเป็นเสาหลักสำคัญของการทำดิจิทัลทรานสฟอร์เมชั่นซึ่งครอบคลุมการใช้งานหลากหลายด้าน ตัวอย่างเช่น เซนเซอร์ตรวจจับแสง เครื่องปรับอากาศในอาคารอัจฉริยะ ไปจนถึงหุ่นยนต์อัตโนมัติในระบบอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดี อุปกรณ์อัจฉริยะจำนวนมากไม่ได้รับการออกแบบถึงระบบรักษาความปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ หรือมีช่องโหว่ในรหัสโปรแกรมที่ใช้ในซัพพลายเชนของผู้ผลิตโดยที่ไม่มีใครรู้ตัว ช่องโหว่ความปลอดภัยดังกล่าวเมื่อผนวกกับเรื่องจำนวนอุปกรณ์ IoT ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องเร่งทบทวนมาตรการด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับอุปกรณ์ IoT เหล่านี้ที่อยู่บนเครือข่ายของตนเอง ดังนั้น เมื่อบริษัทเดินหน้าลงทุนในด้านการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล ก็ควรให้ความสำคัญในระดับเดียวกันกับเรื่องความปลอดภัยของอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในการดำเนินงานแต่ละวันด้วย สิ่งที่ควรพิจารณาในด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับอุปกรณ์ IoT มีอะไรบ้าง และเราจะจัดการกับเรื่องดังกล่าวได้อย่างไรบ้าง ข้อจำกัดด้านความปลอดภัยในอุปกรณ์ IoT สิ่งสำคัญที่ควรทราบก็คือ การตรวจพบภัยคุกคามจากอุปกรณ์ IoT มักขึ้นอยู่กับการอัปเดตฐานข้อมูลที่รวบรวมข้อมูลอุปกรณ์ที่ตกเป็นเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น อุปกรณ์ IoT บางประเภทไม่มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูล หรือพลังในการประมวลผลที่เพียงพอต่อการรองรับการจัดเก็บบันทึกระบบ หรือการเข้ารหัสเพื่อปกป้องข้อมูลที่อ่อนไหวระหว่างการประมวลผล ซึ่งอาจจะทำให้ข้อมูลเหล่านั้นตกอยู่ในความเสี่ยง ดังนั้น ธุรกิจต่างๆ จึงไม่สามารถตรวจพบและปกป้ององค์กรได้อย่างมั่นใจจากความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากอุปกรณ์ IoT ที่ไม่รู้จักและไม่สามารถจัดการได้ อีกทั้งความเสี่ยงดังกล่าวยังเพิ่มขึ้นในระบบการทำงานจากที่บ้านอีกด้วย โดยรายงานความปลอดภัยด้าน IoT ประจำปี 2564 ของพาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามราว 80% ในเอเชียแปซิฟิก (รวมประเทศญี่ปุ่น) ซึ่งมีอุปกรณ์ IoT เชื่อมต่อกับเครือข่ายขององค์กร รายงานว่า…

เปิดแนวโน้มเทคโนโลยีดิจิทัลปี 2023 ที่ทุกคนต้องเตรียมพร้อม

Loading

  “Bernard Marr” ที่เป็นนักอนาคตศาสตร์ (Futurist) ด้านเทคโนโลยี เมื่อเร็ว ๆ นี้ เขาได้เขียนบทความแนะนำแนวโน้มเทคโนโลยีดิจิทัลที่สำคัญในปี 2023 ที่ทุกคนจะต้องเตรียมพร้อมนับตั้งแต่ตอนนี้!!!   เทคโนโลยีดิจิทัล เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมักจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ มาให้กล่าวขานกันเสมอ เช่น Metaverse, Web 3.0, AI, AR/VR ,NFT และ Quantum Computing ผู้บริหารบางองค์กรก็จะตื่นเต้นกับเทคโนโลยีใหม่ๆ บ้างก็กลัวตกเทรนด์ตามกระแสการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ รีบนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในองค์กรแต่สุดท้ายแล้วบางเทคโนโลยีก็อาจยังไม่พร้อมและเป็นเรื่องใหม่จนเกินกว่าจะนำมาใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ และอาจไม่คุ้มค่ากับการลงทุน   ผมเองก็พยายามตามเทคโนโลยีใหม่ ๆ เหล่านี้ ถ้ามีเวลาก็จะลงมือไปทดลองใช้บ้าง บางเทคโนโลยีก็พบว่าเป็นเรื่องน่าสนใจและเหมาะกับการนำมาประยุกต์ใช้งาน บางเทคโนโลยีก็อาจต้องรอเวลาให้เกิดการพัฒนาที่ดีขึ้นก่อนที่จะนำไปใช้งานได้ในวงกว้าง บ้างก็เป็นการสร้างของนักการตลาดที่พยายามทำให้ดูดีกว่าความเป็นจริง และบ้างก็อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินกว่าความคุ้มค่าต่อการลงทุน   แต่สิ่งสำคัญเราควรต้องศึกษาข้อมูลนักวิเคราะห์ที่เป็นกลาง และเข้าใจในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี นอกเหนือจากบริษัทวิจัยชื่อดังอย่าง Gartner หรือ Forrester แล้ว ก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีหลายๆ ท่านที่มักจะนำเสนอความคิดเห็นดีๆ ออกมาต่อสาธารณะ หนึ่งในนั้นที่ผมมักจะติดตามบ่อย ๆ คือ “Bernard…

วิธีสร้างสตอรี่ไลน์ และวิธีตั้งค่าความเป็นส่วนตัวสตอรี่ ให้เห็นเฉพาะเพื่อนสนิท

Loading

วิธีสร้างสตอรี่ไลน์ และวิธีตั้งค่าความเป็นส่วนตัวสตอรี่ ซึ่งตอนนี้แอป LINE สามารถแชร์ให้เพื่อนๆของเรารู้แบบใหม่ในรูปแบบสตอรี่ ตามรอยแอปโซเชียลดังอย่าง facebook , instagram หรือ TikTok ที่เพิ่งมีสตอรี่ด้วยเช่นกัน หากคุณคือผู้ชมสามารถดูสตอรี่ได้โดยแตะไอคอนโปรไฟล์ของเพื่อนๆที่มีสีเขียวล้อมรอบอยู่ แต่ถ้าคุณจะโพสต์ลงสตอรี่ไลน์ละก็ สามารถทำได้ทั้งบนไอโฟนและแอนดรอยด์ โดยมีวิธีการดังนี้     วิธีสร้างสตอรี่ไลน์ และวิธีตั้งค่าความเป็นส่วนตัวสตอรี่     เปิดแอป LINE แล้วแตะที่รูปโปรไฟล์ตัวเอง       จากนั้นแตะที่ สตอรี่     จากนั้นถ่ายภาพ หรือถ่ายวิดีโอตามต้องการ เมื่อถ่ายแล้วจะมีเครื่องมือสำหรับตกแต่งเพิ่มเติม เช่น สติ๊กเกอร์ ข้อความ อิโมจิ ฟิลเตอร์     จากนั้นเลือกความเป็นส่วนตัวว่าจะแชร์เพื่อนทุกคนมั้ย หรือแชร์เฉพาะเพื่อนบางคนเท่านั้นก็ได้เช่นกัน     เมื่อเสร็จแล้ว คลิกที่ไอคอนซ้ายมือเพื่อดาวน์โหลดรูปหรือวิดีโอสตอรี่ที่แต่งบนแอป LINE ได้ หรือแตะเสร็จสิ้น เพื่อทำการโพสต์ลงบนสตอรี่ทันที   เพื่อน ๆ…

วิธีป้องกันโดนแฮก IP Address บนคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน

Loading

  วิธีป้องกันโดนแฮก IP Address โดย IP Address หรือที่อยู่อินเทอร์เน็ตโปรโตคอลเป็นหมายเลขเฉพาะที่กำหนดให้กับทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ทั้ง สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้นั้น อุปกรณ์จะได้ IP Address ที่ไม่ซ้ำกัน โดยปกติแล้วเราอาจไม่สนใจ หรือให้ความสำคัญกับ IP Address แต่บทความนี้นำเสนอในแง่มุมที่กลุ่มแฮกเกอร์มีแนวโน้มสนใจที่จะ Hack เพื่อให้ทราบ IP Addresss ของเรา แล้วหลังจากนั้นจะสามารถล้วงแอบดูข้อมูลต่าง ๆ ของเรา หรือนำ IP Addresss ของเราไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย   IP Address ที่กลุ่มแฮกเกอร์จ้องจะแฮกนั้น มักตั้งใจเพื่อนำไปใช้สำหรับกิจกรรมที่ผิดกฎหมายหรือไม่ได้รับอนุญาต เช่น ใช้ดาวน์โหลดข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาตบนอินเทอร์เน็ต หรือจะนำมาใช้เพื่อติดตามตำแหน่งของคุณ เป็นต้น   หากจำกันได้ในเรื่องการแฮกกล้อง IP Camera ก็เกิดขึ้นจากการแฮก IP Address นั่นเอง ซึ่งเกิดจากที่คุณละเลย ไม่ได้ให้ความสำคัญ จึงไม่ได้ตั้งค่าความปลอดภัยให้กล้อง…

วิธีใช้ Safety Check บนไอโฟน วิธีการตรวจสอบด้านความปลอดภัยบนไอโฟน

Loading

วิธีใช้ Safety Check บนไอโฟน วิธีการตรวจสอบด้านความปลอดภัย ทั้งนี้ iOS16 ได้เพิ่มและแนะนำการตั้งค่านี้ในการตรวจสอบด้านความปลอดภัยระหว่างเครื่องไอโฟน และบัญชี Apple ID ของคุณ  เช็กเพื่อยกเลิกการเชื่อมต่อ iPhone ของคุณจากผู้ใช้รายอื่นที่เราเคยแชร์