กฎหมายควบคุมการโพสต์รูป

Loading

  หากเป็นกรณีคนทั่วไปที่โพสต์รูปเห็นกันเฉพาะในกลุ่มเพื่อน ๆ ก็อาจไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่หากเป็นกรณีของคนที่มีชื่อเสียงซึ่งมีแนวโน้มจะสามารถส่งอิทธิพลต่อความคิดของคนอื่นได้ ด้วยเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้า การแต่งรูปก็เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะด้วยความสามารถของกล้องถ่ายรูปหรือแอพลิเคชั่นต่าง ๆ ซึ่งมาพร้อมฟังก์ชั่นการแต่งรูปที่หลากหลาย ไม่ว่าจะให้ผิวดูเนียนขึ้น ตากลมโต คางรูปตัววี การแต่งหน้าโทนสีต่าง ๆ รวมไปถึงการปรับแต่งรูปร่างเพื่อให้ได้สัดส่วนสวยงามตามใจปรารถนา นอกจากนี้ ด้วยอิทธิพลของอินเตอร์เน็ตและความนิยมของการใช้โซเชียลมีเดีย กระแสการโพสต์รูปสวย ๆ เพื่อเรียกยอดไลค์ยอดแชร์ก็เป็นสิ่งที่ผู้คนในโลกโซเชียลนิยมทำกันมากขึ้น หากเป็นกรณีคนทั่วไปที่โพสต์รูปเห็นกันเฉพาะในกลุ่มเพื่อน ๆ ก็อาจไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่หากเป็นกรณีของคนที่มีชื่อเสียงซึ่งมีแนวโน้มจะสามารถส่งอิทธิพลต่อความคิดของคนอื่นได้ หรือที่มักเรียกทับศัพท์ว่าอินฟลูเอนเซอร์ (influencer) นั้น   การโพสต์รูปของบุคคลเหล่านี้ ก็สามารถส่งผลกระทบต่อความคิดและจิตใจของหลายคนได้ไม่น้อยที่เอาตนเองไปเปรียบเทียบกับคนดังเหล่านั้น แล้วทำให้ตนเองรู้สึกว่าไม่สวยไม่หล่อ รูปร่างไม่ดีเหมือนอย่างบรรดาอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะความเครียดต่าง ๆ รวมไปถึงโรคซึมเศร้า ทั้งยังอาจส่งผลต่อไปยังพฤติกรรมอื่น ๆ ที่สร้างผลร้ายต่อสุขภาพ และซ้ำร้ายยังอาจส่งผลกระทบต่อเนื่องทำให้ต้องเสียพลเมืองที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศส่วนหนึ่งจากอาการป่วยเหล่านั้น นอกจากนี้ ยังมีปัญหาที่ความสวยงามในรูปต่าง ๆ ของเหล่าคนดังทำให้เกิดเป็นค่านิยมในเรื่องมาตรฐานของความงาม และส่งผลทำให้เกิดการ bully คนที่มีรูปร่างหน้าตาไม่ได้ตามมาตรฐานความงามเหล่านั้นด้วย   หลังจากที่ประเทศอังกฤษได้ออกร่างกฎหมายรูปที่ผ่านการปรับแต่งดิจิตอล (Digitally Altered Body Image Bill) เมื่อปีกลายซึ่งกำหนดให้ผู้โฆษณา…

จนท.ความมั่นคงอังกฤษหวั่นก่อการร้ายรอบใหม่ หลังเหตุสังหารนักการเมืองด้วยมีด

Loading

  เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของอังกฤษและหน่วยงานต่อต้านการก่อการร้าย เตือนบรรดารัฐมนตรีของอังกฤษว่า อาจเกิดการโจมตีรอบใหม่อีกหลายครั้งในอนาคตจากฝีมือของกลุ่มคนที่เรียกว่า “bedroom radicals” หรือผู้ที่ถูกปลุกปั่นให้มีแนวคิดสุดโต่งผ่านทางโลกออนไลน์ และสามารถปฏิบัติการได้ด้วยตัวคนเดียว คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์โจมตีสังหารนักการเมืองชาวอังกฤษ เซอร์เดวิด เอเมสส์ ด้วยอาวุธมีด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเชื่อว่าเป็นการโจมตีด้วยมูลเหตุจูงใจในการก่อการร้าย เซอร์เดวิด เอเมสส์ วัย 69 ปี สมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ หรือ House of Commons มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1983 ถูกมือมีดเข้าจ้วงแทงหลายครั้งจนเสียชีวิต ขณะเดินทางพบผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่โบสถ์ในพื้นที่ฐานเสียงของตนในวันศุกร์ ที่เมืองเซาท์เอนด์ เวสต์ เขตปกครองเอสเซกซ์ เคาน์ตี้ สื่อในอังกฤษระบุว่า ผู้ต้องสงสัยคือนาย อาลี ฮาร์บี อาลี วัย 25 ปี ซึ่งถูกควบคุมตัวไว้แล้ว โดยผู้ต้องสงสัยผู้นี้มีเชื้อสายโซมาเลียแต่เกิดในกรุงลอนดอน มีบิดาเป็นอดีตที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีโซมาเลีย และมีญาติฝ่ายพ่อที่เป็นเอกอัครราชทูตโซมาเลียประจำประเทศจีน     อดีตผู้เข้าร่วมโครงการ Prevent รายงานของบีบีซีระบุว่า นายอาลีเคยเข้าร่วมในโครงการ Prevent ของรัฐบาลอังกฤษ ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อเปลี่ยนแนวคิดของผู้ที่มีความเสี่ยงว่าอาจเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มแนวคิดสุดโต่ง…

เมื่อ Deepfakes ทำง่าย ด้วย AI ป้องกันอย่างไร ไม่ให้ใช้ในทางที่ผิด

Loading

  Henry Ajder นักวิจัยเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ เปิดเผยข้อมูลสำคัญว่า ปัจจุบัน เราสามารถใช้ AI ทำวีดีโอหรือภาพ 18 + ของใครสักคนขึ้นมาได้ง่ายกว่าอดีตมาก เพียงมีรูปเขาคนนั้นเพียงรูปเดียว Ajder ใช้เวลาสามปีที่ผ่านมาในการตรวจสอบการพัฒนาของ Deepfakes ซึ่งเป็นการใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อเปลี่ยนใบหน้าของผู้คนให้เป็นวิดีโอ เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในการ “เข้าไปในมุมมืดของอินเทอร์เน็ต” เพื่อติดตามรูปการแบบใช้งานของ Deepfakes   แต่เมื่อไม่กี่เดือนก่อน เขาก็เจอสิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นมาก่อน นั่นคือ มีเว็บไซต์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้อัปโหลดรูปถ่ายใบหน้าของใครสักคนขึ้นไป และสามารถสร้างวีดีโอ 18+ ที่มีความเที่ยงตรงสูงมาก (แถบจะเป็นคน ๆ นั้นจริงได้เลย) ซึ่งมันง่ายกว่าแต่การที่คนสร้างจะต้องมี Ai อยู่ในมือ แต่นี่เหมือนแป็นแบบเช่าใช้ ที่ให้ใครก็ตามสามารถใช้งานได้ครับ นอกจากการเปลี่ยนใบหน้าคนอื่นให้เป็นวีดี 18+ แล้ว ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่า Deepfakes สามารถใช้เผยแพร่ข่าวปลอม ข่าวบ่อนทำลายประชาธิปไตย ข่าวที่มีอิทธิพลต่อการเลือกตั้ง และก่อให้เกิดความไม่สงบทางการเมือง ซึ่งในปัจจุบัน มีการสร้าง Deepfakes ของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน…

“นายอินทร์ ผู้ปิดทองหลังพระ”พระราชนิพนธ์แปล แสดงถึงพระราชวิริยะอุตสาหะ

Loading

  “นายอินทร์ ผู้ปิดทองหลังพระ” พระราชนิพนธ์แปล แสดงถึงพระราชวิริยะอุตสาหะของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร     “นายอินทร์ ผู้ปิดทองหลังพระ” เป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงแปลมาจากฉบับภาษาอังกฤษชื่อเรื่อง A Man Called Intrepid ของนักเขียนชาวแคนนาดา นายวิลเลียม สตีเวนสัน (William Henry Stevenson) ทรงแปลพระราชนิพนธ์เรื่องนี้นานถึง 3 ปี ด้วยความมุ่งมั่น วิริยะอุตสาหะ ทรงเล็งเห็นว่าใจความสำคัญของหนังสือเรื่อง “นายอินทร์ ผู้ปิดทองหลังพระ” จะเป็นประโยชน์ต่อคนที่ได้อ่านได้เป็นอย่างมาก ด้วยพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถ พระองค์ท่านทรงมีความรู้ทางรากศัพท์ดีมาก จึงได้ถ่ายทอดเรื่องราว “นายอินทร์ ผู้ปิดทองหลังพระ” ออกมาจากฉบับภาษาอังกฤษโดยตรง และปรับใช้ภาษาในการเล่าเรื่องให้คนทั่วไปสามารถเข้าใจได้ง่าย มีทั้งภาษาพูดที่ทำให้คนอ่านเข้าใจง่าย มีเนื้อหาเกี่ยวกับสงครามลับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ของกลุ่มสายลับต่อต้านฮิตเลอร์ สำหรับคอหนังสือประวัติศาสตร์สงครามโลกแล้ว ไม่ควรพลาดหนังสือพระเล่มนี้   พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  …

เกาหลีเหนือ : อดีตพันเอกผู้แปรพักตร์เผยความลับอันดำมืดใต้การปกครองของตระกูลคิม

Loading

  คิม กุก-ซอง ยังคงไม่ทิ้งนิสัยเดิมที่มักทำตัวลึกลับซับซ้อน   ทีมข่าวบีบีซีต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการหารือเพื่อขอสัมภาษณ์อดีตเจ้าที่ระดับสูงของหน่วยสายลับเกาหลีเหนือผู้นี้ ซึ่งเขายังคงมีท่าทางกังวลว่าจะมีคนแอบดักฟัง เขาสวมแว่นตาดำเมื่ออยู่หน้ากล้อง และมีเพียงทีมงานของบีบีซีเพียง 2 คนเท่านั้น ที่รู้ชื่อจริงของเขา   นายคิม ใช้เวลา 30 ปีในการไต่เต้าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในหน่วยงานสายลับอันทรงอิทธิพลของเกาหลีเหนือ เขากล่าวว่า หน่วยงานเหล่านี้ถือเป็น “ตา หู และสมองของท่านผู้นำสูงสุด“ เขาอ้างว่าตัวเองคือผู้กุมความลับของหน่วยงานเหล่านี้ เป็นผู้ส่งนักฆ่าไปลอบสังหารนักวิจารณ์ฝ่ายตรงข้าม และแม้แต่สร้างห้องแล็บผลิตยาเสพติดเพื่อช่วยหาเงินทุน “เพื่อการปฏิวัติ“ ตอนนี้ อดีตพันเอกชาวเกาหลีเหนือได้ตัดสินใจบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองกับบีบีซี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่นายทหารระดับสูงจากกรุงเปียงยางให้สัมภาษณ์กับสื่อรายใหญ่ของโลก   ในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับบีบีซี นายทหารผู้แปรพักตร์คนนี้บอกว่าตนเองเป็นคน “แดงเข้มที่สุดในบรรดาสีแดงทั้งปวง” เป็นผู้รับใช้ที่จงรักภักดีต่อลัทธิคอมมิวนิสต์ ทว่ายศตำแหน่งและความจงรักภักดีก็ไม่อาจรับประกันความปลอดภัยในเกาหลีเหนือได้   เขาหลบหนีออกมาในปี 2014 และนับแต่นั้นก็อาศัยอยู่ในกรุงโซล โดยทำงานให้หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ นายคิมเล่าว่า คณะผู้นำเกาหลีเหนือพยายามที่จะหาเงินเข้าประเทศด้วยสารพัดวิธี ตั้งแต่ค้ายาเสพติดไปจนถึงอาวุธให้ชาติในตะวันออกกลางและแอฟริกา เขายังเผยกับบีบีซีถึงยุทธศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจต่าง ๆ ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ รวมทั้งการโจมตีเกาหลีใต้ และคำกล่าวอ้างว่าสายลับและเครือข่ายทางไซเบอร์ของเกาหลีเหนือได้ปฏิบัติภารกิจไปทั่วทุกมุมโลก   แม้บีบีซีจะไม่สามารถหาแหล่งข้อมูลอิสระในการยืนยันคำกล่าวอ้างเหล่านี้ได้แน่ชัด แต่ก็สามารถยืนยันตัวตนของนายคิม และพบหลักฐานสนับสนุนคำกล่าวอ้างต่าง ๆ ของเขา บีบีซีได้ติดต่อไปยังสถานทูตเกาหลีเหนือในกรุงลอนดอน…

แคสเปอร์สกี้ แนะ 7 ข้อ ใช้ Instagram อย่างปลอดภัย

Loading

  เปิด 7 ข้อใช้ อินสตาแกรม (Instagram) หรือ ไอจี อย่างปลอดภัย   ในวาระครบรอบอินสตาแกรม 11 ปี จากบริการแชร์รูปภาพ กลายเป็นเครือข่ายโซเชียลที่ได้รับความนิยมไปทั่่วโลก คนใช้มากกว่า 1 พันล้านคน 6 ตุลาคม อินสตาแกรม (Instagram) ฉลองครบรอบ 11 ปี Instagram เริ่มต้นจากบริการแชร์รูปภาพ กลายเป็นเครือข่ายโซเชียลที่ได้รับความนิยมทั่วโลกมากที่สุดเครือข่ายหนึ่ง ข้อมูลของ eMarketer ระบุว่า Instagram มีผู้ใช้มากถึง 1,074 พันล้านคนทั่วโลกในปี 2564 โดยปัจจุบันผู้ใช้สามารถเข้าดูร้านค้าออนไลน์ จองทำเล็บ พูดคุยกับผู้คนที่มีแนวคิดคล้ายกัน และพบคู่รัก ในแต่ละวันมีผู้ใช้ Instagram ทั่วโลกจำนวนมาก การใช้ Instagram เพื่อความพึงพอใจและประโยชน์ต่างๆ อาจพบความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้เชี่ยวชาญจาก แคสเปอร์สกี้ ขอเน้นย้ำเคล็ดลับสำคัญ 7 ประการที่จะช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลส่วนบุคคลและบัญชี Instagram ของคุณ ดังนี้…