ความเสี่ยงของ AI ในรถยนต์

Loading

    รถยนต์รุ่นใหม่ๆ แข่งขันกันในเรื่องระบบอำนวยความสะดวก และเติมเต็มความปลอดภัยในการขับรถ ต่างยี่ห้อต่างมีชื่อเรียกเทคโนโลยีที่ตนเองใช้เพื่อการนี้   แต่โดยรวมแล้วระบบนี้ทางเทคนิคเรียกว่า advanced driver assistance systems (ADAS) ทำงานด้วยพื้นฐานเดียวกันกับ Generative AI ที่บ้านเรากำลังตื่นเต้นกันถึงขนาดมีการตั้งกรรมการระดับกระทรวงขึ้นมาส่งเสริมการใช้งานกันขนานใหญ่   แต่การใช้ Generative AI โดยไม่รู้เรื่อง LLM อาจมีผลเสียมากกว่าผลดี พยายามส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์โดยใช้ Generative AI เป็นเครื่องมือ โดยไม่รู้ว่ามันทำได้แค่พลิกโฉมข้อความที่มันเคยฝึกมาให้กลายเป็นข้อความตามที่เราอยากได้   มันไม่ได้สร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ขึ้นมาเลย ยิ่งใช้มากก็ยิ่งลดทอนความคิดสร้างสรรค์ลงไปเสียอีก เพราะถูก AI ตีกรอบความคิดสร้างสรรค์ให้แคบลง   ระบบอัตโนมัติ ADAS ที่มาช่วยขับรถแบ่งได้เป็น 5 ระดับ ตั้งแต่ “ระดับศูนย์” คือรถยนต์ธรรมดาที่ทุกอย่างคนขับดูแลเองหมด ไม่มี ADAS ระดับหนึ่งจะเริ่มมีบริการช่วยอำนวยความสะดวกในการขับ เช่น ระบบแจ้งเตือนการขับข้ามช่องจราจร ระบบล็อกความเร็ว Cruise Control   “ระดับสอง”…

‘คนไทย’ เชื่อมั่น ‘เอไอ’ มากไปหรือไม่?

Loading

  วันก่อนผมไปเห็นโพสต์ของอาจารย์สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ที่สอนทางด้าน “เอไอ” บนโซเชียลมีเดียท่านหนึ่งเขียนว่า “ตอนนี้เป็นห่วงคนใช้เอไอ   วันก่อนผมไปเห็นโพสต์ของอาจารย์สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ที่สอนทางด้าน “เอไอ” บนโซเชียลมีเดียท่านหนึ่งเขียนว่า “ตอนนี้เป็นห่วงคนใช้เอไอที่ 1. เชื่อว่าทุกอย่างที่เอไอบอกเป็นเรื่องจริง ไม่ตรวจสอบ เชื่อหมดใจ และ 2. นำข้อมูลส่วนบุคคลป้อนให้เอไอ” อ่านแล้วนึกถึงกระแสเอไอที่กำลังมาแรงในบ้านเรา คนไทยใช้เอไอมากขึ้นแทบทุกเรื่อง จึงอดสงสัยไม่ได้ว่าคนไทยมั่นใจเอไอมากเกินไปหรือไม่?   ผมค้นไปพบ “ผลสำรวจ AI Monitor 2024” ของบริษัท Ipsos ซึ่งสำรวจทัศนคติของผู้คนใน 32 ประเทศทั่วโลกเกี่ยวกับเทคโนโลยีเอไอรวมทั้งประเทศไทย การสำรวจนี้ดำเนินการโดย Ipsos ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Global Advisor ระหว่างวันที่ 19 เม.ย. – 3 พ.ค.2024 มีผู้เข้าร่วมการสำรวจทั้งสิ้น 23,685 คน จาก 32 ประเทศทั่วโลก   กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยประชากรประมาณ 1,000 คนในแต่ละประเทศหลักๆ เช่น…

เปิดปมบริษัทใหญ่ถูกแฮ็ก หลังพลาดไปจ้างงานอาชญากรไซเบอร์จากเกาหลีเหนือ

Loading

  บริษัทใหญ่ของชาติตะวันตกแห่งหนึ่ง ถูกแฮ็กเกอร์เจาะระบบคอมพิวเตอร์เพื่อขโมยข้อมูลและเรียกเงินค่าไถ่ หลังพลาดไปจ้างงานอาชญากรไซเบอร์คนหนึ่งจากเกาหลีเหนือเข้าโดยบังเอิญ   บริษัทที่ตกเป็นเหยื่อดังกล่าวไม่ประสงค์จะเปิดเผยชื่อ แต่ได้ระบุว่ามีการจ้างช่างเทคนิค เพื่อดูแลระบบเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสารหรือไอทีของบริษัทตน โดยเป็นการทำงานจากระยะไกลทางออนไลน์   บริษัทแห่งนี้ตัดสินใจจ้างพนักงานไอทีคนดังกล่าว หลังได้รับประวัติการทำงานและรายละเอียดส่วนบุคคลที่ปลอมแปลงขึ้น และในทันทีที่สามารถเข้าถึงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของบริษัทได้ แฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือผู้นี้ก็เริ่มดาวน์โหลดข้อมูลที่เป็นความลับและมีความอ่อนไหวสูง ก่อนจะส่งข้อความเรียกค่าไถ่เป็นเงินสูงลิ่ว   เหตุการณ์นี้นับเป็นครั้งล่าสุดที่มีการเปิดเผยว่า พนักงานในบริษัทของชาติตะวันตกซึ่งทำงานจากระยะไกลทางออนไลน์หลายคน ที่แท้เป็นชาวเกาหลีเหนือ โดยก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง   มีรายงานว่าบริษัทที่ตกเป็นเหยื่อแฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือรายล่าสุด อาจมีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร หรือออสเตรเลีย โดยบริษัทแห่งนี้ได้ยินยอมเปิดเผยเรื่องดังกล่าว ผ่านผู้ตรวจสอบเฝ้าระวังภัยทางไซเบอร์ของบริษัท Secureworks เพื่อเตือนภัยและสร้างความตระหนักต่อปัญหาดังกล่าวแก่สังคมในวงกว้าง   ด้านผู้แทนของ Secureworks เปิดเผยว่า แฮ็กเกอร์ที่แฝงตัวเข้ามาเป็นพนักงานไอทีของบริษัทดังกล่าว ได้รับการจ้างงานเมื่อช่วงฤดูร้อนหรือประมาณเดือนก.ค. ถึง ส.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นการทำสัญญาจ้างชั่วคราวในระยะเวลาหนึ่ง แต่พนักงานผู้นี้กลับใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์สำหรับทำงานระยะไกลของบริษัท ล็อกอินเข้าสู่เครือข่ายภายในและลักลอบดาวน์โหลดข้อมูลที่มีความอ่อนไหวสูงไปเป็นจำนวนมาก ในทันทีที่สามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว   พนักงานผู้นี้ได้ปฏิบัติหน้าที่และรับเงินเดือนตามปกติอยู่นานราว 4 เดือน ซึ่งนักวิจัยคาดว่าเงินจำนวนนี้อาจถูกส่งกลับไปยังเกาหลีเหนือผ่านกระบวนการฟอกเงินที่ซับซ้อน เพื่อหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก   ต่อมาทางบริษัทได้ปลดพนักงานคนนี้ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากประสิทธิภาพในการทำงานไม่เป็นที่น่าพอใจ แต่หลังจากนั้นทางบริษัทก็ได้รับอีเมลข่มขู่เรียกเงินค่าไถ่ โดยข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่พนักงานคนดังกล่าวส่งมา มีข้อมูลที่ถูกขโมยไปบางส่วน และข้อความเรียกร้องให้จ่ายเงินค่าไถ่ก้อนโตในรูปของเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซี จำนวน…

ทำไมสงครามอิสราเอลยังไม่จบ แม้กวาดผู้นำกลุ่มฮามาสเรียบ

Loading

  กลุ่มฮามาสสูญเสียผู้นำหลักทั้ง 3 คนไปแล้วด้วยฝีมืออิสราเอล แต่ทำไมสงครามที่กินเวลายาวนานมากว่า 1 ปีนี้จึงยังไม่สิ้นสุด?   เป็นที่แน่นอนว่า กลุ่มติดอาวุธฮามาสในฉนวนกาซาได้สูญเสียผู้นำหลักทั้ง 3 คน ได้แก่ อิสมาอิล ฮานิเยห์, โมฮัมเหม็ด เดอิฟ และล่าสุดคือ ยาห์ยา ซินวาร์ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว   การสังหารซินวาร์ถือเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของอิสราเอลในสงครามกับกลุ่มฮามาส และเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับกลุ่มฮามาส โดยเขาไม่ได้เสียชีวิตในปฏิบัติการที่กองกำลังพิเศษวางแผนไว้ แต่เสียชีวิตในการเผชิญหน้าโดยบังเอิญกับกองกำลังอิสราเอลในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา     ภาพถ่ายที่ถ่ายในที่เกิดเหตุแสดงให้เห็นซินวาร์ในชุดพร้อมรบนอนเสียชีวิตอยู่บนซากปรักหักพังของอาคารที่ถูกกระสุนรถถังยิงใส่   เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวชื่นชมทหารและย้ำว่า แม้ชัยชนะจะยิ่งใหญ่เพียงใด “แต่นี่ก็ไม่ใช่จุดจบของสงคราม”   เนทันยาฮูกล่าวว่า “วันนี้ เราได้แสดงให้ชัดเจนอีกครั้งว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับผู้ที่ทำร้ายเรา วันนี้ เราแสดงให้โลกเห็นอีกครั้งว่า ชัยชนะของความดีเหนือความชั่วมีอยู่จริง แต่สงครามยังไม่จบสิ้น มันยากลำบาก และมันกำลังทำให้เราต้องจ่ายราคาอย่างแพง”   เขาเสริมว่า “ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ยังรอเราอยู่ข้างหน้า เราต้องมีความอดทน ความสามัคคี ความกล้าหาญ และความมั่นคง…

‘หนูกู้ระเบิด’ เมื่อเจ้าสัตว์ขนปุย 4 ขา กลายเป็นทีมกู้ภัยช่วยชีวิตมนุษย์

Loading

วาเลรี หนูแกมเบียเพศเมียวัย 4 ปี ท่าทางขี้สงสัย สับขาไปมาด้วยความเร็วกึ่งเดินกึ่งวิ่งสลับกับหยุด และใช้จมูกดมพื้นฟุดฟิด ส่วนบริเวณหน้าอกและหลังของวาเลรีมีการติดตั้งสายจูงระหว่างเจ้าหน้าที่ 2 คนที่เดินประกบคู่อยู่ไม่ห่าง ไม่นานเจ้าหนูขนปุกปุยก็มาหยุดที่โลหะทรงกลมขนาดเล็กพร้อมกับวนไปมารอบวัตถุดังกล่าว คล้ายกับส่งสัญญาณว่า บริเวณนี้มีวัตถุระเบิดติดตั้งอยู่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จากศูนย์อะโปโป (APOPO) สำนักงานเก็บกู้ทุ่นระเบิดของกัมพูชา จะเฉลยว่า วัตถุดังกล่าวมี TNT ที่เป็นสารประกอบของวัตถุระเบิดปะปนอยู่ประมาณ 2 กรัม และวาเลรีได้รับรางวัลเป็นกล้วยสุกสีเหลืองนวลไปในที่สุด     “ปกติแล้ว หนูมักจะขี้สงสัย และชอบค้นหาอะไรใหม่ ๆ เสมอ นั่นคือกุญแจสำคัญในการฝึกหนูให้ตรวจหาระเบิด” หนึ่งในเจ้าหน้าที่ศูนย์อะโปโปประจำศูนย์ถนนกุมัย จังหวัดเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชากล่าว   อะโปโปเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรด้านมนุษยธรรม มีสำนักงานใหญ่ในประเทศเบลเยียม ทำงานในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกที่เคยผ่านสถานการณ์สงครามและมีวัตถุระเบิดตกค้าง ส่วนในกัมพูชา อะโปโปเริ่มเก็บกู้วัตถุระเบิดร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดกัมพูชา (Cambodian Mine Action Center: CMAC) ตั้งแต่ปี 2014 โดยมีสมาชิกที่เป็นมนุษย์กว่า 100 คนที่ร่วมฝึกอบรมเก็บกู้ระเบิดในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ส่วนสมาชิกสัตว์ 4 ขานั้น…

ทำไม เกาหลีเหนือ-ใต้ ตึงเครียดหนักขึ้น ถึงขั้นระเบิดถนนเชื่อม 2 ประเทศ

Loading

    ความตึงเครียดที่คุกรุ่นมานานหลายเดือน ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ พุ่งสูงขึ้นอีกครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อเปียงยางกล่าวหารัฐบาลกรุงโซล ว่าส่งโดรนหลายลำเข้าสู่เมืองหลวงของพวกเขา หนำซ้ำยังปล่อยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งเกาหลีเหนือระบุว่าเป็นการยั่วยุที่อาจนำไปสู่การต่อสู้ด้วยอาวุธ หรือถึงขั้นสงคราม   หลังจากกล่าวหาเกาหลีใต้หนักขึ้นเรื่อย ๆ ในวันศุกร์ที่ 12 ต.ค. เปียงยางระบุว่าพวกเขาได้สั่งการให้ทหารบริเวณชายแดนเตรียมยิงอาวุธ ซึ่งนั่นทำให้ฝ่ายกรุงโซลสวนกลับว่า พวกเขาก็พร้อมตอบโต้ และเตือนว่า หากความปลอดภัยของพลเรือนของพวกเขาตกอยู่ในความเสี่ยง นั่นจะเป็นสัญญาณการสิ้นสุดของรัฐบาลเกาหลีเหนือ   เวลาล่วงเลยมาจนถึงเมื่อวันอังคาร เกาหลีเหนือตัดสินใจระเบิดบางส่วนของถนน 2 เส้นที่เชื่อมโยงพวกเขากับเกาหลีใต้ ตามที่ขู่เอาไว้ก่อนหน้านี้ และวันต่อมา พวกเขาก็อ้างว่ามีคนหนุ่มสาวกว่า 1.4 ล้านคน แห่สมัครหรือกลับเข้าสู่กองทัพ   เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นชี้ว่า ความตึงเครียดระหว่างเกาหลีทั้งสองกำลังอยู่ในจุดสูงสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ คิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ประกาศเมื่อเดือนมกราคมว่า เกาหลีใต้คือศัตรูหมายเลข 1 ของรัฐบาลของเขา     โดรน, ใบปลิว และระเบิด   เมื่อวันที่ 11 ต.ค. กระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือกล่าวหาเกาหลีใต้ว่า ส่งโดรนหลายลงมายังกรุงเปียงยางในตอนกลางคืน…