สหรัฐ-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ตั้งเป้าแบ่งปันข้อมูลแจ้งเตือนขีปนาวุธเกาหลีเหนือ

Loading

(จากซ้ายไปขวา) ใบหน้าของประธานาธิบดีเกาหลีใต้, ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น บนป้ายประท้วงที่มีเนื้อหาต่อต้านการจับมือเป็นพันธมิตรไตรภาคี (Photo by ANTHONY WALLACE / AFP)   สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ตั้งเป้าที่จะแบ่งปันข้อมูลการแจ้งเตือนขีปนาวุธเกาหลีเหนือก่อนสิ้นปี 2566 โดยทั้งสามประเทศระบุในถ้อยแถลงหลังการประชุมสุดยอดผู้นำกลาโหมในสิงคโปร์   เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2566 กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ แถลงร่วมกันเกี่ยวกับความร่วมมือในการตอบสนองต่อขีปนาวุธเกาหลีเหนือ   พันธมิตรทางทหารทั้งสามชาติประกาศจะแบ่งปันข้อมูลการแจ้งเตือนขีปนาวุธของเกาหลีเหนือระหว่างกัน ก่อนสิ้นสุดปี 2566   ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังความพยายามของเกาหลีเหนือที่จะปล่อยดาวเทียมสอดแนมขึ้นสู่วงโคจรอวกาศเมื่อต้นสัปดาห์ แต่จบลงด้วยความล้มเหลวหลังจากจรวดขัดข้องและร่วงสู่ทะเล   แถลงการณ์ร่วมของสามชาติระบุว่า พันธมิตรไตรภาคีจะร่วมใช้กลไกการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนข้อมูลการเตือนขีปนาวุธแบบเรียลไทม์ก่อนสิ้นปี เพื่อปรับปรุงความสามารถของแต่ละประเทศในการตรวจจับและประเมินขีปนาวุธที่ยิงโดยเกาหลีเหนือ   ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ, ยาสุคาซู ฮามาดะ รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น และลี จงซ็อบ รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ ได้หารือร่วมกันนอกรอบการประชุมสุดยอดความมั่นคงเอเชีย หรือแชงกรีล่า ไดอะล็อก (Shangri-La Dialogue:…

ศาลจำคุกวัยรุ่นอังกฤษ หลังวางแผนก่อการร้ายเมื่อปีก่อน

Loading

ภาพ : Daily Mail Online   ศาลอังกฤษสั่งจำคุก นายแมทธิว คิง อายุ 19 ปี เป็นเวลา 6 ปี หลังจากเมื่อเดือนเมษายน ปี 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากเพื่อนบ้านหลายคนว่า นายแมทธิว กำลังวางแผนก่อการร้าย และมีพฤติกรรมในเชิงรุนแรงอย่างเห็นได้ชัด   โดยต่อมาเขาสารภาพว่า เขามีแผนที่จะกระทำจริง และต้องการที่จะทรมานตำรวจ และทหารของสหรัฐฯ หรืออังกฤษ ซึ่งจากการสอบสวนเพิ่มเติมพบว่า นายแมทธิว ได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามในช่วงโรคโควิด-19 ระบาด และเขาก็ได้เริ่มเสพเนื้อหาความรุนแรงบนอินเตอร์เน็ตเรื่อยมา   รวมไปถึงเขายังเคยแอบเข้าไปสำรวจและถ่ายภาพค่ายทหาร และภายในสถานีตำรวจเก็บไว้ด้วย นอกจากนี้ ยังพบว่า เขาพยายามจะสั่งซื้ออาวุธมีด พร้อมกับธงสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงไปถึงกลุ่มไอเอส บนแพลตฟอร์มออนไลน์ชอปปิ้งด้วย   ทั้งนี้ ไม่มีรายงานว่า เขาเป็นผู้ป่วยทางจิต หรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ยังคงสงสัยถึงที่มา ที่ทำให้เขาตัดสินใจเปลี่ยนศาสนา       ————————————————————————————————————————- ที่มา :   …

หนุ่มศรีลังกาจิตป่วนกระตุกขวัญคนกรุงโทรขู่วางระเบิดสถานทูตอเมริกา ตร.แกะรอยรวบทันควัน

Loading

  วันที่ 31 พ.ค.66 พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี และ พ.ต.ท.ภราดร สุวรรณรัตน์ สว.สส.สน.ลุมพินี นำกำลังจับกุมตัว ชายชาวศรีลังกา อายุ 42 ปี หลังโทรข่มขู่วางระเบิดหน้าสถานทูตอเมริกา   สืบเนื่องจากตำรวจ สน.ลุมพินี ได้รับการประสานจากสถานทูตอเมริกา ว่าเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ได้มีชายรายหนึ่ง โทรศัพท์มาข่มขู่ว่าจะมีการวางระเบิดสถานทูต ในช่วงเวลา 10.00 น.ของวันนี้ (31 พ.ค.) โดยบอกว่าอาศัยอยู่ย่านพระโขนง จากนั้นทางตำรวจได้จัดกำลังเฝ้าระวังเหตุ พร้อมทั้งลงพื้นที่สืบสวนเบาะแสคนร้ายทันที     กระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีชายท่าทีมีพิรุธมาปรากฎตัวที่บริเวณหน้าสถานทูต จึงเข้าตรวจค้น พบเพียงโน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง และหนังสือเดินทางเท่านั้น ก่อนนำตัวทำการสอบสวนที่ สน.ลุมพินี โดยมี พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ เดินทางมาสอบปากคำด้วยตัวเอง   สอบสวนเบื้องต้น เจ้าตัวให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ที่โทรศัพท์ข่มขู่ทางสถานทูตจริง โดยได้เดินทางมาจากประเทศศรีลังกา…

คอซอวอ-เซอร์เบีย ความขัดแย้งแห่งภูมิภาคบอลข่าน

Loading

  การเผชิญหน้าระหว่างเซอร์เบียกับคอซอวอที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จุดที่เกิดการเผชิญหน้าคือเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งทางตอนเหนือของคอซอวอ หลังจากที่ชาวเซิร์บซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของเมืองรวมตัวกันประท้วงเพื่อขัดขวางไม่ให้นายกเทศมนตรีคนใหม่เข้าทำงาน   การประท้วงลุกลามกลายเป็นการเผชิญหน้ากัน และตำรวจของคอซอวอไม่สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ จนทำให้นาโตต้องส่งหน่วยรักษาสันติภาพเข้าไป แต่เหตุการณ์กลับลุกลามบานปลาย เกิดการปะทะกันอีกครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก รวมถึงสมาชิกของกองกำลังนาโต   ล่าสุดรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียออกมาเตือนว่า ต้องจับตาดูสถานการณ์ดังกล่าวให้ดีเพราะจุดนี้กำลังร้อนระอุและอาจกลายเป็นจุดปะทะใหญ่ในยุโรปกลาง     ความขัดแย้งระหว่างเซอร์เบียและคอซอวอมีจุดเริ่มต้นเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมาในเขตเทศบาลซเวซาน ทางตอนเหนือของประเทศคอซอวอ   ชาวเซิร์บในเมืองจำนวนมากออกมารวมตัวกันที่สำนักงานของเทศบาล เพื่อกันไม่ให้ ‘อิเลร เปซา’ นายกเทศมนตรีคนใหม่ซึ่งเพิ่งชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาเข้าทำงาน   การเลือกตั้งนี้ถูกคว่ำบาตรจากประชาชนชาวเซิร์บซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ในแถบนี้ ส่งผลให้มีผู้ใช้สิทธิเพียง 1,567 ราย จากทั้งหมด 45,000 ราย หรือคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 3.47 เท่านั้น   เมื่อผลออกมาว่า อิเลร เปซา ผู้มีเชื้อสายแอลเบเนียชนะการเลือกตั้ง บรรดาชาวเซิร์บจึงไม่พอใจและนำมาสู่การประท้วง   การประท้วงอย่างสงบกลายเป็นความวุ่นวายเมื่อตำรวจที่ถูกส่งเข้ามาควบคุมสถานการณ์ใช้ระเบิดแฟลชและแก๊สน้ำตากับผู้ชุมนุม   ผู้ชุมนุมตอบโต้กลับด้วยการขว้างปาขวดน้ำและสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ บางส่วนเผารถตำรวจ และบางส่วนพยายามบุกเข้าไปในอาคาร   นอกจากเขตซเวซานแล้ว…

ลงโทษเพิ่ม! ซาอุฯ ประหารชาวบาห์เรน 2 คน ข้อหาก่อการร้าย

Loading

  ทางการซาอุดีอาระเบีย ประหารชีวิตชาวบาห์เรน 2 คนที่ถูกกล่าวหาว่า วางแผนปฏิบัติการก่อการร้าย ส่งผลให้จำนวนการประหารชีวิตในลักษณะเดียวกัน เพิ่มขึ้นเป็น 9 ครั้งในเดือนนี้   สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ว่า สำนักข่าวแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย (เอสพีเอ) รายงานว่า ชาวบาห์เรน 2 คน ได้แก่ นายจาฟาร์ สุลตาน และนายซาดิก ทาห์มะ ถูกตั้งข้อหาเข้าร่วมกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งนำโดยชายที่ต้องการตัวในบาห์เรน   นอกจากนี้ พวกเขายังถูกกล่าวหาว่า ให้การช่วยเหลือ “ผู้ก่อการร้าย” ในซาอุดีอาระเบีย ด้วยการลักลอบนำเข้าวัตถุระเบิด และสนับสนุนแผนการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในราชอาณาจักร และประเทศเพื่อนบ้านอย่างบาห์เรน   อย่างไรก็ตาม “อัล-วีฟาก” ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านชาวชีอะห์กลุ่มหลักของบาห์เรน ประณามการประหารชีวิตของซาอุดีอาระเบียว่าเป็น “อาชญากรรม”   “The two men were subjected to coerced confessions…

ระบบรักษาความปลอดภัยผู้นำของเยอรมนี ‘ล้มเหลว’

Loading

AFP   เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นในขบวนรถของนายกรัฐมนตรีเยอรมนี เมื่อมีบุคคลแปลกหน้าขับรถตามขบวน และท้ายที่สุดชายคนนั้นก็ประชิดตัวและสวมกอดนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ โดยไม่มีบอดีการ์ดคนไหนสามารถขวางไว้ได้ทัน ก่อนถูกเจ้าหน้าที่จับตัวพาออกไป   โฆษกของสำนักงานตำรวจอาชญากรรมแห่งสหพันธรัฐ (BKA) แถลงข่าวต่อสื่อภายหลังเหตุการณ์ว่า “ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ” ชายแปลกหน้าคนดังกล่าวถูกตำรวจกลางจับกุมตัวที่สนามบินแฟรงก์เฟิร์ตโดยปราศจากการขัดขืน   ตามรายงานข่าว เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีชอลซ์เสร็จภารกิจที่ธนาคารกลางยุโรปในวันพุธที่ผ่านมา และเดินทางพร้อมขบวนไปยังสนามบินแฟรงก์เฟิร์ต ปรากฏมีรถของชายแปลกหน้าขับตามขบวนไปด้วย และสามารถผ่านแผงกั้นรักษาความปลอดภัยของสนามบินพร้อมกับขบวนของนายกรัฐมนตรี และแม้ว่ารถคันดังกล่าวไม่มีป้ายทะเบียนก็ตาม   ขณะที่นายกรัฐมนตรีก้าวลงจากรถลีมูซีนบริเวรด้านหน้าอาคารสนามบิน ชายแปลกหน้าคนนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปหานายกรัฐมนตรี จับมือและสวมกอดเขา หนังสือพิมพ์เยอรมันรายงานว่าชอลซ์ปล่อยตัวตามสบาย ในช่วงเวลานั้นเองที่หน่วยรักษาความปลดภัยของ BKA และเจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มผิดสังเกต จึงกรูกันเข้าไปจับกุมตัวชายแปลกหน้าไว้   หนังสือพิมพ์ Bild ของเยอรมนีอ้างคำพูดของคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีว่า “สำหรับโอลาฟ ชอลซ์แล้วมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร เขาแค่แปลกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น และเมื่อมองย้อนกลับไป นับว่าโชคดีที่ไม่มีเรื่องร้ายเกิดขึ้น” ฝ่ายทีมรักษาความปลอดภัย BKA ของนายกรัฐมนตรีชอลซ์ ยอมรับเป็นการภายในว่าสถานการณ์เช่นนี้ไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้นอีก   ความล้มเหลวด้านการรักษาความปลอดภัยผู้นำของเยอรมนี ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เมื่อครั้งอังเกลา แมร์เคลดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะคล้ายกันกับเธอเมื่อต้นปี 2022 ครั้งนั้นเธอแวะซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต แล้วถูกมือดีขโมยกระเป๋าสตางค์ของเธอ ทั้ง ๆ ที่เธออยู่ในความดูแลของหน่วยรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา…