ตำรวจสันติบาล เปิดฝึกอบรมโครงการอารักขาบุคคลสำคัญ และตอบโต้ทางยุทธวิธี BLACK TIGER รุ่นที่ 5

Loading

  เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 มีนาคม ที่ ศูนย์พัฒนาด้านการข่าวกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ถนนวิภาวดี ทุ่งสองห้อง พล.ต.ท.อภิชาติ เพชรประสิทธิ์ ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมอารักขาบุคคลสำคัญและการตอบโต้ทางยุทธวิธี (BLACK TIGER) เสือดำ รุ่นที่ 5   โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมจำนวน 40 นาย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล 23 นาย เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 14 นาย กระทรวงยุติธรรม 3 นาย     พ.ต.อ.กรธวัช สวัสดิ์โรจน์ รอง ผบก.ศพข.บช.ส. กล่าวว่า โครงการฝึกอบรม BLACK TIGER จะเป็นเป็นการฝึกอบรมเรื่องการอารักขาบุคคลสำคัญเป็นหลัก ซึ่งจะมีการเพิ่มในเรื่องของปฎิบัติการพิเศษไปด้วยเพื่อให้สามารถอารักขาบุคคลและสถานที่ได้อย่างครบถ้วน เราจึงพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับการปฎิบัติหน้าที่ในงานอารักขาครบถ้วน   ซึ่งจะแตกต่างกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษอื่น ๆ ที่เน้นในเรื่องการใช้อาวุธเป็นยุทธวิธี แต่ของ BLACK TIGER จะเน้นงานอารักขาบุคคลสำคัญเป็นหลัก…

ฝรั่งเศสประท้วงเดือด ต้านแผนปฏิรูปบำนาญ หลังรัฐบาลผ่านร่างกฎหมายโดยไม่ต้องลงคะแนน

Loading

  ฝรั่งเศสประท้วงเดือดต้านปฏิรูปบำนาญ อีกทั้งยังเป็นผลักดันร่างกฎหมายให้ผ่านสภา โดยไม่ต้องพึ่งพาการลงคะแนนเสียงในสภา ปะทุความโกรธเกรี้ยวให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ จนเกิดการปะทะรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ   —ผ่านร่างกฎหมาย ด้วยการ “ไม่ลงคะแนน”—   ประชาชนฝรั่งเศสต่างแสดงความโกรธแค้นมากขึ้นไปอีก เมื่อร่างปฏิรูประบบบำนาญของฝรั่งเศส ผ่านรัฐสภา “โดยไม่มีการลงคะแนน” เพราะกลัวว่าจะไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภา เรื่องนี้ยิ่งส่งผลให้ประชาชนออกมาประท้วงกันหนักขึ้นอีก   แผนปฏิรูประบบบำนาญที่ผลักดันโดยประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง จะเพิ่มอายุเกษียณจาก 62 เป็น 64 ปี โดยแผนดังกล่าวผ่านสภาสูงได้เมื่อวันพฤหัสบดี (16 มีนาคม) แต่ทางคณะรัฐมนตรีเกร็งว่าจะไม่ผ่านความเห็นชอบจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร   ความกังวลดังกล่าว ทำให้ ‘เอลิซาเบธ บอร์น’ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส เลือกใช้อำนาจในมาตรา 49:3 ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งให้อำนาจรัฐบาลในการ “หลีกเลี่ยงการโหวตในรัฐสภา”   “เราไม่สามารถเอาอนาคตของเรามาขึงไว้กับเรื่องนี้ได้ เพราะการปฏิรูประบบบำนาญนั่นเป็นเรื่องจำเป็นมาก” นายกรัฐมนตรีบอร์น กล่าวท่ามกลางความวุ่นวายของสภาล่าง   ทันทีที่นายกฯ บอร์นขึ้นกล่าว ทาง ส.ส.ฝ่ายซ้ายได้ร้องเพลงชาติ ‘La Marseillaise’ พร้อมป้ายข้อความว่า “64 ANS…

นิรโทษกรรมปืนเถื่อน ครม.ไฟเขียวร่างกม.อาวุธปืน ให้ขึ้นทะเบียน-ส่งมอบคืนใน 180 วัน

Loading

  ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.อาวุธปืน ให้ขึ้นทะเบียน-ส่งมอบคืนใน 180 วัน โดยไม่มีความผิดทางกฎหมาย   เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 14 มีนาคมมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ ประกอบด้วย   1. ให้บุคคลที่มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน โดยมิชอบด้วยกฎหมายนำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนดังกล่าวมาขอรับอนุญาตเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายภายในระยะเวลาที่กำหนด (180 วัน นับแต่ร่างพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ) โดยไม่ต้องรับโทษ   2. ให้บุคคลที่มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ที่กฎหมายไม่อนุญาตให้มีและใช้ไว้ในครอบครองหรือจำหน่าย เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการทำลายสูงเป็นอันตรายต่อประชาชน ก็ให้ผู้ที่มีอาวุธปืนดังกล่าวไว้ในครอบครองนำเอาอาวุธปืนนั้นมามอบให้แก่หน่วยทหารที่ใกล้ที่สุดภายในเวลาที่กำหนด (180 วัน นับแต่ร่างพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ) โดยไม่ต้องรับโทษ โดยทางราชการไม่จำต้องชดใช้ราคาและให้ตกเป็นของแผ่นดิน   3.…

โปแลนด์จับกุมเครือข่ายสายลับรัสเซีย สอดแนม-วางแผนก่อวินาศกรรม

Loading

    โปแลนด์ทลายเครือข่ายสายลับรัสเซีย ที่คอยสอดแนมการขนส่งเสบียงให้ยูเครน รวมทั้งพบว่า คนกลุ่มนี้กำลังวางแผนก่อวินาศกรรมด้วย   เมื่อวันพุธที่ 15 มี.ค. 2566 สถานีวิทยุ RMF FM ในประเทศโปแลนด์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานความมั่นคงภายใน (ABW) ของประเทศสามารถทลายเครือข่ายสายลับที่ทำให้กับรัสเซียได้ โดยมีชาวต่างชาติถูกจับกุม 6 รายในฐานะผู้ต้องสงสัย ติดตั้งกล้องลับเพื่อบันทึกภาพกระบวนการขนส่งความช่วยเหลือไปยังยูเครน และกำลังวางแผนก่อวินาศกรรม   RMF FM รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่รัฐบาลโปแลนด์ 2 คนว่า สายลับกลุ่มนี้ติดตั้งกล้องลับหลายสิบตัวเอาไว้ตามสถานีรถไฟชุมทาง และตามเส้นทางการขนส่งสำคัญในจังหวัด พอดการ์แพ็คกี ของโปแลนด์ ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับยูเครน   ขณะที่กล้องบางตัวถูกพบใกล้กับสนามบินภูมิภาคขนาดเล็กชื่อ เซสซอว์-จาชิออนกา (Rzeszow-Jasionka) ที่ถูกเปลี่ยนแปลงศูนย์กลางการขนส่งสิ่งของช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรม และความช่วยเหลือทางกองทัพให้แก่ยูเครน และมีเครื่องบินขนส่งและเครื่องบินกองทัพจากสหรัฐฯ และชาติยุโรปบินเข้าออกเป็นประจำ   สนามบินแห่งนี้ยังถูกสหรัฐฯ จัดเป็นสถานที่อ่อนไหว และส่งระบบมิสไซล์ป้องกันทางอากาศ ‘แพทริออต’ มาคุ้มกัน และประธานาธิบดี โจ ไบเดน ก็เดินทางมายังสนามบิน เซสชอว์-จาชิออนกา ก่อนจะเดินทางต่อไปยังกรุงเคียฟของโปแลนด์เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา…

คุณก็รู้ว่าใคร! ปูตินชี้เหตุบึ้มท่อนอร์ดสตรีมเป็นฝีมือ ‘ระดับรัฐ’ เมินสื่อตะวันตกโยนบาปใส่กลุ่มโปรยูเครน

Loading

    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ระบุในวันอังคาร (14 มี.ค.) ว่าเหตุระเบิดก่อความเสียหายแก่ท่อลำเลียงก๊าซนอร์ดสตรีมเมื่อปีที่แล้ว ดำเนินการ “ในระดับรัฐ” ปฏิเสธสมมติฐานที่พวกฝักใฝ่ยูเครนกลุ่มหนึ่งอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ โดยระบุ “ไร้สาระโดยสิ้นเชิง”   ท่อลำเลียงนอร์ดสตรีม 1 และ 2 ที่เชื่อมระหว่างรัสเซียและเยอรมนี ถูกเล่นงานด้วยระเบิดปริศนาหลายรอบเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน ในสิ่งที่มอสโกเรียกว่าเป็นการก่อการร้ายสากล   เดนมาร์ก เยอรมนี และสวีเดนทำการสืบสวนของตนเองในเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น แต่มอสโกเผยว่าพวกเขาไม่ได้รับแจ้งข่าวคราวเกี่ยวกับการสืบสวนใดๆ “เราสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่เดนมาร์ก เกี่ยวกับคำขอร่วมทำงานด้วย หรือจัดตั้งกลุ่มผู้ชำนาญการ ผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศ” ปูตินกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์รอสซิยา สื่อมวชนแห่งรัฐ   “อย่างที่ผมเคยบอก คำตอบเป็นไปอย่างคลุมเครือ เหมือนกับไม่มีคำตอบ พวกเขาบอกว่าเราจำเป็นต้องรอ” ปูตินระบุ   สวีเดน และทีมสืบสวนอื่นๆ ของยุโรปบอกว่าพวกมือโจมตีลงมือโดยตั้งใจ แต่ไม่ได้บอกว่าใครกันที่พวกเขาคิดว่าอยู่เบื้องหลัง ส่วนมอสโกกล่าวโทษเหตุระเบิดว่าเป็นการก่อวินาศกรรมของตะวันตก   ในการแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวที่บ่งชี้ว่าพวกฝักใฝ่ยูเครนกลุ่มหนึ่งเป็นคนโจมตีท่อลำเลียง ปูติน กล่าวว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี “สิ่งหนึ่งที่ต้องมองอยู่เสมอก็คือ ใครกันเป็นผู้ได้ประโยชน์ แล้วใครกันเป็นผู้ได้ประโยชน์ ตามหลักทฤษฎีแล้ว แน่นอนว่า สหรัฐฯ…

ผลสอบชี้ไฟไหม้ค่ายผู้อพยพโรฮีนจา มีการวางแผนจงใจก่อวินาศกรรม

Loading

    ทางการบังกลาเทศเผยผลสอบหาสาเหตุของไฟไหม้ครั้งใหญ่ภายในค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองค็อกซ์ บาซาร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศ ว่าน่าจะมีการวางแผน และจงใจก่อวินาศกรรม   บังกลาเทศเผยผลการสอบสวนหาสาเหตุเพลิงไหม้ค่ายผู้ลี้ภัยค็อกซ์ บาซาร์ ค่ายผู้ลี้ภัยขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในบังกลาเทศ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าน่าจะมีการวางแผนและจงใจก่อวินาศกรรม โดยเพลิงไหม้รุนแรงเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมาได้เผาเพิงพักของผู้ลี้ภัยวอดกว่า 2,800 หลัง ทำให้ผู้อพยพชาวโรฮีนจากว่า 15,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย เคราะห์ดีที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้     เจ้าหน้าที่ภาครัฐของบังกลาเทศระบุว่าไฟไหม้ครั้งนี้น่าจะเป็นการจงใจวางแผนที่จะลอบวางเพลิงโดยกลุ่มติดอาวุธ เห็นได้จากการเกิดไฟไหม้ในหลายๆ จุดพร้อมกัน จากการสอบถามพยานราว 150 ปาก โดยขณะนี้ทางการกำลังเร่งสอบสวนเชิงลึกเพื่อหาว่ากลุ่มกองกำลังกลุ่มใดที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้   ทั้งนี้ค่ายผู้ลี้ภัยค็อกซ์ บาซาร์ มีผู้อพยพที่ลี้ภัยมาจากเมียนมา อาศัยอยู่มากกว่า 1 ล้านคน โดยเพิงพักส่วนใหญ่ล้วนทำมาจากไม้ไผ่ และผ้าใบพลาสติก โดยการอาศัยอยู่รวมกันแบบแออัด ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดเพลิงไหม้ได้ง่าย โดยในตอนแรกเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เหตุที่ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วมาจากถังแก๊สในครัวเรือนภายในเขตค่ายที่พักของชาวโรฮีนจา   ในช่วงเดือนมกราคมปี 2021 และธันวาคม 2022 มีรายงานเหตุเพลิงไหม้ในค่ายผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาถึง 22 ครั้ง ในจำนวนนี้เป็นการลอบวางเพลิง 60 ครั้ง โดยเหตุไฟไหม้ใหญ่เมื่อเดือนมีนาคมปี…