“เศรษฐพงค์” เห็นด้วย กสทช. คุมเข้มเผยแพร่ข่าวปมควบรวม

Loading

กทม. 29 ส.ค.- “เศรษฐพงค์” เห็นด้วยประธาน กสทช. คุมเข้มการเผยแพร่ข่าวปมควบรวม หลังมือดีปล่อย “5 Facts กรณีควบรวมทรู-ดีแทค” พร้อมแนะ กสทช. ศึกษาข้อบังคับประชุมปี 55 ว่าด้วยการเปิดเผยข้อมูลได้ แต่ต้องไม่ผิดระเบียบ และไม่ทำให้เกิด ความเสียหาย   พันเอก เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สภาผู้แทนราษฎร ในฐานะอดีตรองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวถึงกรณี ศ.(คลินิก) นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ออกบันทึกถึงเลขาธิการ กสทช. เรื่องการเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์กรณีการควบรวม หลังจากที่มีการเผยแพร่ข่าว ในหัวข้อ “5 Facts กรณีควบรวมทรู-ดีแทค” อ้างที่มาจาก กสทช. ว่า การที่ประธาน กสทช. ตอกย้ำความสำคัญเรื่องการเปิดเผยข้อมูลนั้น ถือเป็นเรื่องดีและทำถูกต้องแล้ว เพราะหากข้อมูลที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการลงมติ และข้อมูลที่อาจขาดความครบถ้วน…

พักงานบิ๊กอนามัยโลก ปมเหยียดเชื้อชาติ-ลักลอบส่งข้อมูลอ่อนไหว

Loading

  พักงานบิ๊กอนามัยโลก – วันที่ 30 ส.ค. เอพีรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) มีคำสั่งพักงานนายแพทย์ทาเคชิ คาซาอิ ผู้อำนวยการ WHO ภาคพื้นแปซิฟิกตะวันตก อย่างไม่มีกำหนด หลังผลการสอบสวนภายในพบว่านพ.คาซาอิ มีพฤติกรรมและเคยกล่าววาจาไม่เหมาะสม ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของ WHO เกิดขึ้นให้หลังเพียง 1 เดือน หลังสำนักข่าวเอพีเปิดเผยเรื่องราวเบื้องลึกจากปากของเจ้าหน้าที่ WHO หลายคน ถึงพฤติกรรมอำนาจนิยม ไม่มีมนุษยธรรม และเหยียดหยามเกียรติยศศักดิ์ศรีเพื่อนมนุษย์เชื้อชาติอื่น ส่งผลกระทบต่อความพยายามของสหประชาชาติหรือยูเอ็นในการควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019     นพ.ทาเคชิ คาซาอิ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ภาคพื้นแปซิฟิกตะวันตก ถูกสั่งพักงาน (เอพี) นพ.เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผอ.ใหญ่ของ WHO ระบุผ่านอีเมลที่ส่งให้กับเจ้าหน้าที่ WHO ในสำนักงานใหญ่ภาคพื้นแปซิฟิกตะวันตกตั้งอยู่ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ว่า นพ.คาซาอิ นั้นอยู่ระหว่างลางาน และว่า พญ.ชุสซานนา ยาค็อบ รอง ผอ.ใหญ่…

ศาลมาเลเซียประณาม เอกสารคดีเมีย ‘นาจิบ ราซัก’ รั่ว ชี้ของปลอม หวังคุกคามการทำงาน

Loading

  ศาลสูงมาเลเซียออกมาประณามการกระทำของเว็บไซต์มาเลเซียทูเดย์ ที่มีการเผยแพร่เอกสารความยาว 71 หน้า ซึ่งระบุว่าเป็นคำพิพากษาความผิดของนางรอสมาห์ มันซอร์ ภริยาของนายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนแรกที่ต้องโทษจำคุกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลสูงมาเลเซียมีกำหนดจะพิจารณาคดีการรับสินบนของนางรอสมาห์ในโครงการเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ มูลค่า 279 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 10,000 ล้านบาท แต่เว็บไซต์มาเลเซียทูเดย์กลับนำเอกสารที่ระบุว่า เป็นการพิพากษาความผิดของนางรอสมาห์มาเผยแพร่เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม โดยกล่าวหาว่าคำพิพากษาถูกเขียนขึ้นโดยบุคคลที่ไม่เป็นที่รู้จัก และไม่ใช่ผู้พิพากษาศาลสูงที่ดูแลคดีของนางรอสมาห์ หัวหน้านายทะเบียนของศาลรัฐบาลกลางออกมาประณามการกระทำของเว็บไซต์ดังกล่าวว่าเป็นการกระทำโดยเจตนาเพื่อสร้างความเสื่อมเสียให้กับศาล โดยได้มีการยื่นเรื่องร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว พร้อมกับให้คำมั่นว่าศาลจะไม่หวาดกลัวกับความพยายามใดๆ ที่จะคุกคามขู่เข็ญการทำงานของกระบวนการยุติธรรม ด้านตำรวจระบุว่า เอกสารที่รั่วไหลออกไปเป็นร่างเอกสารเบื้องต้นที่จัดทำขึ้นโดยหน่วยงานวิจัยของศาลสูงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นการวิจัยถึงคดีที่กำลังดำเนินอยู่ เป็นมุมมองของหน่วยวิจัยเพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงของผู้พิพากษา เอกสารดังกล่าวจะต้องมีการแก้ไขตามผลการวิจัยและศึกษาเพิ่มเติม และมันไม่ใช่คำพิพากษาแต่อย่างใด นอกจากนี้ตำรวจยังระบุว่าได้มีการแก้ไขเนื้อหาของเอกสารให้ต่างออกไปจากต้นฉบับด้วย     ที่มา : มติชนออนไลน์   /   วันที่เผยแพร่ 28 ส.ค.65 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_3531878

เอฟบีไอระบุ ‘ทรัมป์’ เก็บเอกสารลับไม่เหมาะสม

Loading

  วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) – เอกสารคำให้การของสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ระบุว่า เอกสาร 15 กล่อง ที่นำออกมาจากบ้านพักของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มี 14 กล่อง ที่เป็นความลับและหลายชิ้นอยู่ในชั้น“ลับสุดยอด” ถูกจัดเก็บอย่างไม่เหมาะสม เพราะพบเก็บไว้รวมกับหนังสือพิมพ์ นิตยสาร และจดหมายส่วนตัว กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เผยแพร่ เอกสารคำให้การของเอฟบีไอที่ชี้แจงต่อศาลเพื่อขออำนาจศาลในการเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายทรัมป์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการเข้าตรวจค้นบ้านของอดีตประธานาธิบดี ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน บ้านพักตากอากาศ มาร์อาลาโก ของนายทรัมป์ ในรัฐฟลอริดา ไม่ได้เป็นสถานที่ที่ได้รับอนุญาตให้เก็บเอกสารที่เป็นความลับเอฟบีไอ ระบุว่า เหตุผลหนึ่งในการตรวจค้นที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม เพราะเชื่อว่ามีหลักฐานเกี่ยวกับการขัดขวางกระบวนการยุติธรรมอยู่ในบ้านด้วย เอกสารความยาว 38 หน้าของเอฟบีไอ ถูกขีดฆ่าด้วยหมึกสีดำเป็นจำนวนมาก เพื่อรักษาความปลอดภัยของพยานและเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายที่เกี่ยวข้องและเพื่อรักษารูปคดีในการสอบสวน นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยรายละเอียดใหม่เกี่ยวกับประเภทของเอกสารลับซึ่งถูกจัดเก็บที่บ้านของทรัมป์มาจนถึงเดือนมกราคมปีนี้ มีตั้งแต่บันทึกที่เขียนด้วยลายมือโดยประธานาธิบดีไปจนถึงข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งข่าวกรองแห่งชาติ โดยจากการตรวจสอบกล่องเอกสาร 15 กล่อง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 – 18 พ.ค. พบว่ามีเอกสาร 67 รายการ…

นาโตสอบสวนเหตุแฮ็กเกอร์ขายข้อมูลลับบริษัทผลิตขีปนาวุธ

Loading

MBDA MISSILE SYSTEMS   องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต เปิดการสืบสวนสอบสวนเพื่อประเมินผลกระทบจากการละเมิดข้อมูลในเอกสารลับด้านการทหารที่แฮ็กเกอร์กลุ่มหนึ่งขโมยไปขายทางออนไลน์   แฮ็กเกอร์กลุ่มดังกล่าวได้ขโมยข้อมูลที่เชื่อมโยงกับบริษัทผู้ผลิตอาวุธรายใหญ่ในยุโรป โดยแฟ้มข้อมูลที่อาชญากรกลุ่มนี้นำออกขาย รวมถึงพิมพ์เขียวอาวุธของชาติพันธมิตรนาโตที่ใช้ในสงครามยูเครน   MBDA Missile Systems บริษัทผลิตอาวุธร่วมทุนของหลายชาติในยุโรปยอมรับว่าข้อมูลของบริษัทอยู่ในแฟ้มที่ถูกขโมยไปขาย แต่ระบุว่าสิ่งที่คนร้ายได้ไปไม่ใช่ข้อมูลลับของบริษัท   MBDA ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในฝรั่งเศสระบุว่า แฮ็กเกอร์ได้ล้วงข้อมูลดังกล่าวไปจากฮาร์ดไดรฟ์แบบพกพา และขณะนี้ได้ประสานงานกับทางการอิตาลี ซึ่งเป็นประเทศที่เกิดเหตุแล้ว   เชื่อกันว่า การสอบสวนมุ่งเป้าไปยังบริษัทซัพพลายเออร์ ที่ผลิตสินค้าให้ MBDA   โฆษกนาโตระบุในแถลงการณ์ว่า “เรากำลังตรวจสอบการแจ้งเหตุเรื่องข้อมูลที่ถูกขโมยไปจาก MBDA แต่เรายังไม่พบข้อบ่งชี้ใด ๆ ว่าเครือข่ายของนาโตได้รับความเสียหาย”   แฮ็กเกอร์กลุ่มนี้ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในช่องทางบนโลกออนไลน์ทั้งภาษารัสเซียและภาษาอังกฤษได้ประกาศขายแฟ้มข้อมูลดังกล่าวซึ่งมีขนาด 80 กิกะไบต์ ในราคา 15 เหรียญบิทคอยน์ (ราว 756,000 บาท) และอ้างว่าขณะนี้ได้ขายข้อมูลให้ผู้ซื้อนิรนามไปแล้วอย่างน้อย 1 ราย   MBDA MISSILE SYSTEMS ข้อมูลที่ถูกขโมยไปเป็นพิมพ์เขียวอุปกรณ์ของ MBDA…

ฮือฮา!! นักท่องเที่ยวรัสเซียเผยพิกัดที่ตั้งอาวุธปูตินแบบไม่ตั้งใจระหว่างเซลฟี่ตัวเองสวมกางเกงว่ายน้ำสปีโดในไครเมีย

Loading

  เอเจนซีส์ – กลายเป็นเรื่องฮาไปทั่วเมื่อนักท่องเที่ยวตากอากาศรัสเซียรายหนึ่งตั้งใจถ่ายภาพตัวเองในสภาพสวมกางเกงว่ายน้ำตัวเดียวกลางชายหาดที่ดูคุ้นตา ท่ามกลางฉากหลังเป็นระบบป้องกันอากาศยาน S-400 ที่ผู้นำรัสเซียแอบซุกซ่อนไว้ในไครเมีย เมโทร สื่ออังกฤษ รายงานวานนี้ (23 ส.ค.) ว่า ในภาพพบว่าชายชาวรัสเซียกำลังโบกมือให้กับกล้องระหว่างที่ตัวเขายืนโพสภาพในกางเกงว่ายน้ำขณะที่ยืนอยู่บนชายหาดที่ดูพื้นทรายเหมือนในไครเมีย ขณะที่ฉากหลังที่ห่างออกไปกลับพบเป็นยานยนต์ทางการทหารขนาดใหญ่ที่กลับกลายเป็นระบบต่อต้านอากาศยาน S-400 ที่ลือลั่นของรัสเซียถูกจอดทิ้งไว้ ทั้งนี้ พบว่าภาพที่ถูกโพสต์บนระบบแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย VKontakte ที่คล้ายกับเฟซบุ๊กของเมทาถูกตามสืบจนรู้ว่าภาพนี้ถูกถ่ายใกล้กับเยฟพาโตริยา (Yevpatoriya) ในไครเมีย เมโทรชี้ว่า โลเคชันถูกยืนยันโดยใช้การเปรียบเทียบภาพถ่ายที่เห็นและภาพถ่ายผ่านดาวเทียมจากเดือนกรกฎาคม ทั้งนี้ ก่อนหน้ายูเครนเคยร้องขอให้นักท่องเที่ยวรัสเซียไม่ให้เดินทางเข้ามาพักผ่อนในไครเมียหากว่ายังคงต้องการให้การพักผ่อนช่วงหน้าร้อนยังคงมีความสนุกสนานเหมือนอย่างที่ควรจะเป็น กระทรวงกลาโหมยูเครนที่โพสต์ภาพนักท่องเที่ยวรัสเซียที่มีฉากหลังเป็นระบบ S-400 กล่าวอย่างติดตลกว่า แต่ทว่าภาพนี้ทำให้เคียฟกำลังพิจารณาจุดยืนของตัวเองทีเดียว โดยในทวิตเตอร์ กระทรวงกลาโหมยูเครนกล่าวว่า “บางทีพวกเราคงรุนแรงกับนักท่องเที่ยวรัสเซียมากจนเกินไป…แต่บางครั้งพวกเขาสามารถเป็นประโยชน์ได้อย่างมาก เหมือนเช่นชายผู้นี้ที่กำลังถ่ายภาพในที่ตั้งพิกัดการป้องกันทางอากาศของรัสเซียใกล้ เยฟพาโตเรีย (Yevpatoria) ในเขตยึดครองไครเมีย ขอบคุณและขอให้ตั้งใจทำงานต่อไป!” ขณะที่ผู้ใช้อีกรายชื่อ มาร์ค ครูตอฟ (Mark Krutov) ซึ่งเป็นนักข่าวชื่อดังจากเรดิโอฟรียุโรป ได้ทวีตแสดงความเห็นโดยเปิดเผยถึงจีโอโลเกชันว่า 45.180317, 33.232232 และยังชี้ต่อว่า ระบบต่อต้านอากาศยานทำงานทุกวันในพื้นที่บริเวณนี้ซึ่งพิกัดที่ระบบ S-400 ตั้งอยู่เป็นชายหาดทะเลสาบน้ำเค็ม พร้อมกันนี้เขายังตามสืบเพื่อยืนยันความถูกต้องโดยเปิดเผยว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดพิกัดของนักท่องเที่ยวรัสเซียคนนี้และ S-400…