อดีตหัวหน้าทีมคลาวด์ Ubiquiti รับโทษจำคุก 6 ปีฐานเอาข้อมูลไปเรียกค่าไถ่บริษัท

Loading

  ศาลสหรัฐฯ พิพากษาลงโทษ Nickolas Sharp หัวหน้าทีมคลาวด์ของบริษัท Ubiquiti ในช่วงปี 2020 โทษฐานที่ดึงข้อมูลออกจากคลาวด์ด้วยตัวเองและนำข้อมูลไปเรียกค่าไถ่กับ Ubiquiti เป็นเงิน 50BTC   Sharp ถูกจับกุมตั้งแต่ปลายปี 2021 โดยตัวเขาเองถูกค้นคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ต้นปี 2021 เมื่อถูกค้นก็พยายามปล่อยข่าวปลอมเกี่ยวกับ Ubiquiti ว่าบริษัทมีช่องโหว่และถูกแฮ็กอย่างรุนแรง จนทำให้หุ้นของ Ubiquiti ตกลงอย่างหนัก มูลค่าบริษัทหายไป 4 พันล้านดอลลาร์หรือกว่าแสนสามหมื่นล้านบาท   คดีนี้จบลงหลัง Sharp รับสารภาพ 3 ข้อหา ได้แก่ การแฮ็กระบบ, ฉ้อโกง, และให้การเท็จต่อ FBI ผู้พิพากษา Katherine Polk Failla ลงโทษจำคุก 6 ปี คุมความประพฤติหลังออกจากคุกอีก 3 ปี, ยึดทรัพย์สินทั้งหมดที่เกี่ยวกับการกระทำผิด, และจ่ายค่าเสียหายอีก 1.59 ล้านดอลลาร์    …

โปแลนด์สั่งเตือนภัยระดับสูงพบ “บอลลูนเบลาลุส” ของเพื่อนปูตินเล็ดลอดเข้าน่านฟ้าแบบไม่ทันตั้งตัว

Loading

เอเจนซีส์ – โปแลนด์สั่งเตือนภัยระดับสูงทันที หลังกองทัพในคืนวันศุกร์ (12 พ.ค.) พบบอลลูนสำรวจเบลารุสของประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก เข้ามาอยู่ในเขตน่านฟ้าโปแลนด์ กลายเป็นการล่วงล้ำน่านฟ้าโปแลนด์ครั้งที่ 3 นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว เดลีเมลของอังกฤษรายงานวันเสาร์ (13 พ.ค.) ว่า โปแลนด์อยู่ในการเตือนภัยขั้นสูงหลังกองทัพตรวจจับบอลลูนสำรวจต้องสงสัยที่มีทิศทางจากเบลารุสล่วงล้ำเข้ามาภายในดินแดนของตัวเอง กระทรวงกลาโหมโปแลนด์แถลงผ่านทางทวิตเตอร์ว่า บอลลูนลึกลับถูกพบครั้งแรกเมื่อเวลา 20.30 น.ของวันศุกร์ (12) ตามเวลาท้องถิ่นและได้เฝ้าติดตามหลังจากนั้น อย่างไรก็ตาม พบว่าบอลลูนต้องสงสัยได้หายไปจากจอเรดาร์ในเวลา 12.30 น.ของวันเสาร์ (13) ใกล้กับไรปิน (Rypin) เมืองทางตอนกลางของโปแลนด์ ห่างจากพรมแดนเบลารุสไปราว 180 ไมล์ กลายเป็นการรุกล้ำน่านฟ้าโปแลนด์ครั้งที่ 3 นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ปี 2022 สื่อ Euractiv ของโปแลนด์รายงานล่าสุดวันนี้ (15) ว่า มีการส่งทีมค้นหาร่วมโดยผู้เชี่ยวชาญและอาสาสมัครกองทัพโปแลนด์ที่ยังคงค้นหาบอลลูนเบลารุสตลอดทั้งวันอาทิตย์ (14) แต่ทว่าไม่ประสบความสำเร็จ ถึงแม้ว่าจะมีการใช้ทั้งเฮลิคอปเตอร์กองทัพและโดรนเข้าร่วม ขณะเดียวกัน พบว่าชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Kipichy ทางตอนกลางของโปแลนด์ออกมาอ้างว่า…

วอชิงตันโพสต์แฉ “เอกสารลับเพนตากอนรั่ว” พบ “เซเลนสกี” ลับหลังชาติตะวันตกแอบสั่งโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย-ระเบิดท่อส่งน้ำมันมอสโกเข้าฮังการี

Loading

  เอเจนซีส์ – หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานเปิดเผยครั้งแรกว่า เอกสารลับเพนตากอนที่รั่วครั้งใหญ่พบว่า ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ที่เคยให้คำมั่นกับชาติตะวันตกทั้งหลายจะไม่ใช้อาวุธชาติเหล่านั้นโจมตีลึกเข้าไปด้านในดินแดนรัสเซีย ค้นพบในทางลับออกคำสั่งใช้การโจมตีด้วยโดรนแทนระหว่างที่ไม่มีมิสไซล์พิสัยไกล เคยเสนอไอเดียระเบิดท่อส่งน้ำมันฮังการีตอบโต้นายกฯ วิคเตอร์ ออร์แบน   หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ของสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (13 พ.ค.) ว่า เอกสารเพนตากอนลับที่รั่วครั้งมโหฬาร และมีการเปิดเผยผ่านแชตแพลตฟอร์ม Discord ที่ยังไม่มีการเปิดเผยมาก่อนและทางหนังสือพิมพ์สหรัฐฯ ได้ตรวจพบนั้นระบุว่า ในทางลับประธานาธิบดียูเครนสั่งการให้กองกำลังยูเครนโจมตีลึกเข้าไปภายในดินแดนของรัสเซีย   เซเลนสกีที่แสดงตัวว่าเป็นผู้ที่มีความอดทนและสามารถเอาชนะใจชาติตะวันตกทั้งหลายด้วยการปฏิเสธอย่างหนักแน่นไม่ใช้อาวุธตะวันตกโจมตีเข้าไปด้านในรัสเซียแผ่นดินใหญ่ แต่ใช้โจมตีกองกำลังรัสเซียในดินแดนยูเครน   แต่ทว่าเอกสารลับเพนตากอนที่ถูกรั่วออกมานั้นกลับพบว่า ผู้นำเคียฟลับหลังในห้องออกคำสั่งให้เปิดฉากการโจมตีในดินแดนรัสเซีย ซึ่งรายงานเหล่านี้ได้มาจากการดักฟังทางการสื่อสาร   มีบางครั้งเซเลนสกีเป็นคนออกไอเดียที่ว่านี้เพียงคนเดียว   ในการประชุมลับเมื่อปลายเดือนมกราคม ผู้นำยูเครนออกโรงเสนอให้โจมตีภายในดินแดนรัสเซียขณะที่เคลื่อนกำลังภาคพื้นยูเครนเข้าไปในดินแดนข้าศึกเพื่อเข้าควบคุมเมืองจำนวนหนึ่งบริเวณพรมแดนรัสเซีย อ้างอิงจากเอกสารลับเพนตากอนชิ้นหนึ่งที่ประทับตรา “ลับสุดยอด” เป้าหมายเพื่อให้เคียฟสามารถมีแต้มต่อเปิดฉากเจรจากับรัสเซีย   ทั้งนี้ ในการประชุมปลายเดือนกุมภาพันธ์ร่วมกับผู้บัญชาการทหารสูงสุดยูเครน พล.อ.วาเลรี ซาลูซนี (Gen.Valery Zaluzhny) พบว่าประธานาธิบดียูเครนแสดงความวิตกว่า เคียฟไม่มีมิสไซล์พิสัยไกลที่มีความสามารถโจมตีไปถึงการเกณฑ์กำลังทหารรัสเซียในดินแดนรัสเซียได้ เขาแนะนำให้โจมตีที่ตั้งการรับเกณฑ์กำลังคนทหารรัสเซียไม่ระบุจำนวนใน รอสตอฟ (Rostov) ทางตะวันตกของรัสเซียด้วยการใช้โดรนเป็นอาวุธแทน อ้างอิงจากเอกสารลับอีกชิ้น  …

Toyota เผยข้อมูลพิกัดรถยนต์ของลูกค้ากว่า 2 ล้านรายรั่วมานาน 10 ปี

Loading

    Toyota Motor Corporation ยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์จากญี่ปุ่น เผยว่าข้อมูลพิกัดรถยนต์ของลูกค้ากว่า 2,150,000 คัน บนระบบคลาวด์ของบริษัทเปิดอ้าซ่าให้คนภายนอกเข้าไปดูได้มานานร่วม 10 ปี   การหลุดรั่วของข้อมูลจำนวนมากขนาดนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน 2013 จนถึงวันที่ 17 เมษายนของปีนี้   โดยข้อมูลที่หลุดออกมาเป็นของลูกค้าที่ใช้ระบบบริการ T-Connect G-Link, G-Link Lite หรือ G-Book ในระหว่างวันที่ 2 มกราคม 2012 – 17 เมษายน 2023   ข้อมูลที่หลุดออกมามีทั้งเลข ID แผงระบบนำทาง GPS ในรถ หมายเลขตัวถัง และพิกัดปัจจุบันของรถพร้อมข้อมูลเวลา   T-Connect เป็นระบบบริการภายในรถที่มีทั้งระบบให้ความช่วยเหลือด้วยเสียง ระบบบริการลูกค้า ระบบสถานะและการจัดการรถ และระบบให้ความช่วยเหลือกรณีเหตุฉุกเฉินบนท้องถนน   ยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลล่าสุดยังเผยด้วยว่าบันทึกวิดีโอที่ถ่ายภาพนอกรถอาจหลุดรั่วออกมาจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย   ข้อมูลจากประกาศแจ้งเตือนด้านความมั่นคงปลอดภัยของบริษัทชี้ว่าสาเหตุของการรั่วไหลครั้งนี้เกิดจากการตั้งค่าที่ผิดพลาดในฐานข้อมูลบนคลาวด์ของ…

ออสเตรียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่จะแบน TikTok

Loading

    เกอร์ฮาร์ด คาร์เนอร์ (Gerhard Karner) รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในของออสเตรียเผยว่าออสเตรียจะแบน TikTok บนมือถือที่ใช้ทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ   อย่างไรก็ดี คาร์เนอร์ให้รายละเอียดว่าการใช้ TikTok ในมือถือส่วนตัวนอกเครือข่ายของรัฐยังทำได้ตามปกติ   ออสเตรียกลายเป็นประเทศล่าสุดที่เข้าร่วมวงแบน TikTok ต่อจากสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เบลเยียม และอีกหลายประเทศ ที่แบนด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง โดยเฉพาะความกลัวที่ว่า ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok จะส่งข้อมูลให้รัฐบาลจีน   TikTok ยังอยู่ภายใต้กระบวนการตรวจสอบของรัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลของหลายประเทศ บางกรณีถึงขั้นมีข้อเรียกร้องให้แบนแบบถาวร           ที่มา :  Reuters         —————————————————————————————————————————————— ที่มา :                   …

ตำรวจจีนบุกบริษัทที่ปรึกษาต่างชาติ เหตุได้ข้อมูลลับของรัฐมาโดยผิดกฎหมาย

Loading

    สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนได้เริ่มแคมเปญต่อต้านสายลับโดยมุ่งเป้าไปที่บรรดาบริษัทที่ปรึกษา โดยมีการเผยชื่อว่าหนึ่งในบริษัทกลุ่มนี้สนับสนุนให้ข้อมูลลับของรัฐบาลจีนรั่วไหล ขณะที่บริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มกำลังถูกสอบสวนว่าได้ข้อมูลละเอียดอ่อนมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย   ช่องทีวีของมณฑลเจียงซูรายงานว่า จีนได้เปิดตัวแคมเปญทั่วประเทศเพื่อต่อต้านการละเมิดความมั่นคงของชาติในหมู่บริษัทที่ปรึกษาต่าง ๆ ที่นักลงทุนต่างชาติและบริษัทข้ามชาติมักใช้บริการเพื่อดำเนินการวิจัยและสอบทานธุรกิจในจีน   ด้านหน่วยงานความมั่นคงของรัฐในเมืองซูโจวได้ไปเยี่ยมสาขาท้องถิ่นของแคปวิชั่น (Capvision) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาที่มีสำนักงานใหญ่ในนิวยอร์กและเซี่ยงไฮ้ โดยทางการสอบปากคำพนักงานและมีการยึดสิ่งของต่าง ๆ   รัฐบาลกลางของจีนสั่งให้ตำรวจออกปฏิบัติการในลักษณะเดียวกันนี้พร้อมกันในหลายเมือง รวมถึงปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้ และเซินเจิ้น ซึ่งแคปวิชั่นมีออฟฟิศอยู่ในเมืองเหล่านั้น   รายงานระบุว่า บางบริษัทได้ข้อมูลละเอียดอ่อนมาอย่างผิดกฎหมายผ่านการติดต่อกับบุคคลที่ทำงานในหน่วยงานรัฐบาลและในภาคกลาโหมที่เข้าถึงข้อมูลลับของรัฐได้ ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงครั้งใหญ่ต่อความมั่นคงของชาติ   บริษัทอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบเมื่อเร็ว ๆ นี้ รวมถึงบริษัทที่ปรึกษาเบน แอนด์ คัมพานี (Bain & Company) ของสหรัฐ ซึ่งยืนยันว่าทางการจีนสอบปากคำพนักงานของบริษัท และมินทซ์ กรุ๊ป (Mintz Group) ซึ่งเป็นองค์กรในนิวยอร์กที่ดำเนินงานด้านการสอบทานธุรกิจ นอกจากนี้ พนักงานของบริษัทแอสเทลลัส ฟาร์มา (Astellas Pharma Inc) ผู้ผลิตยาของญี่ปุ่น…