SSD ที่หายจากศูนย์ข้อมูลของ SAP ไปโผล่ใน eBay

Loading

  หน่วยเก็บข้อมูล SSD ที่หายไปจากศูนย์ข้อมูลของบริษัทข้ามชาติ SAP จากเมืองวัลล์ดอร์ฟ เยอรมนี ไปโผล่อยู่ใน eBay แพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ ทำให้บริษัทต้องรีบตรวจสอบ   แหล่งข่าวระบุว่า ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว SSD จากศูนย์ข้อมูลวัลล์ดอร์ฟหายไปถึง 4 ตัว ก่อนที่ต่อมา SSD 1 ใน 4 ตัวนั้นจะไปโผล่ใน eBay และมีพนักงาน SAP ซื้อคืนไป   SSD ตัวนี้บรรจุข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน SAP กว่า 100 คนเอาไว้ แต่โฆษกของบริษัทชี้ว่าใน SSD ทั้ง 4 ตัวไม่มีข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตนได้ (PII) และไม่มีหลักฐานว่าข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าถูกขโมยไปผ่าน SSD เหล่านี้   การตรวจสอบภายในของ SAP พบว่ามีผู้ขโมย SSD ตัวนี้ออกไป แต่ก็ไม่ได้ตัดประเด็นความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์และความล้มเหลวของระบบ เนื่องจาก พบว่าไม่มีการตรวจสอบคนเข้าออกศูนย์ข้อมูล   SSD ทั้ง…

ทรัมป์ให้สัมภาษณ์แก้ต่างเรื่องเก็บเอกสารลับ

Loading

เครดิตภาพ : Fox News   วอชิงตัน 20 มิ.ย.- อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์แก้ต่างเรื่องที่ถูกตั้งข้อหาว่าเก็บเอกสารลับของรัฐบาลอย่างไม่เหมาะสมว่า เขายุ่งจนไม่มีเวลาคัดแยกเอกสารขณะเก็บข้าวของออกจากทำเนียบขาว   ทรัมป์วัย 77 ปี ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ที่ออกอากาศเมื่อค่ำวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐฯ ว่า เขารีบเร่งออกจากทำเนียบขาวเมื่อเดือนมกราคม 2564 ข้าวของส่วนตัวจึงปะปนกับเอกสารของรัฐบาล และทุกอย่างถูกเก็บลงกล่องหมด และเมื่อถูกถามว่า เหตุใดจึงไม่มอบเอกสารให้ตามที่เจ้าหน้าที่ร้องขอ ทรัมป์ตอบว่า ต้องการคัดแยกข้าวของส่วนตัวออกจากกล่องเหล่านี้ให้เรียบร้อยก่อน จึงยังไม่ได้ส่งมอบเอกสารให้ เขายุ่งมากอย่างที่เห็น และเมื่อถูกถามเรื่องเทปบันทึกเสียงที่กระทรวงยุติธรรมอ้างขณะนำมาแสดงระหว่างยื่นฟ้องเขาว่า ทรัมป์ซึ่งพ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดีแล้วได้นำเอกสารที่เขาระบุว่าเป็นความลับและลับอย่างยิ่งมาแสดงให้นักเขียน สำนักพิมพ์ และทีมงาน 2 คนของเขาดูขณะประชุมกันเมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 ทรัมป์แก้ต่างว่า สิ่งที่แสดงให้ดูไม่ใช่เอกสาร แต่เป็นสำเนาบทความหนังสือพิมพ์   กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กล่าวหาทรัมป์ซึ่งประกาศตัวลงสมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปี 2567 ว่า ละเมิดกฎหมายจารกรรมและกฎหมายอีกหลายฉบับ จากการขนย้ายเอกสารลับขณะออกจากทำเนียบขาวและไม่ส่งมอบเอกสารเหล่านี้ให้แก่สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ทรัมป์ขึ้นศาลที่เมืองไมแอมีเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน รับทราบข้อกล่าวหา 37 ข้อหา ที่รัฐบาลกลางฟ้องเขา หลังจากเจ้าหน้าที่สำนักสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ตรวจค้นคฤหาสน์ของเขาที่รัฐฟลอริดาเมื่อเดือนสิงหาคม…

สตาร์ทอัพอิตาลี ออกแบบลายเสื้อ AI จับไม่ได้ กันสแกนหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต

Loading

  ใส่เสื้อนี้ AI จับเราไม่ได้แน่นอน! สตาร์ทอัพอิตาลี ออกแบบลายเสื้อสุดอาร์ต ป้องกันการสแกนใบหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากล้องวงจรปิด Cap_able สตาร์ทอัพสัญชาติอิตาลี คิดค้นลายเสื้อสุดอาร์ตที่ถูกออกแบบมาเพื่อหลอกล่อ ระบบปัญญาประดิษฐ์ ไม่ให้สามารถตรวจจับตัวคนและสแกนใบหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล เช่น รูปหน้า เค้าโครงหน้า และลักษณะร่างกาย   ลายเสื้อนี้ไม่ได้ออกแบบมั่ว ๆ แต่เป็นการใช้ AI สู้กับ AI   ลายเสื้อของ Cap_able ถูกออกแบบโดย ระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกสร้างขึ้นภายใต้โจทย์ที่ต้องการให้ระบบตรวจจับใบหน้าและร่างกายด้วย AI จากกล้องวงจรปิดตรวจจับไม่ได้   เสื้อหลอก AI   Rachele Didero ผู้ร่วมก่อตั้ง Cap_able ระบุว่า ระบบตรวจจับใบหน้าและร่างกายด้วย AI จากกล้องวงจรปิด มักจะถูกเขียนระบบให้ไม่ตรวจจับสัตว์ ดังนั้นวิธีการป้องกันไม่ให้กล้องเหล่านั้นตวรจจับคนคือ การจำลองลวดลายของสัตว์เหล่านั้น เช่น ยีราฟ และ ม้าลาย แต่ใช้สีที่แตกต่างเพื่อให้ยังคงเป็นแฟชั่นของมนุษย์อยู่นั่นเอง   เสื้อหลอก AI  …

Google เตือนพนักงาน ให้ระมัดระวังการป้อนข้อมูลบริษัทลงในแชตบอท AI แม้แต่ Bard ก็ไม่เว้น

Loading

  สำนักข่าว Reuters อ้างแหล่งข่าวภายในพนักงาน Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล 4 คน ยืนยันว่าบริษัทได้ให้คำแนะนำกับพนักงาน ระมัดระวังการใช้งานแชตบอท AI ทุกชนิด ซึ่งรวมทั้ง Bard แชตบอทของบริษัทด้วย ไม่ให้ป้อนข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัทลงไป ซึ่งถือเป็นนโยบายพื้นฐานอยู่แล้วในการดูแลควบคุมข้อมูลภายใน   นอกจากข้อมูลที่เป็นความลับบริษัท Alphabet ยังเตือนวิศวกรให้เลี่ยงการนำโค้ดที่ถูกเขียนโดยแชตบอทไปใช้งาน ซึ่งเป็นหนึ่งในความสามารถของแชตบอท AI ที่ได้รับความนิยม   ประกาศภายในของกูเกิลนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด หลายบริษัทได้ออกคำเตือนหรือห้ามพนักงานในการใช้งานแชตบอท AI เพื่อป้องกันปัญหาข้อมูลรั่วไหล ไม่ว่าจะเป็น ซัมซุง อเมซอน หรือแอปเปิล ขณะที่กูเกิลเองก็ขึ้นคำแนะนำในการใช้งานแชตบอท Bard สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปด้วยว่าอย่าป้อนข้อมูลที่เป็นความลับในการสนทนา   ที่มา: Reuters   ————————————————————————————————————————————————————————————————————–   ที่มา : blognone    /   วันที่เผยแพร่ 17 มิ.ย.66 Link : https://www.blognone.com/node/134409

ข้อมูลชาวอเมริกันรั่วไหลนับล้านราย หลังรัฐบาลกลางของ 2 รัฐถูกแฮ็ก

Loading

สำนักงานยานพาหนะของรัฐบาลกลางรัฐลุยเซียนาและโอเรกอนถูกโจมตีทางไซเบอร์ ข้อมูลประชาชนรั่วไหลกว่า 6 ล้านรายการ ทางการสหรัฐฯ รายงานว่า สำนักงานยานพาหนะของรัฐบาลกลางรัฐลุยเซียนาและโอเรกอนถูกโจมตีทางไซเบอร์ เป็นเหตุให้ข้อมูลส่วนตัวของประชาชนหลายล้านคนจากข้อมูลบัตรประชาชนและใบขับขี่ รั่วไหลออกมา การแฮกดังกล่าวส่งผลกระทบต่อชาวโอเรกอน 3.5 ล้านคน ที่มีใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชน และทุกคนที่มีเอกสารดังกล่าวในลุยเซียนา โดย เคซีย์ ทิงเกิล เจ้าหน้าที่อาวุโสสำนักงานผู้ว่าการรัฐลุยเซียนากล่าวว่า ข้อมูลมากกว่า 6 ล้านรายการถูกบุกรุก โดยบอกว่า ตัวเลขดังกล่าวมีการซ้ำซ้อนกัน เนื่องจากบางคนมีทั้งทะเบียนรถและใบขับขี่ สำหรับข้อมูลที่รั่วไหลออกมา มีหมายเลขประกันสังคมและหมายเลขใบขับขี่ด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐแนะนำประชาชนเกี่ยวกับวิธีการป้องกันตนเองจากการฉ้อโกงรูปแบบต่าง ๆ ที่ใช้ข้อมูลประจำตัว ทั้งนี้ จอห์น เบล เอ็ดเวิร์ดส์ เจ้าหน้าที่สำนักงานรัฐลุยเซียนาบอกว่า ไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่า แฮกเกอร์ได้ขายหรือเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกขโมยจากสำนักงานยานพาหนะของรัฐลุยเซียนา และแฮกเกอร์ไม่ได้ติดต่อกับทางการของรัฐเพื่อเรียกร้องค่าไถ่แต่อย่างใด ทั้งสองรัฐไม่ได้ออกมากล่าวโทษว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการแฮกข้อมูลครั้งนี้ แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางระบุว่า คดีแฮกข้อมูลที่เพิ่มขึ้นนั้นใช้ช่องโหว่เดียวกันกับแก๊งแรนซัมแวร์ของรัสเซีย โดยแฮกเกอร์ใช้ประโยชน์จากข้อบกพร่องในซอฟต์แวร์ถ่ายโอนไฟล์ยอดนิยมที่รู้จักกันในชื่อ MOVEit ซึ่งสร้างโดย Progress Software ในแมสซาชูเซตส์ องค์กรหลายร้อยแห่งทั่วโลกมีแนวโน้มที่ข้อมูลจะรั่วไหลออกมา หลังจากที่แฮกเกอร์ใช้ข้อบกพร่องเพื่อเจาะเครือข่ายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยงานรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ หลายแห่ง รวมทั้งกระทรวงพลังงาน ก็ถูกโจมตีทางไซเบอร์ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อธิบายว่า การโจมตีทางไซเบอร์เป็นการฉวยโอกาสและเกิดจากมิจฉาชีพหรือแฮกเกอร์ที่ต้องการเงินเป็นหลัก…

“แดเนียล เอลส์เบิร์ก” ผู้เปิดโปงเอกสารเพนตากอน ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว

Loading

  “แดเนียล เอลส์เบิร์ก” ผู้เปิดโปงเอกสารลับเพนตากอนเรื่องการมีส่วนร่วมของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคมะเร็งตับอ่อนในวัย 92 ปี “แดเนียล เอลส์เบิร์ก” อดีตนักวิเคราะห์ทางการทหารของสหรัฐฯ ผู้เปิดโปง “เพนตากอน เปเปอร์ส” หรือ “เอกสารเพนตากอน” เอกสารลับกว่า 7,000 หน้าที่บันทึกการมีส่วนร่วมทางการเมืองและการทหารของรัฐบาลสหรัฐฯ ในระหว่างสงครามเวียดนาม ถึงแก่อสัญกรรมในวัย 92 ปีที่บ้านพักในเมืองเคนซิงตัน รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น แถลงการณ์ของครอบครัวระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตคือ โรคมะเร็งตับอ่อน หลังเอลส์เบิร์กประกาศว่าได้รับการวินัจฉัยว่าป่วยด้วยโรคดังกล่าวในเดือนมีนาคม โดยแพทย์ประเมินว่าจะมีชีวิตอยู่ได้ 3 – 6 เดือน และเขาตัดสินใจไม่รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด ในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษที่ 1960 “เอลส์เบิร์ก” ซึ่งทำงานเป็นนักวิเคราะห์ทางการทหารให้กับสถาบันแรนด์ (RAND Corporation) พบว่า สหรัฐฯ มีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามเวียดนามหลังจากเข้าถึงเอกสารลับที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลโกหกประชาชนอย่างเป็นระบบเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการทำสงครามในเวียดนาม ข้อมูลจากเอกสารลับบางส่วน ระบุว่า ประธานาธิบดีลินดอน บี.จอห์นสัน ของสหรัฐฯ ในสมัยนั้น ชี้แจงว่า เป้าหมายในการทำสงครามเวียดนามคือเสรีภาพในเวียดนามใต้ แต่จากบันทึกของ “จอห์น…