กรมการปกครองเตือน ระวังกลุ่มมิจฉาชีพหลอกรับทำบัตรประชาชน

Loading

  กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพหลอกลวงทำบัตรประจำตัวประชาชน และเอกสารราชการปลอม โดยมิจฉาชีพจะใช้วิธีสร้างเพจปลอมแอบอ้างว่าเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย รับทำบัตรประชาชน เมื่อมีเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินไปให้ ก็จะถูกบล็อกการติดต่อทุกช่องทาง โดยพบผู้เสียหายจำนวนมากในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่   กรมการปกครอง ย้ำว่า การดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวกับงานทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีบุคคลผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน ต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างรัดกุม ชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่รัฐ ทุกกรณี โดยขอดำเนินการได้ที่สำนักทะเบียนท้องถิ่นหรือสำนักทะเบียนอำเภอเท่านั้น เพื่อป้องกันมิให้ผู้ใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอาญา โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงขอกำชับเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่ายป้องกันและปราบปรามและสร้างการรับรู้ให้ประชาชน โดยขอเน้นย้ำในเรื่องสำคัญ ดังนี้   ผู้ที่จ้างหรือสั่งทำเอกสารปลอมข้างต้น ถือเป็นตัวการสำคัญในการกระทำความผิดอาญาฐานปลอมเอกสารสิทธิและเอกสารราชการ โดยผู้ที่จ้างต้องรับโทษทางอาญาเช่นเดียวกับผู้รับจ้างที่ทำเอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 265 หรือ 266 แล้วแต่กรณี ซึ่งมีระวางโทษสูง ต้องจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ   ผู้ที่จ้างหรือสั่งทำเอกสารปลอมข้างต้น หรือผู้ใดนำเอกสารปลอมไปใช้หรืออ้างให้ผู้อื่นเชื่อว่าเป็นเอกสารจริงโดยทุจริตและปกปิดข้อเท็จจริง มีความผิดฐานใช้เอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268…

อัยการ ตั้งข้อหาผู้ก่อตั้งสถาบันวิจัยสหรัฐฯ เป็นสายลับจีน ขายอาวุธ-น้ำมันให้อิหร่าน

Loading

  บีบีซี รายงานอ้างพนักงานอัยการของสหรัฐฯ ว่า วานนี้ (10 ก.ค.66) อัยการประจำเขตแมนแฮตตัน นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ได้ฟ้องคดีต่อศาล กล่าวหา นายกัล ลุฟต์ (Gal Luft) บุคคลสองสัญชาติคือสหรัฐฯ และอิสราเอล วัย 57 ปี ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการวิเคราะห์ความมั่นคงทั่วโลก (IAGS)ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ในความผิดฐานเป็นสายลับให้กับจีน และพยายามจะเป็นนายหน้าค้าอาวุธและน้ำมันอิหร่านโดยไม่ได้รับการอนุมัติจากสหรัฐฯและพยายามหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรสหรัฐฯ ที่ห้ามซื้อขายน้ำมันจากอิหร่านโดยการกำชับให้คนใกล้ชิดบอกกับลูกค้าว่า เป็นน้ำมันจากบราซิล   คำฟ้องระบุว่า นายลุฟท์ ยินยอมที่จะดำเนินการอย่างลับ ๆ เพื่อจ้างแหล่งข่าวอดีตเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯซึ่งเคยทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำคนก่อนของสหรัฐฯมาแสดงความเห็นต่อสาธารณะในสหรัฐฯเพื่อสนับสนุนนโยบายบางเรื่องของรัฐบาลจีน นอกจากนี้ นายลุฟท์ ถูกกล่าวหาเขียนร่างบทความแสดงความเห็นในนามของแหล่งข่าวอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงดังกล่าวของสหรัฐฯ เพื่อลงพิมพ์ในสื่อของจีนและส่งไปถึงมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ของสหรัฐฯ เพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณชนในสหรัฐฯ   พนักงานอัยการสหรัฐฯ กล่าวหานายลุฟต์ พยายามจะทำหน้าที่นายหน้าค้าอาวุธ โดยมีลูกค้าอยู่ในประเทศจีน ลิเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเคนยา แต่นายลุฟท์ ทวีตข้อความปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่พ่อค้าอาวุธ ระบุว่าเขาถูกจับในไซปรัส เป็นคดีที่มีเหตุจูงใจทางการเมืองตามคำสั่งของสหรัฐฯ   นายลุฟท์…

ฝรั่งเศสผ่านร่างกฎหมาย ให้ตำรวจสอดแนมผู้ต้องสงสัยผ่านกล้อง, ไมค์ในโทรศัพท์และ GPS ได้

Loading

    Le Monde สื่อฝรั่งเศสรายงานว่า ฝ่ายนิติบัญญัติฝรั่งเศส ผ่านร่างกฎหมายที่อนุญาตให้ตำรวจสอดแนมผู้ต้องสงสัยในอาชญากรรมร้ายแรง ผ่านกล้อง ไมโครโฟน และตำแหน่ง GPS บนโทรศัพท์และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (แต่ยังไม่แน่ชัดว่าวิธีการไหน รูปแบบไหน)   อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าตำรวจจะสามารถใช้อำนาจนี้ได้ตามชอบ แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้พิพากษาก่อน รวมถึงกฎหมายก็ห้ามบังคับใช้กับอาชีพนักข่าว, ทนาย และอาชีพอื่นๆ ที่มีความละเอียดอ่อน โดยจุดประสงค์ของกฎหมาย ตั้งใจจะจำกัดการใช้งานเฉพาะคดีที่ร้ายแรงเท่านั้น รวมถึงการเข้าถึงตำแหน่ง จะทำได้เฉพาะกรณีที่ความผิด มีโทษจำคุก 5 ปีขึ้นไปเท่านั้น   กฎหมายนี้สร้างความกังวลให้กับ La Quadrature du Net กลุ่มผู้สนับสนุนสิทธิบนโลกออนไลน์ ซึ่งให้เหตุผลว่า กฎหมายนี้ขาดความชัดเจนว่าลักษณะใดเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรง ซึ่งตำรวจอาจกำหนดเป้าหมายผู้กระทำผิดเป็นกลุ่มนักกิจกรรมและเคลื่อนไหวด้านต่าง ๆ และกลุ่มอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาชญากรรม   กลุ่มยังตั้งข้อสังเกตว่า ตำรวจอาจนำกฎหมายนี้ไปใช้กับอาชญากรรมที่มีความรุนแรงน้อยกว่า รวมถึงอาจใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของอุปกรณ์ที่ใช้สอดแนม แทนที่จะหาทางแก้ไข   ขณะที่ Éric Dupond-Moretti รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม…

ราชกิจจา แพร่คำสั่ง ตร. ห้ามนำเข้า-สั่งพิมพ์หนังสือ “ปวิน”

Loading

  เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ห้ามนำเข้า-สั่งพิมพ์เผยแพร่หนังสือ “ปวิน”   วันที่ 7 กรกฎาคม 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 370/2566 เรื่อง “ห้ามสั่งเข้าหรือนำเข้าสิ่งพิมพ์เพื่อเผยแพร่ในราชอาณาจักร” ที่ลงนามโดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ   โดยระบุว่าด้วยปรากฏสิ่งพิมพ์ต่างประเทศ “Rama X : The Thai Monarchy King Vajiralongkorn” เขียนโดย นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ มีลักษณะของภาพปกหนังสือและบทความที่นำเสนอสื่อถึงทัศนคติของผู้เขียน     ที่เป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินีรัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ หรือจะกระทบต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน   อาศัยอำนาจตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติจดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 จึงห้ามสั่งเข้า หรือนำเข้าสิ่งพิมพ์ “Rama…

เยอรมนีควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 7 ราย ฐานก่อตั้งกลุ่มก่อการร้ายคล้าย ISIS

Loading

  สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตำรวจเยอรมันได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 7 รายในวันที่ 6 ก.ค. ในข้อหาก่อตั้งองค์กรก่อการร้าย โดยมีจุดประสงค์เพื่อออกปฏิบัติการโจมตีคล้ายกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ISIS) อัยการเยอรมันระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้ต้องสงสัยชาวเติร์กเมน ชาวทาจิกิสถาน และชาวคีร์กีซถูกจับกุมในรัฐนอร์ทไรน์-เว็สท์ฟาเลิน ทางตะวันตกของเยอรมนี โดยผู้ต้องสงสัยทั้งหมดรู้จักกันมานานและเดินทางเข้าประเทศผ่านทางยูเครนไม่นานหลังจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน เริ่มขึ้นในปี 2565   รายงานระบุว่า พวกเขาก่อตั้งองค์กรก่อการร้ายเมื่อเดือน มิ.ย. 2565 และมองหาเป้าหมายในเยอรมนีมาตลอด รวมถึงพยายามจัดหาอาวุธ แต่ในช่วงที่ถูกจับกุม ยังไม่มีแผนการโจมตีชัดเจน   อย่างไรก็ดี ผู้ต้องสงสัยชาวคีร์กีซ 1 ราย ที่ถูกจับกุมในเยอรมนีได้รวบรวมเงินให้แก่กลุ่ม ISIS ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2565 และโอนไปยังกลุ่มดังกล่าวในต่างประเทศบ่อยครั้ง   ขณะเดียวกัน ทางการเนเธอร์แลนด์ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติมอีก 2 รายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มดังกล่าวในวันที่ 6 ก.ค. โดยเป็นชายจากทาจิกิสถานและภรรยาชาวคีร์กีซ ซึ่งอาศัยอยู่ในเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่ปี 2565   ทั้งนี้ อัยการเนเธอร์แลนด์ระบุในแถลงการณ์ว่า ชายคนดังกล่าวต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกกลุ่ม ISIS และได้รับคำสั่งให้วางแผนโจมตี แม้ว่าแผนจะยังไม่เป็นรูปธรรมก็ตาม…

ฮ่องกงรวบชาย 4 คน ช่วยสนับสนุน 8 นักเคลื่อนไหว ทำกิจกรรมอันตรายต่อความมั่นคงชาติ

Loading

REUTERS   ฮ่องกงรวบชาย 4 คน ช่วยสนับสนุน 8 นักเคลื่อนไหว ทำกิจกรรมอันตรายต่อความมั่นคงชาติ   ตำรวจฮ่องกงระบุเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมว่า ได้จับกุมชาย 4 คน ที่กระทำความผิดฐานให้การสนับสนุนผู้ที่พำนักอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ การจับกุมดังกล่าวมีขึ้น 2 วันหลังจากทางการฮ่องกงประกาศตั้งค่าหัว 8 นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย โดยมอบเงิน 1 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงให้กับผู้ให้เบาะแสในการจับกุมคนเหล่านี้   ตำรวจฮ่องกงออกแถลงการณ์ว่า ชายทั้ง 4 คน ที่ถูกจับกุมถูกกล่าวหาว่าแสวงประโยชน์จากการทำบริษัท แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และแอปบนโทรศัพท์มือถือ เพื่อสนับสนุนผู้ที่หลบหนีไปต่างประเทศ และยังคงมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ   “ชายทั้ง 4 ซึ่งมีอายุระหว่าง 26-28 ปี ถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงแห่งชาติ เนื่องจากต้องสงสัยว่าสมคบคิดกับต่างชาติหรือมีปัจจัยภายนอกที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งยังสมรู้ร่วมคิดในการกระทำที่มีเจตนายุยงปลุกปั่น และยังถูกกล่าวหาว่าเผยแพร่โพสต์บนโซเชียลมีเดียที่เป็นการปลุกระดม เพื่อยั่งยุให้เกิดความเกลียดชังต่อรัฐ และสนับสนุนให้ฮ่องกงเป็นเอกราช” แถลงการณ์ระบุ   ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่มีผลบังคับใช้ในปี 2563 กำหนดให้ความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดมีโทษถึงจำคุกตลอดชีวิต  …