เมียนมา ติดกล้องวงจรปิดตรวจจับใบหน้า สอดส่อง ปชช.ทั่วประเทศ

Loading

  สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิด 3 ราย ระบุว่า รัฐบาลเมียนมา กำลังเดินหน้าโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่สามารถตรวจจับใบหน้าคนได้ในหลายเมืองทั่วประเทศ   แหล่งข่าวใกล้ชิดการยื่นประมูลเพื่อจัดซื้อและติดตั้งกล้องวงจรปิดรักษาความปลอดภัยที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าของรัฐบาลเมียนมาระบุว่า โครงการดังกล่าวอยู่ภายใต้โครงการเมืองปลอดภัยที่มีเป้าหมายเพื่อรักษาความปลอดภัย และในบางกรณีก็ใช้ในการคงไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง   รายงานระบุว่า โครงการดังกล่าวเป็นการติดตั้งกล้องเพิ่มเติมจากโครงการของรัฐบาลชุดเดิมที่มีการติดตั้งและวางแผนติดตั้งใน 5 เมืองไปแล้วก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังเปิดเผยด้วยว่ารัฐบาลทหารเมียนมาวางแผนที่จะติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดดังกล่าวใน 7 รัฐ และ 7 เขตปกครองทั่วประเทศ   รายงานระบุว่า บริษัทผู้ชนะการประมูลมีอยู่หลายบริษัทที่เป็นบริษัทท้องถิ่น ในจำนวนนั้นเป็นบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีจาก “เจ้อเจียง ต้าหัว เทคโนโลยี” และ “หัวเว่ย เทคโนโลยี่” บริษัทด้านรักษาความปลอดภัยยักษ์ใหญ่ของจีน   ทั้งนี้ เทคโนโลยีกล้องวงจรปิดที่มีระบบตรวจจับใบหน้านั้น แม้จะเริ่มมีใช้ในหลายประเทศ แต่โครงการในเมียนมานั้นก็ส่งผลให้เกิดความกังวลเช่นกันว่าเทคโนโลยีจะถูกนำไปใช้ในการกวาดล้างนักเคลื่อนไหวและกลุ่มต่อต้านที่ฝั่งรัฐบาลทหารกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย หลังเกิดการประท้วงต่อต้านรัฐประหารเป็นต้นมา       ————————————————————————————————————————- ที่มา :     มติชนออนไลน์           …

ตำรวจญี่ปุ่นยอมรับระบบรักษาความปลอดภัยรั่วจน “อาเบะ” ถูกลอบสังหาร เชื่ออานิสงส์ความเห็นใจส่งช่วยพรรครัฐบาลเลือกตั้งสภาสูงวันนี้

Loading

  เอเจนซีส์/รอยเตอร์ – ร่างอดีตผู้นำญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ ถูกนำส่งกลับมาถึงบ้านพักของตัวเองเกิดขึ้น 1 วันหลังูกลอบสังหารระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งสภาสูงญี่ปุ่นที่กำลังจะมีการเลือกตั้งวันอาทิตย์ (9 ก.ค.) ตำรวจยอมรับระบบความปลอดภัยให้อาเบะ มีปัญหาจนนำไปสู่เหตุสลด ผู้เชี่ยวชาญชี้อานิสงส์ส่งผลช่วยพรรครัฐบาลญี่ปุ่น พบมือปืนก่อเหตุนอกจากจะสร้างอาวุธปืนมากมายแล้ว ยังสร้างระเบิดที่บ้าน เคยมีเป้าหมายต้องการเล่นงานเจ้าลัทธิแต่เปลี่ยนใจหันเป้าไปที่อดีตผู้นำญี่ปุ่นแทน กระแสร้อนติดแฮชแท็ก #พวกเราต้องการประชาธิปไตยไม่ใช่ความรุนแรง กลายเป็นเทรนด์ไปทั่วตลอดทั้งวันในสังคมญี่ปุ่น บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (10 ก.ค.) ว่า ตำรวจญี่ปุ่นยอมรับว่ามีช่องโหว่เกิดขึ้นในระบบการรักษาความปลอดภัยให้อดีตนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ จนนำไปสู่การจบชีวิตอย่างคาดไม่ถึงระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งสภาสูญี่ปุ่นจังหวัดนาราวันศุกร์ (8) หัวหน้าตำรวจจังหวัดนารา โทโมอากิ โอนิซูกะ (Tomoaki Onizuka) หลังการขออภัยต่อสาธารณชนอย่างสุดซึ้งก่อนส่งสัญญาณว่ามีความผิดพลาดในระบบการอารักขาอาเบะโดยกล่าวว่า “มันไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ามีปัญหาในระบบรักษาความปลอดภัย” เจแปนไทม์สของญี่ปุ่นในวันอาทิตย์ (10) รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวเปิดเผยว่า มือปืนก่อเหตุให้การรับสารภาพต่อเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนหน้าลงมือสะเทือนขวัญเขายังเดินทางไปยังหอประชุมในจังหวัดนารา ซึ่งเป็นสถานที่อดีตนายกฯ อาเบะออกมาขึ้นปราศรัยหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งสภาสูงญี่ปุ่น แหล่งข่าวชี้ว่า เวทีหาเสียงมีผู้เข้าร่วมประมาณ 2,000 คน โดยไม่มีการตรวจเช็กมาตรการรักษาความปลอดภัยแต่ไม่มีปัญหาอะไร สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้รอยเตอร์รายงานว่า ถูกมองเป็นเสมือนการทำประชามติต่อความนิยมสำหรับพรรครัฐบาลญี่ปุ่น และการสูญเสียอาเบะ อดีตผู้นำที่ได้รับความนิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ นักวิเคราะห์ต่างเชื่อว่าทั้งพรรค LDP…

ผู้ประท้วงบุกทำเนียบปธน.ศรีลังกา นายกฯประกาศลาออก เปิดทางตั้งรัฐบาลจากทุกพรรคการเมือง

Loading

                                           REUTERS   ผู้ประท้วงหลายพันคนได้บุกเข้าไปในทำเนียบประธานาธิบดีโคฐานภยะ ราชปักษะ ของศรีลังกา ในกรุงโคลอมโบ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม แม้ว่าทหารและตำรวจจะยิงปืนขึ้นฟ้าแต่ก็ไม่สามารถยุติฝูงชนที่ต่างโกรธแค้นต่อการบริหารงานของรัฐบาลที่เป็นต้นเหตุให้เศรษฐกิจศรีลังกาล่มสลาย ภาพที่มีการเผยแพร่ผ่านไลฟ์สตรีมบนเฟซบุ๊ก แสดงให้เห็นว่า มีผู้ประท้วงจำนวนมากบุกเข้าไปในทำเนียบประธานาธิบดี บางคนชูธงชาติกลางห้องต่างๆ ในตัวอาคาร ขณะที่บางคนไปเล่นน้ำในสระว่ายน้ำ และคนอีกจำนวนหนึ่งก็พากันไปนั่งบนโซฟาและเตียง โดยไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวเลย นายรานิล วิกรมสิงเห นายกรัฐมนตรีศรีลังกา ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคม แสดงความพร้อมที่จะลาออกจากตำแหน่ง ในการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อเปิดทางให้มีการจัดตั้งรัฐบาลที่ทุกพรรคเข้ามามีส่วนร่วมขึ้นมาบริหารประเทศแทน                  …

ตำรวจญี่ปุ่นสอบมาตรการคุ้มกัน “อาเบะ” ยืนยันมีการระวังด้านหลัง

Loading

  สำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่น ประกาศสอบสวน การจัดมาตรการรักษาความปลอดภัยให้แก่อดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ซึ่งถูกลอบสังหารในเมืองนารา   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ว่าจากกรณีชายวัย 41 ปี ใช้อาวุธปืนประดิษฐ์เองลอบยิงสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ระหว่างลงพื้นที่ปราศรัยทางการเมือง ที่เมืองนารา ทางตะวันตกของญี่ปุ่น เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แม้เจ้าหน้าที่จับกุมคนร้ายได้อย่างทันท่วงที แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังคงทำให้เกิดคำถามตามมาอย่างต่อเนื่อง ในประเด็นการจัดมาตรการรักษาความปลอดภัยของฝ่ายความมั่นคงญี่ปุ่น ที่มีต่อบุคคลสำคัญ   สำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่นออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าสำนักงานตำรวจจังหวัดนารา เป็นผู้วางแผนจัดการด้านการรักษาความปลอดภัย และในวันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตำรวจกรุงโตเกียว ลงพื้นที่สนับสนุนด้วย แต่ยังคงปฏิเสธให้ข้อมูลอย่างเจาะจง ว่าใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเท่าใด ทั้งนี้ ตำรวจญี่ปุ่นยืนยันว่า มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้แก่อาเบะ “อยู่รอบทิศทาง” รวมถึงด้านหลังอดีตผู้นำญี่ปุ่นด้วย และจะมีการสอบสวนอย่างละเอียดเป็นการภายใน หลังมีการวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้น ต่อการที่มือปืนเข้ามาทางด้านหลังของอาเบะอย่างใจเย็น และก่อเหตุในระยะเผาขน   A security expert says the personal security for former Japanese prime minster…

‘ชัชชาติ’ ชี้คนติดป้าย ‘สะพานท่าราบ’ ทำลายทรัพย์สินราชการ

Loading

  นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เผยถึงกรณีมีคนนำป้ายชื่อ “สะพานท่าราบ พ.ศ. 2565” ไปติดทับชื่อ “สะพานพิบูลสงคราม พ.ศ.2514” ว่าถือเป็นการทำลายทรัพย์สินทางราชการ ต้องแจ้งควาเอาผิด ส่วนที่ว่าจะเกี่ยวข้องการเมืองหรือไม่ ปัดตอบคำถาม ระบุรู้อยู่เลา ๆ แต่ก็อย่าไปพูดถึง   นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เผยถึงกรณีมีคนนำป้ายชื่อ “สะพานท่าราบ พ.ศ. 2565” ไปติดทับชื่อ “สะพานพิบูลสงคราม พ.ศ.2514” ว่าถือเป็นการทำลายทรัพย์สินทางราชการ ต้องแจ้งความเอาผิด ส่วนที่ว่าจะเกี่ยวข้องการเมืองหรือไม่ ปัดตอบคำถาม ระบุรู้อยู่เลา ๆ แต่ก็อย่าไปพูดถึง   จากกรณีมีคนนำป้ายข้อความ “สะพานท่าราบ พ.ศ. 2565” ไปปิดทับชื่อ “สะพานพิบูลสงคราม พ.ศ.2514” ซึ่งเป็นสะพานข้ามคลองบางซื่อ บนถนนประชาราษฎร์ สาย 1 ใกล้แยกเกียกกาย โดยล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้แกะป้ายสะพานท่าราบออก ก่อนเข้าแจ้งความเพื่อเอาผิดคนติดป้ายตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น  …

เข้มแผนเผชิญเหตุรร.ชายแดน หลังเครื่องบินรบพม่า ‘ล้ำน่านฟ้าไทย’

Loading

  เลขาธิการ กพฐ. เข้มแผนเผชิญเหตุโรงเรียนตามเขตแนวชายแดน หลังเครื่องบินรบเมียนมาล้ำน่านฟ้าประเทศไทย เผย ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงในโรงเรียน   จากกรณีกองทัพเมียนมาส่งเครื่องบินรบ MiG-29 จำนวน 1 ลำ บินรุกล้ำเข้ามายังน่านฟ้าไทย บริเวณชายแดน อ.พบพระ จ.ตาก เพื่ออ้อมไปยิงจรวดใส่ฝ่ายต่อต้านในฝั่งเมียนมา ประมาณ 4 รอบ ส่งผลให้โรงเรียนต้องประกาศหยุดเรียนฉุกเฉินนั้น   เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ตนได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรงจนต้องส่งผลกระทบนักเรียนและครู และยังมีความปลอดภัยทุกคน โดยคิดว่าภาพรวมการดูแลรักษาความปลอดภัยจะอยู่ที่กระบวนการของเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ แต่ในส่วนของสถานศึกษาโดยรอบเขตชายแดนตนได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเข้าไปกำกับดูแลนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาแล้ว รวมถึงมีแผนเผชิญเหตุไว้อย่างรัดกุม   เพราะสถานศึกษาที่ตั้งอยู่เขตชายแดนจะมีมาตรการเฝ้าระวังเหตุ เช่น การจัดทำหลุมหลบภัย เป็นต้น หรือหากได้รับการแจ้งเตือนจากหน่วยงานทหารในพื้นที่ให้รู้ล่วงหน้าก่อนโรงเรียนก็จะประกาศหยุดการเรียนการสอน   เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นยังไม่กระทบต่อการจัดการเรียนการสอนของนักเรียน และได้รับทราบว่าโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบวางมาตการแผนเผชิญเหตุไว้เป็นอย่างดี สำหรับโรงเรียนบริเวณตามตะเข็บแนวชายแดนเมียนมามีหลายแห่ง   ซึ่งจากการติดตามข้อมูลในขณะนี้ ยังไม่มีประเด็นอะไรที่น่ากังวลใจ…