ศาลญี่ปุ่น “ห้ามเดินเครื่อง” โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ 3 โรงบนเกาะฮอกไกโด ชี้มาตรการป้องกันสึนามิไม่ดีพอ

Loading

  เอพี – ศาลญี่ปุ่นวันนี้(31 พ.ค)ออกคำสั่งบริษัทไฟฟ้าฮอกไกโด อิเล็กทริก พาวเวอร์ โค.ห้ามเปิดเครื่องโรงงานพลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์ 3 โรง หลังพบมาตรการป้องกันสึนามิยังไม่เพียงพอหากเดินหน้าเดินเครื่องจะเสี่ยงต่อชีวิตประชาชนบนเกาะท่ามกลางการผลักดันอย่างหนักจากรัฐบาลโตเกียวหลังประกาศคว่ำบาตรนำเข้าพลังงานจากรัสเซียตามสหรัฐฯ   เอพีรายงานวันนี้(31 พ.ค)ว่า ศาลแขวงซับโปโรออกคำพิพากษาในวันอังคาร(31)ว่า บริษัทไฟฟ้าฮอกไกโด อิเล็กทริก พาวเวอร์ โค.(Hokkaido Electric Power Co.)จะต้องไม่เดินหน้าเดินเครื่องโรงเตาปฎิกรณ์ใดๆทั้งหมด 3 โรงที่มีซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์โทมาริ(Tomari) ทางตอนเหนือของญี่ปุ่นเนื่องมาจากขาดมาตรการป้องกันความปลอดภัยสำคัญที่สามารถส่งผลต่อชีวิตของประชาชนในพื้นที่   อย่างไรก็ตามทางบริษัทไฟฟ้าฮอกไกโด อิเล็กทริก พาวเวอร์ โค.แถลงยืนยันว่า จะยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินพร้อมกับชี้ไปถึงคำพิพากษาว่า “น่าเสียใจและไม่สามารถรับได้โดยสิ้นเชิง”   ญี่ปุ่นเกิดวิกฤตคลื่นยักษ์สึนามิสูงกว่า 15 เมตรที่ร้ายแรงเมื่อปี 2011 ทำให้ระบบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของบริษัทเทปโกที่ฟูกุชิมะเกิดล่มส่งผลทำให้แกนปฎิกรณ์เกิดหลอมเหลวและปล่อยกัมมันตภาพรังสีจำนวนมากออกมาสู่ด้านนอก   และเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ทั่วญี่ปุ่นจำนวนมากต้องปิดลงเพื่อตรวจสอบด้านความปลอดภัยและการปรับปรุง สำหรับที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์โทมาริพบว่าไม่มีการเปิดทำการมาตั้งแต่ปี 2012   อย่างไรก็ตามพบว่ารัฐบาลญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะได้ออกมาเรียกร้องโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ให้กลับมาผลิตกระแสไฟฟ้าอีกครั้งเพื่อทดแทนพลังงานนำเข้าจากรัสเซียที่คิชิดะประกาศมาตรการคว่ำบาตรเพื่อลงโทษจากเหตุการณ์บุกยึดยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ ที่ผ่านมาและอีกทั้งยังเป็นการลดปรากฎการณ์ภาวะโลกร้อน โดยวิตกไปว่าภายในประเทศจะมีพลังงานใช้ไม่เพียงพอ   หัวหน้าผู้พิพากษา เท็ดซึยะ ทานิงูจิ( Tetsuya Taniguchi…

Instagram เตรียมเปิดใช้ Amber Alert ระบบเตือนเมื่อมีเด็กถูกลักพาตัว เริ่มต้นใน 25 ประเทศ

Loading

  Instagram ประกาศจะเริ่มเปิดใช้ Amber Alert ระบบแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ เมื่อเกิดรายงานเหตุเด็กหายถูกลักพาตัวในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยให้ค้นหาเด็กได้เร็วขึ้น (เพิ่มเติม: Amber Alert ระบบแจ้งเตือนผ่านมือถือเมื่อมีเด็กถูกลักพาตัว)   ในช่วงแรก Amber Alert จะเปิดใช้งานใน 25 ประเทศ ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งยังไม่มีประเทศไทย แต่ Instagram บอกว่าจะขยายประเทศที่รองรับในอนาคต   Instagram บอกว่าผู้ใช้งานจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนนี้บ่อยนัก ระบบจะส่งการเตือนแบบจำกัดและเฉพาะในรัศมีพื้นที่ซึ่งมีการรายงานเหตุ โดยอาศัยข้อมูลเช่น IP และพิกัดหากผู้ใช้งานเปิดไว้ เพื่อดูว่าอยู่ในกลุ่มที่ควรได้รับการแจ้งเตือนหรือไม่     ที่มา: Meta       —————————————————————————————————————————- ที่มา :    blognone by arjin          / วันที่เผยแพร่   1 มิ.ย.65 Link…

โรงหนังอังกฤษเริ่มใช้บัตรประชาชนดิจิทัลตรวจสอบอายุคนดู

Loading

  กลุ่มเครือข่ายโรงภาพยนตร์รายใหญ่ของอังกฤษ เริ่มประกาศใช้ระบบตรวจสอบอายุผู้ชมจากบัตรประจำตัวประชาชนแบบดิจิทัล เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เครือข่ายสมาชิกของสมาคมโรงภาพยนตร์แห่งอังกฤษ ซึ่งได้แก่ ซีเนเวิลด์ , โอเดียน , โชว์เคส ซีนีมาส์ และ วิว ประกาศว่า จะเริ่มใช้การตรวจสอบอายุผู้ชมด้วยบัตรประจำตัวประชาชนแบบดิจิทัล ซึ่งจะทำให้ผู้ชมที่มีอายุ 13 ปีขึ้นไป สามารถยืนยันอายุของตนได้ทางโทรศัพท์มือถือและไม่จำเป็นต้องถือเอกสารตัวจริง เช่น บัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต เพื่อยืนยันก่อนการซื้อตั๋วเข้าชม ระบบใหม่นี้จะช่วยลดขั้นตอนและความยุ่งยากในการตรวจสอบอายุของผู้ชม ซึ่งเป็นมาตรการที่ไม่อาจละเลยของโรงหนัง ตามระบบการแบ่งประเภทของภาพยนตร์ในอังกฤษ ที่จะแบ่งตามช่วงอายุของผู้ชมที่พิจารณาแล้วว่าเหมาะสมกับเนื้อหาในเรื่อง ระบบตรวจสอบอายุแบบใหม่จะทำงานผ่านแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า ‘โยติ’ (Yoti) ซึ่งสามารถดาวน์โหลดเพื่อใช้งานในโทรศัพท์มือถือได้อย่างสะดวกสบายเช่นเดียวกับแอพพลิเคชั่นทั่วไป หลังจากดาวน์โหลดแล้ว ผู้ใช้งานจะต้องลงทะเบียนและเพิ่มรูปประจำตัวเพื่อเป็นการยืนยันตัวตน จากนั้นก็เปิดใช้งานเวลาซื้อตั๋วชมภาพยนตร์ โดยที่พนักงานสามารถสแกนรายละเอียดของผู้ชมผ่านทางคิวอาร์โค้ด ทั้งนี้ระบบของแอพจะมีการป้องกันการปลอมแปลงบัตรประจำตัวดิจิทัลติดตั้งไว้ด้วย แหล่งข่าว : metro.co.uk เครดิตภาพ : Getty Images     ที่มา : เดลินิวส์    /   วันที่เผยแพร่ 31 พ.ค.65 Link :…

หัวขโมยยกเค้าตู้ทองคำมูลค่าเฉียด 70 ล้านบาทในโบสถ์กลางกรุงนิวยอร์ก

Loading

  แก๊งอาชญากรลักลอบขโมยทรัพย์สินมีค่าในโบสถ์คาทอลิกย่านบรูคลิน ระหว่างที่โบสถ์ปิดทำการเพื่อซ่อมแซม ซ้ำทำลายเทวรูปประดับด้านข้างจนเสียหาย เกิดเหตุบุกรุกและขโมยทรัพย์สินของโบสถ์คาทอลิก ‘เซนต์ ออกัสติน’ ในย่านพาร์คสโลป เขตบรูคลิน กรุงนิวยอร์ก โดยมีทรัพย์สินชิ้นสำคัญที่สูญหายคือ ตู้ศีลมหาสนิทอายุกว่าร้อยปี ทำจากทองคำบริสุทธิ์ 18 กะรัต ประดับอัญมณี ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 70 ล้านบาท เนื่องจากโบสถ์ดังกล่าวอยู่ในระหว่างปิดปรับปรุงสถานที่ บาทหลวงผู้ดูแลโบสถ์จึงเพิ่งรู้ว่าเกิดเหตุขโมยทรัพย์สินในโบสถ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และเชื่อว่าแก๊งหัวขโมยลักลอบเข้ามาในโบสถ์ในวันศุกร์ที่ 27 พ.ค. ขณะที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเหตุการณ์น่าจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 26-28 พ.ค. ตู้ศีลมหาสนิททองคำเป็นของมีค่าที่สุดในโบสถ์ เว็บไซต์ของทางโบสถ์บรรยายไว้ว่า เป็นผลงานการจัดสร้างชั้นเยี่ยมและเป็นหนึ่งในตู้ศีลมหาสนิทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในสหรัฐฯ โลหะและอัญมณีมีค่าที่ประดับตัวตู้เป็นของที่ศาสนิกชนผู้ศรัทธาบริจาคมา ทางโบสถ์ได้วางระบบรักษาความปลอดภัยพร้อมทั้งใช้แผ่นโลหะหนา 1 นิ้ว ครอบปิดตัวตู้ไว้อย่างแน่นหนาในเวลาที่ไม่ได้เปิดใช้งานหรือเปิดให้ชม แต่แก๊งหัวขโมยได้ำลายระบบรักษาความปลอดภัยและใช้อุปกรณ์ตัดตัวครอบโลหะที่ล้อมตัวตู้ แล้วงัดออกจนสามารถขโมยตู้ทองคำไปได้ จากกล้องวงจรปิดในละแวกนั้น คาดว่าขโมยออกทางประตูหน้า 1 คน ส่วนคนอื่น ๆ สามารถนำของที่ขโมยไปหลบหนีและเลี่ยงกล้องวงจรปิดไปได้ คุณพ่อแฟรงก์ ทูมิโน ซึ่งเป็นบาทหลวงประจำโบสถ์เซนต์ออกัสติน กล่าวในแถลงการณ์ว่า เหตุการณ์ครั้งนี้น่าสะเทือนใจมาก เนื่องจากตู้ศีลทองคำที่โดนขโมยไปนั้นเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวคริสต์ที่มาสักการะเป็นประจำ หัวขโมยไม่เพียงขโมยทรัพย์สินมีค่า แต่ยังทำร้ายจิตใจคริสตศาสนิกชนด้วยการรื้อค้นสิ่งของในตู้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์ประกอบพิธีรับศีลมหาสนิท…

ช็อกโลก! หนุ่มพิเรนทร์ ‘ปาเค้ก’ ใส่ภาพ ‘โมนาลิซ่า’ กลางพิพิธภัณฑ์ลูฟร์

Loading

  เกิดเหตุชายวัย 36 ปี ซึ่งแต่งตัวเป็นหญิงชรานั่งรถเข็นเข้าไปปาเค้กใส่ภาพวาด “โมนาลิซ่า” ผลงานของจิตรกรเอก ลีโอนาร์โด ดาวินชี ซึ่งจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ของฝรั่งเศสเมื่อวันอาทิตย์ (29 พ.ค.) พร้อมกับตะโกนใส่ผู้เข้าชมงานศิลปะทั้งหลายว่าให้ “คิดถึงโลกบ้าง” เจ้าหน้าที่ประจำพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุระทึกที่เกิดขึ้น ซึ่งมีผู้นำคลิปไปแชร์โลกอินเทอร์เน็ตอย่างกว้างขวาง สำหรับภาพ “โมนาลิซ่า” นี้เคยตกเป็นเป้าหมายของพวกที่จ้องทำลายทรัพย์สินมาแล้วหลายครั้ง และไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด เนื่องจากทางพิพิธภัณฑ์ติดกระจกกันกระสุนป้องกันเอาไว้อย่างดี ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ Lukeee ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์นำผ้าไปเช็ดทำความสะอาดกระจกที่เปื้อนครีมสีขาว และมีชายสวมชุดสีขาวอีกคนถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยคุมตัวออกไป “ชายซึ่งแต่งตัวเป็นหญิงชรากระโดดลุกขึ้นจากวีลแชร์ แล้วพยายามทุบกระจกกันกระสุนของภาพโมนาลิซ่า จากนั้นก็เอาเค้กไปปาใส่ และนำดอกกุหลาบมาโปรยไปทั่ว ก่อนจะถูกการ์ดพาตัวออกไป” Lukeee บรรยายไว้ในคลิปของเขา ชายผู้ก่อเหตุยังป่าวประกาศเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า “มีคนมากมายที่กำลังทำลายโลกอยู่ ศิลปินทั้งหลาย ขอให้คิดถึงโลกบ้าง นี่คือจุดประสงค์ของผม ขอให้คิดถึงโลกกันบ้าง” ล่าสุด สำนักงานอัยการฝรั่งเศสได้เปิดการสอบสวนความพยายามทำลายภาพวาดซึ่งถือเป็นผลงานทางวัฒนธรรมครั้งนี้แล้ว พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ได้ติดตั้งกระจกป้องกันภาพโมนาลิซ่า ตั้งแต่มีชายชาวโบลิเวียคนหนึ่งปาก้อนหินใส่ภาพนี้เมื่อปี 1956 ซึ่งทำให้ส่วนข้อศอกซ้ายของโมนาลิซ่าได้รับความเสียหาย ต่อมาในปี 2005 ได้มีการบรรจุภาพนี้ลงในกล่องชนิดพิเศษซึ่งควบคุมทั้งอุณหภูมิและความชื้น เมื่อปี 2009 หญิงชาวรัสเซียคนหนึ่งได้ปาถ้วยกาแฟใส่ภาพนี้ แต่ก็เพียงทำให้กระจกป้องกันเกิดรอยขีดข่วนเท่านั้น ลูฟร์ เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งเก็บรักษาผลงานศิลปะอันทรงคุณค่าเอาไว้นับแสนชิ้น และมีนักท่องเที่ยวเข้าชมมากถึงปีละ 10…

คดีพลิก! ชาวเน็ตเห็นต่าง หลังนักกีฬาทีมชาติโวย ถูกสายการบินดังห้ามโหลดจักรยานมีแบตลงใต้ท้องเครื่อง

Loading

ดรามานักกีฬาทีมชาติโพสต์ตั้งคำถาม หลังถูกพนักงานสายการบินดังไม่ยอมให้นำจักรยานมีแบตเตอรี่โหลดใต้ท้องเครื่อง ระบุทำให้ตนเองต้องตกเครื่อง ด้านชาวเน็ตเห็นต่างชี้พนักงานทำถูกแล้ว กลายเป็นดรามา หลังนักกีฬาทีมชาติตั้งคำถามกรณีตกเครื่อง หลังจากพนักงานไม่อนุญาตให้ตนเองบินพร้อมจักรยานได้ ทั้งที่ตนเองซื้อน้ำหนักจักรยานเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากจักรยานมีแบตเตอรี่ เลยไม่สามารถโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้ โดยข้อความระบุว่า “(ขอสงวนชื่อสายการบิน) เพื่อนๆ นักไตรหรือนักปั่นผมขอถามเป็นความรู้ครับ วันนี้ผมตกเครื่องครับ เนื่องจากพนักงานไม่อนุญาตให้ผมบินพร้อมจักรยานได้ พนักงานบอกผมว่าจักรยานผมมีแบตเตอรี่ ไม่สามารถโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้ ผมงงมากครับ ผมก็พยายามอธิบายให้พนักงานฟังว่า ผมบินไปทั่วโลกพร้อมจักรยานไม่เคยมีปัญหาเลยครับ และไปแข่งซีเกมส์อาทิตย์ที่แล้วพร้อมจักรยานคันเดิมก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ผมจ่ายเงินซื้อน้ำหนักจักรยานเรียบร้อย (ซึ่งเป็นอุปกรณ์พิเศษระบุชัดเจนเป็นจักรยาน) -ที่ผมเลือกเดินทางสายการบิน (ขอสงวนชื่อสายการบิน) เพราะมีการโปรโมทเดินทางพร้อมจักรยานได้ – มีใครเคยบินพร้อมจักรยานกับ (ขอสงวนชื่อสายการบิน) แล้วมีปัญหาบ้างครับ” โพสต์ดังกล่าวมีชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นมากมาย โดยคนที่นำจักรยานโหลดขึ้นเครื่องและเดินทางโดยสายการบินนี้เป็นประจำ เข้ามาบอกว่า ปกติตนเองจะถอดแบตออกก่อนและถือขึ้นเครื่องก็ไม่มีปัญหา ขณะที่ผู้โพสต์ได้ตอบกลับไปว่า แบตของตนเองถอดยาก อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตหลายคนมองว่าพนักงานสายการบินได้ทำถูกต้องแล้ว และคือกฏการบินสากลซึ่งระบุไว้ชัดเจน แต่การถ่ายคลิปให้เห็นใบหน้าของพนักงาน รวมถึงถ่ายภาพบัตรประจำตัวพนักงานแล้วนำมาโพสต์ ถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และเตือนว่าให้ระวังโดนฟ้อง ล่าสุดพบว่าโพสต์ดังกล่าวถูกลบแล้ว     ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์    /   วันที่เผยแพร่ 29 พ.ค.65…