เกิดระเบิดรุนแรง ไฟไหม้โรงกลั่นไบโอดีเซลที่สเปน คนงานดับ 2 ศพ

Loading

  เกิดเหตุระเบิดรุนแรงและมีไฟลุกไหม้ ที่โรงกลั่นน้ำมันไบโอดีเซล ทางตอนเหนือของประเทศสเปน ส่งผลให้คนงานเสียชีวิต 2 ศพ   สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ค. เกิดเพลิงไหม้ มีควันสีดำพวยพุ่งออกมาจากโรงกลั่นไบโอดีเซล ในเมืองกาลาโอร์รา ในแคว้นลา รีโอคา ทางตอนเหนือของประเทศ   หลังเกิดการระเบิดรุนแรงภายในโรงงานแห่งนี้ รายงานข่าวระบุว่ามีคนงานเสียชีวิต 2 ศพ และขณะเกิดเหตุมีเด็กนักเรียน 250 คนอยู่ระหว่างเดินทางไปทัศนศึกษาในบริเวณใกล้เคียงกับโรงงานแห่งนี้พอดี ทำให้ต้องเร่งอพยพนักเรียนกลุ่มนี้ออกไป ขณะเดียวกันตำรวจยังต้องเร่งอพยพนักท่องเที่ยวออกจากสวนสนุกธีมปาร์กที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงออกไปเช่นกัน   ทางการเมืองกาลาโอร์รา เปิดเผยว่าได้กำหนดเขตพื้นที่ฉุกเฉินรัศมี 1 กิโลเมตรรอบโรงกลั่นน้ำมันไบโอดีเซลแห่งนี้แล้วเพื่อความปลอดภัย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังเร่งควบคุมเปลวเพลิง.     ———————————————————————————————————————– ที่มา :      ไทยรัฐออนไลน์                    /   วันที่เผยแพร่ 27…

ทหาร-ตำรวจสวิสคุมเข้มประชุม’WEF’ -ผู้ว่าฯธปท.ร่วมประชุมด้วย

Loading

  เวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) เตรียมจัดการประชุมประจำปีนี้ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 22-26 พ.ค. หลังจากที่ได้เลื่อนการประชุมจากวันที่ 17-21 ม.ค. ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน   อย่างไรก็ดี การจัดการประชุม WEF ในเดือนพ.ค. ได้สร้างความแตกต่างจากที่มักจัดขึ้นในเดือน ม.ค.   ทั้งนี้ ดาวอส ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป และเป็นแหล่งรีสอร์ทสำหรับนักเล่นสกีที่ได้รับความนิยมสูงสุดในสวิตเซอร์แลนด์ มักปกคลุมไปด้วยหิมะในช่วงต้นปี ซึ่งหิมะดังกล่าวจะช่วยเป็น “แนวป้องกันทางธรรมชาติ” สำหรับการจัดการประชุม WEF โดยจะปิดเส้นทางของผู้ที่ต้องการเข้ามาประท้วงและสร้างความวุ่นวายในการประชุม WEF   การจัดการประชุม WEF ในเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เมืองดาวอสไร้ซึ่งหิมะ ทำให้ทางการสวิตเซอร์แลนด์ต้องระดมกำลังทหารและตำรวจมากถึง 5,000 นายเพื่อรักษาความปลอดภัยในการประชุมดังกล่าว โดยมีการตั้งด่านสกัดในบริเวณที่ไม่เคยตั้งมาก่อน รวมทั้งส่งโดรนสำรวจในพื้นที่บริเวณหุบเขา เนื่องจากไม่มีหิมะขวางกั้นเหมือนในช่วงที่ผ่านมา   การเพิ่มการรักษาความปลอดภัยดังกล่าวทำให้ทางการสวิตเซอร์แลนด์ต้องใช้งบสูงถึง 32 ล้านฟรังก์สวิส   ทั้งนี้ WEF จัดการประชุมประจำปีนี้แบบพบหน้ากันเป็นครั้งแรกในรอบ 2…

สนามบินชางงีสิงคโปร์ ใช้ระบบ Biometrix ตรวจสอบผู้โดยสารขาออก ไม่ต้องใช้หนังสือเดินทางแล้ว!

Loading

  สนามบินชางงีสิงคโปร์ ใช้ระบบ Biometrix ตรวจสอบผู้โดยสารขาออก โดยไม่ต้องสแกนหนังสือเดินทาง โดยเฉพาะชาวสิงคโปร์ สามารถเดินทางเข้าออกสนามบินชางงีผ่าน ตม. โดยไม่ต้องแสดงหนังสือเดินทางเลย เพียงแค่สแกนใบหน้า+ม่านตา เท่านั้น ซึ่งจะเริ่มใช้ภายในปี 2022 นี้และใช้เต็มรูปแบบในปี 2023 รัฐมนตรีอาวุโส Teo Chee Hean กล่าวเมื่อวันอังคาร (17 พ.ค.) ว่า: “เรากำลังดำเนินการริเริ่มที่ผู้โดยสารขาออกที่ชางงีต้องการเพียงแสดงข้อมูลไบโอเมตริก เพื่อตรวจสอบจุดสัมผัสต่างๆ ในการออกเดินทาง โดยไม่ต้องแสดงเอกสารการเดินทางใดๆ” สิ่งนี้จะไม่เพียงแต่ปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ แต่ยังนำไปสู่มาตรการป้องกันใหม่ที่จำเป็นสำหรับการบินอย่างปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดีหลังเกิดโรคระบาด หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและด่านตรวจสิงคโปร์ (ICA) ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ในอนาคตชาวสิงคโปร์ที่เดินทางออกจากหรือมาถึงที่ชางงีจะสามารถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้โดยไม่ต้องแสดงหนังสือเดินทาง แต่ข้อมูลประจำตัวของผู้โดยสารจะได้รับการยืนยันโดยใช้ม่านตาและใบหน้าเมื่อเดินผ่านประตู ICA ยังกล่าวอีกว่านักเดินทางต่างชาติที่ลงทะเบียนไบโอเมตริกใบหน้าและม่านตาในการเยือนสิงคโปร์ครั้งแรก จะสามารถผ่าน ตม. โดยอัตโนมัติในการเดินทางครั้งต่อไป โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2022 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของหน่วยงานในการทำให้การตรวจผ่านอัตโนมัติเป็นมาตรฐานสำหรับผู้เดินทางทุกคนตั้งแต่ปี 2023 ในขณะเดียวกัน การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ จะต้องได้รับการเสริมความแข็งแกร่งเพื่อปกป้องข้อมูลของผู้โดยสาร อ้างอิง และ Cover THE STRAITS TIMES    …

เกิดเหตุระเบิดโรงกลั่นน้ำมันบริษัท’เอส-ออยล์’ในเกาหลีใต้ บาดเจ็บ 8 ราย

Loading

  เกิดเหตุระเบิดที่โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทเอส-ออยล์ คอร์ป (S-Oil Corp) ซึ่งเป็นบริษัทกลั่นน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของเกาหลีใต้ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 8 ราย โดยโรงกลั่นแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองอุลซาน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 20.52 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันพฤหัสบดี (19 พ.ค.) ทางหน่วยงานได้รับแจ้งว่ามีเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่โรงกลั่นน้ำมันออนซาน (Onsan) ของบริษัทเอส-ออยล์ ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมของเมืองอุลซาน ห่างจากกรุงโซลประมาณ 414 กิโลเมตร เหตุระเบิดครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย โดยในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัสจำนวน 6 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงเปิดเผยว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นในขณะที่คนงานของบริษัทอยู่ในระหว่างการทดสอบกระบวนการแอลคิเลชัน (Alkylation processing) ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันตามขั้นตอนการบำรุงรักษาโรงกลั่น สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า หน่วยดับเพลิงได้ประกาศเตือนภัยระดับที่ 2 เพื่อเปิดทางให้สามารถขอการสนับสนุนเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงการขอกำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยดับเพลิงจากพื้นที่อื่น ๆ และระดมรถดับเพลิงเกือบ 40 คันเพื่อควบคุมเพลิง ทั้งนี้ บริษัทซาอุดีอารามโคเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทเอส-ออยล์ และโรงกลั่นแห่งนี้มีกำลังการกลั่นน้ำมันในอัตรา 669,000 บาร์เรล/วัน     ที่มา :…

กรมโรงงานฯ ขีดเส้น 23 ต.ค.โรงงานใช้สารเคมีตั้งแต่ 1 ตัน/ปีต้องรายงานข้อมูล

Loading

กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ออกคำสั่งให้โรงงานที่ใช้จัดเก็บสารเคมีอันตรายตั้งแต่ 1 ตัน/ปี ต้องรายงานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ มีผลบังคับใช้ 23 ตุลาคม 2565 พร้อมจัดการฝึกอบรม “ระบบข้อมูลเพื่อการจัดการความปลอดภัยด้านสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรม” ผ่านช่องทางออนไลน์ให้แก่ผู้ประกอบกิจการโรงงานในเดือนมิถุนายน และกันยายน 2565 นายวันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ บริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 มีสารเคมีกว่า 20 ตันระเบิดรั่วไหลออกมา ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบโรงงาน ทั้งความเสียหายทางทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อม ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้จัดทำประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง มาตรการความปลอดภัยเกี่ยวกับการจัดการสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรม กำหนดให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานตามบัญชีแนบท้ายประกาศฯ และผู้ประกอบกิจการโรงงาน นอกเหนือจากบัญชีแนบท้ายประกาศฯ ต้องรายงานข้อมูลสารเคมีอันตรายที่มีการเก็บ หรือการใช้ในการประกอบกิจการโรงงาน ในปริมาณตั้งแต่ 1 ตัน/ปี ต่อสารเคมีอันตรายหนึ่งชนิด ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของ กรอ. โดยประกาศดังกล่าวได้ลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 23…

ทอท.ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ชายเมายาบุกลานจอดสนามบินสุวรรณภูมิ ฟัน 7 ข้อหาหนัก

Loading

ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แถลงข่าวจับชายบุกรุกเข้าลานจอดเครื่องบิน เผยปฎิบัติตามขั้นตอนสากล เน้นเจ้าหน้าที่-ผู้โดยสารต้องปลอดภัย ยอมรับมีกายภาพบางจุดที่ต้องปรับปรุง ด้าน ตร.แจ้ง 7 ข้อหาหนัก พกอาวุธ มียาบ้า และบุกรุก วันนี้ (4 พ.ค.65) นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้น วันที่ 3 พ.ค.เวลาประมาณ เวลา 11.50 น. ทาง Control Post 3 ของสนามบินสุวรรณภูมิ เห็นชายดังกล่าวขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาใกล้ ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปห้าม เพราะจดดังกล่าวห้ามรถจักรยานยนต์เข้า เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าใกล้ ชายดังกล่าวได้ชักอาวุธปืนขึ้นมา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องหลบเข้าที่กำบัง เนื่องจากไม่ทราบว่าเป็นอาวุธจริงหรือปลอม. ซึ่งในระหว่างนั้น มีรถยนต์ของสายการบินที่ผ่านการตรวจอยู่ที่ Control Post 3 ดังกล่าว และประตูได้เปิดให้รถยนต์ดงกล่าวเข้าพื้นที่ ชายดังกล่าวอาศัยจังหวะฝ่าเข้าไป พร้อมกับใช้อาวุธปืนขู่เจ้าหน้าที่ และได้เข้าไปในเขตลานบิน หรือ Airside ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ได้ติดตามตลอดเวลาและให้หน่วยสกัดในพื้นที่ดำเนินการทันที โดยใช้เวลาสามารถจับกุมตัวได้ในเวลา 12.04 น. หรือดำเนินการควบคุมได้ประมาณ…