ญี่ปุ่นปิดสถานทูตในเฮติชั่วคราว เหตุกังวลสถานการณ์ความมั่นคง

Loading

  กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจปิดสถานทูตในประเทศเฮติเป็นการชั่วคราว เนื่องจากสถานการณ์ด้านความมั่นคงในเฮติกำลังเข้าขั้นวิกฤต   กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นได้จัดตั้งสำนักงานสถานทูตญี่ปุ่นในสาธารณรัฐโดมินิกัน ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเฮติ เป็นการชั่วคราว เพื่อปกป้องพลเมืองชาวญี่ปุ่นและเพื่อให้บริการด้านต่าง ๆ หลังจากที่ตัดสินใจปิดสถานทูตญี่ปุ่นในเฮติเป็นการชั่วคราวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (23 ต.ค.)   การปิดสถานทูตดังกล่าวมีขึ้นหลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นได้ยกระดับคำเตือนในการเดินทางไปยังเฮติสู่ระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด โดยแนะนำให้ชาวญี่ปุ่นทั้งหมดอพยพออกจากเฮติและไม่ควรเดินทางไปยังเฮติ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ลักพาตัวและอาชญกรรมโดยกลุ่มติดอาวุธ   เฮติกำลังเผชิญกับวิกฤติด้านมนุษยธรรม ซึ่งรวมถึงการขาดแคลนอาหาร เชื้อเพลิง และน้ำ ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลเฮติต้องร้องขอความช่วยเหลือทางทหารจากต่างประเทศ   รายงานระบุว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดวิกฤตการณ์ดังกล่าวนั้น มาจากการที่กลุ่มอาชญากรรมติดอาวุธ หรือ “กลุ่มจี 9” ได้ทำการปิดกั้นท่าเรือเชื้อเพลิงหลักของประเทศตั้งแต่เดือนก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งนำไปสู่การขาดแคลนน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล อีกทั้งยังเป็นการขัดขวางการขนส่งส่วนใหญ่ของประเทศ จนทำให้เกิดการขาดแคลนสินค้าพื้นฐาน รวมถึงขาดแคลนน้ำสะอาด   ทั้งนี้ กลุ่มอาชญากรรมในเฮติได้ขยายอิทธิพลในการควบคุมอาณาเขตของประเทศนับตั้งแต่การลอบสังหารนายโฌเวเนล โมอิส อดีตประธานาธิบดีของเฮติ เมื่อปี 2564       —————————————————————————————————————————————————– ที่มา :           …

นายกฯ เกาะติดแก้อาวุธปืนหาย กำชับทุกหน่วยคุมเข้ม ไม่ให้ทุจริตทรัพย์สินของรัฐ

Loading

  21 ต.ค.2565 – น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ติดตามการแก้ไขปัญหาอาวุธปืนอย่างใกล้ชิด ซึ่งล่าสุดที่ได้มีกรณีที่เจ้าหน้าที่ยศดาบตำรวจของ สภ.ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ขโมยปืนของ สภ.ปากเกร็ดไปขาย-จำนำ และกระทำมาเป็นเวลาหลายปีนั้น   นายกรัฐมนตรี ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ติดตามและสั่งการเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้แล้ว และอยู่ระหว่างการเร่งรัดติดตามอาวุธปืนที่สูญหายกลับมาโดยเร็ว ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี   หลังจากเกิดกรณีดังกล่าว นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้สถานีตำรวจทุกแห่งเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบและดูแลรักษาอาวุธปืน รวมถึงอาวุธอันตรายอื่น ๆ ของหน่วยงาน และให้มีมาตรการการลงโทษตามกฎหมายให้เด็ดขาด และยังได้กำชับให้ทุกหน่วยงานมีมาตรการป้องกันการทุจริต การขโทยทรัพย์สินของรัฐทุกประเภท   “นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าการแก้ไขปัญหาอาวุธปืนเป็นปัญหาสำคัญเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข โดยเมื่อไม่นานมานี้ได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการเพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการใช้อาวุธปืนอย่างเป็นระบบ ป้องกันไม่ให้มีการนำปืนไปก่อความรุนแรงกับประชาชน โดยมาตรการต่าง ๆ ได้ผ่านการอนุมัติของ คณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา และนายกรัฐมนตรีได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการทุกมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมภายใน 3 เดือน พร้อมกำชับเรื่องดูแลไม่ให้มีการทุจริตจากการใช้ทรัพย์สินของรัฐเด็ดขาด ”…

สอศ.ยกระดับแผนสถานศึกษาปลอดภัยเชิงรุก สกัดเหตุความรุนแรง

Loading

  ผอ.ศูนย์ความปลอดภัยฯ สอศ. ถกเข้มมาตรการสถานศึกษาปลอดภัย ยกระดับแผนงานเชิงรุกตั้ง 7 กลุ่ม เฝ้าระวังเหตุเด็กช่างตีกันเขต กทม. และปริมณฑล   เมื่อวันที่ 21 ต.ค. นายทวีศักดิ์ คิ้วทอง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (ศป.สอศ.) หรือ VEC Safety Center เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้ประชุมวางแผนป้องกันแก้ไขปัญหาพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษา และมาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานศึกษา (การใช้อาวุธปืนและยาเสพติด) เชิงรุก กลุ่มสถานศึกษาเฝ้าระวังป้องกันเหตุทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล จำนวนกว่า 50 แห่ง   เพื่อวางแผนป้องกันเหตุ ความรุนแรงและพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักเรียน นักศึกษา ตามนโยบายสถานศึกษาปลอดภัย MOE Safety Center น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ที่มอบหมายให้ว่าที่ร้อยตรี ดร.ธนุ วงษ์จินดา รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.)…

เอาจริง อิสราเอลติดป้อมปืน AI ติดตามเป้าหมายได้แม่นยำ

Loading

  เมื่อสงครามดำเนินถึงจุดที่เรากำลังใช้เทคโนโลยีในการเฝ้าระวัง   โดยล่าสุด อิสราเอลได้นำป้อมปืนที่ติดตั้งระบบ AI ในการติดตามเป้าหมายในเวสต์แบงก์ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่พิพาทระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์   ป้อมปืนดังกล่าวถูกติดตั้งบนหอคอยพิทักษ์ซึ่งสามารถมองเห็นค่ายผู้ลี้ภัยอัล-อารูบที่แออัดในเวสต์แบงก์เพื่อช่วยในการตรวจสอบคนที่แอบแฝงเข้ามาภายในค่ายของผู้ลี้ภัย หรือใช้เพื่อระงับเหตุจราจล   จากข้อมูล ปืนดังกล่าวไม่ได้ติดตั้งกระสุนจริงนะ แต่จะประกอบไปด้วยแก๊สน้ำตา stun grenades หรือระเบิดแสง และกระสุนฟองน้ำปลายแหลมเท่านั้น   หลายคนอาจกลัวว่า หากเกิดเหตุขึ้น AI จะทำหน้ายิงออกไปทันทีเลยไหม ไม่ใช่นะ AI จะทำหน้าที่ในการล็อกเป้าหมายและคำนวนวิถียิงที่แม่นยำ และคนที่กดไกปืนยังเป็นมนุษย์ ซึ่งสามารถทำให้ตัดสินได้ว่าจะให้ทำการยิงหรือไม่ยิงครับ   อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้สงครามนั้นเกิดขึ้นเนอะ และหวังว่าสงครามจะไม่บานปลายจึงถึงขั้นในหุ่นยนต์ AI ในการรบและสังหาร โดยคนที่กดไกปืน เป็นหุ่นยนต์ ไม่ใช่มนุษย์…     ที่มาข้อมูล https://www.euronews.com/next/2022/10/17/israel-deploys-ai-powered-robot-guns-that-can-track-targets-in-the-west-bank?utm_source=flipboard.com&utm_campaign=feeds_next&utm_medium=referral         ——————————————————————————————————————————– ที่มา :               …

‘ผบ.ตร.’ เตรียมกำลังตำรวจกว่า 2 หมื่นนาย คุมเข้มการประชุมเอเปค!

Loading

  “ผบ.ตร.” เตรียมกำลังตำรวจกว่า 2 หมื่นนาย คุมเข้มการประชุมเอเปค! พร้อมเฝ้าระวังภัยคุกคามในประเทศ และต่างประเทศ ยืนยันจะทำให้ดีที่สุด   พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ยืนยันการดูแลความพร้อมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) 2022 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2565 โดยได้มีการเตรียมความพร้อมต่าง ๆ ไว้แล้ว ทั้งการดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกผู้นำทุกชาติที่เข้าร่วมการประชุม ดูแลสถานที่จัดการประชุมโรงแรมที่พัก   “ตำรวจไม่ประมาท จะจัดกำลังดูแลทั้งด้านในและด้านนอก รวมถึงจุดสูงข่มต่าง ๆ รวมถึงรับผิดชอบการจราจร การอำนวยความสะดวกขบวน VIP และผู้นำชาติตามเส้นทางที่เดินทาง ซึ่งได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบหลัก” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าว   อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นพร้อมเตรียมกำลังตำรวจเกือบ 20,000 นาย ภาพรวมการเตรียมความพร้อมใกล้สมบูรณ์แล้ว โดยจะมีการประชุมร่วมกันทั้งตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาคต่าง ๆ อีกครั้ง…

อังกฤษอพยพวุ่น หลังพบพัสดุปริศนาใกล้ทำเนียบนายกฯ

Loading

  อังกฤษต้องปิดถนนไวท์ฮอลล์ในเมืองเวสต์มินสเตอร์ ใกล้กับทำเนียบและบ้านพักนายกรัฐมนตรีชั่วคราวช่วงเที่ยงวันอังคาร(18ต.ค.) และอพยพคนหลายร้อยคน หลังพบพัสดุต้องสงสัยทำให้ต้องส่งหน่วยเก็บกู้ระเบิดเข้าตรวจสอบ   ตำรวจเปิดเผยว่า ถนนไวท์ฮอลล์ถูกล็อกดาวน์เนื่องจากได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 11.42 น. ตามเวลาท้องถิ่นว่า พบพัสดุต้องสงสัย เพื่อรอให้หน่วยเก็บกู้ระเบิดเข้าตรวจสอบ   ทั้งนี้ ไวท์ฮอลล์อยู่ระหว่างอาคารรัฐสภา และจตุรัสทราฟัลการ์ และเป็นที่ตั้งของกระทรวงหลายกระทรวง เช่น กระทรวงต่างประเทศ และกระทรวงกลาโหม   เจ้าหน้าที่ในกระทรวงหลายแห่งตลอดถนนไวท์ฮอลล์ได้รับการอพยพออกจากคาร และรวมตัวกันที่บริเวณลานสวนสนามของขบวนพาเหรดทหารม้าหลังถนนดาวนิง   ตำรวจใช้หุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิดทำลายพัสดุต้องสงสัย ทำให้มีเสียงระเบิดดังขึ้น และเจ้าที่ตรวจสอบแล้วประกาศว่า พัสดุไม่ใช่วัตถุต้องสงสัย และยกเลิกการปิดกั้นถนนโดยรอบเจ้าหน้าที่กลับเข้าทำงานในกระทรวงต่าง ๆ ตามปกติแล้ว   การอพยพคนครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่สถานการณ์การเมืองในอังกฤษกำลังร้อนแรง โดยนายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์ ของอังกฤษ ได้กล่าวขอโทษสำหรับการเสนอนโยบายเศรษฐกิจที่สร้างความผันผวนต่อตลาดเงินครั้งใหญ่ แต่ยืนยันอยู่ในตำแหน่งต่อไป แม้มีกระแสข่าว ส.ส. พรรควางแผนโค่นลงจากตำแหน่ง หลังเพิ่งบริหารประเทศได้เพียง 6 เดือน   นายกรัฐมนตรีทรัสส์ ให้สัมภาษณ์พิเศษแก่บีบีซีเมื่อวันจันทร์(17ต.ค.)ว่า เธอจะยังนำพรรคอนุรักษ์นิยมสู้ศึกเลือกตั้งทั่วไปสมัยหน้า แม้ว่ารัฐบาลเจอแรงกดดันทั้งจากนักลงทุนและสมาชิกพรรค นับตั้งแต่การเสนองบประมาณของเธอเมื่อเดือน ก.ย.   แผนงบประมาณของเธอมีนโยบายตัดลดภาษี ที่ไม่มีแผนสร้างรายได้รองรับ…