ใหม่! เครื่องมือตรวจจับคลิปปลอม deepfake ได้แม่นยำถึง 96%

Loading

เครื่องมือใหม่ที่พัฒนาโดยทีมวิจัยจาก the USC Information Sciences Institute (USCISI) อาจเป็นตัวช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของคลิปปลอม deepfake ได้ โดยเครื่องมือนี้จะตรวจจับการเคลื่อนไหวของใบหน้าและศีรษะ และสิ่งแปลกปลอมในไฟล์เพื่อดูว่าวีดีโอนั้นถูกปลอมขึ้นมาหรือไม่ จากงานวิจัยที่เผยแพร่โดย the Computer Vision Foundation พบว่า ระบบสามารถตรวจพบวีดีโอที่สร้างโดยคอมพิวเตอร์ได้แม่นยำถึง 96 เปอร์เซ็นต์ โมเดลที่ใช้ตรวจจับคลิปปลอมทั่วไปวิเคราะห์วีดีโอแบบเฟรมต่อเฟรมเพื่อหาจุดที่มีการดัดแปลง แต่เทคนิคใหม่ที่สร้างโดยทีมนักวิจัย USC ใช้เวลาและการคำนวณทางคอมพิวเตอร์ที่น้อยกว่านั้น โดยระบบจะรีวิวดูวีดีโอทั้งหมดครั้งเดียว ซึ่งทำให้ระบบประมวลผลข้อมูลได้เร็วขึ้น จากนั้นจึงนำเฟรมวีดีโอวางซ้อนกันและตรวจหาความไม่สอดคล้องกันจากการขยับของคนในคลิป ซึ่งอาจจะเป็นการขยับเปลือกตาเล็กน้อยหรือการเคลื่อนไหวท่าทางแปลกๆ ที่นักวิจัยเรียกว่า “softbiometric signature (สัญลักษณ์ทางข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล)” ทีมนักวิจัยใช้ชุดข้อมูลวีดีโอที่ผ่านการดัดแปลงมาประมาณ 1,000 คลิป ในการฝึกเครื่องมือนี้ ทำให้ระบบค่อนข้างชำนาญในการระบุคลิปปลอมของนักการเมืองหรือเหล่าผู้มีชื่อเสียง นี่จึงอาจเป็นประโยชน์อย่างยิ่งโดยเฉพาะในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาปี 2563 การหยุดการแพร่ระบาดข้อมูลเท็จจึงเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญยิ่ง —————————————————- ที่มา : ADPT News / JUNE 22, 2019 Link : https://www.adpt.news/2019/06/22/new-tool-detects-deepfakes-with-96-percent-accuracy/

สงครามไซเบอร์มาแล้ว กองทัพสหรัฐเตรียมโจมตีระบบเครือข่ายส่งไฟฟ้ารัสเซีย

Loading

หนังสือพิมพ์ The New York Times รายงานข่าววงในว่ารัฐบาลสหรัฐ เตรียมโจมตีระบบโครงข่ายไฟฟ้าของรัฐบาลรัสเซีย เพื่อตอบโต้การแทรกแซงการเลือกตั้งของหน่วยข่าวกรองรัสเซียตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาเพิ่งยกระดับกองบัญชาการไซเบอร์ (US Cyber Command) เป็นกองบัญชาการรบเต็มขั้น เมื่อปี 2018 และมีอำนาจเพิ่มขึ้นในการปฏิบัติการทางไซเบอร์ ตามข่าวบอกว่า US Cyber Command ได้แทรกซึมเข้าไปยังระบบคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมระบบโครงข่ายไฟฟ้า (กริด) ของรัสเซียแล้ว แต่ก็ไม่มีข้อมูลเชิงลึกว่าเข้าได้มากแค่ไหน และยังไม่มีรายงานว่าสหรัฐเคยเข้าไปปิดระบบไฟฟ้าของรัสเซีย ที่ผ่านมา หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐมักเล่นบทบาทในเชิงป้องกัน มากกว่าโจมตี แต่ช่วงหลังก็มีเสียงเรียกร้องให้สหรัฐมีท่าทีเชิงรุกมากขึ้น John R. Bolton ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Advisor) ของประธานาธิบดี Donald Trump เพิ่งให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลสหรัฐสามารถแสดงให้รัสเซียหรือประเทศใดๆ ก็ตามเห็นว่า หากเข้ามาปฏิบัติการไซเบอร์ต่อสหรัฐ ก็ย่อมต้องมีสิ่งที่ต้องจ่ายออกไป ——————————————————————– ที่มา : Blognone / 16 June 2019 Link : https://www.blognone.com/node/110367

สถานทูตเตือนคนไทยเลี่ยงพื้นที่สำคัญกรุงจาการ์ตา 14-28 มิ.ย.

Loading

    สถานเอกอัคราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนิเซีย ออกประกาศให้คนไทยระมัดระวังในการเดินทางไปยังพื้นที่รอบศาลรัฐธรรมนูญ อาจมีการชุมนุม สถานเอกอัคราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ออกประกาศให้คนไทยระมัดระวังในการเดินทางในพื้นที่ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนิเซีย ใกล้อนุสาวรีย์แห่งชาติ Monas จากสถานการณ์เกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2562 เวลา 10.30 น. ตามที่ฝ่ายพลโท ปราโบโว ซูเบียนโต ได้ยื่นเรื่องคัดค้านผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดย ศาลฯ มีกำหนดดำเนินการเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ดังนี้ ในช่วงระหว่างวันที่ 14 – 28 มิถุนายน อาจมีการชุมนุมของกลุ่มผู้สนับสนุนพล ใกล้ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งตั้งอยู่บนถนน Medan Merdeka Barat ใกล้อนุสาวรีย์แห่งชาติ Monas ซึ่งอาจนำไปสู่เหตุการณ์ความวุ่นวายได้     ทั้งนี้ ตำรวจอินโดนีเซียได้ปิดถนนหลายเส้นทางในพื้นที่โดยรอบศาลรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงกลางดึกของวันที่ 13 มิถุนายน แล้ว  …

FBI เตือนระวังแฮ็กเกอร์ใช้เว็บแบบ HTTPS หลอกเหยื่อ!

Loading

FBI ได้ออกประกาศแจ้งเตือนว่ามีผู้ไม่หวังดีกำลังใช้เว็บไซต์ที่ใช้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบ HTTPS เพื่อหลอกผู้ใช้ให้ป้อนข้อมูลรหัสผ่านล็อกอิน, ข้อมูลทางการเงิน, รวมไปถึงข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ที่สำคัญ ถือเป็นการใช้มุมมองของคนท่องเว็บทั่วไปมาเป็นประโยชน์ในการหลอกลวง เนื่องจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่มักเชื่อว่า ถ้ามีสัญลักษณ์แม่กุญแจล็อกแสดงขึ้นอยู่บนด้านหน้า URL แสดงว่าเว็บไซต์นั้นถูกต้องตามกฎหมาย และปลอดภัยในการป้อนข้อมูลใดๆ ลงไป แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้ว ใบประการศรับรอง SSL ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องความถูกต้องตามกฎหมายเลย ใบเซอร์ SSL/TLS นั้นเป็นเพียงแค่การแสดงว่า การเชื่อมต่อระหว่างเว็บบราวเซอร์และเว็บเซิร์ฟเวอร์ของตัวเว็บไซต์เองนั้นมีการเข้ารหัสข้อมูล ที่ช่วยป้องกันแฮ็กเกอร์จากภายนอกบุกรุกเข้ามายุ่งเกี่ยวกับข้อมูลที่สื่อสารระหว่างกันเท่านั้น การที่อาชญากรไซเบอร์ใช้ความเชื่อใจของคนทั่วไปกับคำว่า “https” และไอคอนรูปแม่กุญแจ ที่มักใช้บริการจากองค์กรภายนอกที่ให้การรับรองความปลอดภัยของการเชื่อมต่อเว็บไซต์ที่หาใช้ได้ง่ายมากในยุคนี้ นับเป็นการประยุกต์การโจมตีลักษณะเดียวกับการส่งอีเมล์ปลอมให้ดูเหมือนบริษัทที่มีชื่อเสียงจริง ——————————————————— ที่มา : EnterpriseITPro / มิถุนายน 13, 2019 Link : https://www.enterpriseitpro.net/fbi-warns-that-hackers-use-secure/