ทำถึงขั้นนี้! แอลจีเรียสั่งตัดเน็ตทั่วประเทศกันเด็กโกงข้อสอบ

Loading

  บีบีซีรายงานว่า แอลจีเรียได้สั่งตัดอินเตอร์เน็ตทั่วประเทศในระหว่างการสอบของนักเรียนชั้นมัธยมปลายเพื่อแก้ปัญหาการโกง ข่าวระบุว่า การให้บริการอินเตอร์เน็ตทั้งทางอุปกรณ์เคลื่อนที่และสายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงจะถูกตัดเป็นเวลา 1 ชั่วโมงหลังจากที่การทดสอบความรู้พื้นฐานของโรงเรียนมัธยมทั่วประเทศเริ่มต้นขึ้นเพื่อยุติการรั่วไหล โดยการตัดระบบอินเตอร์เน็ตจะดำเนินไปตลอดฤดูการสอบระหว่างวันที่ 20-25 มิถุนายนนี้ มาตรการนี้มีขึ้นหลังจากมีการโกงข้อสอบทั่วประเทศเมื่อปี 2559 ซึ่งมีหลายคำถามรั่วไหลออกมาทางออนไลน์ทั้งก่อนและระหว่างการสอบ และด้วยเหตุผลนี้ทำให้ทางการร้องขอให้ผู้บริการอินเตอร์เน็ตปิดการเข้าถึงโซเชียลมีเดียเมื่อปีที่แล้ว แต่ดูเหมือนมาตรการแบบสมัครใจนั้นไม่เพียงพอ นางนูเรีย เบงกาบริต รัฐมนตรีศึกษาแอลจีเรียเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์อันนาฮาร์ของแอลจีเรียว่า จะมีการบล็อคการเข้าถึงเฟซบุ๊กทั่วประเทศตลอดช่วงเวลาดังกล่าว นางเบงกาบริตกล่าวว่า ในขณะที่ทางการรู้สึก “ไม่สะดวกสบาย” กับการตัดสินใจนี้ แต่ก็รู้สึกว่าไม่ควรอยู่นิ่งเฉยต่อหน้าเหตุการณ์ที่อาจมีการรั่วไหลของข้อสอบได้ นอกจากนี้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ทั้งสำหรับเด็กนักเรียนและเจ้าหน้าที่โรงเรียน ถูกสั่งห้ามนำเข้ามายังอาคารสถานที่สอบ 2,000 แห่งทั่วประเทศ โดยจะมีการติดตั้งเครื่องตรวจจับโลหะไว้ที่ประตูทางเข้า นางเบงกาบริตยังกล่าวด้วยว่า มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดและเครื่องรบกวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือไว้ที่โรงพิมพ์ข้อสอบทุกแห่ง ทั้งนี้ นักเรียนมากกว่า 700,000 คนทั่วประเทศแอลจีเรียจะเข้าสอบเพื่อรับประกาศนียบัตรระดับมัธยมปลายในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าจะรู้ผลในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ ————————————————————————————————————————————————— ที่มา : มติชนออนไลน์      /   วันที่  21 มิถุนายน 2561 ลิงก์ : https://www.matichon.co.th/foreign/news_1008795

เวียดนามผ่านกฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ใหม่ ท่ามกลางเสียงคัดค้าน

Loading

เมื่อวานนี้ (12 มิ.ย.) สภาแห่งชาติเวียดนามผ่านกฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ เพิ่มอำนาจควบคุมอินเทอร์เน็ตและการดำเนินการของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในประเทศ ท่ามกลางความกังวลของหลายฝ่ายถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจและเสรีภาพในการแสดงออก กฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2562 และกำหนดให้บริษัทอย่าง เฟซบุ๊ก และ กูเกิล จัดเก็บข้อมูลส่วนตัวที่ “สำคัญ” ของผู้ใช้ไว้ในประเทศเวียดนาม รวมทั้งลบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมภายใน 1 วันตามคำร้องของเจ้าหน้าที่ ผู้ประท้วงและนักรณรงค์หลายคนคัดค้านกฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ฉบับใหม่นี้ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจและถูกใช้จัดการผู้เห็นต่างจากรัฐบาลบนโลกออนไลน์ ขณะที่ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) มองว่ากฎหมายใหม่ของเวียดนามนั้นมีความคล้ายคลึงกับกฎหมายปัจจุบันของไทย จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเวียดนามใช้กฎหมายใหม่ ? สภาแห่งชาติเวียดนาม ลงคะแนนเสียง 91% ผ่านกฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ฉบับใหม่เมื่อวานนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังรอบสภาฯ ภายใต้กฎหมายฉบับนี้ บริษัทโซเชียลมีเดียในเวียดนามจะต้องนำเนื้อหาที่ละเมิดกฎหมายออกจากระบบภายใน 1 วันหลังจากได้รับการร้องขอจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ นอกจากนี้ บริษัทเหล่านี้ยังจะต้องย้ายข้อมูลของผู้ใช้งานมาจัดเก็บไว้ภายในประเทศ รวมทั้งเปิดสำนักงานในเวียดนาม นายโว จอง เวียต ประธานคณะกรรมาธิการกลาโหมและความมั่นคง ซึ่งเป็นผู้ร่างกฎหมายฉบับนี้ กล่าวว่าการย้ายข้อมูลมาไว้ในประเทศจะมีส่วนสำคัญในการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ และไม่ขัดแย้งกับระเบียบสากลแต่อย่างใด “การย้ายศูนย์ข้อมูลมาไว้ในเวียดนามนั้นจะเพิ่มต้นทุนสำหรับบริษัทเหล่านี้จริง แต่มันเป็นความจำเป็นสำหรับความต้องการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ของประเทศ” เขากล่าวต่อสภาแห่งชาติเวียดนาม เสียงคัดค้าน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวถึงกฎหมายฉบับนี้ ว่าเป็นความถดถอยทางสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของเวียดนาม ซึ่งเปิดทางให้รัฐบาลสามารถเซ็นเซอร์ความเห็นบนโลกออนไลน์…

กองทัพสหรัฐฯ ทดลองใช้ ‘เฮลิคอปเตอร์อัตโนมัติ’ ควบคุมด้วยแอพพ์

Loading

นักบินบนเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ควบคุมด้วยแอพพ์ (App) เป็นผู้โดยสารที่นั่งไปกับเครื่องเท่านั้น เเละเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ทำงานทุกอย่างเองโดยอัตโนมัติเพื่อเดินทางไปให้ถึงจุดหมาย ดิออนเต้ โจนส์ (Dionte Jones) จ่าอากาศเอกเเห่งนาวิกโยธินสหรัฐฯ กล่าวว่า เครื่องเฮลิคอปเตอร์ลำนี้เหมือนมีสมองของมันเองแและคิดเอง เเต่ตนเองจะเป็นคนสั่งการให้เครื่องลงจอด เเละตนเองยังสามารถสั่งการให้เครื่องเข้าไปจอดในที่เก็บเองเมื่อไม่ต้องการใช้งานเเล้ว เครื่องเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ทำงานผ่านแอพพ์ โดยผู้ใช้ไม่ต้องทำอะไรมากไปกว่าออกคำสั่งว่าจะไปที่ไหน เดนนิส เบคเกอร์ (Dennis Baker) เจ้าหน้าที่วิจัยของกองทัพเรือสหรัฐฯ กล่าวว่า การวางแผนการเดินทางมีขึ้นขณะอยู่บนเครื่องบิน เครื่องบินจะบินไปตามเส้นทางที่นักบินสั่งการ โดยไม่จำเป็นต้องให้รายละเอียดของแผนการเดินทางแก่เครื่องบิน เครื่องบินสามารถหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางในเส้นทางได้เอง ไม่ว่าจะเป็นสายไฟ ต้นไม้หรือสิ่งกีดขวางทุกประเภทที่ประสบในระหว่างการเดินทาง เเละลงจอดในจุดที่นักบินสั่งการให้จอด สำหรับกองทัพสหรัฐฯ การศึกษาการใช้งานเครื่องบินบังคับอัตโนมัติจะช่วยรักษาชีวิตของทหารเเละมีการใช้งานที่สะดวกเเละเหมาะสม แดน ชูมิท (Dan Schumitt) นาวาอากาศโทแห่งนาวิกโยธินสหรัฐฯ กล่าวว่า มีคำถามเสมอว่าทำไมจึงส่งทหารนาวิกโยธินไปรบเป็นด่านเเรก หากกองทัพสามารถส่งหุ่นยนต์ไปทำหน้าที่แทน เเละเช่นเดียวกันกับเครื่องบินควบคุมอัตโนมัติที่กองทัพสามารถนำไปใช้งานบางอย่างที่คนทำไม่ได้เนื่องจากเครื่องบินควบคุมอัตโนมัติไม่เหนื่อยล้าเเละไม่ต้องพักผ่อนเหมือนมนุษย์ สามารถบินเข้าไปในพื้นที่อันตรายได้ เขากล่าวว่า เครื่องบินระบบควบคุมอัตโนมัติช่วยให้กองทัพมีทางเลือกมากขึ้นในการทำงาน ในขณะที่นาวิกโยธินเเห่งสหรัฐฯ กำลังทำการทดลองเบื้องต้นการใช้งานเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์บังคับอัตโนมัติ มีอาชีพอื่นๆ อีกหลายอย่างที่น่าจะได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ รวมทั้งพนักงานดับไฟป่า อย่างเช่น เหตุไฟป่าในรัฐเเคลิฟอร์เนียเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ที่รุนเเรงเเละยืดเยื้อยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทางนาวิกโยธินสหรัฐฯเ คยทดลองใช้งานเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ควบคุมอัตโนมัติมาก่อนหน้านี้ โดยเคยส่งเครื่องบินขนส่งสัมภาระ K-Max ขับเคลื่อนอัตโนมัติสองลำ…

คลังสหรัฐฯ ประกาศลงโทษพลเมืองและนิติบุคคลรัสเซีย 8 รายสนับสนุนการโจมตีทางไซเบอร์

Loading

                    กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศการลงโทษนิติบุคคลของรัสเซีย 5 ราย และพลเมืองชาวรัสเซียอีก 3 ราย โดยกล่าวหาว่าเป็นผู้จัดหาและสนับสนุนด้านเทคโนโลยีแก่สำนักงานด้านข่าวกรองของรัสเซีย เพื่อโจมตีทางไซเบอร์ต่อสหรัฐฯ และพันธมิตร รัฐมนตรีการคลังสหรัฐฯ สตีเว่น มนูชิน (Steven Mnuchin) กล่าวว่า “ผู้ที่ถูกลงโทษในครั้งนี้มีส่วนในการพัฒนาความสามารถทางไซเบอร์ของรัสเซีย ผ่านการทำงานร่วมกับองค์กรที่ชื่อว่า สำนักงานความมั่นคงของรัฐบาลกลางรัสเซีย ซึ่งถือเป็นภัยต่อความมั่นคงปลอดภัยของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร” มาตรการลงโทษครั้งนี้รวมถึงการปิดกั้นการเข้าถึงบัญชีธนาคารในสหรัฐฯ ของบรรดาผู้ที่ถูกลงโทษ และห้ามคนอเมริกันทำธุรกรรมกับผู้ที่ถูกลงโทษดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ การลงโทษครั้งล่าสุดยังมุ่งเน้นไปที่ศักยภาพใต้ทะเลของรัสเซีย ซึ่งรวมถึงสายเคเบิลใต้ทะเลที่เป็นตัวส่งข้อมูลด้านโทรคมนาคมจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม การลงโทษครั้งนี้แสดงให้เห็นถึง ‘ท่าทีที่ขัดแย้งกันเอง’ ของสหรัฐฯ ที่มีต่อรัสเซีย หลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งเสนอให้รัสเซียกลับเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศกลุ่ม จี 7 ระหว่างการประชุมของ จี 7 ที่แคนาดา สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ รัสเซียเคยเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก เมื่อปี ค.ศ. 1997…

อีกแล้ว! จีนแฮก บ.คู่สัญญากองทัพเรือสหรัฐฯ ล้วงตับโครงการ “ขีปนาวุธต่อต้านเรือ” รุ่นใหม่

Loading

เอเอฟพี – บริษัทคู่สัญญากลาโหมของกองทัพเรือสหรัฐฯ ถูกแฮกเกอร์จีนล้วงข้อมูลละเอียดอ่อนเกี่ยวกับกลยุทธ์สงครามใต้ทะเล รวมไปถึงโครงการพัฒนาขีปนาวุธต่อต้านเรือรุ่นใหม่ที่สามารถยิงจากเรือดำน้ำ หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อวานนี้ (8 มิ.ย.)  สื่อดังของสหรัฐฯ อ้างข้อมูลจากพนักงานสอบสวนซึ่งระบุว่า การโจมตีทางไซเบอร์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.ปีนี้ โดยเป็นฝีมือแฮกเกอร์ในสังกัดหน่วยงานหนึ่งของกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐจีน (Ministry of State Security) ซึ่งปฏิบัติการจากมณฑลกว่างตง บริษัทคู่สัญญารายนี้ทำงานให้กับศูนย์สงครามใต้ทะเลทางนาวี (Naval Undersea Warfare Center) ในเมืองนิวพอร์ต รัฐโรดไอแลนด์ โดยมีหน้าที่ศึกษาวิจัยและพัฒนาเรือดำน้ำ รวมไปถึงระบบอาวุธใต้ทะเล แฮกเกอร์จีนประสบความสำเร็จในการล้วงไฟล์ขนาด 614 กิกะไบต์ ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับระบบเซ็นเซอร์, ระบบเข้ารหัสเรือดำน้ำ และโครงการ “ซี ดรากอน” ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังไม่เผยรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวซึ่งริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2012 โดยระบุแต่เพียงว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อนำเทคโนโลยีทางทหารที่มีอยู่เดิมมาปรับใช้ในรูปแบบใหม่ๆ  วอชิงตันโพสต์ได้รับการร้องขอจากกองทัพเรือสหรัฐฯ ไม่ให้เผยรายละเอียดเกี่ยวกับระบบขีปนาวุธรุ่นใหม่ที่โดนจีนแฮก แต่บอกอย่างกว้างๆ ว่าเป็นขีปนาวุธต่อต้านเรือความเร็วเหนือเสียงที่สามารถยิงจากเรือดำน้ำได้ บิลล์ สปีกส์ โฆษกกองทัพเรือสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะยืนยันรายงานของวอชิงตันโพสต์ โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง จีนใช้แฮกเกอร์ล้วงข้อมูลทางทหารของสหรัฐฯ มานานหลายปีแล้ว และเพนตากอนก็เคยออกมายอมรับว่า ปักกิ่งสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญในโครงการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ F-35 รุ่นใหม่, ระบบป้องกันขีปนาวุธแพทริออต PAC-3 รวมไปถึงโครงการลับสุดยอดอื่นๆ …

สายการบินเอมิเรตส์ ผุดแผนใช้เครื่องบิน “ไร้หน้าต่าง”

Loading

สายการบินเอมิเรตส์ เผยแผนการใช้เครื่องบินที่ “ปราศจากหน้าต่าง” และเพิ่มฟังก์ชัน “หน้าต่างเสมือนจริง” เข้าไปแทน เพื่อลดน้ำหนักของเครื่องบินและสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ในการเดินทาง เซอร์ ทิม คลาร์ก ประธานบริหารสายการบินเอมิเรตส์ บอกว่า สายการบินเตรียมยกเลิกการใช้หน้าต่างจริงบนเครื่องบิน และเปลี่ยนให้เป็นระบบหน้าต่างเสมือนจริง ที่ใช้ภาพจากกล้องไฟเบอร์ออพติกนอกตัวเครื่อง เพื่อบันทึกภาพภายนอกเครื่องบินที่คมชัดกว่าตาเปล่า รวมทั้งยังเล็งเห็นประโยชน์ของการเลิกใช้หน้าต่างบนห้องโดยสารเครื่องบินรุ่นใหม่ๆว่า จะทำให้เครื่องบินมีน้ำหนักเบา ประหยัดพลังงานจากเชื้อเพลิง และเดินทางได้รวดเร็วขึ้น ทั้งนี้ แผนการใช้เครื่องบินไร้หน้าต่างนั้น จะเริ่มจากส่วนเฟิร์สคลาส ของเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER รุ่นใหม่ของเอมิเรตส์ พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายจะทำให้เครื่องบินทุกลำของสายการบินปราศจากหน้าต่างในที่สุด อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางอากาศยาน มองว่า การพัฒนาเทคโนโลยีนี้จะต้องผ่านกฏหมายด้านความปลอดภัยทางการบินเสียก่อน เพราะการมองเห็นด้านนอกของเครื่องบินเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินนั้นเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะหากต้องมีการอพยพผู้คนออกจากเครื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าสถานการณ์ด้านนอกเครื่องบินนั้นปลอดภัยเพียงพอสำหรับการอพยพ แต่ที่สำคัญกว่ากฎหมาย น่าจะเป็นการยอมรับของผู้โดยสารที่จะต้องอยู่บนเครื่องโดยไม่สามารถมองเห็นภาพมุมสูงจากเครื่องบินด้วยตาตัวเองได้เหมือนแต่ก่อน ——————————————————————— ที่มา : VOA Thai / มิถุนายน 07, 2018 Link : https://www.voathai.com/a/emirates-to-have-windowless-plane/4427268.html