กรมสรรพากรเตือนอย่าเชื่อจดหมายเรียกสำเนาบัตรประชาชนเพื่อขอคืนภาษี

Loading

กรมสรรพากร แจ้งเตือนกรณีที่มีการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีเมล์ ถึงผู้เสียภาษีบางราย หัวเรื่อง เรื่องการขอเอกสารประกอบการพิจารณาคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปีภาษี 2560 เพิ่มเติม โดยขอให้ผู้เสียภาษีส่งหลักฐานประกอบการพิจารณาคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ผ่านทาง www.e-revenue.go.th พร้อมกรอกข้อมูลหมายเลขบัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์ นั้น กรมสรรพากร ขอเรียนว่า กรมสรรพากร ไม่มีนโยบายการขอสำเนาบัตรประชาชนจากผู้เสียภาษี และหากมีการขอหลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณาคืนภาษี กรมสรรพากรกำหนดให้ผู้เสียภาษีนำส่งเอกสารหลักฐานผ่าน 4 ช่องทาง ดังนี้ 1 ทางโทรสาร ตามหมายเลขที่ได้รับแจ้ง 2. ทางไปรษณีย์ 3. ด้วยตนเอง 4. เว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th ด้วยรหัสผู้ใช้และรหัสผ่านเดียวกับการยื่นแบบฯ ผ่านอินเทอร์เน็ต หากผู้เสียภาษีได้รับจดหมายขอให้ส่งหลักฐานประกอบการพิจารณาคืนภาษี โปรดอย่าหลงเชื่อ สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยขอให้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์สารนิเทศสรรพากร โทร. 1161 สำนักงานสรรพากรพื้นที่ หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา ทุกแห่งทั่วประเทศ ในวันและเวลาราชการ   —————————————————————————————- ที่มา : เว็บไซต์ จส.100 / วันที่ 6…

สนามบินสิงคโปร์ชางงีเริ่มทดสอบระบบจำแนกใบหน้าเพื่อตามหาตัวผู้โดยสารที่ไม่มาขึ้นเครื่อง

Loading

  ปัญหาของผู้โดยสารหายไม่มาขึ้นเครื่องจนสายการบินต้องประกาศตามนั้นเป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้เที่ยวบินล่าช้า เนื่องจากผู้โดยสารอาจกำลังทำกิจกรรมต่าง ๆ อยู่ภายในสนามบินจนอาจลืมดูเวลาไม่ได้มาขึ้นเครื่องบินตามกำหนด ล่าสุดท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงีเริ่มทดสอบระบบจำแนกใบหน้าเพื่อตามหาผู้โดยสารหายมาใช้งานในสนามบินแล้ว โดยจะใช้ภาพจากกล้องเปรียบเทียบกับภาพบุคคลในฐานข้อมูลเพื่อตามผู้โดยสารที่อยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ ของท่าอากาศยานให้มาขึ้นเครื่อง เพื่อลดระยะเวลาล่าช้าของเที่ยวบินลง Steve Lee หัวหน้าฝ่ายข้อมูลของกลุ่มท่าอากาศยานชางงีกล่าวว่า “เรามีรายงานผู้โดยสารที่หายไปจำนวนมาก ดังนั้นหนึ่งในวิธีที่เราคิดได้คือจะต้องสืบและค้นหาผู้โดยสารที่กำลังจะเดินทาง แน่นอนว่าจะต้องได้รับอนุญาตจากสายการบินด้วย” ปัจจุบัน T4 ซึ่งเป็นเทอร์มินัลใหม่ของสนามบินชางงีก็ได้นำมาใช้ในระบบบริการตนเองบ้างแล้ว เช่น เช็คอิน, แบ็คดรอป, ตรวจคนเข้าเมือง, ขึ้นเครื่องบิน ซึ่งท่าอากาศยานก็เตรียมนำระบบจำแนกใบหน้ามาปรับปรุงใช้ในเทอร์มินัล 1-3 ด้วย ซึ่ง Lee บอกว่าในอนาคตอาจจะสามารถใช้ไบโอเมตริกแทนพาสปอร์ตได้ Lee เผยว่านอกจากระบบรู้จำใบหน้าแล้ว ท่าอากาศยานชางงียังทดสอบเทคโนโลยีใหม่อยู่เรื่อย ๆ อย่างเช่นการใช้เซนเซอร์ตรวจสอบเมื่อเครื่องบินถอยกลับจากเกทหรือเมื่อเทคออฟ ซึ่งเทคโนโลยีนี้สามารถช่วยให้ประสิทธิภาพการตัดสินใจสั่งการบนหอบังคับการบินดีขึ้น และลดเวลา taxiing ของเครื่องบินลงได้ถึง 90 วินาทีต่อเที่ยวในช่วงพีค หรือระบบ AI ที่ทำนายสภาพอากาศ, ลม และเส้นทางการแลนดิ้งของเครื่องบินเพื่อทำนายเวลาถึงสนามบินได้แม่นยำขึ้น   —————————————————————————————————————– ที่มา : Blognone nutmos / วันที่ 1…

“WhatsApp” เพิ่มอายุขั้นต่ำของผู้ใช้ในยุโรป

Loading

  WhatsApp แอพพลิเคชั่นสนทนายอดนิยม ซึ่งมี Facebook เป็นเจ้าของ ประกาศเพิ่มอายุขั้นต่ำของผู้ใช้ในสหภาพยุโรป (EU )จาก 13 ปี เป็น 16 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับกฏหมายปกป้องข้อมูลส่วนตัวฉบับใหม่ ซึ่งจะกำหนดบังคับใช้ในเดือนหน้า ในอีกไม่กี่สัปดาห์ บริษัท WhatsApp Ireland Ltd จะให้ผู้ใช้ใน EU ยอมรับข้อกำหนดในการให้บริการ (terms of service) และนโยบายความเป็นส่วนตัว (privacy policy) ฉบับใหม่ และผู้ใช้จะต้องยืนยันว่ามีอายุอย่างน้อย 16 ปี WhatsApp ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี ค.ศ. 2009 ได้รับความกดดันจากรัฐบาลของ EU ในช่วงที่ผ่านมา เนื่องมาจากการเปิดใช้ระบบข้อความแบบ end-to- end encrypted messaging หรือระบบเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง และแผนการที่จะแชร์ข้อมูลต่อ Facebook ซึ่งเป็นบริษัทแม่อีกด้วย ในขณะที่ Facebook เอง ก็ถูกเจ้าหน้าที่จากทั่วโลกตรวจสอบอย่างละเอียด เนื่องจากข้อมูลของผู้ใช้งานหลายล้านคนถูกนำไปใช้ประโยชน์ทางการเมือง…

NSA เก็บข้อมูลการคุยโทรศัพท์ของคนอเมริกันเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าปีที่แล้ว

Loading

  สำนักด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ NSA เปิดเผยรายงานการเก็บรวบรวมข้อมูลการพูดคุยทางโทรศัพท์ของคนอเมริกันมากกว่า 500 ล้านครั้ง เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี ค.ศ. 2016 กว่า 3 เท่า รายงานของ NSA ระบุว่า ปีที่ผ่านมาได้มีการรวบรวมข้อมูลการพูดคุยโทรศัพท์ของคนอเมริกันทั้งหมด 534 ล้านครั้ง เพิ่มจากจำนวน 151 ล้านครั้ง เมื่อ 2 ปีก่อน อย่างไรก็ตาม ไม่มีการระบุว่าทำไมตัวเลขดังกล่าวจึงเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจในปี ค.ศ. 2017 สองปีที่ผ่านมาคือสองปีแรกของการใช้ระบบใหม่ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการพูดคุยสื่อสารของคนอเมริกัน ตามกฎหมายที่ผ่านการรับรองของรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อปี ค.ศ. 2015 ซึ่งจำกัดการรวบรวมข้อมูลปริมาณมาก หลังจากที่นายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เด้น อดีตลูกจ้างชั่วคราวของ NSA เปิดเผยเรื่องการเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของคนอเมริกันให้สาธารณชนรับรู้ รายงานของ NSA ระบุว่า ข้อมูลที่ NSA เก็บรวบรวมนั้น รวมถึง หมายเลขโทรศัพท์ และระยะเวลาที่คุย แต่ไม่รวมเนื้อหาในบทสนมนาที่คุยกันแต่อย่างใด   ———————————————————————————————————————————————— ที่มา :…

ผู้ใช้ทวิตเตอร์ 330 ล้านราย ถูกเตือนให้เปลี่ยนพาสเวิร์ด หลังเกิดข้อขัดข้องทางเทคนิคในบริษัท

Loading

  ทวิตเตอร์เตือนผู้ใช้ 330 ล้านรายให้เปลี่ยนพาสเวิร์ด หลังจากเกิดปัญหาทางเทคนิคที่ทำให้ระบบภายในบริษัทแสดงผลพาสเวิร์ดจริงของผู้ใช้จำนวนมากให้พนักงานบริษัทเห็น ทวิตเตอร์กล่าวว่าจากการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่พบว่าพาสเวิร์ดเหล่านั้นรั่วไหลออกไปสู่คนภายนอก หรือถูกพนักงานบริษัทนำไปใช้ในทางที่ไม่ชอบ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เรียกร้องให้ผู้ใช้พิจารณาเปลี่ยนพาสเวิร์ดของตนเอง “เพื่อเป็นการระวังเหตุไว้ก่อน” ทางทวิตเตอร์ไม่ได้ระบุว่าพาสเวิร์ดของผู้ใช้จำนวนเท่าไรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุนี้ บอกเพียงแต่ว่าจำนวนน่าจะ “มากมาย” และก็เหตุนี้ทำให้พนักงานภายในเห็นพาสเวิร์ดผู้ใช้มา “หลายเดือน” แล้ว แหล่งข่าวภายในของสื่อโซเชียลรายนี้บอกกับรอยเตอร์สว่าค้นพบปัญหาหลายสัปดาห์ก่อน และได้รายงานต่อหน่วยงานกำกับดูแลแล้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แจ็ค ดอร์ซี ทวีตว่า เราได้ค้นพบปัญหาทางเทคนิคที่ทำให้พาสเวิร์ดของผู้ใช้ปรากฎขึ้นในระบบภายในของบริษัท ก่อนที่กระบวนการบังข้อมูลไม่ให้ใครเห็นเหล่านั้นจะเสร็จสิ้นลง เราได้แก้ไขปัญหาไปแล้ว และไม่พบข้อบ่งชี้ว่ามีการนำไปใช้ในทางที่ผิด และเชื่อว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องเปิดเผยปัญหาทางเทคนิคนี้ออกมา ข้อผิดพลาดทางเทคนิคนั้นเกิดจากการใช้ ระบบ hashing ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยที่เปลี่ยนพาสเวิร์ดของผู้ใช้ไปเป็นอย่างอื่นเพื่อมิให้คนภายในบริษัทเห็นว่าพาสเวิร์ดที่แท้จริงนั้นคืออะไรขณะที่ผู้ใช้กำลังเข้ารหัสอยู่ ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้พาสเวิร์ดจริงถูกบันทึกไว้ในระบบภายในของบริษัทก่อนที่จะกระบวนการ hashing จะเสร็จสิ้น     นอกจากคำเตือนให้เปลี่ยนพาสเวิร์ดแล้ว ทวิตเตอร์ยังเตือนให้ผู้ใช้เปิดใช้ ฟังก์ชั่น two-factor authentication เพื่อป้องกันการแฮ็คข้อมูลอีกด้วย ก่อนหน้านี้ หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของทวิตเตอร์ ปารัก อักราวัล กล่าวว่า ที่จริงบริษัทไม่จำเป็นจะต้องบอกเรื่องนี้กับผู้ใช้ แต่ทางบริษัทเชื่อว่ามันสิ่งที่ “ควรทำ” อย่างไรก็ตามเขาก็ออกมาขอโทษ โดยกล่าวว่า “ผมไม่ควรใช้คำว่า เราไม่จำเป็นต้องบอกกับผู้ใช้ ซึ่งจริง…

ย้อนรอยความเชื่อมโยง “คุกลับ” ในไทยกับว่าที่ ผอ. ซีไอเอคนใหม่

Loading

  หลังจากนางจีนา แฮสเปล ได้รับเสนอชื่อให้เป็น ผอ. ซีไอเอ คนใหม่เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา เรื่องราวที่ยังไม่กระจ่างเกี่ยวกับศูนย์กักตัวและซ้อมทรมานผู้ต้องสงสัยของสหรัฐฯ กลับมาเป็นที่ถกเถียงอีกครั้ง และความสนใจก็พุ่งไปยังประเทศไทย ที่เป็นที่ตั้ง “คุกลับ” ที่แฮสเปลเคยกำกับดูแล บีบีซีไทยเสนอรายงานของนายโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่าด้วยความเกี่ยวข้องระหว่างว่าที่ ผอ. ซีไอเอคนใหม่และ “คุกลับ” ในประเทศไทย เมื่อเดือน เม.ย. 2002 เครื่องบินลำหนึ่งบินออกจากสนามบินในปากีสถานมุ่งสู่ประเทศไทย หนึ่งในผู้โดยสารบนเครื่องบินลำนั้นคือ นายอาบู ซูเบย์ดาห์ ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน เขาถูกจับตัวได้ในปฏิบัติการร่วมระหว่างสหรัฐฯ และปากีสถาน ที่นำกำลังบุกทลายเซฟเฮาส์ของเครือข่ายอัลกออิดะห์ที่เมืองไฟซาลาบัดในปากีสถาน นายซูเบย์ดาห์ วัย 31 ปี เป็นชาวปาเลสไตน์ที่เกิดในซาอุดิอาระเบีย และเชื่อกันว่าเขาเป็นหนึ่งสมาชิกระดับสูง ในเครือข่ายผู้ก่อการร้ายของนายโอซามา บินลาดิน เขาอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ซีไอเอ ซึ่งได้ตัดสินใจให้นายซูเบย์ดาห์เป็นผู้ต้องขัง “มูลค่าสูง” คนแรกที่สามารถถูก “สอบสวนด้วยเทคนิคพิเศษ” ซึ่งกลุ่มรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนกล่าวว่ามันคือการซ้อมทรมาน     ในเดือน ธ.ค. 2014 คณะกรรมาธิการวิสามัญด้านข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐฯ (SSCI) ได้ตีพิมพ์รายงานลับจำนวน…