ส่องภาพบอดี้การ์ดสุดเท่ของคิมจองอึน

Loading

  โลกโซเชียลแห่แชร์ภาพบอดี้การ์ดส่วนตัวของผู้นำคิม ขณะเยือนเกาหลีใต้ นับว่าเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ของคาบสมุทรเกาหลี สำหรับการพบกันของนายคิมจองอีน และประธานาธิบดีมุนแจอิน เมื่อวานนี้ (27 เมษายน) ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นการหารือทั้งสองได้ลงนามในปฏิญาณปันมุนจอมร่วมกัน     ทั้งนี้มีรายงานว่าภายหลังการปรากฏตัวของนายคิมจองอึน ที่บริเวณพรมแดนของสองเกาหลี ซึ่งเดินทางมาด้วยรถยนต์เมอร์ซิเดส – เบนซ์ เอสคลาส ลิมูซีน พร้อมด้วยบรรดาบอดี้การ์ดสุดสมาร์ททั้ง 12 นาย วิ่งตามรถยนต์ของนายคิม เพื่อคอยอารักขาผู้นำของพวกเขา ทันทีที่ภาพนี้ปรากฏต่อสื่อ ได้กลายเป็นกระแสบนโลกโซเชียลมีเดียทันที มีการแชร์ภาพและคลิปวิดิโอขณะที่บรรดาบอดี้การ์ดทั้ง 12 นายวิ่งตามอารักขารอบรถยนต์ของนายคิมตลอดการเยือนปันมุนจอม โดยชาวเน็ตบางคนต่างแซวว่า การรับหน้าที่วิ่งตามรถยนต์ของนายคิมนั้น เหมือนเป็นการออกกำลังการแบบคาดิโอที่ดี     องครักษ์ตระกูลคิม? สำหรับบอดี้การ์ดเหล่านี้มาจากหน่วย Supreme Guard Command หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ยูนิต 963” โดยหน่วยดังกล่าวมีหน้าที่เพื่อเป็นองครักษ์คุ้มกันครอบครัวคิมโดยเฉพาะ โดยเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าทำงานในหน่วยนี้จะต้องผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้น จากคำให้สัมภาษณ์ของนายลียองกุก อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยอารักษ์ขานายคิมจองอิล ซึ่งภายหลังได้ขอลี้ภัยในประเทศแคนาดา   นายลี ยอง กุก กล่าวว่า การสรรหาคัดเลือกองค์รักษ์ประจำหน่วยนี้จะคัดเลือกจากบรรดาเด็กหนุ่มๆ ในโรงเรียนมัธยมทั่วเกาหลีเหนือตั้งแต่เด็กๆ จากนั้นจะมีการทดสอบความรู้ขั้นพื้นฐาน…

GCSC ห่วงสงครามไซเบอร์ยังแรงไม่หยุด ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตต่างโดนหางเลข

Loading

Bill Woodcock กรรมการผู้บริหารจาก Packet Clearing House ผู้พัฒนาและดูแลโครงข่ายพื้นฐานสำคัญสำหรับอินเทอร์เน็ต ระบุ ในฐานะกรรมาธิการจากคณะกรรมการเพื่อความมั่นคงแห่งโลกไซเบอร์ (Global Commission on the Stability of Cyberspace: GCSC) โลกควรมี “ข้อตกลงร่วมกัน” เพื่อจำกัดขอบเขตของสงครามไซเบอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตโดนหางเลขไปด้วย Woodcock เปิดเผยว่า สงครามไซเบอร์ในปัจจุบันเกิดจาก 3 ชาติมหาอำนาจ ได้แก่ สหรัฐฯ จีน และรัสเซียต้องการกุมอำนาจเหนืออีกฝ่าย และพยายามบ่ายเบี่ยงเรื่องการทำสนธิสัญญาเพื่อสงบศึก ส่งผลให้ตัวแทนจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐ อุตสาหกรรมต่างๆ และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค รวมตัวก่อตั้ง GCSC ขึ้นมา โดยมีรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และสิงคโปร์ให้การสนับสนุน รวมไปถึงยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Microsoft และ Internet Society โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อให้การทูตในการหยุดยั้งการโจมตีออนไลน์ที่มีรัฐบาลสนับสนุน (State-sponsored Attacks) สาเหตุสำคัญที่ GCSC ต้องการยับยั้งสงครามไซเบอร์นั้น Woodcock ระบุว่า สงครามไซเบอร์ต่างจากสงครามปกติทั่วไปตรงที่พุ่งเป้าที่กองกำลังทหารของอีกฝ่าย ถ้าใครโจมตีเป้าหมายอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น โรงพยาบาลหรือโรงเรียน…

รมว.อังกฤษลาออกหลังถูกแฉเอี่ยวเนรเทศผู้อพยพ

Loading

  รมว.มหาดไทยของอังกฤษลาออก หลังถูกสื่อตีแผ่ว่ามีส่วนรู้เห็นกับการกำหนดโควตาส่งกลับลูกหลานผู้อพยพจากเครือจักรภพอังกฤษที่อยู่มาตั้งแต่สมัยสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 และรัฐบาลเป็นผู้ทำลายเอกสารระบุต้นทางของผู้อพยพทิ้งไปเมื่อ 8 ปีก่อน สำนักข่าว CNN และ The Guardian รายงานว่า นางแอมเบอร์ รัดด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของอังกฤษ ซึ่งดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่เดือน ก.ค. 2559 ยื่นใบลาออกแก่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (29 เม.ย.) โดยที่นางเมย์ได้้ลงนามอนุมัติการลาออกของนางรัดด์ แต่ไม่ได้อธิบายรายละเอียดว่าอะไรคือสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้นางรัดด์ตัดสินใจลาออกในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนในอังกฤษและสหรัฐฯ รายงานว่าเหตุผลที่รัดด์ลาออก คือ การที่เธอถูกเปิดโปงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกำหนดโควตาส่งกลับผู้อพยพและลูกหลานของผู้อพยพในขณะดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เธอต้องลาออก เพราะพบหลักฐานขัดแย้งกับคำให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ที่นางรัดด์ยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นว่ามีการกำหนดโควตาการส่งกลับผู้อพยพจากเครือจักรภพอังกฤษ แต่สื่ออังกฤษพบหลักฐานยืนยันว่านางรัดด์ทราบเรื่องโควตา โดยเป็นการอ้างอิงเอกสารที่ส่งต่อเป็นการภายในของกระทรวง และนางรัดด์ยื่นใบลาออกหลังสื่อรายงานเรื่องดังกล่าวได้ไม่นาน นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยของอังกฤษยังจงใจทำลายเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางเข้าประเทศของผู้อพยพกลุ่มวินด์รัชทิ้งไปเมื่อปี 2553 เป็นเหตุให้ผู้อพยพกลุ่มวินด์รัชและลูกหลานจำนวนมากเสี่ยงต่อการถูกเนรเทศออกจากอังกฤษ เพราะไม่มีเอกสารยืนยันการเดินทางเข้าประเทศ (Landing Slip) แม้พวกเขาจะใช้ชีวิตในอังกฤษมานานหลายทศวรรษแล้วก็ตาม ด้านนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรี แถลงขออภัยผู้อพยพจากทะเลแคริบเบียนกลุ่มนี้ รวมถึงรับประกันกับผู้นำกลุ่มประเทศเครือจักรภพอังกฤษในแถบแคริบเบียนว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายการส่งกลับผู้อพยพ และรัฐบาลอังกฤษจะเร่งดำเนินการยืนยันตัวตนและรับรองสิทธิการเป็นพลเมืองอังกฤษของคนกลุ่มนี้ให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ ผู้อพยพกลุ่มวินด์รัช ถูกเรียกตามชื่อเรือวินด์รัชซึ่งนำประชากรจากกลุ่มประเทศเครือจักรภพอังกฤษแถบทะเลแคริบเบียนมาเทียบท่าที่อังกฤษเมื่อเดือน…

แฮ็กเกอร์โจมตีคอมพิวเตอร์ควบคุมเครื่อง X-Ray และ MRI เพื่อขโมยข้อมูลผู้ป่วย

Loading

นักวิจัยพบคอมพิวเตอร์ควบคุมเครื่อง MRI และ X-Ray จำนวนมากทั่วโลกถูกติดตั้งมัลแวร์ที่ชื่อว่า Kwampirs ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือจากลุ่มแฮ็กเกอร์ที่ชื่อ ‘Orageworm’ อย่างไรก็ตามนักวิจัยยังไม่สามารถอธิบายว่าเครื่องเหล่านี้ติดมัลแวร์มาได้อย่างไร กลุ่มแฮ็กเกอร์ Orangeworm นี้เริ่มปฏิบัติการมาตั้งแต่ปี 2015 โดยเหยื่อกว่า 40% เป็นบริษัทในกลุ่ม Healthcare และที่เหลือ เช่น Logistics, เกษตรกรรม, โรงงาน และบริการทาง IT ซึ่งธุรกิจหลักของบริษัทเหล่านี้เป็น Supplychain ที่ให้บริการกับธุรกิจ Healthcare อีกทีหนึ่ง อย่างไรก็ตามแฮ็กเกอร์กลุ่มนี้มีชื่อเสียงในเรื่องในการมุ่งขโมยข้อมูลของผู้ป่วยจากองค์กรด้าน Healthcare ไปขายต่อ เนื่องจากข้อมูลของผู้ป่วยจากองค์กรเหล่านี้มักจะมีความสมบูรณ์มากกว่าข้อมูลจากสถาบันทางการเงินหรือบริษัทอื่นๆ จากการศึกษาของนักวิจัยที่ติดตามกลุ่มแฮ็กเกอร์พบว่าที่ปฏิบัติการเช่นนี้เล็ดรอดการตรวจจับได้เพราะองค์กร Healthcare ส่วนใหญ่ใช้คอมพิวเตอร์ที่ล้าสมัย ไม่ค่อยอัปเดต ไม่มีการใช้งาน Antivirus จึงแฮ็กได้ง่าย นอกจากนี้พฤติกรรมของกลุ่มแฮ็กเกอร์เองก็เกิดขึ้นคล้ายกันเสมอคือทำให้คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งติดมัลแวร์ก่อนและพยายามแบบสุ่มเพื่อแพร่กระจายเครื่องมือที่ทำให้เข้าถึงเครื่องเหยื่อจากระยะไกลที่ชื่อ Kwampirs และค้นหาข้อมูลที่ต้องการต่อไป  โดยมีรายงานว่าแฮ็กเกอร์ไม่ได้เปลี่ยนพฤติกรรมการปฏิบัติการเลยตั้งแต่เริ่มการโจมตี —————————————————————————- ที่มา : TECHTALK Thai / April 24, 2018 Link : https://www.techtalkthai.com/orageworm-group-attack-mri-and-xray-machine-to-steal-patient-data/

ผลสำรวจชี้ ผู้ใช้ยังขาดความรู้ด้านความมั่นคงปลอดภัยของการใช้ Router

Loading

Broadband Genie ได้ทำการสำรวจผู้ใช้ Router รวม 2,205 ราย พบมีเพียงสิบกว่าเปอร์เซ็นเท่านั้นที่หมั่นอัปเดตเฟิร์มแวร์และเปลี่ยนไม่ใช้รหัสผ่านจากโรงงาน ในขณะที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังคงขาดความรู้ด้านความมั่นคงปลอดภัยของการใช้ Router Broadband Genie ระบุว่า ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ปัญหาเรื่อง Router ถูกโจมตีเพื่อใช้เป็น Botnet มีแนวโน้มเพิ่งสูงขึ้นมาก ซึ่ง 2 สาเหตุหลักมาจากการโจมตีช่องโหว่ของ Router และการแฮ็กอุปกรณ์ที่ใช้ชื่อล็อกอินและรหัสผ่านดั้งเดิมจากโรงงาน โดยผลสำรวจพบว่าเป็นไปตามที่ผู้เชี่ยวชาญหลายรายกังวัล คือ ผู้ใช้ยังคงขาดความรู้ในการทำให้ Router ของตนมั่นคงปลอดภัย จากการสำรวจผู้ใช้รวม 2,205 รายพบว่ามีเพียง 14% เท่านั้นที่หมั่นอัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดสม่ำเสมอ ในขณะที่มีเพียง 18% เท่านั้นที่เปลี่ยนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านใหม่ไม่ให้ซ้ำกับของเดิมที่มาจากโรงงาน นั่นหมายความว่าประมาณร้อยละ 80 ของ Router ที่ใช้งานกันอยู่มีความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีให้กลายเป็น Botnet ได้ ผลสำรวจที่น่าสนใจอื่นๆ มีดังนี้ 31% ของผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่าน Wi-Fi ไม่ให้ซ้ำกับรหัสผ่านแอดมิน 30% เคยเข้าหน้าแอดมินเพื่อตรวจสอบว่ามีอุปกรณ์อื่นเชื่อมต่อกับ Router อยู่หรือไม่ 51%…

ทลายแก๊งดึงข้อมูลเหยื่อเปลี่ยนรหัส ซื้อบัตรเงินสดออนไลน์ เสียหายกว่า 1 ล้านบาท

Loading

ปอท. บุกรวบแก๊งดึงข้อมูลจากบริษัทโบรกเกอร์เหยื่อไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลใน Internet banking เพื่อซื้อบัตรเงินสดออนไลน์ และขายต่อในเว็บไซต์เสียหายกว่า 1 ล้านบาท  วันนี้ (27 เม.ย.) พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.) กล่าวว่า กลุ่มงานสนับสนุนคดีทางเทคโนโลยี นำโดย พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ อ่อนตา ผกก.กลุ่มงานสนับสนุนฯ บก.ปอท. พ.ต.ท.สุรชัจ สีมุเทศ พ.ต.ท.พิเชษฐ์ คำภีรานนท์ รอง ผกก.กลุ่มงานสนับสนุนฯ บก.ปอท. พ.ต.ท.ภานุภัทร กิตติพันธ์ สว.กก.2 ปรก. กลุ่มงานสนับสนุนฯ ว่าที่ พ.ต.ต.สุรโชค กังวานวาณิชย์ สว.กลุ่มงานฯ ได้นำกำลังร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาที่หลอกข้อมูลเหยื่อแล้วนำข้อมูลไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลใน Internet banking ของเหยื่อ เพื่อซื้อบัตรเงินสดออนไลน์ และนำบัตรเงินสดนั้นไปขายต่ออีกครั้ง จำนวน 3 คน ประกอบด้วย 1. นายพีรยุท ครฑธาพันธ์ อายุ 28 ปี 2.…