ลัทเวียห้ามสวมเครื่องแต่งตัวที่ใช้ผ้าคลุมหน้าในที่สาธารณะ

Loading

     รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมลัทเวียแถลงเมื่อ 18 ม.ค.59 ว่า ลัทเวียจะไม่อนุญาตให้แต่งกายตามประเพณีนิยมศาสนาอิสลามในที่สาธารณะ โดยห้ามสวมเครื่องแต่งตัวที่ใช้คลุมหน้าได้ด้วย และห้ามคลุมหน้าแบบบุรฺเกาะ (Burqa) คือ ปิดคลุมใบหน้าทั้งหมดในที่สาธารณะ ที่มา : TASS World January 18, 14:09 Link : http://tass.ru/en/world/850310

บูร์กินาฟาโซเริ่มไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วันแด่ผู้เสียชีวิตจากเหตุก่อการร้าย

Loading

     สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีรอช มาร์ก คริสเตียน คาโบเรของ บูร์กินา ฟาร์โซ แถลงออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์ บูร์กินา 24 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมีคำสั่งประกาศให้มีการไว้ทุกข์เป็นเวลา 3 วันเริ่มตั้งแต่วันนี้      เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุกลุ่มก่อการร้ายจับตัวประกันภายในโรงแรมสเปลนดิค ในกรุงวากาดูกู นานกว่า 12 ชั่วโมง ก่อนเกิดเหตุปะทะกับกองกำลังของบูร์กินาและของฝรั่งเศส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คนภายในโรงแรมและอีก 10 คนที่ร้านคาเฟ่ชื่อดัง คัปปูชิโน ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง บาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 33 คน ว่า การกระทำที่โหดเหี้ยมรุนแรงที่ลงมือสังหารผู้บริสุทธิ์ ซึ่งกลุ่มก่อการร้ายสากล อัล-กออิดะในอิสลามมาราเกซหรือเอคิวไอเอ็ม ออกมาแสดงความรับผิดชอบ โดยมีเจตนาต้องการสร้างความคลอนแคลนต่อประเทศของเราและบ่อนทำลายความพยายามที่จะสร้างประชาธิปไตย ความสงบและความมั่งคั่งให้กับประเทศ      นอกจากนี้ ประธานาธิบดีบูร์กีนาฟาโซแถลงเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่กรุงวากาดูกู และแนวชายแดนโดยกองกำลังรักษาความปลอดภัยจะยกระดับการป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อีกทั้งขอให้ประชาชนรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับใหม่ และกองกำลังรักษาความมั่นคงก็ต้องเพิ่มความพยายามสำหรับการต่อสู้ป้องกันเหตุโจมตีในครั้งต่อไป ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ วันที่ 19 ม.ค.…

บูร์กินาฟาโซร่วมมือการทหารกับมาลีหลังโดนก่อการร้ายอัลกออิดะห์ AQIM บุกยึดโรงแรม

Loading

     รอยเตอร์ – บูร์กินาฟาโซทำข้อตกลงร่วมมือทางการทหารกับมาลีในการต่อต้านการก่อการร้ายด้วยการแชร์ข่าวกรองและร่วมกันลาดตระเวน เกิดขึ้น 2 วันหลังจากกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ AQIM ในแอฟริกาตะวันตกลงมือโจมตีโรงแรมสเปลนดิดกลางกรุงวากาดูกู ทำให้มีคนเสียชีวิตถึง 29 ราย      รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (17 ม.ค) ว่า นายกรัฐมนตรีของทั้งบูร์กินาฟาโซและมาลีได้ร่วมพบปะในวันอาทิตย์ (17) 2 วันหลังจากบูร์กินาฟาโซถูกก่อการร้ายอัลกออิดะห์บุกโจมตีโรงแรมสเปลนดิดระดับ 4 ดาวกลางกรุงวากาดูกู และหลังจากสิ้นสุดลง ซึ่งเอเอฟพีรายงานว่า พบมีผู้เสียชีวิตล่าสุดถึง 29 รายที่มีชาวต่างชาติถึง 18 ชาติ และสามารถช่วยเหลือเหยื่อตัวประกันออกมาได้สำเร็จ 156 คน      และหลังจากนั้นกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ AQIM ที่มีฐานอยู่ในมัฆริบ แอฟริกาตะวันตกได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบในการโจมตีโรงแรงสเปลนดิดแห่งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ทางกลุ่มได้โจมตีโรงแรมโรงแรมเรดิสันบลู ในกรุงบามาโก เมืองหลวงของมาลีที่เกิดขึ้นในวันศุกร์ 20 พฤศจิกายน 2015 ที่ได้สังหารคนไปถึง 20 ชีวิต รวมไปถึงพลเมืองรัสเซีย จีน และสหรัฐฯ    …

บูร์กินาฟาโซ ระห่ำรัวยิงนักท่องเที่ยว ไทยผวาสั่งด่วนป้องกัน

Loading

เมืองหลวงบูร์กินาฟาโซ ระห่ำรัวยิงนักท่องเที่ยว ไทยผวาสั่งด่วนป้องกัน      ยิ่งกว่าในหนัง หน่วยรบพิเศษบูร์กินาฟาโซ ปะทะเดือดกลุ่มก่อการร้ายเอคิวไอเอ็ม ขณะบุกช่วยเหลือตัวประกัน หลังคนร้ายอาวุธครบมือไม่น้อยกว่า 6 ราย ก่อเหตุกราดยิงใส่โรงแรมและร้านกาแฟกลางเมืองหลวง กรุงวากาดูกู ก่อนจบลงที่มีผู้เสียชีวิตเบื้องต้นอยู่ที่ 23 ศพ บาดเจ็บอย่างน้อย 33 คน ขณะที่อินโดนีเซียไล่ล่าจับกุมแนวร่วมก่อเหตุร้ายได้อีก 12 คน สั่งปิด 11 เว็บไซต์เผยแพร่ข้อความยั่วยุให้ก่อความรุนแรง ส่วนมาเลเซียจับ 4 ผู้ต้องสงสัยเอี่ยวไอเอส ด้าน “จักรทิพย์” กำชับทุกหน่วย เตรียมพร้อมรับมือป้องกันเหตุร้าย ตรวจตราเข้มงวด รวมถึงให้ ตม.ตรวจเข้ม-เฝ้าระวังบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศ      กลุ่มก่อการร้ายยังคงออกอาละวาดทั่วโลกอย่างไม่หยุดหย่อน โดยเมื่อวันที่ 16 ม.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเกิดเหตุสะเทือนขวัญที่กรุงวากาดูกู เมืองหลวงบูร์กินาฟาโซ อดีตอาณานิคมฝรั่งเศส ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก หลังกลุ่มคนร้ายพร้อมอาวุธสงครามครบมือ บุกกราดยิงและจับตัวประกัน ภายในโรงแรมสเปลนดิด ส่งผลให้เกิดการปะทะอย่างดุเดือดกับหน่วยรบพิเศษที่เข้ามาคลี่คลายสถานการณ์เป็นเวลานานกว่าครึ่งวัน      ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของหน่วยงานด้านความมั่นคงบูร์กินาฟาโซ เหตุเกิดเมื่อเวลา…

บทวิเคราะห์ “ไม่แคล้ว ‘ไอซิส’!! กลุ่มต้องสงสัยหมายเลขหนึ่ง ตัวการบึมสยองจาการ์ตา”

Loading

     และแล้ว กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย ในภูมิภาคอาเซียนของเรา ก็ต้องเผชิญหน้ากับเหตุก่อการร้ายรุนแรงเมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 ม.ค.59 โดยกลุ่มคนร้ายได้เลือกสถานที่ลงมือก่อเหตุ เป็นบริเวณใกล้กับสำนักงานของสหประชาชาติ(ยูเอ็น), ทำเนียบประธานาธิบดี และ ซารีนาห์ มอลล์ ช็อปปิ้งมอลล์ใหญ่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมอย่างน้อย 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นคนร้ายตาย 5 ราย ขณะที่มีผู้บาดเจ็บ 24 คน      หลังเกิดเหตุระเบิดสะเทือนขวัญ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซียยังต้องปฏิบัติการไล่ล่ากลุ่มคนร้ายและเกิดการยิงปะทะกันอย่างดุเดือดนานกว่าชั่วโมง จนสร้างความระทึกและบีบหัวใจมากยิ่งขึ้นไปอีก      ท่ามกลางเสียงปืน และสิ้นเสียงระเบิดที่ดังกึกก้องเขย่ากรุงจาการ์ตา กลับยังไม่มีกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่สำหรับความเห็นของนักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงของสำนักข่าวต่างประเทศหลายคน ชี้ว่า รูปแบบการก่อรุนแรงที่เกิดขึ้นในอินโดนีเซียครั้งนี้ แตกต่างไปจากทุกครั้งที่ผ่านมา อีกทั้งยังเป็นเหตุก่อการร้ายในอินโดนีเซียครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เกิดเหตุระเบิดที่โรงแรม เจ ดับบลิว แมร์ริออต​ และโรงแรมริทซ์-คาร์ลตัน ในกรุงจาการ์ตา เมื่อ ก.ค.2552 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ และบาดเจ็บ 53 คน * รูปแบบโจมตีเหมือนปารีส…

อัยการฝรั่งเศสพบชื่อมือระเบิดพลีชีพที่แซงต์เดอนิส์

Loading

     อัยการกรุงปารีสเผยผลการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของมือระเบิดฆ่าตัวตายที่อพาร์ตเมนต์ในเขตแซงต์เดอนิส์เมื่อปลายปีก่อน โดยพบว่าเป็นชายชาวเบลเยียม เชื้อสายโมร็อกโก…      สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อัยการแห่งกรุงปารีสแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคมว่า การตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของมือระเบิดฆ่าตัวตายที่อพาร์ตเมนต์บนถนนคอร์บิล์ยง เขตแซงต์เดอนิส์ ชานกรุงปารีส เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พบว่าคือ นายชาคิป อาครูห์ เกิดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2533 ที่ประเทศเบลเยียม ถือสัญชาติเบลเยียม-โมร์อกโก      หนังสือพิมพ์เลอซัวร์ของเบลเยียมระบุว่า นายอาครูห์มีทะเบียนประวัติอยู่ในบัญชีมุสลิมหัวรุนแรงขององค์กรประสานความร่วมมือเพื่อวิเคราะห์ภัยคุกคาม (L’Organe de coordination pour l’analyse de la menace – OCAM) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคงของเบลเยียม เขาถูกศาลอาญาแห่งกรุงบรัสเซลส์ตัดสินต้องโทษจำคุก 5 ปีเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในคดีที่เกี่ยวกับการก่อการร้ายหลายคดี พร้อมกับนายอับเดลฮามิด อาบาอุดที่ถูกตัดสินจำคุก 20 ปี      อัยการระบุว่า “การพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลจนได้รับผลลัพธ์ที่เชื่อถือได้เกิดจากการตรวจดีเอ็นเอของมือระเบิดพลีชีพและมารดาของนายชาคิป…