ตุรกีเผย บึ้มอิสตันบูลฝีมือไอเอส “เยอรมนี”ประกาศปราบปราม

Loading

     13 ม.ค. 59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเหตุระเบิดรุนแรง เมื่อช่วงเวลา 8.30 น. วานนี้ (12 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น บริเวณจัตุรัสสุลต่านอาเหม็ต ไม่ไกลจากบลูมอสก์ หรือสุเหร่าสีน้ำเงิน และวิหารฮาเกียโซเฟีย สถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในนครอิสตันบูล สถานีโทรทัศน์ฮาเบอร์เติร์ก และสำนักข่าวโดกันของตุรกีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเป็นชาวเยอรมัน 8 คน เปรู 1 คน และมือระเบิด โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 คน      ขณะที่สื่อตุรกีบอกว่าเป็นชาวเยอรมัน 9 คน เปรู 2 คน และนอร์เวย์ 1 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปิดกั้นพื้นที่บริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ และสั่งระงับการให้บริการของรถรางใกล้กับจุดเกิดเหตุ พยานใกล้ที่เกิดเหตุบอกว่าเสียงระเบิดดังมากจนได้ยินไปถึงย่านใกล้เคียง สร้างความตื่นตกใจให้กับนักท่องเที่ยว      ประธานาธิบดีเรเจป ทายยิป แอร์โดแอน ผู้นำตุรกี ประณามเหตุระเบิดครั้งนี้ว่าเป็นการก่อการร้ายโดยฝีมือของมือระเบิดฆ่าตัวตายชาวซีเรียวัย 28 ปี ที่เป็นแนวร่วมกลุ่มรัฐอิสลาม…

เกิดระเบิดรุนแรงขึ้นในอิสตันบูล ตายแล้ว 10 นายกฯตุรกีเรียกประชุมฉุกเฉินด่วน

Loading

     สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 มกราคม เกิดเหตุระเบิดรุนแรงขึ้นบริเวณย่านสุลต่านอาเหม็ด ในนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 15 คน เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นการก่อการร้าย โดยย่านสุลต่านอาเหม็ดถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในนครอิสตันบูล ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวมากถึงวันละหลายหมื่นคน      ข่าวระบุว่า ร่างผู้เสียชีวิตนอนอยู่บริเวณใกล้กับจัตุรัสสุลต่านอาเหม็ด ใกล้กับบลูมอสก์ และฮาเกีย โซเฟีย แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอิสตันบูล ซึ่งเจ้าหน้าที่ของตุรกีเปิดเผยกับเอเอฟพีว่า เหตุระเบิดครั้งนี้น่าจะเชื่อมโยงกับการก่อการร้าย และอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุของการระเบิดและชนิดของระเบิด เบื้องต้นมีรายงานว่า มีชาวเยอรมัน และนอร์เวย์ รวมอยู่ในกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย      เอเอฟพีรายงานว่า นายอาเหม็ด ดาวูโตกลู นายกรัฐมนตรีตุรกี ได้เรียกประชุมรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น ที่มา : Matichon Online วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 17:55:35 น. Link : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1452595625

เตือน ′ไอเอส′เล็งใช้ ′ฝูงโดรนติดระเบิด′ โจมตีเป้าหมายแบบเดียวกับ 9/11

Loading

     รายงานของ อ็อกซ์ฟอร์ดรีเซิร์ชกรุ๊ป หน่วยงานวิจัยที่เป็นคลังสมองด้านความมั่นคงของประเทศอังกฤษ เตือนรัฐบาลอังกฤษให้เตรียมพร้อมรับมือกับอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ที่วางขายทั่วไปในตลาด อาจถูกนำมาใช้ติดวัตถุระเบิดโจมตีเป้าหมายอย่าง โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หรือรถยนต์ของนายกรัฐมนตรีได้ พร้อมเผยไอเอสเตรียมใช้โดรนก่อเหตุก่อการร้ายลักษณะเดียวกับ 9/11      รายงานในโครงการ “การควบคุมระยะไกลของ” อ็อกซ์ฟอร์ดรีเซิร์ชกรุ๊ป แสดงความกังวลว่า “โดรนจะถูกใช้ในฐานะระเบิดแสวงเครื่องทางอากาศที่เรียบง่าย หาได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ” โดยรายงานระบุถึงเป้าหมายที่อาจถูกโจมตีด้วยโดรนติดระเบิดได้เช่น สถานเอกอัครราชทูต โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ การประชุมสุดยอดผู้นำจี 7 รวมถึงรถยนต์ของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ      รายงานดังกล่าวเรียกร้องให้รัฐบาล ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานความมั่นคงจำเป็นที่จะต้องเพิ่มมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีด้วยโดรนลง เช่นมาตรการออกใบอนุญาต ระบบเลเซอร์เพื่อป้องกันเป้าหมาย ระบบคลื่นวิทยุก่อกวน และข้อแนะนำสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในการยิงโดรนต้องสงสัย      ขณะที่รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า “มีรายงานว่ากลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) กำลังวางแผนโจมตีจุดที่มีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมากด้วยฝูงโดรนเพื่อก่อเหตุลักษณะเดียวกับเหตุ 9/11 ที่เคยเกิดขึ้น” ที่มา : MatichonOnline วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 14:10:15…

กล้องวงจรปิดจับภาพผู้ต้องสงสัยนาย อับเดซาลาม ในปั๊มน้ำมันของฝรั่งเศส

Loading

ภาพชายทั้งสามคนในปั้มน้ำมันหลังจากที่ปารีสโดนโจมตี ภาพแรกของผู้ต้องสงสัย นาย ซาลาส อับเดซาลาม ปรากฏตัวออกมา BFMTV รายงาน พบผู้ต้องสงสัยถูกจับภาพในปั้มน้ำมันโดยกล้องวงจรปิดในเช้าวันที่ 14 ธันวาคม 2558, หนึ่งวันหลังจากที่ฝรั่งเศสโดนโจมตีซึ่งมีผู้เสียชีวิต 130 คน ที่มา :  BBC News 12 มกราคม 2559 Link : http://www.bbc.com/news/world-europe-35286647

จนท.พบผงดินระเบิดจากกระเป๋าผู้โดยสารสนามบินสวีเดน สั่งอพยพคนด่วน

Loading

     สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ตำรวจสวีเดนเปิดเผยว่า พื้นที่หลายส่วนของสนามบินสตอกโฮล์ม-สกาฟสตาในเมืองนีโคปิงประเทศสวีเดน ได้รับคำสั่งให้มีการอพยพเมื่อวันที่ 10 มกราคมหลังพบร่องรอยของผงดินระเบิดจากกระเป๋าสัมภาระบริเวณจุดตรวจความปลอดภัย      ทั้งนี้ หน่วยเก็บกู้ระเบิดจากสตอกโฮล์มกำลังเดินทางยังเมืองสกาฟสตา ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ราว 100 กิโลเมตร      ตำรวจสวีเดนกล่าวว่า กระเป๋าที่กำลังตกอยู่ในการตรวจสอบครั้งนี้เป็นของผู้หญิงชราคนหนึ่ง ซึ่งให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าทีตำรวจอย่างดี ขณะที่หญิงคนดังกล่าวเผยว่า ตนไม่ทราบว่าผงดังกล่าวเข้ามาอยู่ในกระเป๋าได้อย่างไร      สนามบินสกาฟสตานับเป็นสนามบินใหญ่อันดับ 5 ของประเทศสวีเดน ส่วนใหญ่สายการบินต้นทุนต่ำ และเครื่องบินขนส่งสินค้ามักให้บริการอยู่ที่สนามบินแห่งนี้ แต่ละปีมีผู้โดยสารมาใช้บริการราว 2.5 ล้านคน ที่มา : Matichon Online วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 18:36:15 น. Link : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1452424585

สหรัฐจับมือยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีรับมือก่อการร้าย

Loading

สหรัฐจับมือบรรดาบ.ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี ตั้งหน่วยงานร่วมกันเพื่อรับมือความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายในโลกอินเทอร์เน็ต รัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีบารัก โอบามาประกาศจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจร่วมกับบริษัทยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีในการต่อต้านการโฆษณาชวนเชื่อออนไลน์เพื่อปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรงในอินเทอร์เน็ต หลังได้หารือกับบรรดาผู้บริหารของบริษัทเทคโนโลยีเมื่อวานนี้ (8 ม.ค.) หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาว นายเดนิส แมคโดโน ซึ่งเป็นประธานในการหารือระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลและกลุ่มตัวแทนธุรกิจด้านเทคโนโลยีในเมืองซานโฮเซในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นเปิดเผยว่า รัฐบาลจะยกระดับความร่วมมือระหว่างภาครัฐและผู้ประกอบการในการรับมือกับภัยก่อการร้ายที่ปรับรูปแบบมาใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการเผยแพร่แนวคิด โดยจะมีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิและกระทรวงยุติธรรมเป็นแกนหลักในการดำเนินงาน นอกจากนี้ เนื้อหาหลักของการหารือยังครอบคลุมถึงการหาทางรับมือกับการใช้ประโยชน์จากสื่อสังคมออนไลน์ในการระดมพลและเผยแพร่แนวคิดของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส การใช้เทคโนโลยีในการยับยั้งความรุนแรง และระบุรูปแบบของการระดมพลเพื่อตัดตอนวงจร รวมถึงการใช้กฎหมายเพื่อจัดการกับการสื่อสารที่เข้ารหัสของกลุ่มผู้ต้องสงสัย สำหรับผู้เข้าร่วมการหารือครั้งนี้ ฝ่ายผู้ประกอบการประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงทั้งจากเฟซบุ๊ค กูเกิล ทวิตเตอร์ ไมโครซอฟท์ ยาฮู ลิงค์อิน รวมถึงนายทิม คุก หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอของแอ๊ปเปิ้ล ส่วนฝ่ายรัฐบาลนอกจากนายแมคโดโนแล้ว ยังมีนางลอเร็ตตา ลินช์ รัฐมนตรียุติธรรม นายเจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง หรือเอฟบีไอ นายเจมส์ แคล็ปเปอร์ ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐ หรือซีไอเอ และนายไมค์ โรเจอร์ส ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ หรือเอ็นเอสเอ ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 09 มกราคม 2559, 19:00