โดนอีกแล้ว! เครื่องบิน 2 ลำในอินเดียต้องอพยพคนออก หลังได้รับแจ้งว่ามีระเบิด

Loading

     เอพี – เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ทำการอพยพผู้คนลงจากเครื่องบิน 2 ลำในวันพฤหัสบดี (17 มี.ค.) ที่สนามบินอินทิราคานธี ในกรุงนิวเดลี หลังจากได้รับโทรศัพท์แจ้งจากบุคคลนิรนามว่ามีระเบิดถูกติดตั้งไว้บนเครื่องบิน นับเป็นเหตุการณ์ระทึกขวัญครั้งที่ 3 ที่ส่งผลกระทบต่อสายการบินของอินเดียในช่วงเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง      สื่ออินเดียระบุว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่ามีการพบวัตถุระเบิดหรือไม่ แต่ผู้โดยสารและลูกเรือได้ถูกนำตัวออกจากเครื่องบินของ “แอร์ อินเดีย” ซึ่งเป็นเที่ยวบินในประเทศที่จะเดินทางจากนิวเดลีไปสู่เมืองบูบันเนสชวาร์ ทางตะวันออกของประเทศ ทั้งยังมีการตรวจเช็กกระเป๋าและสัมภาระ      อีกด้านหนึ่งของสนามบินอินทิราคานธี ผู้โดยสารบนเครื่องบินของ “รอยัล เนปาล แอร์ไลน์” ซึ่งจะเดินทางจากนิวเดลีไปสู่กาฐมาณฑุ เมืองหลวงของเนปาล ก็ถูกสั่งให้อพยพคนลงจากเครื่องด้วยเช่นกัน เครื่องบินทั้งสองลำได้ถูกแยกกันไปจอดคนละจุด ก่อนจะทำการตรวจค้น      ห้องควบคุมของทางสนามบินได้รับแจ้งจากชายคนหนึ่งที่บอกว่ามีระเบิดอยู่บนเครื่องบินที่จะไปเนปาล เขายังบอกด้วยว่าเครื่องบินของแอร์อินเดียก็มี “ปัญหา” ด้วยเช่นกัน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม      ผู้โดยสารทั้งหมด 155 ราย และลูกเรือ 9 รายของเที่ยวบินที่จะไปเนปาล กับผู้โดยสาร…

‘สุวรรณภูมิ’ ยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่พบระเบิดบนเครื่อง ‘แอร์อินเดีย’

Loading

     สายการบินอินเดีย แจ้งมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เที่ยวบิน AI332 นิวเดลี-สุวรรณภูมิ กำหนดลงที่ไทยเวลา 19.23 น. เร่งอพยพผู้โดยสาร ให้้ จนท.EOD เข้าตรวจ ล่าสุดไม่พบระเบิด ส่งผดส.ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองตามปกติ ยกเลิกเหตุฉุกเฉิน…      เมื่อเวลา 19.10 น.วันที่ 16 มี.ค.2559 ร.ต.ท.สิทธิพงษ์ ปานไธสงค์ รองสว.(สอบสวน) สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รับแจ้งจากหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่าได้รับแจ้งจากกัปตันสายการบินแอร์อินเดียว่า มีเหตุขู่วางระเบิดบน สายการบินแอร์ เที่ยวบิน AI 332 นิวเดลี-สุวรรณภูมิ กำหนดลงที่ไทยเวลา 19.23 น. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนประสานหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และประสานฝ่ายเก็บกู้ของ ทสภ.และฝ่ายดับเพลิง      หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณ ที่จอดอากาศยานเฉพาะกรณีมีเหตุฉุกเฉิน ซึ่งแยกออกจากอาคารผู้โดยสารและหลุมจอดอากาศยานปกติเบื้องต้น ทางหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรับแจ้งจากกัปตันว่า ทางสนามบินอินเดียโทรมาบอกว่า…

ระทึก! เกิด คาร์บอมบ์ ในกรุงเบอร์ลิน คนขับดับสลด 1 ศพ

Loading

ตำรวจเยอรมนีวุ่น…เกิดเหตุคาร์บอมบ์ ในกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวง คร่าชีวิตคนขับ ดับ 1 ศพ เตือนประชาชนในละแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ปิดหน้าต่างอาคารบ้านเรือน และอย่าเพิ่งออกจากที่พัก จนกว่าเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบรถเก๋งคันเกิดเหตุเสร็จเรียบร้อยว่ามีระเบิดซุกซ่อนอยู่อีกหรือไม่ เมื่อวันที่ 15 มี.ค.59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน อ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงเยอรมนีว่า เกิดเหตุรถยนต์ติดระเบิด (คาร์บอมบ์) ที่เขตชาร์ลอตเต็นเบิร์ก ทางตะวันตกของกรุงเบอร์ลิน เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ของเช้าวันที่ 15 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น เป็นเหตุให้คนขับรถ เสียชีวิต 1 ราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อสรุปเหตุระเบิดครั้งนี้ว่า วัตถุระเบิดถูกติดตั้งอยู่ภายในรถ หรือด้านนอกรถจนเป็นเหตุให้รถยนต์เกิดระเบิดขึ้น จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตำรวจพบว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นขณะที่รถเก๋งคันดังกล่าว กำลังแล่นอยู่บนถนน และได้ดำเนินการตรวจสอบรถเก๋งคันนี้ว่าอาจมีวัตถุระเบิดซุกซ่อนอยู่อีก โดยบีบีซีแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกรุงเบอร์ลินได้บอกกับประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุว่า ให้ปิดประตูหน้าต่างอาคารบ้านเรือน และควรอยู่แต่ในที่พักก่อนการตรวจสอบรถเก๋งคันที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเสร็จสิ้นเรียบร้อย   ด้าน เดลี่ เมล ออนไลน์ รายงานด้วยว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับชายคนขับรถที่เสียชีวิต หรือรุ่นของรถยนต์ แต่จากภาพที่สำนักงานตำรวจในกรุงเบอร์ลินเผยแพร่ทางทวิตเตอร์ แสดงให้เห็นว่า เป็นรถเก๋ง…

ตุรกีเจอคาร์บอมรอบ 2 ในหนึ่งเดือน ตาย 34 เจ็บกว่าร้อย

Loading

     เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ในกรุงอังการา เมืองหลวงของตุรกีอีกครั้ง เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นของตุรกีที่บริเวณสวนสาธารณะกูเวน ในเขตคิซิเลย์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการเดินทางและเป็นพื้นที่เขตธุรกิจของกรุงอังการา แรงระเบิดทำให้รถหลายคันในที่เกิดเหตุเหลือแต่ซาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการอพยพผู้คนออกจากบริเวณใกล้เคียงเพื่อป้องกันกรณีเกิดเหตุโจมตีซ้ำ โดยรถพยาบาลหลายคันเร่งรุดไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ มีรายงานผู้เสียชีวิต 34 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 125 คน ในจำนวนนี้ 19 รายอาการสาหัส โดยคาดว่าผู้เสียชีวิต 2 รายน่าจะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ เบื้องต้นยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีดังกล่าว แต่ทางการตุรกีระบุว่าผลการตรวจสอบบ่งชี้ว่าเหตุระเบิดครั้งนี้น่าจะเป็นฝีมือของพรรคแรงงานเคอร์ดิสถานหรือกลุ่มที่เกี่ยวข้อง ด้านประธานาธิบดีตุรกีระบุว่ากลุ่มก่อการร้ายมุ่งเป้าที่จะโจมตีพลเรือน เพราะกำลังเพลี่ยงพล้ำในการต่อสู้กับกองกำลังตุรกี พร้อมกับย้ำว่าเหตุโจมตีดังกล่าวยิ่งทำให้ทางการตุรกีมุ่งมั่นที่จะจัดการกับกลุ่มก่อการร้ายต่อไป ขณะที่นายกรัฐมนตรีตุรกีเรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นการฉุกเฉินหลังเกิดเหตุการณ์โจมตีครั้งล่าสุดโดยรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของตุรกียืนยันว่าจะสามารถสรุปผลการสอบสวนได้ภายในเช้าวันที่ 14 มีนาคมนี้ และจะมีการระบุชื่อผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว เหตุระเบิดครั้งล่าสุดถือเป็นครั้งที่ 2 ในเวลาเพียง 1 เดือน หลังจากที่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็เพิ่งเกิดเหตุระเบิดขึ้นในกรุงอังการาเช่นกัน ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอังการา แจ้งว่า ไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นครั้งนี้แต่อย่างใด   ————————————— ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 14 มี.ค. 2559 Link : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1457925035

กลุ่มอัลกออิดะห์ อ้างอยู่เบื้องหลังเหตุกราดยิงรีสอร์ทไอวอรี่โคสต์

Loading

     กลุ่มข่าวกรองที่เฝ้าติดตามเว็บไซด์ ของกลุ่มมุสลิมที่ยึดแนวทางการใช้ความรุนแรง หรือ “ญิฮาด” เปิดเผยว่า กลุ่มอัลกออิดะห์ได้ออกมาอ้างว่าอยู่เบื้องหลังของกลุ่มมือปืนชายฉกรรจ์ 6 คน ที่ก่อเหตุกราดยิงผู้คนและนักท่องเที่ยวบริเวณชายหาดของรีสอร์ทแห่งหนึ่ง อยู่ห่างจากย่านเศรษฐกิจในเมืองหลวงเก่า คือ กรุงอาบิดจัน ราว 40 กิโลเมตร ซึ่งนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 16 คน เป็นชาวต่างชาติ 4 คน สัญชาติฝรั่งเศส และเยอรมนี      ขณะที่  ประธานาธิบดี “อะลัสซาน วาตารา” ของไอวอรี่ โคสต์ เปิดเผยว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นพลเรือน 14 คน และเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจอีก 2 นาย พร้อมกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความมั่นคง ที่เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ และจัดการกับเหตุก่อการร้ายครั้งนี้ ให้สงบลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ไอวอรี่โคสต์ ถือเป็นประเทศ ที่สงบที่สุดประเทศหนึ่งในแอฟริกาตะวันตก โดยเมื่อปี 2545 เคยเกิดสงครามกลางเมือง ระหว่างชาวมุสลิมที่อยู่ทางตอนเหนือกับชาวคริสต์ส่วนใหญ่ที่อยู่ทางตอนใต้ และได้มีการทำข้อตกลงสันติภาพต่อกัน ——————————————- ที่มา : Ch7 News /…

ตร.จับสื่อออสซี่บุกถึงตัว”นาจิบ”

Loading

     เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 มี.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียแจ้งเหตุผลการกักตัวนาย ลินตัน เบสเซอร์ และนายหลุยส์ อีโรกลู ผู้สื่อข่าวชาวออสเตรเลียจากสำนักข่าวเอบีซี ถูกจับกุมและถูกห้ามเดินทางออกจากประเทศมาเลเซีย ว่าเป็นเพราะทั้งสองข้ามเส้นการรักษาความปลอดภัยและพยายามเข้าถึงตัวนายกฯ นาจิบอย่างก้าวร้าว ระหว่างที่ผู้นำมาเลเซียเดินทางไปมัสยิดที่เมืองกูชิง บนเกาะบอร์เนียว      “ทั้งสองถูกจับกุมเพราะไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับของตำรวจที่ไม่อนุญาตให้ข้ามเส้นรักษาความปลอดภัย” แถลงการณ์ของตำรวจมาเลเซียระบุ ทั้งนี้มีรายงานว่า นักข่าวทั้งสองพยายามบุกเข้าไปประชิดตัวนายกรัฐมนตรี เพื่อยิงคำถามเกี่ยวกับข้อกล่าวหาทุจริต      สำหรับนักข่าวทั้งสองทำรายการข่าวเชิงสืบสวนสอบสวน “สี่มุม” หรือ โฟร์ คอร์เนอร์ ให้สถานีเอบีซี ออสเตรเลีย หลังถูกควบคุมตัวแล้ว ทางตำรวจก็ปล่อยตัวออกมาโดยไม่ได้ตั้งข้อหาใดๆ และคืนพาสปอร์ตให้แต่ย้ำว่ายังไม่ให้ออกจากมาเลเซีย เพราะทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องการหารืออัยการว่าจะสั่งฟ้องนักข่าวทั้งสองหรือไม่      ก่อนหน้านี้ นายเบสเซอร์เคยตั้งคำถามนายนาจิบ ถึงกรณีที่ถูกเชื่อมโยงในคดีฆาตกรรม น.ส.อัลตันตูยา ชาอาริบู หญิงสาวชาวมองโกเลียในปี 2549 ซึ่งยังคงมีข้อสงสัยมาจนถึงปัจจุบัน ในคดีดังกล่าว มีผลการสอบสวนว่าน.ส.ชาอาริบูเกี่ยวข้องกับการต่อรองซื้อขายเรือดำน้ำฝรั่งเศสในปี 2545 มูลค่า 1,100 ล้านดอลลาร์ หรือราว 38,500…