ศาลเบลเยียมสั่งเฟซบุ๊กหยุดติดตามผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต

Loading

ศาลเบลเยียมสั่งให้ “เฟซบุ๊ก” หยุดติดตามผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในเบลเยียม ภายใน 48 ชม. ไม่เช่นนั้นจะต้องชดใช้ค่าเสียหายวันละ 2.5 แสนยูโร ชี้ เป็นการคุ้มครองสิทธิประชาชน เมื่อวันจันทร์ที่ 9 พ.ย. ศาลแพ่งแห่งกรุงบรัสเซลส์ได้พิพากษาตัดสินให้เฟซบุ๊กต้องหยุดจัดการรวบรวม ข้อมูลและติดตามความเคลื่อนไหวประจำของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในเบลเยียม โดยมีเวลา 48 ชั่วโมงในการแก้ไข มิฉะนั้น จะต้องชดใช้ค่าเสียหายวันละ 250,000 ยูโร ให้กับคณะกรรมาธิการปกป้องความเป็นส่วนตัวแห่งเบลเยียม (Commission belge de protection de la vie privée – CPVP) กรณีที่ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา เครือข่ายสังคมเฟซบุ๊ก ได้มีการแถลงการณ์ตอบโต้ในทันที โดยระบุว่า จะทำการอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลแพ่งแห่งกรุงบรัสเซลส์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา “เราได้ใช้ datr-cookie มาเป็นเวลากว่าห้าปีแล้ว เพื่อให้ความมั่นใจแก่ผู้ใช้ที่มีบัญชีเฟซบุ๊ก จำนวน 1,500 ล้านคนทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เราจะอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว และกำลังดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้เกิดการชะงักงันในวงกว้าง สำหรับการเข้าใช้บัญชีของผู้ใช้เฟซบุ๊กในเบลเยียม” นายบาร์ท ทอมเมอไลน์ รัฐมนตรีรับผิดชอบการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวกล่าวว่า…

รู้ทัน ‘แก๊งสกิมเมอร์’!! เปิดวิธีรับมือ ก่อนตกเป็นเหยื่อโจรดูดเงิน ATM

Loading

ขึ้นชื่อว่า “มิจฉาชีพ” เทคโนโลยีก้าวล้ำแค่ไหนก็ตามจนทัน และเล่ห์กลของมิจฉาชีพก็ย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เพราะล่าสุด มีผู้เสียหายหลายราย เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายหลังไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม จู่ๆ เงินในบัญชีที่ฝากไว้กับธนาคารกลับอันตรธานหายไป โดยไม่ทราบสาเหตุ! … ไม่ได้เผชิญหน้ากับโจร หรือคนแปลกหน้า แต่เจอกับเครื่องสกิมเมอร์ เครื่องมือของเหล่ามิจฉาชีพในปัจจุบัน ซึ่งที่ผ่านมาแม้มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อ ไม่รู้กี่คนต่อกี่คน ออกข่าวทางสื่อ พร้อมการย้ำเตือนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางธนาคาร แต่ไม่วาย มีผู้ต้องเป็นเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำอีก นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดการป้องกันอาชญากรรมทางการเงินและความปลอดภัย ธ.ไทยพาณิชย์ แก๊งสกิมเมอร์ ไม่เพียงแต่จะสร้างความเดือดร้อนแก่ลูกค้า ผู้ใช้บริการ สร้างความเดือดร้อนแก่ธนาคารเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางด้านความปลอดภัย เศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย โดย ‘ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์’ ได้พุ่งตรงไปยัง “นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข” รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดการป้องกันอาชญากรรมทางการเงินและความปลอดภัย ธนาคารไทยพาณิชย์ ให้มาไขข้อข้องใจ ถึงกระบวนการสกิมเมอร์ อย่างละเอียด เพื่อเป็นแนวทางป้องกัน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้ !! เร่ิมจากกระบวนการที่คนร้าย ต้องการข้อมูลในแถบแม่เหล็ก ของบัตรเอทีเอ็ม หรือ บัตรเครดิตของลูกค้า รวมทั้งรหัสบัตร โดยคนร้ายจะเอาเครื่องมืออุปกรณ์…

จับนักข่าวอียิปต์ข้อหา “เผยแพร่ข้อมูลเท็จอันเป็นภัยต่อประเทศ”

Loading

นายฮอสซัม บาห์กัต (Hossam Bahgat) นักข่าวอิสระและนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน วัย 37 ปี ถูกทางการจับกุม และอาจถูกแจ้งข้อหาว่าเผยแพร่ข้อมูลเท็จ           รายละเอียดเรื่องการควบคุมตัวและสอบสวนนี้ถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Mada Masr ที่ นาย นายฮอสซัม บาห์กัต ทำงานให้โดยรายงานว่านายบาห์กัต ได้รับหมายเรียกจากหน่วยข่าวกรองของทหารเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (5 พ.ย. 2558) และเขาได้ไปที่หน่วยบัญชาการใหญ่เมื่อเช้าวันอาทิตย์ โดยที่เขาไม่ได้รับอนุญาตให้นำโทรศัพท์มือถือ และทนายความเข้าไปด้วย           นายบาห์กัตถูกซักถามอยู่นานถึง 9 ชั่วโมง ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใด แต่นายบาห์กัตบอกว่าเขาอาจถูกแจ้งข้อหา “เผยแพร่ข้อมูลคลาดเคลื่อนที่เป็นภัยกับผลประโยชน์ของชาติ”           ทางเว็บไซต์ Mada Masr รายงานว่า นายบาห์กัตยังถูกกักตัวอยู่ในสำนักงานอัยการทหาร           ขณะที่องค์การแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล  ระบุว่า การจับกุมผู้สื่อข่าวอิสระรายนี้ เป็น “การตอกฝาโลง”  อีกครั้งต่อปัญหาเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นในอียิปต์           ประชาชนนับหมื่นคนถูกจับกุมคุมขังนับตั้งแต่กองทัพโค่นอำนาจและขับไล่นายโมฮัมเหม็ด มอร์ซี อดีตประธานาธิบดีอียิปต์ เมื่อปี 2556        …

อินเดียเตรียมแต่งตั้งตำรวจข้ามเพศคนแรกของประเทศ

Loading

รัฐทมิฬนาฑูเตรียมแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจข้ามเพศคนแรกของประเทศ หลังจากศาลมีคำพิพากษาว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ เค ปริธิกา ยาชินี ซึ่งเกิดมาเป็นเพศชายและต่อมาได้ผ่าตัดแปลงเพศเป็นหญิง สมัครเข้ารับราชการเป็นตำรวจในรัฐทมิฬนาฑู อย่างไรก็ตามคณะกรรรมการข้าราชการตำรวจในรัฐแห่งนี้ไม่มีกฎระเบียบรองรับตำรวจที่เป็นเพศที่สาม ปริธิกาจึงยื่นฟ้องให้ศาลวินิจฉัย โดยล่าสุดนี้ศาลในเมืองเจนไนวินิจฉัยว่าเธอสามารถรับราชการเป็นตำรวจได้ สถานีโทรทัศน์เอ็นดีทีวีในอินเดียรายงานว่า เธอตื่นเต้นมากกับคำพิพากษานี้ และนี่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับชุมชนคนข้ามเพศ ทั้งนี้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ศาลฎีกาอินเดียได้มีคำพิพากษาให้ยอมรับกลุ่มคนข้ามเพศเป็นเพศที่สาม ซึ่งหมายความว่า รัฐบาลจะต้องสงวนตำแหน่งงานและที่นั่งในสถาบันการศึกษาไว้ให้กลุ่มคนข้ามเพศ ให้สอดคล้องกับแนวทางที่ปฏิบัติกับชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ คาดว่าในอินเดียมีคนข้ามเพศอยู่ราว 2,000,000 คน ภาพประกอบ เค ปริธิกา ยาชินี ที่มา เฟสบุคเพจ บีบีซีไทย – BBC Thai

อังกฤษเผยรายละเอียดแผนสอดแนมทางออนไลน์

Loading

อังกฤษเผยรายละเอียดแผนสอดแนมทางออนไลน์ เตรียมออกกฎหมายสั่งเก็บข้อมูลการใช้อินเทอร์เน็ตของชาวบ้านได้นาน 1 ปี รัฐบาลอังกฤษเผยแพร่แผนยกเครื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสอดแนมทางออนไลน์ โดยกำหนดแนวทางให้ตำรวจและหน่วยงานด้านความมั่นคงสามารถเข้าดูรายละเอียดการสื่อสารทางออนไลน์ของประชาชนได้ และบริษัทที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะต้องจัดเก็บข้อมูลการใช้อินเทอร์เน็ตของลูกค้าไว้เป็นเวลา 1 ปี นางเทเรซา เมย์ รมว.มหาดไทยอังกฤษ เปิดเผยว่าข้อเสนอตามแผนดังกล่าวซึ่งจะบรรจุอยู่ในร่างกฎหมายว่าด้วยอำนาจในทางสืบสวน (Investigatory Powers Bill) ที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรและสภาขุนนาง ได้กำหนดให้ตำรวจและเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงสามารถดูรายชื่อเว็บไซต์ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเปิดดูได้ โดยไม่จำเป็นต้องคำสั่งจากศาล อย่างไรก็ดี จะมีมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้หน่วยงานความมั่นคงและหน่วยข่าวกรองสอดแนมดูรายละเอียดเนื้อหาการใช้อินเทอร์เน็ตของประชาชนได้ทั้งหมด นางเมย์ กล่าวต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่าเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องมีอำนาจตามที่เสนอดังกล่าวเพื่อป้องกันอาชญากรรมและปราบปรามการก่อการร้าย นอกจากนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวยังกำหนดรายละเอียดที่เป็นข้อเสนออื่น ๆ รวมทั้งวิธีการที่รัฐจะสามารถเจาะเข้าไปยังอุปกรณ์และจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากที่เคลื่อนไหวอยู่บนอินเทอร์เน็ตได้ อันเป็นการให้อำนาจทางกฎหมายแก่ศูนย์บัญชาการการสื่อสารของรัฐบาลอังกฤษ (GCHQ) ซึ่งเคยกระทำดังกล่าวโดยไม่เปิดเผยมาแล้ว เช่นที่นายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน เคยออกมาระบุ ร่างกฎหมายดังกล่าวยังกำหนดด้วยว่าเป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่บริษัทของอังกฤษจะต้องให้ความช่วยเหลือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายให้เจาะเข้าไปยังอุปกรณ์เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ต้องการ หากสามารถทำได้ในทางปฏิบัติ ให้อำนาจคณะผู้พิพากษาในการยับยั้งการสอดแนมข้อมูลโดยได้รับอนุญาตจากกระทรวงมหาดไทย กำหนดบทลงโทษทางอาญาโดยมีโทษจำคุกสูงสุด 2 ปีแก่ผู้ที่ได้รับข้อมูลการสื่อสารจากผู้ให้บริการโทรคมนาคม ไม่ว่าจะเป็นการกระทำโดยล่วงรู้หรือเลินเล่อ สงวนอำนาจการสืบสวนบางประการให้เทศบาลท้องถิ่น เช่น ตรวจสอบการโกงการรับสวัสดิการ แต่เทศบาลท้องถิ่นจะไม่มีอำนาจเข้าถึงข้อมูลทางออนไลน์ที่บริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจัดเก็บไว้ ตำรวจจะไม่สามารถเข้าถึงแหล่งข่าวของสื่อได้โดยปราศจากคำสั่งของผู้พิพากษา เป็นต้น ด้านชามี จักราบาร์ตี ผู้อำนวยการกลุ่มรณรงค์เพื่อสิทธิพลเมือง Liberty กล่าวว่าร่างกฎหมายดังกล่าวถือได้ว่ารุกรานความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตของคนทุกคนในอังกฤษ นับจากนี้คงต้องจับตาดูท่าทีของสภาว่าจะดำเนินการอย่างไรในการสร้างความสมดุลระหว่างความเป็นส่วนตัวและการสอดแนม ขณะที่นายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ได้โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ ว่า…