ผบ.ตร. เตรียมแผนรับมือผู้ชุมนุม ดูแลความเรียบร้อยรัฐสภา วันโหวตนายกฯ

Loading

  “ผบ.ตร.” สั่ง “บช.น.” ดูแลความปลอดภัยในวันประชุมรัฐสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี 13 ก.ค.นี้ โดยจัดแผนรองรับ บังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ห้ามชุมนุมในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร รอบรัฐสภา   เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 66 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. กล่าวถึงการเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยในวันประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ว่า กรณีที่จะมีการประชุมสภาฯ ในสัปดาห์หน้า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติ์ประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.รอยอิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ดูแลในภาพรวม และสั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ดูแลแผนความปลอดภัย, การบริหารจราจร และการบริหารพื้นที่ของรัฐสภา   โดยให้จัดเตรียมด้านกำลังพล อุปกรณ์ และยานพาหนะ เพื่อขับเคลื่อนการปฏิบัติงาน ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีการบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สั่งห้ามไม่ให้มีการจัดชุมนุมในรัศมีไม่เกิน…

ราชกิจจา แพร่คำสั่ง ตร. ห้ามนำเข้า-สั่งพิมพ์หนังสือ “ปวิน”

Loading

  เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ห้ามนำเข้า-สั่งพิมพ์เผยแพร่หนังสือ “ปวิน”   วันที่ 7 กรกฎาคม 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 370/2566 เรื่อง “ห้ามสั่งเข้าหรือนำเข้าสิ่งพิมพ์เพื่อเผยแพร่ในราชอาณาจักร” ที่ลงนามโดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ   โดยระบุว่าด้วยปรากฏสิ่งพิมพ์ต่างประเทศ “Rama X : The Thai Monarchy King Vajiralongkorn” เขียนโดย นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ มีลักษณะของภาพปกหนังสือและบทความที่นำเสนอสื่อถึงทัศนคติของผู้เขียน     ที่เป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินีรัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ หรือจะกระทบต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน   อาศัยอำนาจตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติจดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 จึงห้ามสั่งเข้า หรือนำเข้าสิ่งพิมพ์ “Rama…

กทม. ปูพรมตรวจถังดับเพลิงกว่า 40,000 ถัง เร่งจัดซื้อใหม่ทดแทนชำรุด

Loading

  น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสภาพถังดับเพลิงว่า จากการปูพรมตรวจสภาพถังในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้ง 50 สำนักงานเขตในกทม.   ล่าสุดยังตรวจไม่ครบทั้ง 100% โดยมีการตรวจถังไปทั้งหมด 44,160 ถัง ใช้งานได้ปกติประมาณ 26,000 ถัง และจัดเก็บมา 19,657 ถัง เนื่องจากชำรุด โดยอยู่ระหว่างการส่งไปยังสำนักสิ่งแวดล้อม เพื่อเข้าสู่กระบวนการทำลาย   น.ส.ทวิดา กล่าวว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการติด QR Code ถังที่ยังอยู่ในชุมชน ปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว 3,737 ถัง โดยสำนักงานเขต จะปูพรมและบันทึกข้อมูลของถังดับเพลิง โดยแต่ละถังจะมีทั้งหมด 3 ข้อมูล คือ 1. ประเภทของถังดับเพลิง 2. ประวัติการบำรุงรักษาล่าสุด และ 3. ตำแหน่งของถัง   “ประโยชน์สุดท้ายคือจะทำให้วิเคราะห์ได้ว่ายังมีชุมชนไหนที่ยังขาดเครื่องมือ เมื่อดำเนินการติดตั้งให้แล้วความสามารถชุมชนในการเผชิญเหตุเบื้องต้นก็จะดีขึ้น ต่อไปจะจัดระบบให้มีการตรวจถังทุกปีโดยสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานเขต…

แหล่งข่าวเผย Google ได้รับข้อมูลลับเกี่ยวกับกฎหมายภาษีของออสเตรเลียอย่างไม่เหมาะสมจาก PwC Australia

Loading

  สำนักข่าว Reuters รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า PwC Australia บริษัทสาขาของผู้ตรวจสอบบัญชีรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกส่งข้อมูลลับที่เกี่ยวกับวันประกาศใช้กฎหมายภาษีใหม่ ที่หลุดมาจากการประชุมด้านภาษีของรัฐบาลออสเตรเลีย Reuters ชี้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีการระบุว่า Google มีส่วนในกรณีฉาวในออสเตรเลียเกี่ยวกับการปล่อยข้อมูลลับดังกล่าว   โดย PwC กำลังถูกตรวจสอบอย่างหนักจากกรณีที่ ปีเตอร์ คอลลินส์ (Peter Collins) ที่ปรึกษารัฐบาลออสเตรเลียในด้านการออกกฎหมายต่อต้านการเลี่ยงภาษี และยังเป็นอดีตหุ้นส่วนของ PwC ได้ส่งร่างเอกสารลับที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับแผนของรัฐบาลให้กับพรรคพวก   ข้อมูลนี้ยังถูกนำไปใช้ในการพัฒนาความร่วมมือทางธุรกิจกับบรรดาบริษัทข้ามชาติต่าง ๆ   กรณีเริ่มจากเมื่อเดือนสิงหาคม 2015 หนึ่งในเพื่อนร่วมงานของคอลลินส์ได้ส่งอีเมลให้กับพนักงาน Google รายหนึ่ง อีเมลมีเนื้อหาระบุวันที่รัฐบาลออสเตรเลียน่าจะประกาศใช้กฎหมายต่อต้านการเลี่ยงภาษีนานาชาติ (MAAL)   แต่แหล่งข่าวระบุว่าผู้ที่ส่งอีเมลไม่ได้บอก Google ว่าข้อมูลนี้เป็นความลับ   ด้าน Google ออกมาแถลงว่ารู้สึกผิดหวังกับ PwC ที่เปิดเผยข้อมูลอย่างไม่เหมาะสม แต่ก็ยืนยันว่า Google ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว และประสานโดยตรงกับสรรพากรของออสเตรเลียมาโดยตลอด   ส่วน PwC Australia เผยว่าลูกค้าของบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และบริษัทเองไม่ได้ส่งข้อมูลลับที่ช่วยให้ลูกค้าจ่ายภาษีน้อยลงแต่อย่างใด…

เยอรมนีควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 7 ราย ฐานก่อตั้งกลุ่มก่อการร้ายคล้าย ISIS

Loading

  สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตำรวจเยอรมันได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 7 รายในวันที่ 6 ก.ค. ในข้อหาก่อตั้งองค์กรก่อการร้าย โดยมีจุดประสงค์เพื่อออกปฏิบัติการโจมตีคล้ายกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ISIS) อัยการเยอรมันระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้ต้องสงสัยชาวเติร์กเมน ชาวทาจิกิสถาน และชาวคีร์กีซถูกจับกุมในรัฐนอร์ทไรน์-เว็สท์ฟาเลิน ทางตะวันตกของเยอรมนี โดยผู้ต้องสงสัยทั้งหมดรู้จักกันมานานและเดินทางเข้าประเทศผ่านทางยูเครนไม่นานหลังจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน เริ่มขึ้นในปี 2565   รายงานระบุว่า พวกเขาก่อตั้งองค์กรก่อการร้ายเมื่อเดือน มิ.ย. 2565 และมองหาเป้าหมายในเยอรมนีมาตลอด รวมถึงพยายามจัดหาอาวุธ แต่ในช่วงที่ถูกจับกุม ยังไม่มีแผนการโจมตีชัดเจน   อย่างไรก็ดี ผู้ต้องสงสัยชาวคีร์กีซ 1 ราย ที่ถูกจับกุมในเยอรมนีได้รวบรวมเงินให้แก่กลุ่ม ISIS ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2565 และโอนไปยังกลุ่มดังกล่าวในต่างประเทศบ่อยครั้ง   ขณะเดียวกัน ทางการเนเธอร์แลนด์ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติมอีก 2 รายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มดังกล่าวในวันที่ 6 ก.ค. โดยเป็นชายจากทาจิกิสถานและภรรยาชาวคีร์กีซ ซึ่งอาศัยอยู่ในเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่ปี 2565   ทั้งนี้ อัยการเนเธอร์แลนด์ระบุในแถลงการณ์ว่า ชายคนดังกล่าวต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกกลุ่ม ISIS และได้รับคำสั่งให้วางแผนโจมตี แม้ว่าแผนจะยังไม่เป็นรูปธรรมก็ตาม…

ฮ่องกงรวบชาย 4 คน ช่วยสนับสนุน 8 นักเคลื่อนไหว ทำกิจกรรมอันตรายต่อความมั่นคงชาติ

Loading

REUTERS   ฮ่องกงรวบชาย 4 คน ช่วยสนับสนุน 8 นักเคลื่อนไหว ทำกิจกรรมอันตรายต่อความมั่นคงชาติ   ตำรวจฮ่องกงระบุเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมว่า ได้จับกุมชาย 4 คน ที่กระทำความผิดฐานให้การสนับสนุนผู้ที่พำนักอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ การจับกุมดังกล่าวมีขึ้น 2 วันหลังจากทางการฮ่องกงประกาศตั้งค่าหัว 8 นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย โดยมอบเงิน 1 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงให้กับผู้ให้เบาะแสในการจับกุมคนเหล่านี้   ตำรวจฮ่องกงออกแถลงการณ์ว่า ชายทั้ง 4 คน ที่ถูกจับกุมถูกกล่าวหาว่าแสวงประโยชน์จากการทำบริษัท แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และแอปบนโทรศัพท์มือถือ เพื่อสนับสนุนผู้ที่หลบหนีไปต่างประเทศ และยังคงมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ   “ชายทั้ง 4 ซึ่งมีอายุระหว่าง 26-28 ปี ถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงแห่งชาติ เนื่องจากต้องสงสัยว่าสมคบคิดกับต่างชาติหรือมีปัจจัยภายนอกที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งยังสมรู้ร่วมคิดในการกระทำที่มีเจตนายุยงปลุกปั่น และยังถูกกล่าวหาว่าเผยแพร่โพสต์บนโซเชียลมีเดียที่เป็นการปลุกระดม เพื่อยั่งยุให้เกิดความเกลียดชังต่อรัฐ และสนับสนุนให้ฮ่องกงเป็นเอกราช” แถลงการณ์ระบุ   ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่มีผลบังคับใช้ในปี 2563 กำหนดให้ความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดมีโทษถึงจำคุกตลอดชีวิต  …